หมอทำลูก พิการ
   ไปตามนี้เลย https://www.torakhong.org/kratoo.php?t=15397
โดย: chaina [4 พ.ค. 51 9:38] ( IP A:118.173.159.88 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
    ความเจ็บใจ
ความเจ็บปวด
ความทุกข์ทรมาน
ความน่าสังเวช
ความเบื่อหน่าย
ความเอือมระอา
ความโง่ งมงาย ของคนไข้
ไม่รู้จักจบสิ้น
จนกว่าจะได้คำตอบ
และ บางคำตอบยังต้องการคำตอบอีกครั้ง
อดทน เข้มแข็ง เป็นกำลังให้อีกแรงค่ะ

โดย: Gross Negligence [4 พ.ค. 51 11:35] ( IP A:61.19.65.32 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ทุกข์ของคนเป็น พ่อแม่ ยิ่งใหญ่หลวง
เข้าใจในกระทู้ครับ
กำลังใจส่งให้ครับ เพื่อสู้และให้ได้ความยุติธรรมข้างหน้า
โดย: คนหลังเขา [4 พ.ค. 51 12:31] ( IP A:118.174.170.52 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ผมดูรายงานคนไข้ที่แม่ตายหรือลูกพิการจากการคลอดแล้ว หลายๆกรณีไม่น่าจะตายหรือพิการ
สาเหตุใหญ่ที่พบ
หนึ่ง คือหมอไม่มาดูคนไข้
สอง พยาบาลไม่ค่อยเอาใจใส่คนไข้
สาม รายงานฝากท้องทำเสียดี แต่ไม่ค่อยเอาไปใช้ ขนาดเขียนว่า HIGH RISK ไว้บนหัวกระดาษฝากครรภ์ พยาบาลยังไม่ตามหมอมาดู ตามอีกทีก็ตอนแย่แล้ว
หรือน้ำหนักแม่ขึ้นมาตั้ง 25 กิโล (ถ้าจำไม่ผิด) ก็ยังไม่ตามหมอ ทำกันเองจนติดไหล่ เด็กพิการปัญญาอ่อน
สิ่งเหล่านี้สมควรแก้ไข
ถ้าในโรงพยาบาลที่มีหมอสูติ ควรจะมีหมอตลอด โรงพยาบาลไหนไม่มีหมอตลอดก็ให้ประกาศไว้จะได้ไม่ต้องไปคลอด
ในต่างจังหวัด ต้องติวเข้มพยาบาล และเตรียมเครื่องมือให้พร้อม พยาบาลต้องทำอัลตราซาวนด์และดูผลเองเป็น โดยเฉพาะโรคง่ายๆ เช่น ท่าก้น รกต่ำ เด็กแผด
การส่งต่อต้องรวดเร็วและทางโรงพยาบาลที่รัยตัวไว้ต้องไว ไม่ใช่ต้องทำบัตรกันวุ่นวายอีก
หลายๆอย่างคงต้องช่วยกันแก้ มิฉนั้นก็จะมีผู้หญิงท้องแก่ ตาย พิการ และเด็กพิการอีก ทั้งๆที่ป้องกันได้
คงต้องตั้งชมรมแม่และเด็กปลอดภัยจากการคลอดอีกชมรม
ตอนนี้ถ้านับๆก็เป็น 20 คดีได้
ก่อนตายเด็กอยู่ไอซียู หมดเป็นแสนเป็นล้าน ติวเข้มพยาบาล และซื้ออัลตราซาวนด์แจกดีกว่าไหม
โดย: ฟฟ [4 พ.ค. 51 12:33] ( IP A:58.8.1.189 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   เห็นใจเจ้าของกระทู้
ขอบคุณท่านที่นำมาโพสต์ได้อ่านกัน
หากเจ้าของกระทู้ต้องการเพื่อน
ต้องการกำลังใจ ติดต่อมาที่เครือข่ายได้
ยินดีเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เพราะพวกเราไม่สุขกันเท่าไหร่
โดย: เครือข่ายฯ [5 พ.ค. 51 18:39] ( IP A:58.9.195.6 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   คห.3
ideal ครับ... หมอเทพ..
เอาหมอ-พยาบาลให้มันเพียงพอก่อนเหอะ แล้วค่อยคิดเรื่องไปยัดเยียดงานเพิ่มให้ พยบ.
โดย: กรรมจริงๆ [12 พ.ค. 51] ( IP A:203.144.140.251 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
    ความคิดเห็นที่ 5 ทราบ

ในเมื่อท่านทราบดีว่าแก้ไขเรื่องความพอเพียงของแพทย์ พยาบาลไม่
ได้มานาน
แล้วทำไมไม่คิดแก้ไขที่มันมีอยู่ตอนนี้ให้รู้จักหน้าที่ สำนึก น้ำใจ และ คำว่า จรรณยาบรรณ มากกว่านี้ดีกว่าไหมคะ

จะลดการฟ้องร้องได้เยอะ เชื่อคนไข้เคยโดนเหอะค่ะ

ใครอยากจะไปศาล ไปแล้ว ไปอีก ไปกี่ปีก็ไม่รู้ เฮ้ย....ประเทศไทย
โดย: มันยิ่งกว่ากรรมซะอีก [18 พ.ค. 51 9:28] ( IP A:61.19.65.87 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   เคยคลอดรพ. หาดใหญ่ลูกอายุ 8 เดือน วันนั้นแทบจะไม่มีเตียงนอนคนคลอดเยอะมาก พยาบาลทำงานกันเหนื่อยจริง ๆ ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ
โดย: จากแม่คนหนึ่ง..... [7 มิ.ย. 51 15:03] ( IP A:61.19.24.122 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ขอแสดงความเสียใจและเห็นใจครับ

ผมมีพ่อแม่ที่เชื่อว่าหมอทำให้ลูก(คนนี้แหละครับ)พิการ และท่านบอกผมให้จำชื่อหมอ หน้าร้านหมอ เลือกการเดินทางไปโรงเรียนให้ผ่านร้านหมอท่านั้นเป็นปีๆ และย้ำกับผมอีกลายสิบปี

จนผมต้องขอร้องให้หยุดพูดถึงสาเหตุความพิการของผมหรือความน่าจะเป็นถ้าผมไม่พิการ(ซึ่งไม่มีความเป็นไปได้อีกแล้ว) ซึ่งจะให้ผมเครียด-แน่นหน้าอกทุกครั้งที่พ่อแม่หรือญาติๆ (คนอื่นพูดถึงไม่เป็นไร) ผมเข้าใจความรู้สึกเสียใจเสียดายโอกาสของพ่อแม่และญาติๆ ของผมทุกท่าน ซึ่งคงไม่ต่างจากท่านที่มีลูกพิการที่ร้องเรียนหาความเป็นธรรม ณ ที่นี้และที่อื่นๆ นัก
คนพิการที่เป็นลูกคิดอย่างไร รู้สึกต่อสังคมอย่างไรนั้นผมไม่แน่ใจนัก แต่สำหรับผมแล้ว เป็นเรื่องของความโกรธ เกลียด เรียกร้องหาความเป็นธรรม แบบที่เรียนรู้จากคนใกล้ชิด.... ผมอยากฝากทั้งฝั่งของคุณหมอ+สถานพยาบาล และผู้ปกครอง+ญาติของคนพิการทั้งหลายได้รับทราบว่า การเยียวยาจิตใจของผู้(รู้สึกว่า)ได้รับความเดือดร้อนทางการแพทย์เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนมากๆ เพราะส่งผลต่อเนื่องไปในวงกว้างอย่างไม่น่าเชื่อ
ผมและครอบครัวไม่ได้รับการชดเชยหรือเยียวยาเป็นตัวเงินโดยตรง ไม่ได้รับการเยียวยาทางจิตใจโดยตรงจากระบบสุขภาพของบ้านเรา จนผ่านเลยไปประมาณ 46 ปี จึงเห็นการเยียวยาจิตใจ(ย้อนหลัง)ทางอ้อมผ่านการศึกษา การทำงานในโรงพยาบาลพี่น้องและเพื่อนๆ ร่วมงาน การทำงานด้านคนพิการ การรักษาพยาบาล การฝึกอบรม และการร่วมเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยชีวิต ผ่านจุลสารสายสัมพันธ์ในวิทยาลัย-สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย ชุมชนไฟฟ้าอย่างเช่น https://www.forfriend2000.com https://www.tddf.com โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเครือข่ายเครือข่ายจิตตปัญญาศึกษา -> สถาบันขวัญเมือง -> สุนทรียสนทนา (dialogue) -> วงน้ำชา https://www.wongnamcha.com ในหนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์ คอลัมน์ จิตวิวัฒน์ บทความเรื่อง การชนะความตาย คือรู้ว่าไม่ตายจริง โดย ศ.นพ.ประสาน ต่างใจ https://jitwiwat.blogspot.com แผนงานพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งยังนึกสงสัยว่าบังเอิญอย่างไรหรือไม่ที่ผมพบอาจารย์แพทย์ อาจารย์ในวงการสาธารณสุข วงการไอที วงการคนพิการ ศาสนา ที่กรุณาต่อผมเป็นอย่างมากมายไม่น่าเชื่อ แต่ก็เป็นไปแล้ว และเชื่อว่าจะเป็นอยู่อย่างเป็นกระแสธาร (Flow)

เป็นสิ่งที่อยู่ในใจผม คนที่เข้าโรงเรียนพ่อแม่ เพื่อที่จะเข้าใจตัวเองพ่อแม่และคนในครอบครัว ฝากมาถึงทุกท่านที่มีได้รับความเดือดร้อนใจจากการเป็นผู้ให้บริการหรือรับบริการทุกท่าน ด้วยความรักและห่วงใย
โดย: ต้อย ..ลูกของพ่อแม่หลายต่อหลายคน [12 ก.ค. 51 23:24] ( IP A:61.19.65.4 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน