“การแก้ไขปัญหาการฟ้องคดีแพทย์
   “การแก้ไขปัญหาการฟ้องคดีแพทย์
อันเนื่องมาจากการให้การรักษาพยาบาล”

ปัญหาการฟ้องร้องคดีแพทย์ฯ และส่วนราชการต้นสังกัดผู้ให้การบริการรักษาพยาบาลมีแนวโน้มมากขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวสรุปได้ดังนี้

1. การดำเนินการก่อนที่ศาลจังหวัดทุ่งสง จะได้มีคำพิพากษาคดีที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
(1) จัดตั้งศูนย์สันติวิธีขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่ในการไกล่เกลี่ย และเผยแพร่ให้แนวทางแก่โรงพยาบาลในการไกล่เกลี่ย กรณีที่สมควรดำเนินการไกล่เกลี่ย
(2) จัดโครงการเผยแพร่อบรมให้ความรู้ด้านกฎหมาย แนวทาง แก้ไข ป้องกัน การฟ้องร้องทางคดีให้แก่แพทย์และบุคลากรสาธารณสุขอื่น ๆ ในโรงพยาบาลต่าง ๆ ได้ดำเนินการแล้วประมาณ 45 โรงพยาบาล โดยเน้นถึงการให้บริการที่ได้มาตรฐานตามหลักวิชาชีพ การสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้รับบริการ การไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท และความรับผิดและขั้นตอนดำเนินการ ตามกฎหมาย
(3) จัดให้มีพนักงานราชการตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญกฎหมายประจำเขตจำนวน 12 คน ประจำแต่ละเขตเพื่อให้ทำหน้าที่ช่วยเหลือเฉพาะกรณีแพทย์ฯ ถูกฟ้องหรือ
มีข้อโต้แย้งอย่างเดียว
(4) ตั้งคณะกรรมการพิจารณากรณีแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่อื่น มีข้อโต้แย้ง พิพาท หรือถูกฟ้องคดี เนื่องจากการให้การรักษาพยาบาล/มีหน้าที่ไกล่เกลี่ย
ให้ความร่วมมือ จัดเตรียมข้อมูลทางวิชาการเพื่อประกอบการต่อสู้คดี (คำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 1029/2548 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2548)


-2-

(5) กำหนดแนวทางปฏิบัติ กรณีแพทย์มีข้อโต้แย้งหรือถูกฟ้องคดีจะต้องปฏิบัติอย่างไร โดยทำหนังสือแจ้งเวียนไปยังจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ ให้ทราบ (สธ 0201.043.1/ว 381 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2549)
(6) ซักซ้อมความเข้าใจการดมยาสลบให้ผู้ป่วย กรณีไม่มีวิสัญญีแพทย์ วิสัญญีพยาบาล ตามหนังสือที่ สธ 0201.043.5/ว.382 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 25 49
(7) ประสานความร่วมมือกับสภาวิชาชีพต่าง ๆ เช่น แพทยสภา
ราชวิทยาลัยต่าง ๆ ในการสนับสนุนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ เพื่อให้ข้อมูลทางการแพทย์ในการเตรียมคดีและซักซ้อมการเบิกความและขึ้นเบิกความเป็นพยานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อศาล
(8) ได้มีการหารือร่วมกันระหว่างผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขและผู้พิพากษาศาลจังหวัดนนทบุรี โดยกระทรวงสาธารณสุขได้นำเสนอข้อมูลทางวิชาการ/ข้อเท็จจริง / และข้อจำกัดในการรักษาพยาบาลให้ศาลจังหวัดนนทบุรีทราบ
(9) แต่งตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อศึกษา และหาแนวทางในการที่จะปรับปรุง พัฒนา หรือจัดทำกฎหมายขึ้นมา เพื่อให้สอดรับกับปัญหาการฟ้องร้องแพทย์ เนื่องจากการให้การรักษาพยาบาลโดยให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
เช่น หน่วยงานของรัฐ บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนผู้มารับบริการ โดยขณะนี้ได้เสนอกฎหมายคณะรัฐมนตรีและได้รับการเห็นชอบในหลักการ ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้ว

2. สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการภายหลังจากศาลจังหวัดทุ่งสงมีคำพิพากษาลงโทษแพทย์ โดยไม่รอลงอาญา
(1) จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือคดี ธนาคารกรุงไทย (สาขาย่อยกระทรวงสาธารณสุข) บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 142-0-05945-9
(2) จัดหาทนายความที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับคดีทางการแพทย์ สนับสนุนคณะทนายความที่มีอยู่เดิม
(3) จะประสานงานให้มีการยื่นอุทธรณ์โดยเร็วโดยขอให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ และกฎหมายได้ร่วมพิจารณาคำอุทธรณ์ด้วย


-3-


(4) ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามผล และประสานงานเรื่องนี้ โดยเฉพาะประกอบด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข 2 ท่าน, นิติกร, ผู้แทนกลุ่มแพทย์, ผู้แทนแพทยสภา
(5) พิจารณาจัดให้มีผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายและการดำเนินคดีลักษณะนี้ไว้เป็นที่ปรึกษาประจำกระทรวงสาธารณสุข (เชื่อว่าจะไม่มีเพียงคดีร่อนพิบูลย์คดีเดียว อาจมีคดีอื่นตามมาอีก) สนับสนุนการทำงานของกลุ่มนิติการ โดยเฉพาะการร่วมปรึกษาหารือระหว่างกลุ่มนิติการ และคณะอัยการ (ทนายแผ่นดิน)

3. สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการในระยะยาวต่อไป
(1) พิจารณาทบทวน ปรับปรุง หนังสือให้ความยินยอมในการรักษาพยาบาล
(2) ผลักดันร่างกฎหมายที่กำหนดเกี่ยวกับเรื่องการให้บริการทางการแพทย์ ให้เกิดความเป็นธรรมทั้งกับ ผู้รับบริการ ผู้ให้บริการ และหน่วยงานของรัฐ ให้สำเร็จเป็นกฎหมายบังคับใช้
(3) ให้มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อนำมาปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ปรับใช้ เพื่อแก้ไขปัญหาในลักษณะที่ให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง
ทุกฝ่ายโดยถาวรต่อไป
(4) ร่วมกับแพทยสภาขอแก้กฎหมายวิธีพิจารณาคดีความอาญาในมาตราที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีคณะผู้เชี่ยวชาญเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของศาลด้วย


------------------



กระทรวงสาธารณสุข
14 ธันวาคม 2550

(สามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้ที่ https://www.moph.go.th/ops/iprg)
https://www.moph.go.th/ops/iprg/news_pic/คดีฟ้องแพทย์.doc
โดย: สิ่งเดียวที่ไม่ได้ทำ [23 พ.ค. 51 15:59] ( IP A:58.8.9.123 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   สิ่งเดียวที่จำเป็น และป้องกันการฟ้องร้องได้ แต่ไม่ได้ทำก็คือ
การตรวจสอบความผิดพลาดที่ผ่านๆมา และที่น่าจะเกิดได้บ่อยในอนาคต และหาทางป้องกัน และหากผิดพลาดจริงก็จะต้องสอบสวนตรงไปตรงมาและหาทางเยียวยาแก้ไข
ถ้ายังไม่ทำแบบนี้ สงสัยจะเหนื่อย
โดย: ที่ควรจะทำแต่ไม่ทำ [23 พ.ค. 51 16:02] ( IP A:58.8.9.123 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   จัดตั้งศูนย์สันติวิธีขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่ในการไกล่เกลี่ย และเผยแพร่ให้แนวทางแก่โรงพยาบาลในการไกล่เกลี่ย กรณีที่สมควรดำเนินการไกล่เกลี่ย

ที่ผ่านมา เอาอะไรมาวัดว่ากรณีใดสมควรหรือไม่สมควรไกล่เกลี่ย
สำหรับพวกคุณก็คือ หมั่นไส้รู้ดีนักปรึกษาเครือข่ายฯ ไม่ต้องไปไกล่เกลี่ยให้สู้คดีไป ถ้าหัวอ่อนก็ทั้งไกล่ทั้งเกลี่ยเขาทั้งที่อนุญาตให้หมอละเมิดสิทธิเขาเรื่องเวชระเบียน เรียกว่าไม่ให้เขารู้อะไรเลย

เรียกเกลี้ยกล่อมดีกว่า ไกล่เกลี่ยมันดูหรูไป
ไปถามคุณหมอบรรพตให้ทีว่า กรณีที่จันทบุรี
เห็นไปคุยในที่ประชุมบ่อย ๆ ว่าสำเร็จ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆๆ
จ่ายไป 9 แสน

เอ่อ...ขอโทษ.....เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้เสียหายเพิ่งรายงานว่า
ยังไม่ได้แม้แต่แดงเดียว เมื่อเขาโทรไปถามก็บอกว่า ผมทำหน้าที่เจรจาเสร็จก็หมดหน้าที่ อ้าวแล้วใครจะจ่ายไม่จ่ายคุณไม่รับผิดชอบ แต่กลับเอาผลงานไปอวดอ้างว่าสำเร็จ win win suituation ทุกฝ่ายได้อย่างไร

หรือว่าหลอกซื้อเวลาชาวบ้านเขาไปวัน ๆ
โดย: เลิกเหอะกระบวนการเกลี้ยกล่อม [23 พ.ค. 51 20:13] ( IP A:58.9.201.33 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
    ประชุมผลาญงบภาษีจากคนทำงานเสียภาษี รวมถึงคุณหมอที่ทำงานเสียภาษีหนักหนักด้วย อยู่กันมาจนแก่เฒ่ามีวิชั่นแค่แก้ปัญหาแบบศรีธนญชัยไปวันๆ อนาถแท้แพทยสภาไทยยุคพาณิชยแพทย์ ..ลามไปถึงราชวิทยาลัย แทนจะมั่นคงในหลักวิชาการ ก็เอาแต่หลักวิชากู
โดย: เจ้าบ้าน [23 พ.ค. 51 21:24] ( IP A:124.121.144.53 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
    คนไกล่เกลี่ยไม่เอาหมอในโรงพยาบาลนั้นได้ไหม ขอต่อรอง ???
โดย: 6 ต่อ 2 งี้อ่ะ [24 พ.ค. 51 10:14] ( IP A:61.19.65.254 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   เรียนคุณหมอบรรพต แล้วก็บรรดาผู้ช่วยในศูนย์ฯอะไรต่อมิอะไรทั้งหลายที่ตั้งขึ้นมาน่ะ

ผมเข้าใจว่าท่านก็ต้องแสดงผลงานเพื่อรักษาเก้าอี้ รักษาหน้าตาในตำแหน่งหน้าที่ราชการนะ

แต่อยากให้ท่านลองเอาคู่กรณีฝ่ายผู้เสียหาย ที่ท่านอ้างว่าพอใจแล้ว ไม่ติดใจ จบลงด้วยดี ทำนองนี้ ออกมาบอกกล่าวกันหน่อยได้ไหม? อุตส่าห์ทำงานทั้งขู่ ทั้งปลอบ ทั้งตะล่อมปิดหัวกั้นท้ายให้บรรดาผู้เสียหายเข้าคอกที่ท่านตีล้อมร่วมกับแพทยสภาแล้ว

ในเมื่อทำเรื่องดีๆได้สำเร็จมากขนาดที่อ้างๆ ลองเชิญซัก 2-3 ราย มาชี้แจง มาส่งข่าว มาเล่าให้คนแถวๆนี้ได้รู้ ได้เข้าใจกันหน่อยน่า

ถ้าดีอย่างที่ร่ายมาจริงผมจะได้ช่วยส่งเสริมให้คดีผู้เสียหายไปเข้าทางท่านซะเลย แล้วจะได้เชียร์ท่านจ้าวบ้านปิดเว็บพากันไปหาเรื่องอื่นที่ประเทืองอารมณ์ทำกันดีกว่า ไอ้ผมรึ ก็เบื่ออยากจะอาเจียนวันละ 3 มื๊อก่อนอาหารเลยนะ กับพวกบรรดาสภาแพทยโจรๆที่วันๆทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องได้ราวที่เป็นสาระเอาซะเลย หลอกชาวบ้านร้านช่องไปเรื่อย
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [26 พ.ค. 51 11:26] ( IP A:58.8.103.29 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
    ความคิดเห็นที่ 6 โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง

นับถือท่านจริงจริง

พูดตรงดี ชอบค่ะ เมืองไทยต้องมีผู้นำ หรือ หัวหน้าคนแบบนี้ มันถึงจะถูก ท่านน่าจะเป็นอัยการหรือท่านผู้พิพากษาเนอะ มันได้ใจคนเสียหายจริงจริง ......

อยากได้ข่าวความจริง ที่ไม่มั่วนิ่มไปวันๆ เมืองไทยคนไทยจะได้เลิกหูตาบอดได้แล้ว สำหรับเรื่องพวกนี้ ประเทศชาติน่าจะเดินไปในแนวทางที่ดี แก้ไข สร้างสรรค์ ไม่ใช่บิดเบือนไปวันๆ



สมาชิกเครือข่ายฯ GN.
โดย: อันนี้ก็คนตรงไม่ชอบอะไรอ้อมๆ เหนื่อยค่ะ [26 พ.ค. 51 11:37] ( IP A:61.19.65.133 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน