ร้องเฉลิมช่วยเรื่องเงินเยียวยา
    ผู้ปกครองนำลูกชายพิการทางสมอง เหยื่อจากการรักษาของแพทย์ ร้องรัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่ หลังกระทรวงฯยื่นอุทธรณ์ ส่งผลให้ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา
นางดวงนภา ปันนินา นำบุตรชาย นายยงยุทธ ปันนินา อายุ 23 ปี ซึ่งป่วยพิการทางสมอง จากการรักษาที่ผิดพลาดของแพทย์ เตรียมเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นได้สั่งให้กระทรวงสาธารณสุข ชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนงิน 39 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ครั้งที่นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ ยังดำรงตำแหน่งเป็น รมว.สาธารณสุข ทั้งนี้ นายไชยา ยังได้รับปากว่า กระทรวงจะจ่ายค่าเสียหายโดยไม่อุทธรณ์สู้คดี

แต่ที่ผ่านมากระทรวงได้ส่งเอกสารอุทธรณ์สู้คดีดังกล่าว ทำให้ผู้เสียหายยังคงไม่ได้รับเงินชดเชยจนถึงปัจจุบัน จึงตัดสินใจเข้าขอความช่วยเหลืออีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม น.พ.สุพรรณ ศรีธรรมมาโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน กระทรวงไม่ได้บิดพลิ้ว และจะจ่ายเงินค่าเสียหายช่วยเหลืออย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย มีกำหนดการยื่นอุทธรณ์ไม่เกิน 30 วัน
โดย: ช่วยเหลือเขาเถอะ อุทธรณ์ทำไม [29 ก.ย. 51 23:53] ( IP A:58.9.184.220 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
    จะอุทธรณ์แล้วจะทำไม ?
จ่ายให้ยากที่สุดที่จะทำได้คือ งานของกระทรวงสาธารณทุกข์ เขาหล่ะ
จะไปสงสัยทำไม เขาก็ทำมาอย่างนี้ตั้งนานแล้วมิใช่รึ
หน่วยงานนี้น่ะ
โดย: GN+ [30 ก.ย. 51 9:09] ( IP A:222.123.23.101 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   อีก 1 อาทิตย์ถึงจะรู้ว่า "หมอเหลิม"
จะใจดีกับผู้เสียหายหรือไม่...?
โดย: วัดใจ [30 ก.ย. 51 12:52] ( IP A:58.9.224.179 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ศาลให้ตั้ง 39 ล้านจริงอ่ะ

เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น.วันที่ ๑ พ.ค.๕๑ ศาลจังหวัดนนทบุรี บัลลังก์ ๒๒ ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีดำที่ ส ๑๕๔๑/๒๕๔๙ ระหว่างนายยงยุทธ ปันนินา โดยนางดวงนภา ปันนินา มารดา ผู้อนุบาล เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ เป็นจำเลยความแพ่ง ฐานความผิด ละเมิด เรียกค่าเสียหาย ๑๐,๑๘๗,๐๐๐ บาท จากกรณีเมื่อวันที่ ๓๑ ธ.ค.๒๕๔๗ เวลา ๑๖.๓๐ น.นายยงยุทธ ปันนินา ได้ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มคว่ำ หมดสติ ถูกพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลร้องกวาง แต่ทางโรงพยาบาลร้องกวางได้นำนายยงยุทธส่งไปทำการรักษาที่ โรงพยาบาลแพร่ ทางโรงพยาบาลแพร่ได้เอ็กซเรย์ ปรากฏว่าสมองบวมและมีเลือดออกในสมอง แต่อาการไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๔ ก.พ.๒๕๔๘ เวลา ๑๐.๐๐ น.แพทย์ได้สั่งให้พยาบาลถอดท่อเหล็กที่คอออก ทำให้นายยงยุทธ ผู้ป่วยไม่สามารถหายใจด้วยตัวเองได้ หายใจไม่ออกกระเสือกกระสนอยู่นานจนนางดวงนภา มารดามาพบ ในขณะที่นายยงยุทธหัวใจหยุดเต้น แพทย์พยาบาลจึงช่วยกันปั้มหัวใจกลับคืนมาเต้นอีก ทำให้นายยงยุทธ ขาดออกซิเจน อยู่ในสภาพที่ไม่รู้สึกตัว แขนขาเกร็ง เดินเหินไม่ได้เป็นเจ้าชายนิทราจนถึงทุกวันนี้
ภายหลังได้ฟังคำพิพากษาจากศาลนางดวงนภา มารดานายยงยุทธ ได้วิ่งออกมาจากห้องพิจารณาปล่อยโห่ และได้ก้มลงกราบพื้นศาลด้วยความดีใจ ได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ศาลมีเมตตา พิพากษาให้กระทรวงสาธารณสุข ชดใช้ค่าเสียหายให้ ๓ ล้าน ๙ แสนบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ นับตั้งแต่ที่ยื่นฟ้องต่อศาล หวังศาลเป็นที่พึงไม่มีทางอื่นแล้วดีใจมาก ขอขอบคุณศาลที่ให้ความเมตตา ดีใจมากที่ได้รับความยุติธรรม จากความลำบากที่ลูกชายสอบติด วิศวะ มหาวิทยาลัยนเรศวร แต่ต้องมาเป็นแบบต้องต่อสู้มา แต่ก็พยายามดูแลลูกชายให้ดีที่สุด(สยามรัฐออนไลน์ ๒ พค. ๒๕๕๑ )

แค่ 3.9 ล้าน ไม่น่าอุทธรณ์เลย เด็กเรียนวิศวะอนาคตอีกไกล

แต่ว่าปัญหาเรื่องเอาท่อออกแล้วเกิดหายใจไม่ได้เนี่ย เป็นกันเยอะนะ เหมือนจะดีขึ้นแล้ว พอเอาท่อออกก็กลับแย่ลงกว่าเดิม
เท่าที่รู้ว่าต้องฝึกคนไข้หายใจให้ได้เองก่อนถึงค่อยเอาออก
ถ้ารีบเอาออกก็จะเป็นอย่างนี้แหละ
แต่ยังไงถ้าอุทธรณ์ก็คงต้องรอผลอุทธรณ์กันต่อไป
( แต่เสียดายแม่เราไม่มีโอกาสนั้น วันนี้ไหว้แม่ครบ 49 วัน อยากบอกว่าคิดถึงแม่มาก )
โดย: รั้วสีขาว(phu_tara@hotmail.com) [30 ก.ย. 51 15:37] ( IP A:124.120.79.221 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
    3.5 ล้าน รวมดอกเบี้ยอีก 7.5% เป็น 3.9 ล้าน
แต่สื่อเขาคงพิมพ์ผิด
โดย: เท่าที่ทราบ [30 ก.ย. 51 21:25] ( IP A:61.90.86.155 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   กับลูกที่พิการตลอดชีวิต 3.9 ล้านบาทมันมากมายจริงเหรอ?
เขามีอนาคต เป็น วิศวะกรได้ และไม่ได้พิการแค่น้องโจ้คนนี้
เหมือนการงานพ่อแม่ก็ต้องพิการไปด้วย ต้องแบ่งเวลามาดูแลน้องคนนี้ทั้งชีวิต 3.9 ล้านนี่จ่ายไม่ได้ เจือกอุทธรณ์อีก ว่าจ่ายน้อยแล้วนะเนี่ย 3.9 ล้านบาทเนี่ย มันจะอยู่ได้กี่ปีกันกับค่าใช้จ่ายในอนาคตที่จะเกิดขึ้น เจือกจะอุทธรณ์อีก ....พวกไร้มนุษธรรม เซ๊งว๊อย !!!!

โดย: GN+ [2 ต.ค. 51 8:35] ( IP A:222.123.134.89 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   น่าจะร่วมจ่ายด้วยกันดังนี้
1 บริษัทรถจักรยายยนต์ที่ทำยังไงให้รถล้มได้
2 บริษัทหมวกกันน๊อคที่ทำยังไงให้ได้รับบาดเจ็บได้
3 ตำรวจที่ทำงานยังไงให้รถชนกันได้ คนไม่ใส่หมวกทำไมไม่จับ
4. นักวิจัยที่วิจัยยังไงไม่ให้มียารักษาทุกโรคให้หายได้
5 คนไข้ที่ขับรถประมาทเป็นเหตุให้กระทรวงเสียค่ารักษา
6 แม่คนไข้ที่ทำไมไม่ซื้อรถเบนซ์ให้ลูกขับรู้ทั้งรู้ว่ารถมอเตอร์ไซค์มันอันตราย
7 กระทรวงคมนาคม ทำถนนยังไงให้รถล้มแล้วบาดเจ็บ
8 กระทรวงทสาธารณสุขที่รักษายังไงให้ไม่หาย
กระทรวงสาธารณสุขเป็นปลายเหตทำไมมารับโทษอยู่คนเดียวล่ะ
โดย: คนเก่า [5 ต.ค. 51 11:22] ( IP A:125.26.72.77 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   จขกท กระทรวงสาธารณสุขนะไม่ใช่สถานสงเคราะห์ ถ้าสิ่งใดที่เกิดเพราะสุดวิสัยเขาก็ไม่ควรต้องจ่าย ดังนั้นต้องรอให้ถึงที่สุดก่อนเหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก และก็ไม่มีใครอยากเป็นแพะด้วย
โดย: คนเก่า [5 ต.ค. 51 11:29] ( IP A:125.26.72.77 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   แต่ถ้ารถชนตาย
โดย: จ่ายสี่แสนจบ [5 ต.ค. 51 21:18] ( IP A:125.26.111.55 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   ถ้าปั๊มหัวใจไม่สำเร็จแต่แรกก็ไม่ต้องจ่ายแพงอย่างนี้หร๊อก
โดย: ทะแนะ [8 ต.ค. 51 19:56] ( IP A:125.26.70.95 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ถ้าปั๊มหัวใจไม่สำเร็จ เรื่องน่าจะจบลงได้ดีกว่านี้
เสียใจด้วยครับ
โดย: 000 [8 ต.ค. 51 22:46] ( IP A:202.28.183.9 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน