สงสัยอีกหนึ่งข้อ
   สงสัยอีกนิด .. เพราะไม่รู้จะเชื่อใครดีแล้ว .. ไม่ได้มาก่อกวนนะครับ แค่อยากรู้จริงๆ ว่า..

ข้อแรก ตกลงเนี่ยหมอเครือข่าย เกี่ยวโยงกับสถาบันเสริมความงามที่มีปัญหากับแพทยสภาเรื่องห้ามโฆษณาสถานบริการหรือเปล่า ตอนนี้ไม่มีรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไรกันแน่ ข้อมูลมากมายไปหมด ไม่รู้จะเชื่อใครดี ขอคำอธิบาย

ข้อสอง แล้วสรุป ที่หมอเครือข่ายออกมาต่อสู้กับแพทยสภาเนี่ย ขอถามตรงๆ เลยแล้วกันนะ (อาจไม่ถูกใจ แต่ขอถามตรงๆ ต้องขออภัยนะ ถ้าไม่ชอบ) ขอถามว่าเป็นเพราะปัญหาเรื่องถูกห้ามโฆษณาอย่างที่ว่าหรือเปล่า หรือทำไปเพราะหวังดีจริงๆ

รบกวนตอบอีกที

ส่วนเรื่องฝีไม้ลายมือในการผ่าตัดนี่ ไม่มีข้อสงสัย ขอคาราวะ 3 จอก ด้วยความนับถือ
โดย: สงสัยอีกทีนะ [4 ก.พ. 49 17:22] ( IP A:61.90.246.105 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   เอาสั้นๆนะครับ
ผมทะเลาะกับแพทยสภามาตั้งแต่15 ปีที่แล้ว เพราะผมเห็นว่าข้อบังคับของแพทยสภาเรื่องโฆษณานั้นไม่ถูกต้องและไม่มีประโยชน์ต่อสังคม สมัยก่อนความรู้ก็สู้ไม่ได้หรอกครับ เพราะความรู้น้อย สมันน้อยจริงๆ ขนาดพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม และข้อบังคับแพทยสภาผมยังคิดว่าเหมือนกัน และเมื่อแพทยสภาตัดสินแล้วก็จบ ไปร้องกฤษฏีกาก็งั้นๆ ตอนหลังมีศาลปกครองมาคุมอีกทีก็คิดว่าน่าจะพอสู้ไหว แต่ความรุ้น้อย ก็เลยไปเรียนกฎหมาย
ศาลปกครองฝรั่งเศส มีมาจะเป็นร้อยปีแล้วมั่ง ของไทยพยายามตั้งมา 50 กว่าปีแล้วแต่เพิ่งสำเร็จหลังพฤษภาทมิฬที่ประชาชนพอจะเป็นใหญ่นี่เอง ศาลปกครองเอาไว้ให้ประชาชนฟ้องว่าหน่วยงานรัฐใช้อำนาจไม่ถูกต้อง
ผมก็เอาคดีไปฟ้องศาลปกครองกลาง ศาลปกครองกลางว่า ข้อบังคับแพทยสภาดีแล้ว แม้ว่าจะมีการเลือกปฏิบัติกับผมก็ต้องไปว่าที่คน ไม่ใช่ว่าที่กฎหมาย ผมกำลังจะอุทธรณ์ พอดีมีเรื่องประท้วงกัน ก็ถูกขอร้องให้ไปร่วม วันนั้นก็เลยถามเพื่อนที่เป็นทนายความว่าวันสุดท้ายที่ยื่นอุทธรณ์วันไหน ทนายนับไปนับมาว่าพรุ่งนี้ก็ทัน ก็เลยชวนกันไปประท้วง จากนั้นพรุ่งนี้ไปยื่นอุทธรณ์ ศาลส่งหนังสือมาบอกหมดเวลา ก็เลยจ๋อยสนิท คดีก็จบเห่
ผมเห็นว่าแพทยสภาทำอะไรไม่ถูกหลายเรื่อง ก็เลยช่วยฝ่ายที่ที่ผมเห็นถูกต้อง(ผมอาจเข้าใจผิดก็ได้ เพราะผมอาจมีอคติ) เพราะการที่แพทยสภาทำไม่ถูกนั้นผมเห็นว่าไม่เป็นผลดีกับแพทยสภาเองและกับวงการแพทย์เอง และกับประชาชนด้วย
กฏระเบียบที่ผมฟ้องให้ยกเลิกนั้น หมอทั่วประเทศก็ละเมิดกฎหมายโฆษณาทั้งนั้น เพียงแต่ผมโดนมากหน่อย เพราะผมเป็นที่สังเกตุเห็นง่าย ศัตรูก็เยอะก็ไม่ว่ากัน แต่ในเมื่อผมเห็นว่ากฎระเบียบไม่ดีและประเทศอื่นๆเขาก็ยกเลิกกันแล้ว ไม่ว่าสหรัฐ (เลิกมา 30 ปี AMA แพ้คดีหมอ จบที่อุทธรณ์ อีกฝ่ายไม่สู้ไม่ดันทุรัง) อิสราเอล (เลิกในปี 1994 แพทยสภาแพ้คดีหมอ จบที่ฏีกา ฝ่ายแพ้มันดันทุรังจนถึงฏีกา) ออสเตรเลีย อังกฤษ เลิกหมดแล้ว สิงคโปร์(กำลังจะเลิก) ผมก็เลยพยายามฟ้อง แพ้ชนะไม่ว่ากัน ถ้าผมเห็นว่าไม่ถูกไม่ดีผมก็ฟ้องหมด ตอนนี้เอาเรื่องแพทย์ก่อน กำลังจะทำเรื่องอื่นๆของชาวบ้านเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่นไปคัดทะเบียนบ้าน กำลังจะฟ้องให้เขียนจดหมายไปขอคัดได้ ทำไมต้องไปเองวะ เสียค่ารถ รถติด ฯลฯ เดี๋ยวนี้อินเตอร์เน็ทก็เยอะแยะ น่าจะส่งทางเน็ทได้ อีกหน่อยก็จะมีคนว่าผมฟ้อง กทม เพราะผมมีเรื่องกับ กทม
ไม่ว่ากันหรอกครับ ถ้าผมเห็นว่าอะไรไม่ดีต่อไปนี้ผมจะฟ้องศาลปกครองหมด ชาวบ้านจะได้สบาย แต่คงต้องค่อยๆทำ
มีคนว่าผมแสบ ผมไม่แสบหรอก เพื่อนผมแสบว่า เพียงแต่คนรู้น้อยเท่านั้นเอง เพื่อนผมคนหนึ่งประหยัดเงินให้หลวงได้เป็นพันล้าน แต่ไม่มีใครรู้ ผมจะเล่าให้ฟัง
ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง เรียกว่าไปแสบก็แล้วกัน เรื่องเป็นดังนี้
2-3 ปีที่แล้ว ธนาคารเขาบอกให้ลูกค้าที่เปิดบัญชีทุกบัญชี เอาสำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนไปส่งที่ธนาคาร ผมบ้านติดกัน ผมก็ถ่ายเอกสารเดินเอาไปให้ แต่ไอ้แสบไม่ง่าย มันเดินไปถามแบ๊งค์ว่า บัตรประชาชนเก่าที่ให้ไว้ใช้ไม่ได้หรือทำไมต้องเอาใหม่และเอาสำเนาทะเบียนบ้านด้วย พนักงานแบ๊งค์บอกว่าเผื่อย้ายบ้านจะได้ติดต่อได้ตามฟ้องถูก ไอ้แสบก็ถามว่า ให้ทะเบียนบ้านวันนี้ แล้วพรุ่งนี้ย้ายบ้านไม่ได้หรือไง โดนเข้าไม้นี้ พนง แบ๊งค์ก็บอกว่าไม่รู้สำนักงานใหญ่สั่ง มันก็ไปถามสำนักงานใหญ่ สนง ใหญ่ก็บอกว่าไม่รู้แบ๊งค์ชาติสั่ง มันเขียนจดหมายถามแบ๊งค์ชาติว่าเหตุผลเป็นอย่างไร แบ๊งค์ชาติตอบไม่ได้ ก็กูอยากสั่ง ไอ้แสบบอกว่าบัญชีธนาคารบัญชีละใบ ใบละบาท และต้องเสียค่ารถมาส่ง เสียเวลามาส่งอีก ถ้าพันล้านบัญชีก็พันล้านบาท ไม่ได้อะไรเลย บัตรประชาชนใบเดียวมันตามได้อยู่แล้ว ตกลงแบ๊งค์ชาติต้องยกเลิกคำสั่ง ทั้งๆที่ไอ้แสบไม่เคยมีเรื่องกับแบ๊งค์ชาติเลย เพียงแต่ไอ้แสบเห็นว่าแบ๊งค์ชาติทำเรื่องสติวปิดเท่านั้นเอง มันก็ฟ้อง
แต่ไอ้แสบนี่แสบจริงๆนะ ความรู้มันแค่ ม.ศ.5 แต่ผม พ.บ. น.บ. ยังต้องคารวะ
อย่าคิดอะไรมากเลยครับ อะไรไม่ถูกต้องก็แก้ไขกันไป แพ้ชนะก็ไม่ว่ากัน ศาลตัดสินก็จบ
โดย: jjxyz [4 ก.พ. 49 21:20] ( IP A:61.90.99.168 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ยังตอบคำถามไม่ตรงประเด็นนะ
เขาถามว่าที่มีเรื่องกับแพทยสภาเพราะถูกห้ามโฆษณาหรือเปล่า
แต่แหมขอชมนะ ปานดำปานแดง ไอ้ลูกชายยังเอามาพูดติดปากเลย idea ดีจริงๆ เลย ค่าโฆษณาเท่าไรนะ ช่วยบอกด้วย
ถ้าไม่ชอบก็ขอโทษด้วย
โดย: อีกคน [4 ก.พ. 49 23:20] ( IP A:125.24.71.205 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ตามดูกระทู้ทำนองนี้มาหลายวันแล้ว

ผมขอยกตัวอย่างเรื่องหนึ่ง *** หาย ไปตาม *** แต่ดันไปเจอโจรค้ายาด้วย คราวนี้ก็เลยต้องกลายเป็นบัญชีดำไป วิธีเอาชีวิตรอดมีทางเดียว ต้องเป็นตัวตั้งตัวตีร่วมกับชาวบ้าน ปราบโจรก๊กนี้ให้ได้ ทำแบบนี้สังคมได้ประผโยชน์ ชาวบ้านชื่นชม

มาถึงวันนี้ เรื่อง *** ถูกขโมยเป็นเรื่องเล็กไปแล้ว ต่อให้ *** หาย อีกสิบตัวไม่สนใจแล้ว เรื่องปราบโจรค้ายา คือเรื่องใหญ่

.
โดย: เจ้าบ้าน [4 ก.พ. 49 23:38] ( IP A:61.91.162.199 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   โดนเข้าแล้ว ติดบล็อกตัวเอง "คขวาย" นะที่โดนบล็อก
โดย: เจ้าบ้าน [4 ก.พ. 49 23:39] ( IP A:61.91.162.199 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   คห. 3,4 พูดอะไรเหรอ ไม่เข้าใจ
โดย: ฟังแล้วงงๆ [4 ก.พ. 49 23:58] ( IP A:61.19.24.10 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ผมเคยตอบหลายครั้งแล้วนะครับว่าผมมีเรื่องโดนแพทยสภาพักใบอนุญาตบ่อยเรื่องโฆษณา
นึกว่ารู้แล้ว ตอบมาหลายที และทุกครั้งแพทยสภาก็ข่าวลงสื่อหน้าหนึ่งตลอด ทีวีก็มี คดีสุดท้ายเรื่องอยู่ที่ศาลฏีกา ผมฟ้องแพทยสภาอยู่ ให้เพิกถอนคำสั่ง (ตอนนั้นไม่มีศาลปกครองก็ต้องไปศาลจังหวัดนนทบุรี่ ฟ้องแพ่ง )
โดย: jjxyz [5 ก.พ. 49 1:17] ( IP A:61.90.99.168 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   ลืมไปเดี๋ยวด่าผมอีก ค่าโฆษณาพอพอกับค่าเครื่องเลเซ่อร์ค่าเครื่องเลเซ่อร์ผมซื้อมา หกล้านบาท ค่าโฆษณาปาเข้าไป ๔-๕ ล้านได้กระมั่ง ผมซื้อเครื่องมาถ้าไม่มีใครรู้ เสียดอกเบี้ยเฉพาะค่าเครื่องปีละ ล้านได้มั่ง มีคนรักษาปานที่เดินผ่านร้าน ๑๐ คน ถ้าไม่โฆษณา เก็บคนละแสนก็ได้แค่ดอกเบี้ย ถ้าคนไข้มีจ่าย
ถ้าผมลงโฆษณา ๔-๕ ล้าน รวมเครื่องเป็น ๑๐ ล้าน มีคนรักษา ๑๐๐๐ คน จากโฆษณาให้เขารู้ เขาจ่ายคนละ ๑ หมื่นก็รักษาได้ ได้ค่าเครื่องคืนด้วย ประโยชน์ของโฆษณาอยู่ตรงนี้ ผมเพียงแต่ซื้อเครื่องมาให้ก่อน คนไข้ก็ค่อยๆมาช่วยกันจ่าย
มีโรงพยาบาลหลวงแห่งหนึ่งซื้อตามผม เจ๊งสนิท(คนขายเครื่องมือบอก) เพราะคนไข้เขาไม่รู้ไม่มารักษา เวลาซื้อนำยามาหลอดละ ๒๕๐๐๐ ถ้าใช้ไม่หมด ก็หมดอายุในหนึ่งเดือน หัวเลเซอร์ไม่ใช้นานๆก็พังอีก เสียแต่ค่าซ่อม ผู้อำนวยการบ่นชิบหาย
มีหมอโง่ก็เยอะที่ไม่รู้ว่าโฆษณาก็มีประโยชน์ ดังนั้นก็เลยซื้อเครื่องมือมาขาดทุน แต่ไม่ใช่กระเป๋าพ่อแม่มัน เป็นกระเป๋าพ่อแม่พี่น้อง ดังนั้นขาดทุกก็ช่างแม่มัน(พ่อกับพี่น้องไม่เกี่ยว)
ผมเถียงแพทยสภามา ๑๕ ปี ไม่ชนะหรอก พวกที่ซื้อ cath lab เอย high velocity ct scan เอย ถ้าไม่โฆษณาก็จะเจ๊งเช่นกัน ดังนั้นจะเห็นว่ามีโฆษณาพวกนี้เต็มเลย หลายคนไม่ถูกลงโทษแต่ผมถูกลงโทษมาตลอด แต่ก็เถียงตลอด และก็ยังโฆษณาตลอด มีปัญหาก็ไปศาล แพ้คดีก็จบ หมดอาชีพก็ทำใจ แต่จะไปถอยให้สิ่งที่ผมเห็นว่าไม่ถูกต้องก็คงไม่ใช่ ก่อนเป็นหมอผมก็ไม่ได้เป็นหมอมาก่อน ดังนั้นไม่ได้เป็นหมอก็ถือว่าเท่าทุน
โดย: jjxyz [5 ก.พ. 49 1:30] ( IP A:61.90.99.168 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   สรุปให้ก็ได้ว่า

หมอ jjxyz มีเรื่องกับแพทยสภา แต่หมอแยกออกว่าเรื่องไหน
คือเรื่องส่วนตัว เรื่องไหนเรื่องส่วนรวม แต่เผอิญเรื่องที่ทำเพื่อ
ส่วนรวมหลายต่อหลายเรื่องนั้นดันมีเรื่องหนึ่งคือช่วยเป็นที่ปรึกษา
ให้เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์

และเครือข่ายฯ เองก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องเสียหาย เพราะคุณหมอ
ไม่เคยเอาเรื่องส่วนตัวมายุ่ง มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลท่านก็ไม่ค่อย
บอกพวกเรา

ท่านไม่เคยยุพวกเราให้เกลียดวงการแพทย์หรือแพทยสภา
เพราะพวกเราไม่ใช่เด็ก ๆ อมมือ แต่ละคนผมบนหัวหงอกกันแทบทุกคนมีวิจารณญานผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านความเจ็บปวดกันมาแทบ่ทั้งสิ้น
ดังนั้นคงไม่ยอมให้ใครสนตะพายเล่นง่าย ๆ หรอก

พวกเราเองเห็นว่า ถ้ามีคนอย่างคุณหมอ jjxyz มาก ๆ สังคมจะสงบสุข
ไม่ได้ชมเพราะเห็นว่าหมอเคยช่วย แต่ชมด้วยใจที่นับถืออย่างจริงใจ
โดย: เครือข่ายฯ [6 ก.พ. 49 12:28] ( IP A:61.91.160.63 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   รักษาคนไม่เห็นต้องโฆษณาเลยจริงๆนะ..................รักษาดีหรือศรัทธาจริง อยู่ที่ไหนรักษาอะไรได้ ก็มีคนไข้ทั้งนั้นแหละ ...........

นานาจิตตัง.........
โดย: stellmed@gmail.com [6 ก.พ. 49 21:28] ( IP A:203.151.76.2 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ความเห็นที่ 9 ครับ สมัยโลกไร้พรมแดน โฆษณาสำคัญนะครับ คนข้างบ้านเรายังไม่ค่อยได้คุยกันเลย ทุกคนดูข่าวสารจาก อินเทอร์เนตที่ทำงาน คูรายการทีวี อ่านหนังสือพิมพ์ ขับรถก็ฟังวิทยุ

ในเว็บหมอโฆษณาอะไรล่ะ มีแต่เรื่องรักษาคนตลอด ขนาดหมอด้วยกันยังต้องโฆษณาเลย นับประสาอะไรกับคนไข้ทั่วๆไป

ขอมองต่างมุมนะ
โดย: เจ้าบ้าน [6 ก.พ. 49 23:02] ( IP A:58.9.175.135 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   เอาเป็นว่าเรื่องโฆษณานี่ยกผลประโยชน์ให้จำเลย...

ว่าแต่...เรื่องลองผิดลองถูก ผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้า จมูก เต้านม คนไข้มาก่อนนี่ จริงหรือเปล่า...?? ช่วยตอบหน่อย

ไม่ใช่อะไรหรอก... แค่เห็นหมอในเครือข่ายกับสมาชิกในเครือข่ายรู้สึกจะถนัดมากๆเลยนะกับการที่ได้ตำหนิกล่าวหาหมอคนอื่นๆว่าชอบทำคนไข้เหมือนหนูทดลอง ทำเหมือนผักเหมือนปลา ก็เลยอยากรู้ว่าหมอของพวกคุณนี่เคยมีพฤติกรรมเหล่านี้ด้วยบ้างหรือเปล่า

คนเราถ้าบริสุทธิ์ใจจริงจะต้องกลัวอะไร ถ้าไม่เคยทำก็ยืดอกตอบไปเลยว่าไม่เคย แต่ถ้าเคยทำและรู้สึกละอายปากที่จะพูดยอมรับหรือละอายปากที่จะพูดปฏิเสธก็ไม่ต้องพูดก็ได้
โดย: แสดงความบริสุทธิ์ใจหน่อย [7 ก.พ. 49] ( IP A:61.19.24.10 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   ความเห็น 11
ตั้งประเด็นคำถามเหมือนซักพยานในศาลเลยนะ
โดย: ใช่มั้ยตัวเอง [7 ก.พ. 49] ( IP A:61.91.110.206 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน