|
| |
พิพากษารพ.สินแพทย์จ่าย3ล้านทำคลอดคนไข้ตาย คุณพ่อลูกสองชนะคดี ฟ้องเรียกค่าเสียหายโรงพยาบาลประมาททำคลอดเมียตาย ศาลมีนบุรี พิพากษาสั่งแพทย์รับฝากครรภ์+รพ.สินแพทย์ จ่าย 3 ล้าน 4 หมื่น
เมื่อวันที่ 6 กันยายน ศาลมีคำพิพากษาในคดีที่ นายเรืองเดช วชิรชูเกียรติ ผู้รับเหมาก่อสร้าง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.พ.ศักดา นาราวงศ์ เจ้าของคลินิก ศักดา-ภัทรวดี ที่ตั้งอยู่ย่านรามอินทรา และบริษัทสินแพทย์ จำกัด เจ้าของกิจการโรงพยาบาลสินแพทย์ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดเรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย 4,081,270 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 14 พ.ย.46 ระบุว่า เมื่อเดือน ม.ค.46 นางอัจฉรา ภรรยาของโจทก์ซึ่งเป็นมัณฑนากร ที่ตั้งครรภ์ ได้ใช้บริการฝากครรภ์กับจำเลยที่ 1 โดยภรรยาโจทก์ได้เข้ารับการตรวจครรภ์และรักษาสุขภาพระหว่างคลอดกับจำเลยที่ 1 มาโดยตลอด ซึ่งเมื่อวันที่ 25 พ.ค.46 โจทก์พาภรรยาที่ขณะนั้นตั้งครรภ์ได้ 8 เดือนกว่า ไปพบจำเลยที่ 1 ที่คลินิกเพื่อตรวจเลือด ความดัน และน้ำคล่ำ ปรากฏว่าผลการตรวจความดันสูงถึง 180/100 โดยแทนที่จำเลยที่ 1 จะสั่งยาลดความดันเพื่อทำให้ความดันอยู่ในสภาวะปกติเสียก่อนตามวิสัยของผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์จะพึงกระทำ แต่จำเลยที่ 1 กลับสั่งให้ภรรยาของโจทก์ไปที่โรงพยาบาลของจำเลยที่ 2 เพื่อทำคลอด และเมื่อเวลา 21.45 น. ที่โจทก์พาภรรยาไปโรงพยาบาลจำเลยที่ 2 แล้วได้พบกับแพทย์เวร และพยาบาล ซึ่งเมื่อแพทย์เวรสอบถามอาการของภรรยาโจทก์แล้วขณะนั้นวัดความดันได้สูงถึง 195/137 แต่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นแพทย์ผู้รับฝากครรภ์ก็ไม่ได้แจ้งให้แพทย์เวร หรือพยาบาลสั่งยาลดความดันให้ หรือกระทำการใดๆ เพื่อให้ความดันลดลง โดยจำเลยที่ 1 กลับสั่งการให้พยาบาลฉีดยาเร่งการคลอดให้กับภรรยาโจทก์ กระทั่งเวลา 22.30 น. ภรรยาโจทก์แจ้งว่ามีอาการปวดหัว ตาพร่า และแน่นหน้าอก พยาบาลจึงได้โทรศัพท์แจ้งจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 1 กลับไม่ยอมมาดูอาการและให้การรักษาโดยสั่งการให้พยาบาลมาเฝ้าดูอาการและตรวจวัดความดัน
ต่อมาเมื่อเวลา 03.00 น. พยาบาลแจ้งให้โจทก์มาดูฟิลม์เอ็กซ์เรย์ พร้อมกับแจ้งว่าภรรยาโจทก์มีอาการหนักที่เส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งแพทย์และพยาบาลได้เจาะสมองเอาเลือดออกโดยภรรยาโจทก์เข้านอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู แล้วเมื่อวันที่ 26 พ.ค.46 เวลา 07.00 น. โจทก์ทราบว่าพยาบาลได้พยายามปั๊มหัวใจเพื่อรักษาอาการให้กับภรรยาโจทก์ แต่ปรากฏว่าในเวลา 10.00 น. แพทย์เวรได้แจ้งให้ทราบว่าภรรยาโจทก์เสียชีวิตแล้ว แต่ได้ผ่าตัดเอาทารกในครรภ์ออกมาได้
โดยการกระทำดังกล่าวของจำเลยที่ 1 และแพทย์ พยาบาล ของจำเลยที่ 2 ถือเป็นการประมาทเลินเล่อ ไม่ใช้ความระมัดระวังทางวิชาการแพทย์อย่างเพียงพอ กระทั่งเป็นสาเหตุให้ภรรยาโจทก์ต้องเสียชีวิตจากการคลอดบุตร ซึ่งตามหลักวิชาชีพ แพทย์ผู้รักษาจะต้องมีความรู้ความสมารถ ความชำนาญเพียงพอ รวมทั้งต้องมีความระมัดระวังสูงในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งการกระทำของจำเลยที่ 1-2 ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายที่ต้องสูญเสียภรรยา โดยโจทก์มีบุตร 2 คนที่อายุ 2 ปี 8 เดือน (ขณะฟ้อง) และอายุ 1 เดือน (ขณะฟ้อง) ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ซึ่งต้องขาดมารดาในการอุปการะเลี้ยงดู ดังนั้นโจทก์จึงเรียกค่าเสียหายกับจำเลยทั้งสองเป็นเงินค่าขาดอุปการะเลี้ยงดูบุตร จำนวน 4 ล้านบาท และค่าปลงศพจำนวน 81,270 บาท รวมเป็นเงินค่าเสียหายทั้งสิ้น 4,081,270 บาท
โดยนายชูชาติ กลิ่นคำหอม ทนายความของนายเรืองเดช โจทก์ เปิดเผยว่า ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์ - จำเลยนำสืบต่อสู้หักล้างกันแล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 และ 2 เป็นความประมาททำให้โจทก์ได้รับความเสียหายจริง จากกรณีนางอัจฉรา ภรรยา โจทก์ต้องเสียชีวิตจากการคลอดบุตร จึงพิพากษาให้จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ในส่วนค่าอุปการะเลี้ยงดูจำนวน 3 ล้านบาท และค่าปลงศพจำนวน 40,000 บาท รวมเป็นเงินค่าเสียหายทั้งสิ้น 3,040,000 บาท
ทั้งนี้ นายชูชาติ กล่าวว่า แม้ขณะนี้ศาลจังหวัดมีนบุรีจะพิพากษาให้ฝ่ายตนชนะคดี แต่ตามกฎหมายแล้วฝ่ายจำเลยก็ยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์คดีได้อีกภายใน 30 วัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าเสียหายที่ศาลจังหวัดมีนบุรี พิพากษาให้จำเลยทั้งสองต้องชำระแก่โจทก์ นายเรืองเดชก็รู้สึกพอใจกับคำพิพากษาของศาลแล้ว โดยที่ผ่านมาในการฟ้องคดีนายเรืองเดชไม่มีเงินจำนวน 2 แสนบาท เพื่อจะวางเป็นค่าธรรมเนียมศาล จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลขออนุญาตฟ้องคดีแบบอนาถา ซึ่งที่ผ่านมาศาลอนุญาตให้ฟ้องคดีแบบอนาถาได้ และได้มีการสืบพยานโจทก์-จำเลยมานานกว่า 2 ปี กระทั่งมีคำพิพากษาให้ชนะคดีในวันนี้
Hospital, doctor must pay Bt3m Published on September 07, 2005
The Civil Court yesterday ordered Bangkoks Synphaet Hospital and a medical doctor to pay Bt3.04 million in damages to a man whose wife died during childbirth at the hospital.
In November 2003, Reungdet Wachirachukiet filed a civil lawsuit against Dr Sakda Narawong and the hospital after his wife, Achara Wachirachukiet, died while giving birth to their child.
The court ordered the defendants to pay Reungdet, a construction contractor, Bt3.04 million in compensation. He had initially demanded Bt4.08 million, plus annual interest of 7.5 per cent.
The lawsuit stated that Sakda examined Achara on May 25, 2003, and found that the patient, eight months pregnant, had high blood pressure.
But instead of giving her medicine to lower her blood pressure, he admitted her to Synphaet to give birth. He then ordered an injection to accelerate the birth, when the hospitals medical staff found that Acharas blood pressure was 195 over 137.
The lawsuit stated she had a stroke at 3am and was pronounced dead at 10am. The baby was safely delivered.
The Civil Court found the actions of Sakda and the hospitals medical staff were reckless without sufficient medical justification. It pointed out that Acharas premature death had left Reungdet without a wife and their two young children without a mother.
Kesinee Taengkhiao
The Nation | โดย: dr and patient [7 ก.ย. 48 1:27] ( IP A:61.90.97.248 X: ) |  |
 |
|
|