ความคิดเห็นที่ 3 มันไม่ใช่ว่าโอกาสเกิดน้อยมาก แต่น้อยมากกกกกกๆ จนผมเชื่อได้ว่าโอกาสเป็นศูนย์
ลองคิดฟุ้งซ่านเล่นๆว่าถ้า รพ.จะขโมยไตต้องทำงัย? 1.ต้องตั้งองค์กรนอกรีด เพราะทำคนเดียวไม่มีทางสำเร็จและไม่มีทางปิดได้ กลุ่มติดต่อลูกค้าและประสานงาน: ต้องมีคนใน/เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่มีรายชื่อผู้ขอรับการปลูกถ่ายไตมีส่วนรู้เห็นอย่างน้อย 1 คนในแต่ละแห่ง เช่น จากสภากาชาดไทย จากโรงพยาบาลใหญ่ๆ เช่น จุฬา ศิริราช รามา เพื่อให้ได้รายชื่อมาและหาเหยื่อที่รวยๆ กลุ่มทำหน้าที่ขโมย: ต้องมีเครือข่ายผู้สมรู้ร่วมคิดตาม รพ.เป้าหมายที่มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเรื่องอุบัติเหตุมากๆ แค่รพ.เดียวองค์กรไม่มีทางอยู่รอดได้ดังนั้นต้องมี รพ.ที่รู้เห็นเป็นจำนวนมาก ทีมผ่าตัดต้องเป็นคนในเพื่อไม่ให้ข้อมูลรั่วไหลประกอบด้วย แพทย์อย่างน้อย 2 คนที่มีความชำนาญพิเศษเรื่องการผ่าเข้าไปตัดไตให้ไตไม่ได้รับการบาดเจ็บ+มีเส้นเลือดดำและแดงยาวพอที่จะไปต่อกับร่างกายผู้รับ,พยาบาลอย่างน้อย 2-3 คน, ผู้ช่วยพยาบาล 1-2 คนและต้องมีคนสำรองไว้เรียกใช้ได้ตลอดเวลา กลุ่มทำหน้าที่ส่งต่ออวัยวะไปที่เป้าหมาย: อวัยวะที่ตัดออกมามีช่วงเวลาจำกัดก่อนที่จะขาดเลือดแม้จะได้รับการแช่น้ำยา+ความเย็นแล้วก็ตาม ร่วมกับต้องเผื่อเวลาให้ทีม รพ.ปลายทางผ่าตัดปลูกไตเข้าไปใหม่ ดังนั้นถ้าเป็น รพ.รอบๆ กทม.อย่างน้อยก็ต้องมี รถพยาบาลฉุกเฉินที่พร้อมออกตัว 24 ชม., ในกรณีที่ รพ.เครือข่ายค้าอวัยวะเทียมอยู่ห่างไกลต้องใช้เฮลิคอบเตอร์ในการเคลื่อนย้าย ดังนั้น 1 รพ.เครือข่ายก็ต้องมีคนขับรถที่ร่วมขบวนการด้วยอย่างน้อย 1 คนหรือมากกว่า+คนที่รับผิดชอบถือถังแช่อวัยวะอีก1 คน กลุ่มที่ทำหน้าที่ปลูกถ่ายอวัยวะที่ขโมยมา: เช่นเดียวกับทีมผ่าเอาไตออกมาต้องประกอบด้วยแพทย์อย่างน้อย 2 คน,พยาบาล 2-3 คน,ผู้ช่วย 1-2 คน ไม่สามารถใช้ทีมเดียวกันได้เพราะแพทย์คนละ รพ.มาผ่ารพ.ที่ปลูกถ่ายไม่ได้จะผิดสังเกตุ+อ่อนล้ากับการผ่าเอาไตออกมาแล้วจึงต้องใช้อีกทีม 2.ต้องมีวิธีปกปิดที่สุดยอดทำให้ไม่มีข่าวรั่วมาก่อนเลย กลุ่มผู้รอการปลูกถ่ายควรมีคนที่ได้รับการติดต่อและไม่เป็นด้วยกับพฤติกรรมนี้แล้วออกมาแฉ ผู้ร่วมขบวนการจำนวนมาก การปกปิดทำได้ยาก การขัดผลประโยชน์ การตีตัวออกห่าง จิปาถะที่ทำให้ความลับรั่วไหล 3.ต้องมีรายได้สูงมาก+สม่ำเสมอให้กับผู้ร่วมขบวนการ ผู้เคราะห์ร้ายคงต้องมีจำนวนมาก อย่างนี้ต้องไป MRI กันให้หมดเพื่อดูว่าไตตัวเองหายไปรึยัง |