ไตหาย
   แล้วจะรู้ว่านรกมีจริง
โดย: วงจรอุบาทว์ [17 ก.ค. 51 22:02] ( IP A:58.8.7.54 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   https://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1216275562
โดย: ฟังเขาพูดบ้าง [17 ก.ค. 51 22:04] ( IP A:58.8.7.54 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   https://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1216234396
โดย: ฟังเขาอีกหน่อย [17 ก.ค. 51 22:05] ( IP A:58.8.7.54 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   เฮอะๆ
โดย: .... [17 ก.ค. 51 23:40] ( IP A:222.123.128.120 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   หมอในห้อง TCC บางคนเชื่อกันง่ายดีจัง
แค่ฟังจากหมอแพทยสภาบางคนพูดก็เชื่อแล้ว
ทั้งที่ยังไม่ได้ซักรายละเอียดจากผู้เสียหาย
และการที่ หมอสัมพันธ์ ออกมาสัมภาษณ์นั้น
เขารู้แล้วหรือยังว่า ผล MRI มันยังไม่ออกเลย
ผลราชวิถีก็ยังไม่ออก แถมผลทั้ง 2 ที่ออกมาแล้ว
ไม่ยอมให้ผู้เสียหายและญาติดูผลด้วย

แล้วจะให้ผู้เสียหายเขาคิดอย่างไรไม่ทราบ
คุณหมอคนดีที่หนึ่งทั้งหลาย
โดย: เข้าข้างกันเห็น ๆ [18 ก.ค. 51 1:16] ( IP A:58.9.196.22 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   พวกเอ็งนี้เพ้อเจ้อดีหว่ะ
โดย: ฟุ้งซ่านกันจริง [18 ก.ค. 51 2:58] ( IP A:222.123.128.120 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ปิดหูปิดตา สะกดจิตพวกเดียวกัน
เก่งนัก พวกเครือข่าย 555
โดย: อยากให้ฟ้องกลับ [18 ก.ค. 51 10:39] ( IP A:117.47.237.207 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   งานนี้เครือข่ายเน่าสนิท
โดย: ห่วยนะรู้ตัวมั้ย [18 ก.ค. 51 11:00] ( IP A:222.123.128.120 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   เครือข่ายฯ เน่าสนิทมานานแล้ว
ไม่เคยคิดว่าตัวเองหอม เราเน่าเพราะถูกแพทยสภาหลอก
กันจนเป็นสันดาน
แต่เน่าก็ยังดีกว่าเลวชาติชั่วที่ช่วยกันแบบให้เขาจับได้
โดย: แพทยสภาห่วยกว่าเลวด้วย [18 ก.ค. 51 11:31] ( IP A:58.9.220.145 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   แพทยสภา รวมหัว แตะมือกันโกหกผู้เสียหาย
ยังมีหน้ามาโทษเครือข่ายฯ

พวกคุณแก่หัวหงอกแล้ว สันดานไม่เคยเปลี่ยน
สิบกว่าปีเป็นอย่างไร ปัจจุบันก็เป็นอย่างนั้น
เก่งแต่โยนความผิดให้เครือข่ายฯ

แพทยสภาเป็นพวกfix ไอเดียชอบคิดว่า
1.ผู้เสียหายเขาโกรธเองไม่เป็น ต้องให้เครือข่ายฯ บอกให้โกรธ
2.ผู้เสียหายไม่มีสมองคิดเองไม่เป็น ต้องให้เครือข่ายฯ บอกให้คิด
3.ผู้เสียหายร้องเรียนสื่อไม่เป็น ต้องให้เครือข่ายฯ บอกให้ร้องเรียน

ยุคนี้ชาวบ้านเขาไม่ได้โง่ มีแต่พวกคุณนั่นแหละที่งมโข่งคิดได้แค่นี้
มันถึงแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ มองปัญหาไม่ทะลุจะแก้ปัญหาได้อย่าง
ไร เก่งแต่ป้ายขี้ให้ผู้เสียหาย ชาวบ้านเขาหวังพึ่งพวกคุณ พวกคุณ
แก้ปัญหาไม่ได้ทำไมไม่ลาออกกันให้หมด อยู่ไปทำไมถ้าไม่มีผล
ประโยชน์ทับซ้อน

งานนี้เครือข่ายฯ บอกผู้เสียหายตลอดเวลาว่า เขาไม่ได้โขมยไต
แน่นอน แต่อย่างอื่นคุณต้องให้แพทยสภาตรวจสอบ พอพวกคุณ
ตรวจสอบ ไม่ได้ซักรายละเอียดจากคนไข้แบบใส่ใจเลย แย่งกัน
อธิบายถึงความเป็นไปได้น่าจะเป็นที่ช่วยพวกเดียวกันเอง เหมือน
พวกคุณราดน้ำมันเข้ากองไฟ พวกคุณนี่มันสันดานที่ไม่เคยเปลี่ยน
คือไม่เคยรู้ตัวว่าทำร้ายจิตใจคนไข้คนแล้วคนเล่า รู้กันบ้างหรือเปล่า
ว่าคนไข้รู้สึกอย่างไรเวลาไปชี้แจงที่แพทยสภา เขาแทบไม่ได้ชี้แจง
และแทบไม่มีคนฟังเขา ดีแต่แย่งกันอวดภูมิ อวดว่าข้าเก่งบรรยาย
แก้ตัวแทนหมอทุกครั้งไป

มิหนำซ้ำ รับตัวเขาไปตรวจ ฟิล์ม+เอกซ์เรย์ไม่ให้เขา
พาไปทำ MRI ผลอ่าน ก็ไม่ให้เขาเห็น แล้วรีบแถลงข่าว
ไตอยู่ครบ ๆ ๆ ๆ แต่มันฝ่อ อาจฝ่อแต่กำเนิด ให้ข่าวไปแล้ว
คนไข้เขาจะรู้สึกอย่างไร ยังไม่ได้สอบสวนครบถ้วนกระบวนความ
เลยก็สรุปแล้ว พวกคุณคิดหรือว่าแค่นี้ก็เคลียร์ทุกเรื่องให้จบ
แล้วโยนขี้ให้เครือข่ายฯ

แน่จริงก็ฟ้องสิ ฟ้องว่าเครือข่ายฯ ยุยงให้เกิดความแตกแยก
บอกไปเลยว่าความวุ่นวายทุกวันนี้มันเกิดจากเครือข่ายฯ
ไม่ได้เกิดจากความขี้โกง ความชั่ว สันดานเลวของใคร

เขาร้องเรียน
สื่อก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะไม่ไว้ใจแพทยสภา เพราะพฤติกรรมที่
ผ่านมาเขาก็ดูโทรทัศน์ว่าพวกคุณมีนิสัยกันเป็นอย่างไร
โดย: สันดานไม่เคยเปลี่ยน [18 ก.ค. 51 11:53] ( IP A:58.9.220.145 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   คห ที่ 6+7 เนี่ย

โอ้โฮ ดี ดี ดี ฟ้องเลย ฟ้องให้เจ๊ง กันไปข้างนึงเลย

แล้วอย่าลืมฟ้องโรงพยาบาลแรกที่ไปรักษา แล้ว X-ray เจอว่าไตอยู่ครบปรกติสองข้างด้วยนะ โทษฐานทำฟิลม์ X-ray ปลอม หรือไม่ก็อ่านฟิลม์ไม่เป็น เอ แล้วคงต้องฟ้องหมอที่อ่านฟิลม์ของ ร.พ. ที่สามด้วยมั๊งที่อ่านผิดว่าไตหายไปข้างนึงน่ะ ได้ยินว่าคนอ่านคนนี้เป็นกรรมการแพทยสภาด้วยไม่ใช่เหรอ อารายกันเนี่ย เลอะเทอะกันใหญ่แล้ว

สรุปงานนี้ คนไข้ซวยเอง ทำไตหายเอง หรือไม่ก็ไตฝ่อได้เอง หรือไม่ก็เป็นกรรมพันธุ์ประเภทมีไตข้างเดียวอีก เป็นคนพันธุ์พิเศษ เอาไปออกงานวัดได้มั๊ง มั่วกันเข้าไว้น้องเอ๋ย ความเชื่อถือวงการแพทย์ไทยจะได้บรรลัยชิบหายกันต่อๆไป

ส่วนท่านที่ทับถมชาวบ้านว่าเพ้อเจ้อน่ะ ระหว่างโดนของแข็งทิ่มปาก โดนมือที่มองไม่เห็นฟาดตกงานไม่รู้ตัว แบบอธิบดีกรมสึนามิเด้อ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [18 ก.ค. 51 12:44] ( IP A:58.8.99.88 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   ความเห็น 10

รพ.แรกที่อ่านฟิล์มว่าไตอยู่ครบและขนาดเป็นปกติดี
หนึ่งในทีมแพทย์ที่ได้ตรวจรักษาคุณเกษรคือ
นพ.วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ กก.แพทยสภา ที่จบเนติบัณฑิตด้วย

ไม่ใช่รพ.ที่ 3 ขอแก้ข่าว
เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน

แต่ที่คุณพูดว่ารพ.บางปะกอก 3 ที่พบว่าไตหาย มีกก.แพทยสภา
ด้วยนั้นก็ใช่ คือ นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย รองเลขาธิการแพทยสภา
ฝ่ายกฎหมาย

งานนี้คุณเกษร เจอตอใหญ่ ๆ ท้างน้านนนนนนนนนนนนน
โดย: น่าเป็นห่วง [18 ก.ค. 51 12:54] ( IP A:58.9.220.145 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
    มาอ่าน
โดย: GN [18 ก.ค. 51 13:06] ( IP A:222.123.85.70 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
    ข้าพเจ้านางเกษร พุ่มแจ่ม อายุ 43 ปี ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 41 ปี ข้าพเจ้ามีสุขภาพที่แข็งแรงดี ทำงานประกอบอาชีพเย็บผ้าได้เป็นอย่างดีไม่เคยเจ็บป่วยอย่างรุนแรงมาก่อน

24 ธันวาคม 2548
ข้าพเจ้าประสบอุบัติเหตุจากการนั่งรถ 2 แถวเฉี่ยวชนกับรถบรรทุก 10 ล้อ แต่ไม่รุนแรง ข้าพเจ้าโดนข้อศอกของผู้โดยสารอื่นกระแทกท้อง มีอาการจุก เข้ารักษาตัวที่รพ.กรุงเทพ-พระประแดง ผลจากอัลตร้าซาวด์อวัยวะภายในปกติ ไตทั้ง 2 ข้างอยู่ครบปกติดังภาพที่เห็น ไม่มีเลือดออกตกค้างในช่อท้อง และไม่ได้ทำผ่าตัดใด ๆ ทั้งสิ้น

(ระยะเวลาที่พบว่ามีไตครบ 2 ข้างกับวันที่ผ่าตัด ห่างกัน 7 เดือน)

กรกฎาคม 2549 ข้าพเจ้ามีอาการปวดรุนแรงบริเวณท้องน้อยบ่อย ๆ จึงไปตรวจที่ รพ.กรุงธน 2 ผลการตรวจพบช็อคโกแล็ตซีสต์บริเวณ ใต้รังไข่ด้านขวา

9 สิงหาคม 2549
แพทย์ รพ.กรุงธน 2 ทำการผ่าตัดเอาซีสต์และเลาะพังผืดในช่องท้องออก มีแผลผ่าตัดบริเวณท้องน้อยยาวประมาน 10 ซม. ใช้เวลาผ่าตัดประมาน 1 ชม. โดยการฉีดยาชาบริเวณไขสันหลัง ข้าพเจ้าพักฟื้นอยู่ในรพ. 5 วัน และกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านอีก 1 เดือน

หลังการผ่าตัดข้าพ ระหว่างพักฟื้น 1 เดือนกับ 5 วันนั้นข้าพเจ้ามีอาการปวดแผลผ่าตัด ปวดหลังปวดเอวเอวร้าวมาถึงขาตลอดเวลา หน้ามืดวูบเป็นระยะ ทุกข์ทรมานมาก ปวดทั้งแผลผ่าตัดกับปวดหลังปวดเอว แพทย์ได้ให้ยาแก้อักเสบ ยาลดไข้ ยาแก้ปวด ไปกินต่อที่บ้าน

หลังจากพักฟื้นครบ 1 เดือน อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ร่างกายอ่อนแอและผ่ายผอมลงอย่างผิดปกติ แต่ก็ต้องจำใจกลับเข้าทำงานเพราะกลัวถูกให้ออกจากงาน ครอบครัวจะลำบาก ระหว่างทำงานเดือนแรกมีประจำเดือนไหลออกทั้งเดือน อาการเจ็บปวดเอวด้านหลัง ปวดร้าวมาจนถึงหน้าขา และหน้ามืดวูบเป็นระยะ ๆ แพทย์ให้ยาแก้ปวด แก้อักเสบ และยาลดไข้ กลับไปกินที่บ้าน

เมื่อข้าพเจ้ากลับไปพบแพทย์ที่รพ.กรุงธน 2 แพทย์ตรวจแล้วบอกว่าอาจเป็นผลข้างเคียงของการผ่าตัด ให้ยาแก้ปวด แก้อักเสบ และยากลดไข้ ยาบำรุงเลือดกลับไปกินต่อที่บ้านเหมือนเดิม บางครั้งที่ยาลดไข้ยังเหลือแพทย์ก็ไม่จ่ายให้ ให้ใช้ยาเดิม

ต่อมาไม่นาน รพ.กรุงธน 2 ยกเลิกการรักษาผู้ป่วยประกันสังคม ข้าพเจ้าไปใช้สิทธิ์ที่รพ.บางปะกอก 3 แทน


( หมายเหตุ หลังการผ่าตัดข้าพเจ้าได้ตรวจร่างกายประจำปีกับทางโรงงาน 2 ครั้ง โดยรพ.บางกอก 9 ผลการตรวจพบโปรตีนกับเม็ดเลือดแดงรั่วทางปัสสาวะสูงทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งการตรวจร่างกายประจำปีก่อนจะทำการผ่าตัดนั้นผลไม่เคยพบว่ามีโปรตีนและเม็ดเลือดแดงรั่วทางปัสสาวะแต่อย่างใด)

ต่อมาข้าพเจ้าไปรักษาตัวที่รพ.บางปะกอก 3 หลายครั้ง โดยแจ้งให้แพทย์ทราบถึงผลการตรวจร่างกายประจำปีกับทางโรงงานด้วย แพทย์สงสัยว่าไตจะมีปัญหา นัดเจาะเลือด นัดตรวจปัสสาวะ ได้ให้ยาขับปัสสาวะ แก้อักเสบ ลดความดันไปทานที่บ้าน แต่อาการของข้าพเจ้าไม่ดีขึ้นแย่ลงเรื่อย ๆ ร่างกายผ่ายผอม

กลางเดือนพฤษภาคม 2551 มีอาการหน้ามืดและปวดร้าวไปทั้งตัว แพทย์รพ.บางปะกอก 3 นัดให้ไปทำอัลตร้าซาวด์

(ระยะเวลาจากวันผ่าตัดถึงวันที่พบว่าไตขวาหายไป จาก 9 ส.ค.49 – 10 มิ.ย. 51 รวม 1 ปี 6 เดือน)

10 มิถุนายน 2551 รพ.บางปะกอก 3 ได้ทำอัลตร้าซาวด์ ผลพบว่าไตข้างขวาไม่มี เหลือไตซ้ายข้างเดียวและเสื่อมมากทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงส่งผลต่อร่างกายดังกล่าว

ข้าพเจ้าสงสัยว่าไตข้างขวาหายไปได้อย่างไร จึงไปขอดูประวัติที่รพ.กรุงเทพพระประแดง ได้ขอผลอ่านพร้อมฟิล์มอัลตร้าซาวด์ ซึ่งก็พบว่าไตทั้ง 2 ข้างอยู่ครบ

ข้าพเจ้าจึงสงสัยว่าไตหายไปได้อย่างไร เกี่ยวข้องการรักษาผ่าตัดที่รพ.กรุงธน 2 หรือไม่
โดย: นางเกษร พุ่มแจ่ม [20 ก.ค. 51 7:07] ( IP A:58.9.188.230 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน