[b] ป่วยรักษาตัวรวม 2 อาทิตย์ ย้าย รพ. 3 โรง แล้วเสียชีวิต หมอสรุปเป็นไข้ติดเชื้อ?????? [/b]
   พ่อของดิฉันมีไข้ ปวดหัว ตัวร้อน เลยไปหาหมอที่คลินิก ในการไปหาหมอที่คลินิก

ที่คลินิกในตัวอำเภอแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม ศุกร์ 24 กรกฎาคม 51
ครั้งที่ 1 หมอให้ยามากิน พ่ออาการดีขึ้น และอีก 3 วันต่อมาพ่อมีไข้อีกเลยไปหาหมอที่คลินิกเดิมอีกครั้ง
ครั้งที่ 2 นี้หมอก็ให้ยามากืนเหมือนเดิม พ่อกลับมากินยา พ่อดีขึ้น และอีก 4 วันต่อมา พ่อมีไข้ขึ้นสูงมาก เลยไปหาหมอที่คลินิกเดิมในเช้าวันนั้น
ครั้งที่ 3 นี้ หมอตรวจ และใช้สายยางไส้ไก่รัดแขน หมอบอกมีไข้สูงมาก หมอเลยส่งตัวไปที่ รพ.ประจำอำเภอ โดยที่หมอคนเดิมเป็นเจ้าของไข้ และหมอคนนี้ก็เป็นผอ.ของโรงพยาบาลด้วย

รพ.ประจำอำเภอ
วันแรก(รพ) พอมาถึง รพ.ก็เข้าห้องผู้ป่วย พยาบาลให้น้ำเกลือ และได้เจาะเลือดไปตวจ หลังจากนั้นพยาบาลแจ้งกับญาติว่า ผลตรวจเลือดปกติ คนไข้เป็นไข้ติดเชื้อธรรมดา คืนนั้นพ่อเริ่มปวดหัวมาก อ้วกออกมาเยอะมาก ๆ อ้วกจนล้นกระโถนเลย และมีอาการสะอึก นอนไม่ได้เลย บอกพยาบาลพยาบาลก็ให้กินยาพารา กินแต่ยาพารา

วันที่สอง สายๆ หมอมาตรวจ แล้วแจ้งญาติว่าไม่เป็นไรแกเป็นไข้ติดเชื้อ จากนั้นหมอก็ให้พยาบาลมาฉีดยา พยาบาลบอกว่าฉีดยาแก้สะอึก คืนที่สองพ่อเริ่มถ่ายท้อง คืนนั้นถ่ายท้องตั้ง 6 ครั้ง แล้วอุจาระจะออกสีเขียว ๆ ดำ ๆ เหมือนของเด็ก และปวดหัวมาก ปวดมากจนต้องใช้น้ำแข็งประคบ (ในระหว่างที่รักษาตัวที่ รพ.นั้น พ่อจะได้รับยาพาราตลอด และยาเม็ดเล็ก ๆ กินก่อนอาหาร)

วันที่สาม สาย ๆ หมอมาตรวจและแจ้งคนไข้กับญาติว่า ไม่เป็นไร เป็นไข้ติดเชื้อ หมอจะให้ยาฆ่าเชื้อ และยาล้างท้อง เดี๋ยวก็หาย" แล้วพยาบาลก็เอายามาให้กิน เธอบอกว่าเป็นยาล้างท้อง หลังจากนั้นเธอก็มาฉีดยา โดยเธอทำสัญลักษณ์เอาไว้แล้วฉีดให้นิดเดียว ผ่านไปพักนึงพยาบาลมาดูแล้วบอกว่า ต้องทดสอบก่อนว่าคนไข้แพ้ยาหรือไม่แล้วเจ้าหล่อนก็ทำการฉีดยาให้ทั้งเข็ม โดยบอกว่า “ฉีดยาฆ่าเชื้อให้" หลังจากนั้นพ่อก็เริ่มถ่ายท้องอีก 7 ครั้งแรกสียังไม่น่าตกใจ แต่ในครั้งที่ 8 -9 อุจาระเป็นสีดำ เหมือนเลือดเลย แล้วพ่อก็เหนื่อยมาก จนต้องขอออกซิเจน พยาบาลมาดูสีอุจาระ แล้วบอกว่าต้องขอย้ายคนไข้ไปห้องรวม จะได้ดูแลสะดวก ประมาณ 5 โมงเย็นที่เค้าย้ายพ่อไปห้องรวม แล้วเค้าก็ใส่สายยางทางจมูก พยาบาลบอกว่าจะดูดเอาเลือดเสียที่ท้องออก ทำอยู่นาน น้ำที่พยาบาลเอามาหมดไป 2 ขวดแล้ว เลือดก็ยังไม่หมด แล้วพยาบาลก็หายเข้าไปพักนึงแล้วกลับออกมาบอกว่าต้องย้ายคนไข้ไป รพ.ประจำจังหวัดแล้ว พ่อได้ย้ายไปรพ.ประจำจังหวัดเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ระหว่างทางที่เข็ญรถพ่อไปขึ้นรถ พยาบาลถามดิฉันว่า ปกติแล้วพ่อกินยาแก้ปวดมั้ย ดิฉันตอบว่า ไม่ค่ะพ่อเป็นกระเพาะ ไม่กินยาแก้ปวด

รพ.ประจำจังหวัด ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 20 นาที
เมื่อไปถึง หมอก็ซักประวัติ เจาะเลือดไปตรวจ รอผลตรวจเลือกพักนึง หมอบอกว่าผลตรวจเลือกออกมาแล้ว คือ.......... บอกเป็นภาษาอังกฤษ หมอคนนั้นบอกว่า เดี๋ยวหมอโทรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อน หลังจากนั้น พ่อก็ถูกย้ายขึ้นตึกศัลยกรรม เค้าให้น้ำเกลือ ให้เลือด ผ่านไปซักพัก พ่อบอกกับดิฉันว่า “แบบนี้ค่อยดีหน่อย ไม่คิดว่าจะตายแล้วล่ะ” คืนนั้นเหมือนว่าพ่อจะดีขึ้น พ่อพูดคุยกับลูกกับเพื่อนบ้านที่มาเยี่ยม แต่พ่อยังถ่ายเป็นเลือดตลอดเลย น่าตกใจมาก ยิ่งถ่ายเยอะ พ่อก็ยิ่งเหนื่อย พยาบาลมาดูแล้วก็ให้กลูโคลส พ่อนอนไม่หลับ จนเช้า พ่อมีอาการแปลก ๆ พ่อเริ่มหลง แล้วพ่อจะถามตลอดเลย ว่ากี่โมงแล้ว หมอมายัง แป๊บ ๆ ถาม แป๊บ ๆ ถาม จนเวลาประมาณ 9 โมงพยาบาลย้ายเตียงพ่อไปไว้เตียงแรกที่ติดกับห้องพักพยาบาล หลังจากนั้นพักนึงเกือบ ๆ 10 โมง พยาบาลมาบอกว่าให้เช็ดตัวแล้วเปลี่ยนผ้าอ้อมให้พ่อ เพราะจะย้ายคนไข้ไปห้องผู้ป่วยหนัก เพราะว่าพ่อมีไข้สูง ความดันต่ำ แล้วพยาบาลเค้าก็มาย้ายพ่อไปห้อง ICU
(ตั้งแต่ขึ้นตึกศัลยกรรม จนถูกย้ายไปห้อง ICU หมอไม่ได้มาตรวจเลย ดิฉันงงมาก มันน่าตกใจนะคะพ่อเป็นขนาดนี้ แต่ไม่เห็นหมอเลย แล้วก็สายอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด สายน้ำเกลือ สายให้เลือด กลูโคลส 2 ข้าง)
อยู่ในห้อง ICU พ่อใส่เครื่องช่วยหายใจที่ใส่ลงไปในปาก เห็นพ่อแล้วตกใจมาก จากที่เป็นไข้ธรรมดาตอนนี้เป็นมากมายขนาดนี้เลยเหรอ พ่อหายใจแรงมากแล้วก็ไม่ได้สติ มีไข้สูง จะ 11 โมงแล้ว หมอเรียกญาติเข้าไปคุย หมอบอกว่าพ่อมีอาการตับแข็งและมีภาวะไตวายบางส่วน แล้วตอนนี้เลือดที่ออกในช่องท้องก็ออกไม่หยุดเลย คือไม่รู้ว่าเป็นเลือดที่ออกในกระเพราะ หรือ จากตับ จากเส้นเลือดอื่น ๆ ตอนนี้ 50-50 (ทั้ง ๆ ที่พ่อไม่กินเหล้าเลย ทำไมตับแข็ง) ดิฉันถามหมอว่าพ่อจะตับแข็งได้ไงในเมื่อพ่อไม่กินเหล้า เป็นไปได้ไหมจะเกิดจากยารักษาโรคกระเพาะที่พ่อกินมานาน หมอตอบดิฉันว่าเป็นไปไม่ได้หรอก ยาที่จะให้คนไข้กินล้วนแล้วแต่ทำวิจัยมาแล้วทั้งสิ้น แล้วหมอให้ทางเลือก 2 ทาง คือ ย้าย หรือ ผ่า แต่หมอบอกว่าถ้าย้ายไม่รู้ว่าแกจะไปถึงหรือเปล่าเพราะแกความดันต่ำมาก แต่ถ้าผ่าคือ ถ้าพ่อเลือดออกในกระเพาะก็จะรักษาแผลในกระเพาะ แต่ถ้าไม่ใช่ คือ เลือดออกจากส่วนอื่น ๆ ด้วย ก็ช่วยไม่ได้ ดิฉันอึ้ง! และถามหมอว่า พ่อดิฉันไม่ได้เป็นไข้เลือดออกเหรอ หมอตอบว่าให้เปอร์เซ็นต์ไข้เลือดออกน้อยมาก แล้วดิฉันกับพี่ก็เลยเลือกที่จะผ่าตัด แล้วหมอก็พูดจาแปลก ๆ ไป ๆ มา ๆ แม่ไม่อยากให้ผ่า ก็เลยเลือกย้ายรพ. หลังจากนั้นพยาบาลและญาติเตรียมตัวย้าย แต่พ่อความดันต่ำมาก แล้วพ่อก็ช๊อกไป ผ่านไปซักพักพ่อก็ได้สติกลับมาเหมือนเดิม พยาบาลให้เลือดให้ยา จนพ่อความดันเริ่มขึ้น พอเวลาบ่าย 3 โมง ได้ออกเดินทางไปถึงรพ.ที่หมาย ประมาณ 6 โมง ครึ่ง พ่อมีความอดทนมาก ๆ เลย 3 ชั่วโมงกว่า ๆ ในการเดินทาง พอหายใจติด ๆ ขัด ๆ ไม่เข้ากับเครื่องบ้าง แต่พอก็ถึง ดิฉันดีใจมากและคิดอยู่ตลอดว่าพ่อต้องรอด เพราะพ่อยังสู้อยู่ ไม่งั้นพ่อมาไม่ถึงหรอก

เมื่อไปถึง รพ.แห่งหนึ่งที่อุบล เค้าย้ายเปลหาม อู้วววววว เลือดพ่อออกเยอะมาก ๆ เลย มันน่าตกใจมาก พยาบาลที่มาด้วยยังบอกว่าเลือดแกออกเยอะจนน่าตกใจ ไปถึงห้องฉุกเฉิน หมอก็ตรวจ เจาะเลือด หลังจากนั้นก็พาพ่อไปเอ็กซเรย์ แล้วย้ายไปห้อง ICU S2 ดิฉันไม่รู้หรอกว่า S2 คือกลุ่มไหน แต่จำชื่อห้องได้ ที่รพ.นี้ไม่เหมือน 2 ที่แรก เค้าห้ามญาติเฝ้า แต่เค้าจะมีเวลาให้เยี่ยม พยาบาลเช็ดตัวเปลี่ยนผ้าอ้อมให้พ่อ แล้วหมอก็มา หมอตรวจพ่อนานมาก ๆ ตั้งกะ 2 ทุ่ม ครึ่ง จนเกือบจะ 4 ทุ่ม พอหมอตรวจเสร็จ ดิฉันและญาติ ๆ ก็เข้าไปหาพ่อ หมอบอกว่าให้ยากระตุ้นหัวใจแต่ความดันไม่ขึ้นเลย หลังจากนั้นพยาบาลบอกว่า ความเข้มข้นเกร็ดเลือดของพ่อต่ำมาก คนปกติจะไม่ต่ำกว่า 100,000 แต่ของพ่อดิฉันเหลืออยู่ที่ 5,000 พยาบาลบอกว่าให้เตรียมญาติให้เกร็ดเลือดพรุ่งนี้เช้า ให้กลับไปนอนพักผ่อนให้เพียงพอ คนไข้เสี่ยงกับการที่เลือดจะออกในสมองแล้วก็ช๊อกได้ ให้เตรียมญาติไว้

เช้าวันใหม่ ดิฉันและญาติเข้าไปเยี่ยมพ่อ (ถึงเวลาเยี่ยมได้แล้ว) พ่อยังได้สติอยู่ เหมือนอยากจะพูด แต่พูดไม่ได้เพราะมีท่อในปาก ดิฉันบอกพักเยอะ ๆ ไม่ต้องพูดเดี๋ยวจะเหนื่อย ดิฉันกับพี่พยายามพูดให้พ่อผ่อนคลาย บอกเล่าเรื่องที่พ่อห่วงให้หายห่วง พอใกล้หมดเวลาเยี่ยมดิฉันเดินเข้าไปถามพยาบาลเรื่องเกร็ดเลือดว่าต้องทำยังไง พยาบาลบอก “อ๋อ ใช่ ๆ ก็ให้ญาติมาที่นี่ก่อน” หลังจากนั้นดิฉันและพี่ ๆ ก็เลยไปหาเพื่อนหาญาติหาคนรู้จักแถวนั้น พ่อเหลือลูก 4 คนไม่มีใครกรุ๊ปโอเหมือนพ่อเลย มีแต่เอกับบี ดิฉันกับพี่ไปที่ธนาคารเลือด ที่ธนาคารเลือด เค้าถามว่าต้องไปเอาใบมาว่าเค้าต้องการอะไร เจ้าหน้าที่ที่ธนาคารเลือดบอก หลังจากนั้นพี่สาวก็บอกเล่าว่ายังไง ตอนแรกกะว่าจะหาคนที่มาบริจาคตรงนั้นเลย แต่ไม่มีกรุ๊ปโอเลย มีบีกับเอ เจ้าหน้าที่ที่ธนาคารเลือดบอกให้ญาติมาบริจาคเลือดด้วย ดิฉันกับพี่ ๆ 4 คน มาตรวจ ปรากฏว่าบริจาคได้ 2 คน อีก 2 คนเลือดจาง
แต่ก็ยังไม่ได้เกร็ดเลือดอยู่ดี ดิฉันสงสัยมาก ๆ เลยว่า รพ.ใหญ่ขนาดนี้ไม่มีเกร็ดเลือดหรอกเหรอ เกือบจะเที่ยงแล้ว พี่ของดิฉันหานศ.มาได้ 4 คนกรุ๊ปโอล้วน ๆ มาบริจาคเกร็ดเลือดให้พ่อ ตรวจผ่าน 2 คนให้ได้ ก็โอเค 2 คนนั้นก็ไปให้เกร็ดเลือด ในช่วงเวลานั้นเกือบจะเที่ยงแล้ว ดิฉันไปหาพ่อ แต่สีหน้าของพ่อไม่ดีขึ้นเลย พ่อมีไข้สูง พ่อใช้เท้าเขี่ย ๆ ผ้าห่ม ดิฉันถามว่า พ่อหนาวเหรอ ถ้าพ่อหนาวให้กระพริบตา พ่อก็กระพริบตา แล้วดิฉันก้ห่มผ้าให้ ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที พ่อก็พยายามจะเขี่ยผ้าห่มออก ดิฉันถามพ่อว่า พ่อร้อนเหรอ ถ้าพ่ออยากเอาผ้าห่มออก ให้พ่อกระพริบตา พ่อก็กระพริบตา ดิฉันก็เอาผ้าห่มออกให้ พอหมดเวลาเยี่ยมดิฉันก็ไปหาพี่ไปดูเรื่องเกร็ดเลือดว่าไปถึงไหนแล้ว จะเอามาใช้ได้ยัง ผ่านไปซักพักเกือบจะบ่าย 2 โมงกว่า ๆ แม่โทรหาดิฉัน แม่บอกว่าหมอเรียกพบญาติ เอาอีกแล้ว ดิฉันหัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มอีกรอบ ไปถึง หมอบอกว่า สังเกตจากอาการตอนนี้หมอว่าคนไข้มีเลือดออกในสมอง ให้ญาติทำใจได้ ดิฉันถามหมอว่า แต่ถ้าได้เกร็ดเลือด ก็ยังมีลุ้นใช่มั้ยคะ หมอ อึกอัก แล้วบอกให้ทำใจ แล้วหมอถามว่า ถ้าคนไข้หัวใจล้มเหลวแล้วจะให้ปั๊มหัวใจมั้ย ดิฉันตอบว่าปั๊ม (ด้วยดิฉันคิดว่ายังมีเกร็ดเลือด อีกทางทุกอย่างมันเป็นไปได้) ดิฉันถามหมอว่าตกลงพ่อของดิฉันเป็นอะไรเหรอคะ หมอบอกว่าติดเชื้อในกระแสเลือด ดิฉันถามต่อไปว่าเชื้ออะไรเหรอคะ หมอบอกยังตรวจไม่เจอ ดินฉันถามต่อไปว่าแล้วทำไมไม่ได้เพาะเชื้อเหรอ หมอถามดิฉันกลับว่าแล้วน้องมาวันไหน ดิฉันตอบว่าเมื่อวาน แล้วดิฉันก็เลยถามต่อไปว่าแล้วต้องใช้เวลาเพาะเชื้อนานแค่ไหน ถึงจะรู้ผล หมอบอกว่า 2-3 วัน ดิฉันเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง ดิฉันสงสัยจังว่าพ่อของดิฉันเป็นอะไร ดิฉันถามหมอไปว่า “พ่อหนูไม่ได้เป็นไข้เลือดออกเหรอ” หมอบอกว่าไม่น่าใช่ แล้วดิฉันก็พูดอะไรก็ไม่รู้ (ดิฉันจำไม่ได้ ) แล้วหมอก็บอกว่าหมอก็วิเคราะห์ไปตามอาการ จนเวลาเกือบบ่าย 4 โมง พ่อดิฉันหัวใจล้มเหลว พยาบาลปั๊มหัวใจ หัวใจของพ่อกลับมาทำงานอีกครั้ง ดิฉันยังหวังตลอดว่าพ่อจะรอด ตอนนี้ดิฉันลุ้นกับเกร็ดเลือด เกร็ดเลือดจะได้ประมาณ 6 โมง เจ้าหน้าที่ที่ธนาคารเลือดบอกต้องรอเลือดตกตะกอนก่อน

จนเวลา เกือบหกโมงเย็น หัวใจของพ่อดิฉันล้มเหลวอีกครั้ง ไปแล้วพ่อของดิฉันไปจริง ๆ แล้ว ดิฉันยอมรับว่า รพ.แห่งที่ 3 เนี้ยเป็นอะไรที่ให้ความหวังกับดิฉันมาก ๆ เลย และเค้าก็ดูแลคนไข้ดีมาก แต่ดิฉันก็ยัง งง ๆ กับระบบการให้เลือด ว่า รพ.ใหญ่ขนาดนี้ไม่มีเกร็ดเลือดเหรอ หรือยังไง เพราะ รพ.นี้ใหญ่มาก หรือว่าพ่อของดิฉันมาช้าไป พ่อของดิฉันอยู่ รพ.ประจำอำเภอนานไปรึป่าว ดิฉันข้องใจ และติดใจกับการตายของพ่อมาก ๆ ว่าคุณภาพของการรักษาพยาบาลของบ้านเรามันเป็นยังไง คุณภาพมันย่ำแย่ขนาดไหน ตรวจไข้ทางโทรศัพท์เหรอ ดิฉัน งงมาก แล้วต้องมีคนเป็นไข้แล้วตายกันอีกซักกี่คน รพ.รึโรงฆ่าสัตว์ ดิฉันสงสัยมากๆ เลยว่าพ่อของดิฉันเป็นอะไร เป็นไข้ ติดเชื้ออะไร มันเป็นเชื้อโรคใหม่เหรอ รึยังไง ถ้าเป็นเชื้อโรคใหม่ ก็คงจะเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ จะได้เตือนภัยให้คนอื่นๆเฝ้าระวัง อยากรู้ว่าสาเหตุจริง ๆ คืออะไร ไม่ใช่ปิดกันไปกันมา สรุปสุดท้ายเป็นไข้ติดเชื้อ สาเหตุการตายที่เขียนในใบมรณะบัตรคือ ติดเชื้อในกระแสเลือด พ่อของดิฉัน 53 ปี นะคะ ไม่ใช่ 83 ปี เชื้อโรคอะไรคะ แล้วสาเหตุจริง ๆ ที่ตายคืออะไร รักษาไม่ทัน หรือเชื้อโรคมันรุนแรงมาก ช่วยด้วยเถอะ

ตอนที่ย้ายไป รพ.ประจำจังหวัด พ่อของดิฉันบ่นว่า “หมอนั่นล่ะย้ำยีพ่ออยู่” (หมายถึงหมอที่ รพ.แห่งแรก) ดิฉันคิดเรื่องพ่อ ถ้าพ่อไม่ไป รพ.ที่ 1-2 มาที่ รพ.ที่ 3 ตั้งแต่แรกเลย พ่อจะรอดมั้ย ดิฉันปวดใจมาก พ่อของดิฉันยังไม่น่าตายเลย พ่อของดิฉันเป็นไข้ตัวร้อน ปวดหัว ธรรมดา ไม่คิดว่าจะถึงขั้นตายแบบนี้ มันเร็วมาก ๆ เลย


แบบนี้จะทำไงดี ปล่อยให้เรื่องเงียบ ปล่อยให้มันผ่านไป จะมีใครตายด้วยสาเหตุ คล้าย ๆ กับพ่อของดิฉันซักกี่คนก็ชั่งมันเถอะ เหรอ ............ หรือว่าดิฉันควรจะทำไงดี ได้โปรดช่วยชี้แนะ หรือชี้แจงเรื่องของพ่อกับดิฉันด้วย แล้วแพทยสภาช่วยดิฉันได้มั้ย
โดย: bunyarat_bus@hotmail.com [22 ส.ค. 51 14:20] ( IP A:203.113.21.43 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
    เครือข่ายฯงานเข้าอีกแย้ว
แสดงความเสียใจด้วยค่ะกับเจ้าของกระทู้
ไม่ใช่หมอ เดี๋ยวให้คุณหมอมาช่วยตอบ

แต่ แพรดสภาคงช่วยอะไรไม่ได้ค่ะ

โดย: สมาชิกเครือข่ายฯ GN+ [22 ส.ค. 51 14:39] ( IP A:222.123.209.119 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
    อ่านไปอ่านมา ทำไมเหมือนเราเลยอาการ
งั้นแสดงว่า GN+ อึดกว่า ไม่ตาย เจือกรอด
เกล็ดเลือดเหลือ 7,000 เท่านั้น
นอนรอหมอ 3 วัน อาเจียนเป็นเลือดทุกวัน ก็ยังไม่ตาย
แสดงว่า กำลังจะตายเหมือนกัน โอวววววว GN+ หนอ ?

โดย: สมาชิกเครือข่ายฯ [22 ส.ค. 51 14:49] ( IP A:222.123.209.119 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
    ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง
ไปขอเวชระเบียนจากโรงพยาบาลมาให้ครบ
ไม่ว่ากี่โรงพยาบาลที่ไปนอนรักษาตัว
ทำหนังสือเข้าไปเป็นลายลักษณ์อักษร และขอวันนัดที่จะให้เวชระเบียนกับเราของโรงพยาบาลนั้นๆด้วย ทางที่ดีไม่น่าเกิน 1 อาทิตย์ ก็น่าจะได้มา ก็อยู่ที่ว่าจะแก้ไขเสร็จหรือยังต้องรอลุ้นกันอีกทีนะคะว่ากี่วัน
อันนี้ไม่รับรอง เพราะกรณีของ GN+ อยู่ 3 โรงพยาบาล ขอสำเนาเวชระเบียนได้ในระยะเวลาต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
รพ แรก ได้ภายในครึ่งวัน ทั้งที่นอน 21 วัน
รพ ที่สอง ได้ภายใน 24 วัน ทั้งที่นอน 2 วันครึ่ง
รพ ที่สาม ได้ภายใน 2 วัน ทั้งที่นอน 2 วัน

ก็แตกต่างกันออกไปค่ะ อันนี้ต้องเห็นใจเขาด้วยบางทีหมึกหมด ปากกาหาย หรือเครื่องปริ้นพัง ต้องให้เวลาเขาซ่อมด้วย หมอไม่อยู่ ผอ.ไปประชุมอันนี้ต้องเข้าใจเบื้องต้นไว้ก่อนนะคะ

คร่าว ๆ ค่ะ ไป ขอเวชระเบียน ใช้ตามสิทธิ์ของคนไข้ทุกคนที่จะยื่นขอประวัติการรักษาได้

เดี๋ยวมีคนอื่นมาแนะนำเพิ่มค่ะ รอหน่อยนะคะ
โดย: GN++ [22 ส.ค. 51 14:58] ( IP A:222.123.209.119 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ตัวอย่างการขอเวชระเบียน

ที่อยู่..............................
....................................
....................................
โทร...............................


วันที่.............................


เรื่อง ขอสำเนาเวชระเบียน

เรียน ผู้อำนวยการโรงพยาบาล........... ที่นับถืออย่างสูง

สิ่งที่แนบมาด้วย (สำเนาเอกสารของผู้ยื่นคำร้องที่แสดงความเกี่ยวข้องกับผู้เสียหาย)
1. สำเนาสูติบัตรของลูก
2. สำเนาบัตรประชาชนของพ่อ-แม่
3. สำเนาทะเบียนบ้านของพ่อ-แม่
4. ทะเบียนสมรสของพ่อ-แม่

ข้าพเจ้านาย................ เป็นบิดาของ............... มีความประสงค์ขอใช้สิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ, พรบ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ 2540, พรบ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550, พรบ.วิชาชีพเวชกรรม พศ.2525, พรบ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และคำประกาศสิทธิผู้ป่วยข้อที่ 9 ขอคัดถ่ายสำเนาประวัติการรักษาพยาบาลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ....................... อันได้แก่
1. ประวัติผู้ป่วยนอก - ประวัติผู้ป่วยใน
2. รายงานแพทย์ – รายงานพยบาล
3. ผลอ่านเอกเรย์ – ฟิล์มเอกเรย์
4. และอื่น ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล

ทั้งนี้ข้าพเจ้ายินดีเสียค่าใช้จ่ายในการคัดถ่ายสำเนาเอกสารที่ท่านจะเรียกเก็บ

จึงเรียนมาเพื่อขอท่านได้โปรดพิจารณาดำเนินการโดยด่วน จักเป็นพระคุณยิ่ง


ขอแสดงความนับถืออย่างสูง


นาย.................................
โดย: เครือข่ายฯ [22 ส.ค. 51 22:46] ( IP A:58.9.200.121 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   เรื่องยาวมากครับ

ขออนุญาตให้ความเห็นนิดนึงครับ

ว่ายาที่หมอให้มาแก้ไข้ครั้งแรกสุดเป็นยาพาราหรือแอสไพริน

แล้วเรื่องตับแข็งนั้นไม่จำเป็นต้องดื่มเหล้าก็เป็นได้ครับ เช่นจากพยาธิใบไม้ในตับ ต่างๆ เพียงแต่การดื่มเหล้าหรือยาที่เข้าแอลกอฮอล์ก็ทำลายตับได้

สำหรับเคสนี้น่าจะเป็นเลือดออกจากแผลในกระเพาะด้วยซึ่งก็น่าจะรอให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์สาเหตุดูนะครับ อ่านดูแล้ววุ่นวายมากหมอมากความเอาเรื่องอยู่
โดย: เจ้าบ้าน [22 ส.ค. 51 23:27] ( IP A:124.121.138.15 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ผมคิดถึงSepsis with DIC แฮะ...

ติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง..จนมีภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ...มีเลือดออกในอวัยวะต่างๆ..

ในทางกลับกัน..septic emboli (ลิ่มเลือดที่มีการติดเชื้อ)กลับลอยไปอุดตันตามอวัยวะต่างๆจนขาดเลือด..

เกล็ดเลือดถูกใช้ไปจนลดต่ำลง...ยิ่งซ้ำเติมให้เลือดออกมากขึ้นไปอีก..

สุดท้าย...อวัยวะต่างๆล้มเหลว..

เป็นแค่การคาดเอาจากที่เล่ามานะครับ..

คงต้องไปศึกษาข้อมูลโดยละเอียดอีกทีนึง
โดย: Dr.Tum [23 ส.ค. 51] ( IP A:124.121.56.194 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
    หรือว่าดิฉันควรจะทำไงดี ได้โปรดช่วยชี้แนะ หรือชี้แจงเรื่องของพ่อกับดิฉันด้วย แล้วแพทยสภาช่วยดิฉันได้มั้ย

แพทยสภาหรือ....ล้อเล่นน่า ฝันไปหรือเปล่า
โดย: ขอแสดงความเสียใจด้วยกับการจากไปของคุณพ่อ [23 ส.ค. 51 1:32] ( IP A:58.9.200.121 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
    ความคิดเห็นที่ 9
ฟันธง!!!! ฝันไปเหอะค่ะ แพรดสภาจะมาช่วยได้
โดย: ฝันกลางวันแสกๆ [23 ส.ค. 51 8:33] ( IP A:117.47.124.22 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   รพ.ใหญ่ ก้ไม่ได้แปลว่าจะทำได้ทุกอย่างนะครับ
ทุกคนก็อยากจะทำให้มันดีแหละครับ แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่างก็ต้องพัฒนากันไป
เรื่องเกร็ดเลือด ต้องดูสาเหตุครับว่าต่ำจากอะไร บางภาวะการให้เกร็ดเลือดสามารถช่วยได้ แต่บางภาวะ ใช้การรักษาแบบอื่นจะดีกว่า
เรื่องติดเชื้อในกระแสเลือด มีเยอะครับที่เพาะเชื้อแล้วไม่พบเชื้อสาเหตุ มีหลายปัจจัยครับ เช่น การได้ยาฆ่าเชื้อก่อนตรวจ เชื้อโรคบางชนิดต้องใช้อาหารเพาะเชื้อแบบพิเศษ วิธีการเก็บเลือดและนำส่ง
ระยะเวลาในการเจริญเติบโตของเชื้อ สุดท้ายจริงๆทำทุกอย่างถูกต้องแล้ว ก็มีงานวิจัยสรุปว่า โอกาสพบเชื้อก้ไม่ถึง100%หรอกครับ แต่เมื่อใดที่สงสัยว่ามีการติดเชื้อ หมอส่วนใหญ่เขาก็ให้ยาฆ่าเชื้อเลยครับ ไม่รอผลเพาะเชื้อหรอก เขาเรียกว่าempiric antibiotic แต่การให้ยาฆ่าเชื้อก้ไม่ได้หมายความว่า คนไข้จะรอด100% นะครับ ถึงแม้จะได้ยาที่ดีที่สุดในโลกก็ตาม ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง สภาพร่างกายคนไข้ ก็เป็นหนึ่งในนั้น
..ถ้าสงสัยว่ามีปัญหาในการรักษา ก็ขอดูบันทึกการรักษาจากโรงพยาบาลครับ
โดย: ปริญญา [23 ส.ค. 51 16:06] ( IP A:125.26.128.72 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ที่โรงพยาบาลศิริราช จุฬา หรือรามา
รวมทั้งโรงพยาบาลระดับโลก เช่น Mayo Clinic ก็มีคนไข้ตายทุกวัน วันละหลายๆคนด้วย

คนไข้บางคน วินิจฉัยได้ถูกต้อง ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ก็ยังตายได้
ไม่มีอะไร 100 % ในวงการแพทย์หรอกครับ
โดย: นิรนาม [23 ส.ค. 51 18:25] ( IP A:117.47.135.94 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   #ตั้งแต่ขึ้นตึกศัลยกรรม จนถูกย้ายไปห้อง ICU หมอไม่ได้มาตรวจเลย ดิฉันงงมาก มันน่าตกใจนะคะพ่อเป็นขนาดนี้ แต่ไม่เห็นหมอเลย แล้วก็สายอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด สายน้ำเกลือ สายให้เลือด กลูโคลส 2 ข้าง_____อันนี้แสดงว่าหมอมาตรวจและสั่งการรักษาแล้วเพราะพยาบาลจะไม่ให้เลือด ให้ยาเองโดยหมอไม่ได้สั่ง ตอนหมอมาตรวจบางครั้งญาติอาจไม่ได้อยู่ข้างเตียงคนไข้จึงไม่เห็นหมอ หลายครั้งหมอที่มาตรวจไม่ได้ใส่เสื้อกาวน์ทำให้ญาติไม่ทราบว่าเป็นหมอ
#ดิฉันสงสัยมาก ๆ เลยว่า รพ.ใหญ่ขนาดนี้ไม่มีเกร็ดเลือดหรอกเหรอ ____เกร็ดเลือดต้องใช้เวลาในการเตรียมประมาณ3-4ช.ม. เตรียมเสร็จแล้วต้องใช้เลยไม่สามารถเก็บเอาไว้ใช้วันหลังได้ เมื่อมีคนไข้ที่จำเป็นต้องได้เกร็ดเลือดก็ต้องขอให้ญาติมาเจาะเลือดบริจาค โรงพยาบาลใหญ่ขนาดไหนก็เป็นแบบนี้ ไม่ใช่ประเด็นที่จะไปตำหนิเขา
#เรื่องตับแข็ง และเรื่องติดเชื้อในกระแสเลือดดังที่มีผู้ตอบไปแล้ว
โดย: น่าเห็นใจที่พ่อเสียชีวิต แต่ไม่ควรโทษผู้อื่นโดยไม่สมเหตุผล [24 ส.ค. 51 10:52] ( IP A:202.129.10.218 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   คห.13

ดิฉันอยู่กับพ่อตลอด ดิฉันแยกออกว่าคนไหนหมอ คนไหนพยาบาล "ดิฉันยืนยันค่ะว่า พอย้ายขึ้นตึกศัลยกรรมมาแล้ว หมอไม่ได้มาตรวจเลย พยาบาลโทรรายงาน โทรถาม ยังมีตอนหนึ่งเลยที่พ่ออาการทรุด มีพี่พยาบาลที่ใส่แว่นโทรรายงานอาการกับหมอ พอวางสายไป พี่พยาบาลบ่นว่า เอ้า! ยังพูดไม่จบเลย วางสายแร่ะ อะไร?"

ยืนยันค่ะว่าหมอไม่มาตรวจ
โดย: bunyarat_bus@hotmail.com [25 ส.ค. 51 11:01] ( IP A:203.113.21.43 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   ในนี้ใส่ชื่อหมอ ชื่อ รพ.ได้มั้ยคะ

ไม่กล้า..........
โดย: bunyarat_bus@hotmail.com [25 ส.ค. 51 11:04] ( IP A:203.113.21.43 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน