แม่ลูกอ่อน! จ่อฟ้องหมอลืมผ้าก๊อตในท้องหลังไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ
    แม่ลูกอ่อน! จ่อฟ้องหมอลืมผ้าก๊อตในท้องหลังไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ

https://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000053898

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 8 พฤษภาคม 2551 16:00 น.

แม่ค้าขายเสื้อเตรียมฟ้องหมอขี้ลืม รพ.นวมินทร์ หลังทำคลอดทิ้งผ้าก๊อซไว้ดูต่างหน้า ส่งผลให้ปวดท้อง-หน้ามืดนานนับปี แรกคิดว่าปวดท้องปกติจึงกินยาขับน้ำคาวปลา แต่ดันมีผ้าก๊อซทะลักออกมาทางช่องคลอด แทนที่ รพ.จะรับผิดชอบแต่กลับเพิกเฉย ขณะที่ ตร.ได้สอบปากคำผู้เสียหายและหาช่องเอาผิด รพ.ต้นเรื่อง

วันนี้ (8 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. น.ส.วราพร วีระวงษ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 7 ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาครได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.มงคล สุริโย ร้อยเวร สน.มีนบุรี พร้อมกับ นายจิรายุ ศิริศักดิ์ อายุ 22 ปี แฟนหนุ่ม และน.ส.กาญมณี รักสมบัติถาวร อายุ 31 ปี พี่สาว เพื่อปรึกษาคดีความกรณีที่ได้ไปคลอดบุตรที่โรงพยาบาลนวมินทร์แล้วแพทย์ผู้ทำ การรักษาลืมผ้าก๊อซเอาไว้ในช่องคลอดขณะเย็บแผลผ่าตัดหลังคลอด ซึ่งจะดำเนินคดีต่อแพทย์ และโรงพยาบาลหากยังไม่ได้รับความเป็นธรรม

น.ส.วราพร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมาตนได้ไปคลอดบุตรที่โรงพยาบาลนวมินทร์ โดยหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลและกลับมาพักฟื้นที่บ้านก็เกิดอาการหน้ามืด ปวดและจุกที่บริเวณท้องน้อยจึงกินยาขับน้ำคาวปลา เนื่องจากยังรู้สึกว่ายังมีกลิ่นตัวและปวดท้องอย่างต่อเนื่อง แต่ปรากฏว่าเมื่อกินยาขับน้ำคาวปลาและทำการโกยหน้าท้องก็มีน้ำคาวปลาออกมาพร ้อมกับผ้าก๊อซที่บริเวณช่องคลอด ซึ่งส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ตนจึงรีบเดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสายไหม แพทย์ระบุว่ามีอาการติดเชื้อในช่องคลอด ซึ่งอาจเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่หลังคลอดของโรงพยาบาลนวมินทร์ จึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน.มีนบุรี เมื่อวันที่ 17 พ.ย. เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้ โดยร้อยเวรได้แนะนำให้ตนและครอบครัวไปไกล่เกลี่ยกับทางโรงพยาบาลที่ทำคลอดก่ อน ถ้าหากไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือทางโรงพยาบาลไม่ออกมารับผิดชอบก็สามารถที่จะแจ้งความดำเนินคดีทางแพ่งได ้ทันที

น.ส.วราพร กล่าวต่อว่า หลังจากที่เข้าแจ้งความตนได้เดินทางไปไกล่เกลี่ยกับโรงพยาบาลแล้ว แต่ทางโรงพยาบาลก็ยังเพิกเฉย ไม่มีการดำเนินการใดๆ ไม่มีการออกมาแสดงความรับผิดชอบ อีกทั้งยังพูดจาไม่ดีกับครอบครัวของตนด้วย ซึ่งครั้งแรกตนเพียงแค่อยากให้โรงพยาบาลออกมาขอโทษก็จะไม่เรียกร้องใดๆ แต่เวลาผ่านไปจนกระทั่งวันนี้ (8 พ.ค.) ทางโรงพยาบาลก็ยังไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตนยังไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลสายไห ม เนื่องจากใกล้บ้านและไม่กล้ากลับไปที่โรงพยาบาลเดิมแล้ว อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการรักษาก็มีราคาสูง ตนต้องทำงานขายเสื้อผ้าและต้องดูแลลูก ตนรู้สึกว่าโรงพยาบาลพยายามยื้อเวลามาตลอด โดยครั้งที่ 2 ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลนวมินทร์แต่ผู้อำนวยการก็ให้ทำเรื่อ งเอาไว้และจะดำเนินการให้แต่ก็ผ่านมา 7 เดือนแล้วยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากทางโรงพยาบาล

“สุขภาพร่างกายยังไม่ค่อยแข็งแรง และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาจำนวนมาก อยากให้ทางโรงพยาบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายบ้าง แต่ก็ไม่ได้รับการเหลียวแลจึงมาพบเจ้าของคดีเพื่อหาทางดำเนินคดี” น.ส.วราพร กล่าว

ด้าน ร.ต.อ.มงคล กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับเรื่องเอาไว้ก็ได้ให้ทางผู้เสียหายไปเจรจาไกล่เกลี่ยกับทาง โรงพยาบาลก่อน แต่เมื่อยังไม่มีข้อสรุปตนจึงได้ดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหาย และจะดูว่าเข้าข่ายเป็นการกระทำโดยประมาทหรือไม่

โดย: ก๊อปมาฝากกัน [8 พ.ค. 51 21:09] ( IP A:58.9.217.141 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   หลังจากที่เข้าแจ้งความตนได้เดินทางไปไกล่เกลี่ยกับโรงพยาบาลแล้ว แต่ทางโรงพยาบาลก็ยังเพิกเฉย ไม่มีการดำเนินการใดๆ ไม่มีการออกมาแสดงความรับผิดชอบ อีกทั้งยังพูดจาไม่ดีกับครอบครัวของตนด้วย ซึ่งครั้งแรกตนเพียงแค่อยากให้โรงพยาบาลออกมาขอโทษก็จะไม่เรียกร้องใดๆ แต่เวลาผ่านไป

ดูเหมือนเขาจะเป็นแพทเทริ์นเดียวกันเลยเนอะ!!!!!!!!!
โดย: - Gross Negligence. [8 พ.ค. 51 21:35] ( IP A:61.19.65.185 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
    เป็นไปได้ไงน่ะผ้าก็อซ อยู่ในช่องคลอดตั้งหลายเดือน เพิ่งจะออกมาได้ คนไข้รับการผ่าตัดแบบไหนมาหรือ
โดย: เจ้าบ้าน [8 พ.ค. 51 23:09] ( IP A:124.121.143.44 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมาตนได้ไปคลอดบุตรที่โรงพยาบาล ....... จึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน.มีนบุรี เมื่อวันที่ 17 พ.ย. เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้

ไม่ใช่หลายเดือนนะเจ้าบ้าน

ฝากไปถึงกระทรวง ทบวง กรม กอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะแพทยสภา ว่านี่คือผลของการแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุดของพวกท่าน คนเราความผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้ แต่หน่วยงานไม่แสดงจุดยืนที่จะรับผิดชอบแทนบุคคลากรของตนเอง เหตุการณ์มันก็เลยบานปลายเช่นนี้

เชื่อเถอะอีกหน่อยจะรุนแรงมากขึ้น หากแพทยสภา+หน่วยงาน มัวแต่เอาเวลาไปเดินสายปลุกระดม และมัวแต่วิ่งล็อบบี้เพื่อให้กฎหมายป้องแพทย์ออกมาให้ได้ มันจะเกิดกลียุคมากกว่านี้
โดย: เครือข่ายฯ [9 พ.ค. 51 8:22] ( IP A:58.9.194.231 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   รพ.นวมินทร์ยัน ผ้าก๊อตใช้ทำคลอดคนละขนาด ย้ำตรวจถึง 2 รอบไม่มีลืม!

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤษภาคม 2551 19:01 น.



คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

นางวราพร วีระวงษ์ อายุ 23 ปี โชว์ผ้าก๊อตเจ้าปัญหา




โรงพยาบาลนวมินทร์ ยัน สูตินรีแพทย์จะใช้ผ้าก๊อตซับเลือดในการทำคลอดขนาด 4X4 นิ้ว ไม่ใช่ 1X1 นิ้ว ตามที่อดีตผู้ป่วยกล่าวหา การันตีทำสมบูรณ์แบบตามมาตรฐานวิชาชีพ ระบุ การฟ้องกลับผู้ป่วย ไม่ใช่วิถีทางของแพทย์

วันนี้ (9 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ รพ.นวมินทร์ นายแพทย์ เสกสม สุวรรณกร ผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.นวมินทร์ กล่าวว่า จากกรณี นางวราพร วีระวงษ์ อายุ 23 ปี เข้าร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ว่า แพทย์ รพ.นวมินทร์ ลืมผ้าก๊อต ในช่องคลอดหลังทำคลอดนั้น ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้สังคมมอง รพ.นวมินทร์ ในภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ทาง รพ.จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ การทำคลอดแพทย์ต้องใช้ผ้าก๊อตในขั้นตอนของการซับเลือดจริง แต่ ทาง รพ.ใช้ผ้าก๊อตในการผ่าตัด หรือทำคลอดขนาด 4 นิ้ว คูณ 4 นิ้ว ไม่ใช่ขนาด 1 นิ้วคูณ 1 นิ้ว

“การรักษาคนไข้ ขอยืนยันว่า ได้ทำสมบูรณ์แบบตามมาตรฐานวิชาชีพ โดยแพทย์ได้ให้ผู้ป่วยคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ และผ่าตัดทำหมันพร้อมล้างแผล และตรวจว่าไม่มีสิ่งใดตกค้างในช่องคลอดถึง 2 ครั้ง ประกอบกับหลังจากคลอดได้ 7 วัน แพทย์นัดมาตรวจก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ” นพ.เสกสม กล่าว

นายแพทย์ เสกสม กล่าวอีกว่า โดยปกติทั่วไปของการคลอดบุตร ย่อมต้องมีการอักเสบในช่องคลอด และจากผลการตรวจของ รพ.สายไหม ก็ระบุว่า มีแผลอักเสบแต่ไม่พบเชื้อที่รุนแรงที่ถึงขั้นต้องใช้ยารักษา หรือต้องนอนโรงพยาบาล โดยใบเสร็จการรักษาตัวที่ รพ.สายไหม ลงวันที่ 17 พ.ย.2550 ระบุที่ ราคา 1,259 บาท ซึ่งคนไข้อาจจะไปพบหมออีกครั้ง แต่ค่าใช้จ่ายน่าจะไม่แตกต่างกันมากนัก ซึ่งรวมกันแล้วคงไม่ถึง 350,000 บาท

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะถึงขั้นไปแจ้งความดำเนินคดีใดๆ กับ นางวราพร วีระวงษ์ หรือไม่ นายแพทย์ เสกสม ตอบว่า ทาง รพ.ต้องประชุมปรึกษากันก่อน แต่โดยทั่วไปแล้วการฟ้องร้องเอาผิดกับคนไข้ก็ไม่ใช่วิถีทางของผู้เป็นแพทย์อยู่แล้ว ส่วนที่ว่าใครจะผิดหรือถูกตนอยากให้ทาง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นผู้ชี้ขาดเสียก่อน

ด้าน นางวราพร วีระวงษ์ กล่าวว่า หลังจากที่พบผ้าก๊อตในช่องคลอดแล้ว ต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 18 พ.ย.2550 นางบุญเรือน แซ่เตีย อายุ 60 ปี แม่ของตนได้ไปสอบถามว่าเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร แต่แพทย์ และนางพยาบาล พูดกับแม่ตนว่า “คุณแม่จะเดือดร้อนทำไม ลูกสาวคุณแม่ยังไม่ตายหลอก ผ้าก๊อตมันหลุดเข้าไปเองหรือเปล่า” ซึ่งจากคำพูดแบบนี้นี่เอง จึงทำให้ตนไม่ประทับใจ ทั้งๆ ที่ตนอยากได้แค่คำขอโทษ แสดงความเป็นห่วงเป็นใยเราบ้าง ไม่ได้หวังเงินทองอะไร แต่โดนตอกกลับ แล้วยังว่าเรายัดผ้าก๊อตเข้าไปเอง จึงไปปรึกษากับญาติแล้วเรียกร้องเป็นเงินจำนวน 350,000 บาท เพื่ออนาคตข้างหน้าหากเกิดอะไรขึ้นจากผลพวงจากการรักษาครั้งนี้

นางวราพร กล่าวอีกว่า ในวันที่ 15 พ.ค.ที่จะถึงนี้ตำรวจได้นัดคู่กรณีเจรจากันอีกครั้ง ที่ สน.มีนบุรี
โดย: เริ่มจะฟ้องคนไข้แล้วหรือแพทยสภา [9 พ.ค. 51 21:39] ( IP A:58.9.200.72 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน