แจ้งจับพยาบาลชุ่ย! น้ำกรดหยอด 2 ขวบ
    วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6418
ข่าวสดรายวัน

แจ้งจับพยาบาลชุ่ย! น้ำกรดหยอด2ขวบ

น.ส.จันทรา ปั้นสิน อุ้มน้องเฟรม ลูกชายวัย 2 ขวบ ร้องเรียนหลังจากพยาบาล ร.พ.แห่งหนึ่งในจ.ปทุมธานี หยอดกรดเข้าปากเพราะหยิบยาผิดจนเป็นแผลไหม้พุพอง ซึ่งทางร.พ.ขอโทษและรับผิดชอบเต็มที่

สาวโรงงานแจ้งจับพยาบาลร.พ. แห่งหนึ่งย่านปทุมธานีชุ่ย หยอดน้ำกรดใส่ปากลูกชายวัย 2 ขวบสาหัส เผยพาลูกไปรักษาฝีใต้ตา หมอพาเข้าห้องผ่าตัดไม่ถึง 5 นาที ได้ยินลูกชายร้องลั่นเรียกหาแม่กับยาย เปิดประตูห้องผ่าตัดเข้าไปดูถึงกับตกใจ รอบๆ ปากลูกมีรอยไหม้ หมออ้างพยาบาลหยิบยาผิด คิดว่าขวดน้ำกรดเป็นยาสลบเด็ก ยันถึงทางร.พ.จะขอโทษพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่เกรงลูกมีปัญหาในอนาคต จำต้องแจ้งความดำเนินคดี

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. นายเดชา เครือโชติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.คลอง *** รับแจ้งจากนางบุญชู ปั้นสิน อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/3 ม.8 ต.คลอง *** อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ว่า ด.ช.ธนกร ปั้นสิน หรือน้องเฟรม หลานชายวัย 2 ขวบ ถูกพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจ.ปทุม ธานี หยอดน้ำกรดใส่ปากแทนยาสลบจนได้รับบาดเจ็บในลำคอและบริเวณปากอาการสาหัส ขณะนี้นอนรักษาบาดแผลอยู่ที่ห้องพิเศษของโรงพยาบาลดังกล่าว หลังรับแจ้งเหตุแล้วจึงเดินทางไปเยี่ยมเยียนและดูอาการด.ช.ธนกร

ในห้องพิเศษเลขที่ 405 ชั้น 4 ของโรงพยาบาล พบ น.ส.จันทรา ปั้นสิน อายุ 22 ปี มารดา ด.ช.ธนกร หรือน้องเฟรม นั่งปลอบลูกชายที่ร้องไห้งอแงอยู่บนเตียงคนไข้ เนื่องจากเจ็บบาดแผล โดยมีนางบุญชูซึ่งเป็นยายยืนน้ำตาคลออาบแก้ม เนื่องจากสงสารหลานที่ต้องร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดจากพิษบาดแผล คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ ด้วย ซึ่งจากการสังเกตบาดแผลของน้องเฟรมพบว่าเป็นรอยไหม้ทั่วบริเวณปาก ลิ้นและลำคอบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด

น.ส.จันทรา กล่าวว่า ทำงานเป็นลูกจ้างโรงงานผลิตยางรถยนต์ย่านปทุมธานี ส่วนนายวีระ ปั้นสิง อายุ 24 ปี สามีอยู่บริษัทผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ก่อนเกิดเหตุตนชวนแม่พาบุตรชายมาพบหมอโรงพยาบาลดังกล่าว เพื่อรักษาฝีบริเวณใต้ตาจำนวน 1 จุด ซึ่งนับวันฝีดังกล่าวจะโตขึ้นเรื่อยๆ แพทย์เจ้าของไข้บอกว่าต้องผ่าตัดจึงจะหายดี ตนและแม่ปรึกษากันแล้วจึงตกลงให้ผ่าตัด แพทย์และพยาบาลนำน้องเฟรมเข้ารับการผ่าตัดในห้องไอซียู โดยตนและแม่ยืนรออยู่นอกห้อง ยังไม่ทันถึง 5 นาที ก็ได้ยินเสียงน้องเฟรมร้องไห้เสียงดังตะโกนเรียกชื่อตนและยายอยู่ในห้อง ด้วยความเป็นห่วงลูกตนจึงเปิดประตูเข้าไปดูก็พบพยาบาลและแพทย์กำลังช่วยกันจับน้องเฟรม ซึ่งดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด จึงรีบวิ่งเข้าไปกอดปลอบลูกด้วยความสงสาร โดยพบว่ามีรอยไหม้แดงรอบๆ ปาก ตามลิ้นและคอน้องเฟรม

แม่น้องเฟรม กล่าวต่อว่า ตนสอบถามหมอในห้องผ่าตัดถึงสาเหตุของบาดแผลรอบๆ ปากลูกชาย หมอกล่าวว่า พยาบาลหยิบยาที่เป็นสารเคมีลักษณะคล้ายน้ำกรดมาหยอดใส่ปากแทนยาสลบสำหรับเด็ก จึงทำให้น้ำกรดกัดผิวหนังบริเวณปาก ลิ้นและลำคอ จนน้องเฟรมเจ็บปวด เบื้องต้นแพทย์ได้รีบรักษาและล้างสารเคมีดังกล่าวจนหมดจากปากน้องเฟรมแล้ว โชคดีที่น้ำกรดยังไม่ไหลเข้าไปในท้องไม่เช่นนั้นอาการอาจจะหนักกว่านี้ แพทย์และพยาบาลได้ขอโทษและพร้อมที่จะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดจนกว่าน้องเฟรมจะหายดี

น.ส.จันทรา กล่าวด้วยว่า แม้ว่าทางแพทย์เจ้าของไข้จะบอกว่าลูกชายตนปลอดภัยแล้วก็ตาม แต่เกรงว่าอนาคตหากลูกชายอาจจะเป็นอะไรขึ้นมาได้ เนื่องจากบาดแผลพิษของสารเคมี กลัวจะไม่มีใครรับผิดชอบ เบื้องต้นจึงให้พ่อน้องเฟรมไปแจ้งความที่โรงพัก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับพยาบาลคนดังกล่าวที่สะเพร่า และประมาทเป็นเหตุทำให้บุตรชายตนได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

โดย: เครือข่ายฯ [25 มิ.ย. 51 20:19] ( IP A:58.9.218.79 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
    คมชัดลึก
ฉบับวันที่ 25/6/51


พยาบาล รพ.เอกชนชื่อดังเมืองปทุม หยอดน้ำกรดใส่ปากเด็กวัย 2 ขวบแทนยาสลบ เด็กดิ้นทุรนทุรายทันควัน อาการสาหัส

เมื่อ เวลา 17.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน นายเดชา เครือโชติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.คลอง *** อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากนางบุญชู ปั้นสิน อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/3 หมู่ 8 ต.คลอง *** ว่า ด.ช.ธนกร ปั้นสิน หรือน้องเฟรม หลานชายวัย 2 ขวบ ถูกพยาบาลของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.เมือง หยอดน้ำกรดใส่ปากแทนยาสลบ จนหลานชายได้รับบาดเจ็บภายในลำคอ ขณะนี้นอนรักษาอยู่ที่ห้องพิเศษเลขที่ 405 โรงพยาบาลดังกล่าว ทั้งนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา

หลังจากรับแจ้ง นายเดชาจึงไปตรวจสอบ พบ น.ส.จันทรา ปั้นสิน อายุ 22 ปี แม่ของ ด.ช.ธนกร นั่งปลอบลูกชายที่นอนอยู่บนเตียง เนื่องจากเจ็บบาดแผลซึ่งถูกพยาบาลหยอดน้ำกรดใส่ปากให้แทนยาสลบ โดยมีนางบุญชูซึ่งเป็นยาย ยืนน้ำตาคลอเบ้าอยู่ด้านข้าง เพราะสงสารหลานที่ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดจากพิษบาดแผล นอกจากนี้ยังต้องคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ ด้วย

จากการสังเกตบาดแผลของน้องเฟรม พบว่ามีรอยไหม้ทั่วปาก ลิ้นและลำคอบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด

น.ส.จันทรากล่าวว่า น้องเฟรมมีฝีที่ใต้ตา 1 จุด นับวันฝีดังกล่าวโตขึ้นเรื่อยๆ ตนและมารดาพาน้องเฟรมไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อรักษาฝี แพทย์เจ้าของไข้บอกว่า ฝีดังกล่าวจะต้องผ่าตัดจึงจะหายดี ตนและมารดาปรึกษากันและตกลงใจให้โรงพยาบาลดังกล่าวผ่าตัดฝีของน้องเฟรม

จากนั้นแพทย์และพยาบาลนำน้องเฟรมเข้ารับการผ่าตัดที่ห้องไอซียู ตนและนางบุญชูยืนคอยให้กำลังใจอยู่นอกห้อง ยังไม่ทันถึง 5 นาที ก็ได้ยินเสียงน้องเฟรมร้องไห้เสียงดัง ตะโกนเรียกชื่อตนและนางบุญชู ด้วยความเป็นห่วงลูก ตนจึงรีบเปิดประตูเข้าไป พบพยาบาลและแพทย์กำลังช่วยกันจับน้องเฟรม ที่กำลังดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดจากพิษบาดแผลซึ่งเป็นรอยไหม้แดง เถือกรอบๆ ปาก ที่ลิ้นและคอ ตนเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไปกอดปลอบลูก

น.ส.จันทรากล่าวอีกว่า ตนได้สอบถามอาการของบุตรชายจากแพทย์และพยาบาลที่อยู่ภายในห้อง โดยแพทย์กล่าวว่า เกิดจากความสะเพร่าของเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ไปหยิบยาที่เป็นสารเคมีลักษณะ คล้ายน้ำกรดมาหยอดใส่ปากแทนยาสลบสำหรับเด็ก จึงทำให้น้ำกรดกัดกินผิวหนังที่บริเวณปาก ลิ้น และลำคอ จนน้องเฟรมร้องไห้เพราะความเจ็บปวด

ในเบื้องต้นแพทย์รีบล้างสารเคมีดังกล่าวออกจากแล้ว โชคดีที่น้ำกรดยังไม่ไหลเข้าไปในท้อง ไม่เช่นนั้นอาการอาจจะหนักกว่านี้ แพทย์และพยาบาลก็ได้ขอโทษตน และพร้อมที่จะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด จนกว่าน้องเฟรมจะหายดี

น.ส.จันทรา แม่ของน้องเฟรม กล่าวอีกว่า ถึงแม้ว่าแพทย์เจ้าของไข้จะบอกว่าอาการของลูกชายปลอดภัยแล้ว แต่ตนกลัวว่าอนาคต หากลูกชายเกิดเป็นอะไรขึ้นมาเนื่องจากบาดแผลพิษของสารเคมีดังกล่าว แล้วใครจะมารับผิดชอบ ในเบื้องต้นตนจะให้นายวีระ ปั้นสิง อายุ 24 ปี พ่อของน้องเฟรมไปแจ้งความที่โรงพัก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทางกฎหมายกับพยาบาลคนดังกล่าวที่สะเพร่า และประมาท เป็นเหตุให้บุตรชายของตนได้รับบาดเจ็บสาหัส

น.ส.สตรีรัตน์ แจ้งประจักษ์ ผช.ผอ.ฝ่ายบริการโรงพยาบาลดังกล่าวกล่าวว่า จากการสอบสวนแพทย์และเจ้าหน้าที่พยาบาลที่รักษาน้องเฟรม ในเบื้องต้นพบว่าเกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่เบิกยามาผิด และกำลังตรวจสอบว่าเกิดเพราะสาเหตุอะไรกันแน่ และเป็นตัวยาชนิดไหน ที่โรงพยาบาลก็ไม่เคยเกิดเหตุอย่างนี้มาก่อน

หลังจากเกิดปัญหา ทางโรงพยาบาลรู้สึกเสียใจ และจะช่วยเหลือในเบื้องต้นอย่างเต็มที่ โดยการส่งตัวเด็กไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เพื่อส่องกล้องตรวจสอบอวัยวะภายใน ว่าบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน และพยาบาลจะประชุมผู้บริหารว่าจะช่วยเหลือต่อไปอย่างไร
โดย: เครือข่ายฯ [25 มิ.ย. 51 20:23] ( IP A:58.9.218.79 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
    ขอให้ทางโรงพยาบาลให้ความช่วยเหลือเด็กด้วยความเป็นธรรม
และสำนึกของความรับผิดชอบ อย่าปล่อยให้บานปลายจนต้อง
มาถึงมือเครือข่ายฯ
โดย: เครือข่ายฯ [25 มิ.ย. 51 20:24] ( IP A:58.9.218.79 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   จริงๆ ในฐานะหมอแล้วไม่ควรปล่อยให้ พยบ รับผิดชอบตามลำพัง
หัวหน้าทีมผ่าตัดต้องรับผิดชอบด้วย

อย่าให้เหมือนกรณีสุทธิพรที่ คนดมยาต้องเข้าคุกแต่คนผ่าไม่เป็นไรเลย
โดย: หมอครับ [25 มิ.ย. 51 23:07] ( IP A:125.26.146.6 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
    ถ้าเป็น รพ.รัฐ ต้องเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงสาธารณสุข

แต่ถ้าเป็นเอกชน รพ.ต้องรับผิดชอบเอง

ที่สำคัญ "ต้องเป็นธรรม"
โดย: เครือข่ายฯ [26 มิ.ย. 51] ( IP A:58.9.190.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
    ทำไปได้.....
ดีไม่ลงไปในกระเพาะ....

โชคดีที่สุดแล้วค่ะหนูน้อย
โดย: GN [26 มิ.ย. 51 7:39] ( IP A:117.47.123.88 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน