ความคิดเห็นที่ 4 ผลชันสูตรชี้ศพลูกแฝดเสียเลือดมาก
จากกรณีนางวัชรี อยู่แฮ อายุ 28 ปี ชาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ คลอดลูกแฝดและเสียชีวิตขณะทำคลอดที่ร.พ.นครพิงค์ เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยนายสมหมาย บิดา แจ้งความไว้ที่ สภ.อ.แม่ริม เมื่อวันที่ 18 เม.ย. และนำศพทารกทั้ง 2 ไปเรียกร้องขอความเป็นธรรม กล่าวหาว่าสาเหตุมาจากความบกพร่องของแพทย์ ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 21 เม.ย. น.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจากนายแพทย์สาธารณสุขเชียงใหม่แล้วว่า หลังเกิดเหตุได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 1 ชุด เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ขณะนี้ร.พ.ส่งศพและรกไปตรวจชันสูตรที่ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงลงความเห็นว่าทารกเสียชีวิตจากการเสียเลือดมาก เนื่องจากการฉีกขาดของเส้นเลือดของสายสะดือทารกในครรภ์ดังกล่าว โดยทีมผู้ให้การรักษาพยาบาล ร.พ.นครพิงค์ ให้การรักษาตามมาตรฐานวิชาชีพ ถูกต้องตามขั้นตอนแล้ว
น.พ.วิรัช พันธ์พานิช รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ ร.พ.นครพิงค์ กล่าวว่า ภาวะการฉีกขาดของเส้นเลือดของสายสะดือทารกในครรภ์วินิจฉัยได้ยาก เมื่อเกิดขึ้นจะทำให้อัตราการเสียชีวิตสูงมาก ซึ่งอุบัติการณ์ในต่างประเทศพบประมาณ 1 ใน 2,000-5,000 ของการคลอด ส่วนในประเทศไทยมีรายงาน ร.พ.ศรีนครินทร์ เมื่อปี 2543 พบประมาณ 1 ใน 4,000 ของการคลอด เมื่อมีการฉีกขาดของเส้นเลือดทำให้อัตราการเสียชีวิตของทารกสูงถึงร้อยละ 50-70 โดยภาวะเส้นเลือดของสายสะดือทารกในครรภ์ที่ทอดอยู่บนเยื่อถุงน้ำคร่ำ บริเวณปากมดลูก (VASA PREVIA) มีการฉีกขาดของเส้นเลือดภายหลังถุงน้ำคร่ำแตก เป็นสาเหตุให้ทารกเสียชีวิตจากการเสียเลือดมาก ต้องตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษโดยผู้ชำนาญการตรวจพิเศษเท่านั้นจึงจะสามารถวินิจฉัยได้ การตรวจครรภ์ตามมาตรฐานทั่วไปไม่สามารถวินิจฉัยได้ ส่วนใหญ่การวินิจฉัยจะทราบได้ภายหลังการตรวจรกหลังคลอด
"แนะนำหญิงตั้งครรภ์ทุกราย ควรไปฝากครรภ์ หากมีเลือดออกก่อนการคลอดให้รีบพบแพทย์ทันที เนื่องจากภาวะเลือดออกดังกล่าวเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ภาวะรกเกาะต่ำ ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด เป็นต้น" นายแพทย์วิรัชกล่าว |