ผู้ป่วยไตฉะสมาคม รพ.เอกชนสุดเขี้ยว แนะ รพ.อย่าเซ็นสัญญาล้างไต สปสช.
|
|
| | ผู้ป่วยไตฉะสมาคม รพ.เอกชนสุดเขี้ยว แนะ รพ.อย่าเซ็นสัญญาล้างไต สปสช. โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 กันยายน 2551 08:22 น. https://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000107481 ผู้ป่วยโรคไตโวยสมาคมโรงพยาบาลเอกชนร่อนหนังสือเวียนแนะ รพ.อย่าเซ็นสัญญากับ สปสช.ล้างไตโดยฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ฉะอย่าเห็นแต่กำไร ด้าน หมอเอื้อชาติ โต้โยนคนริดรอนสิทธิผู้ป่วย คือ คนกำหนดค่าใช้จ่าย 1,500 บาทต่อครั้ง ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนแท้จริง ทำให้ประชาชนได้รับบริการไม่มีคุณภาพ ขณะที่ สปสช.ไม่สนหารพ.เอกชนอื่นทดแทนได้ วันที่ 10 กันยายน นายสุบิล นกสกุล ประธานชมรมเพื่อนโรคไต กล่าวว่า ได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง ขอให้มีมนุษยธรรมต่อผู้ป่วยใกล้ตาย เนื่องจากนพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน และประธานคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และนพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ เจ้าของเครือโรงพยาบาลแกษมราษฎร์ และในฐานะกรรมการหลักประกันฯ ได้ทำหนังสือเลขที่ 168/2551 วันที่ 2 ก.ย.ในนามสมาคมโรงพยาบาลเอกชนแนะนำให้โรงพยาบาลที่เป็นสมาชิกไม่เซ็นสัญญาเรื่องการล้างไตโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมกับ สปสช. ทั้งนี้ หนังสือฉบับดังกล่าว ระบุว่า เนื่องจาก สปสช.จะให้โรงพยาบาลเซ็นสัญญาเรื่องล้างไตโดยจ่ายให้กับโรงพยาบาล 1,500 บาทต่อครั้ง ผม นพ.เอื้อชาติ และ นพ.เฉลิม ขอแนะนำให้ไม่เซ็นสัญญาเรื่องล้างไตกับ สปสช.เนื่องจากจะทำให้เสียราคาที่ระบบสวัสดิการสังคมและประกันสังคมจ่ายให้กับสถานพยาบาลเอกชนที่ให้บริการราคา 2,000 บาทต่อครั้ง ไม่ควรนำเรื่องค่าใช้จ่ายที่ สปสช.จัดสรรให้ในการรับบริการล้างไตโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมครั้งละ 1,500 บาท เพราะจะทำให้เสียราคาที่ระบบสวัสดิการสังคมอื่นให้ 2 พันบาท มาเป็นตัวอ้าง เพราะจะคิดเห็นแต่กำไรอย่างเดียวนั้นไม่ถูกต้อง ทุกวันนี้ผู้ป่วยก็จะล้มละลายอยู่แล้วหากมีการร่วมจ่ายมากขึ้น วัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือของ สปสช.ในการจัดทำสิทธิประโยชน์นี้ก็เท่ากับว่า ประชาชนเข้าไม่ถึงอยู่ดี และไม่อยากเชื่อว่า คนที่มาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้เป็นผู้ที่เป็นกรรมการใน สปสช.เอง อีกทั้งยังเป็นกรรมการแพทยสภา แต่กลับเอาชีวิตของคนไข้เป็นตัวประกันเช่นนี้ จึงไม่น่าที่จะเป็นทั้งกรรมการของสปสช.และแพทยสภาเลยนายสุบิล กล่าว นายสุบิล กล่าวต่อว่า ราคาค่าฟอกเลือดด้วยเครื่องล้างไต 1,500 บาทต่อครั้งนั้น เป็นราคาที่เหมาะสม เพราะสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยได้กำหนด ไม่ใช่ผู้ป่วยคิดเอาเอง โดยคิดต้นทุนทุกอย่างให้พอมีกำไรอยู่แล้ว และก็ผ่านความเห็นชอบจากบอร์ด สปสช.และมติ ครม.วันที่ 30 ต.ค.2550 มอบหมายให้ สปสช.ดำเนินการให้สิทธินี้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2551 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ก็มีคลินิกเอกชนที่เปิดสำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมโดยเฉพาะส่วนใหญ่ก็มีราคา 1,500 บาท ซึ่งคลินิกเหล่านี้ก็อยู่ได้ แถมจะขยายสาขาด้วยการให้บริการในราคาเท่านี้ นายสุบิล กล่าว นายสุบิล กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีคนไทยป่วยโรคไตวายที่จำเป็นต้องฟอกเลือดผ่านเครื่องไตเทียมจำนวน 16,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยระบบสวัสดิการราชการและประกันสังคมทั้งสิ้น 10,000 ราย ที่เหลืออีก 6,000 กว่ารายเป็นสิทธิบัตรทอง และในจำนวนนี้อยู่ภาครัฐ 2,000 กว่าคน ส่วนที่เหลือ 4,000 คนใช้บริการสถานพยาบาลเอกชน ทั้งนี้ผู้ป่วยต้องรับบริการดังกล่าวสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เท่ากับว่าแต่ละครั้งต้องร่วมจ่ายครั้งละ 500 บาท สัปดาห์ละ 1,000-1,500 บาท หรือเดือนละ 4,000-6,000 บาท หรือ ปีละ 4.8-7.2 หมื่นบาท ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายเช่นนี้ไปตลอดชีวิต ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงมาก นอกจากรายได้ของผู้ป่วยจะมีน้อยเนื่องจากร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สามารถทำงานได้เหมือนคนปกติแล้ว และยิ่งหากคิดค่าบริการเพิ่มขึ้น ให้ผู้ป่วยร่วมจ่ายเพิ่มขึ้น ทำให้โอกาสในการเข้าถึงบริการลดน้อยลง ด้านนพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า กล่าวว่า สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยได้วิเคราะห์ราคาต้นทุนการล้างไต โดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ประมาณ 1,900 บาทต่อครั้ง ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยโรคไตได้รับบริการที่ดีมีคุณภาพ แต่หากคำนวณค่าฟอกเลือดราคา 1,500 บาท ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กำหนดให้มีการเซ็นสัญญาขึ้นนั้น เป็นราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนจะทำให้การบริการไม่มีคุณภาพ เกิดปัญหาตามมามากมาย โดยเฉพาะการร้องเรียนฟ้องร้องระหว่างโรงพยาบาลกับผู้ป่วย ไม่มีอะไรที่ราคาถูกแล้วคุณภาพจะดี ผมเสนอให้เอาคุณภาพนำราคาไม่ใช่เอาราคาเป็นหลักแล้วเกิดปัญหาร้องเรียนกันขึ้น และผมไม่เคยพูดแม้แต่คำเดียวว่า ห้ามไปเซ็นสัญญา ไม่ได้ห้ามใครเลย สมาคมไม่เคยสั่งได้ ทุกคนมีอิสระเต็มที่ ผมแค่แนะนำสมาชิก และมีข้อมูลที่โรงพยาบาลอาจไม่รู้ หากสถานพยาบาลใดที่ทำไม่ได้ก็อย่าไปฝืนทำ แต่ถ้าทำได้ก็ทำไป ที่สำคัญสมาคมโรคไตฯ ถือเป็นคนกลางเมื่อเสนอราคาฟอกเลือดอยู่ที่ 1,900 บาทต่อครั้งผมก็เชื่อตามที่สมาคมโรคไตฯ ได้คำนวณไว้ และเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับค่าใช้จ่ายในระบบสวัสดิการราชการและประกันสังคมที่จ่ายให้ในราคา 2,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นประกันสังคมหรือกรมบัญชีกลางคงจะพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วไม่ได้หลับหูหลับตาจ่ายอย่างแน่นอนนพ.เอื้อชาติ กล่าว นพ.เอื้อชาติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลกลายเป็นแพะหากเกิดความผิดพลาดทางการรักษาขึ้น ขณะที่ผู้ซื้อบริการ ทั้งรัฐบาล สปสช.ต่างก็ลอยตัว โดยที่ไม่มีใครสนใจเหตุผลที่แท้จริง ดังนั้น ผู้ที่ลิดรอนสิทธิของผู้ป่วยในการเข้าถึงการรักษา คือ ผู้ที่กำหนดค่าใช้จ่ายฟอกไต อยู่ที่ 1,500 บาทต่อครั้ง นพ.เอื้อชาติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ การให้จ่ายค่าบริการฟอกเลือดในราคาเดียวกันในทุกระบบจะเป็นการยกมาตรฐานการบริการของระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ให้เท่าเทียมกัน ซึ่งแม้ว่าผู้ใช้สิทธิบัตรทองจะมีเป็นจำนวนมากแต่ก็ไม่สามารถนำมาหักลดค่าใช่จ่าย หรือต้นทุนได้ เนื่องจากเครื่องล้างไตเทียม 1 เครื่อง ก็ต้องใช้กับผู้ป่วย 1 คน หากมีผู้ป่วย 100 คน ก็ต้องใช้ 100 เครื่อง ไม่เพียงเท่านั้น โรงพยาบาลจะต้องใช้บุคลากรทั้งแพทย์ พยาบาลในการดูแล โดยเป็นไปตามเกณฑ์ในการดูแลผู้ป่วยของสมาคมโรคไตฯ กำหนดเป็นมาตรฐาน คนไทยส่วนใหญ่ถือว่าโชคร้าย แม้ต้องเสียเงินภาษีให้กับรัฐแต่ระบบการดูแลสุขภาพในภาพรวมสำนักงบประมาณกลับให้งบประมาณโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข น้อยนิดไม่เพียงพอกับการบริการ ซึ่งในระบบการบริการเมื่อได้งบน้อย ถูกกดขี่ ก็ทำงานไม่ไหว ซึ่งผมในฐานะที่ทำงานเป็นประธานคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขของ สปสช.มาแล้ว 5 ปี มีความเห็นแย้ง คัดค้านมาตลอด แต่ก็ไม่เป็นผล ก่อให้เกิดปัญหาคุณภาพมาตรฐานการรักษาฟ้องร้องกันมากมาย เรื่องการล้างไตด้วยการฟอกเลือดก็เช่นเดียวกัน ถือว่างบประมาณไม่เพียงพอ ซึ่งการที่ผมคัดค้านไม่เห็นด้วย ก็ไม่ใช่ผลประโยชน์ของโรงพยาบาลเอกชน แต่เป็นผลแประโยชน์ของประชาชนนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าว นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างที่ สปสช.เปิดให้สถานพยาบาลเอกชนเปิดให้ร่วมโครงการนี้ถึงวันที่ 15 ก.ย.จะได้พิจารณาว่ามีกี่แห่งที่เข้าร่วมโครงการ หากสถานพยาบาลเอกชนไม่เข้าร่วม ทาง สปสช.มีโครงการว่าจะหาสถานพยาบาลเอกชนแห่งอื่นมาเข้าร่วมทดแทน หากโรงพยาบาลเอกชนไม่ร่วมโครงการมาก จะขอความร่วมมือให้บริการผู้ป่วยไปก่อน 3 เดือน ในระหว่างนี้ก็จะหาสถานพยาบาลมารองรับบริการ เชื่อว่า สถานพยาบาลเอกชนก็คิดหนักอยู่เหมือนกัน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นงบประมาณที่สถานพยาบาลแห่งนั้น จะได้รับในระยะยาว หากปฏิเสธตั้งแต่ตอนนี้ก็จะไม่มีสิทธิได้รับงบประมาณนี้อีกตลอดไป ทั้งนี้ ศูนย์ไตเทียมของเอกชนที่เปิดให้บริการโดยเฉพาะนั้นก็มีมากมหลายแห่งที่ยินดีเข้าร่วมโครงการ ซึ่งไม่มีปัญหาในข้อกฎหมายเนื่องจากเป็นหน่วยบริการอยู่แล้ว นพ.วินัย กล่าว ขณะที่ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า สมาคมโรงพยาบาลเอกชนควรมีความรับผิดชอบต่อคนไข้ด้วย ไม่ใช่เพียงหวังถึงกำไรสูงสุดของธุรกิจเพียงอย่างเดียว เพราะราคาค่าบริการที่กำหนดมานั้นก็เป็นราคาที่พออยู่ได้ จึงขอเรียกร้องว่าสมาคมฯอย่าเอาคนไข้เป็นตัวประกัน และแพทย์ที่ทำเช่นนี้ถือว่าอาจขัดต่อพ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ในกรณีที่มีการปฏิเสธคนไข้ ต้องเห็นใจคนไข้ และระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติด้วย การกระทำเช่นนี้ ถือว่าเป็นการเอาคนไข้เป็นตัวประกัน สะท้อนให้เห็นถึงความไม่รับผิดชอบของประชาชนคนไทย เอาแต่กำไรสูงสุดอย่างเดียว ทั้งที่คลินิกเอกชนที่เปิดให้บริการฟอกเลือดยังสามารถดำเนินการได้ในราคา 1.5 พันบาทต่อครั้ง และยิ่งคนที่ออกมาทำเช่นนี้เป็นกรรมการแพทยสภา และกรรมการของสปสช.ด้วยยิ่งถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่งน.ส.สารี กล่าว | โดย: หุ หุ รพ.เอกชน [11 ก.ย. 51 21:31] ( IP A:58.9.205.161 X: ) |  |  | | |
ความคิดเห็นที่ 1 เห็นภาพตัวตนชัดเจน ของอ้ายคนนี้ | โดย: เจ้าบ้าน [11 ก.ย. 51 22:10] ( IP A:124.121.78.176 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 ใคร ๆ เขาก็รู้กันทั่วว่าเขี้ยวขนาดไหน และเข้าไปกุมอำนาจทั้งที่แพทยสภา+สปสช.ด้วย พวกคุณจะรวยไปถึงไหน ตายไปก็เอาไปไม่ได้สักบาท คุณถูกสังคมคนที่เต็มไปด้วยความทุกข์สาปแช่ง คุณมีความสุขดี อยู่หรือ ทำบาปทำกรรมกับมวลชน ระวังจะไม่มีแผ่นดินอยู่ เหมือนใครบางคนที่หนีคดีไป คนเราสุดท้ายก็หลุมสี่เหลี่ยมเท่ากัน
คุณมีโรงพยาบาลเอกชนในเครือตั้งหลายแห่ง รวยล้นฟ้า ขับรถเบ๊นซ์ แต่คุณทิ้งความเจ็บฃ้ำน้ำใจให้กับผู้คน คุณทำบาป ทุกวัน ถึงคุณจะสร้างบุญใหญ่สักกี่ครั้งก็ไม่สามารถลบล้าง บาปกรรมที่คุณทำกับคนไข้ที่เขาเสียหาย หรือคนที่เขาต้องการ ความช่วยเหลือ
คุณมีโอกาสทำบุญที่ยิ่งใหญ่มากกว่าคนหลายล้านคนในประเทศนี้ แต่คุณกลับใช้โอกาสนั้นสร้างแต่ความร่ำรวย และพยาบาม ตะเกียกตะกายเข้าไปมีอำนาจในแพทยสภา+สปสช. เพื่อ ปกป้องผลประโยชน์ของพวกคุณ ทำไมเห็นแก่ตัวอย่างนี้
คนรวย คนมีอำนาจ ที่น่าชื่นชมมีมากมายที่ไม่เอาเปรียบสังคม รวยแล้วรู้จักการให้ รวยแล้วไม่งก คุณเลือกที่จะให้คนเขาชื่นชม หรือเลือกที่จะตายไปแล้วผู้คนเขาสาปแช่ง | โดย: เลือกเอา [12 ก.ย. 51 6:04] ( IP A:58.9.189.250 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 เครื่องฟอกไตของ"ท่านมหาจำลอง" ฟอกไตครั้งละ 1200 บาท ทำไมเขาอยู่ได้
สปสช.จ้างรพ.ของท่านมหาจำลองดีกว่า อย่าไปเสียเงิน ให้คนพวกนี้เลย ปีหนึ่งเขาได้กำไรจากโครงการบัตรทอง เพียงสาขาเดียวก็เกิน 300 ล้านบาท เท่าที่รู้เขามีรพ.ตั้งหลายแห่ง และหลายสาขา โกยไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว | โดย: รวยไม่รู้เรื่อง [12 ก.ย. 51 6:07] ( IP A:58.9.189.250 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 แพทยสภาเตรียมสอบต้นทุนฟอกเลือดหลังสมาคมเอกชนถูกร้อง โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 กันยายน 2551 07:55 น. https://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000108016 นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา นายกแพทยสภาปัดไม่รู้เรื่องคนไข้โรคไตโวยถามหาจริยธรรมผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์จากสมาคมหมอเอกชน ระบุจะนำเรื่องเข้าพิจารณาในคณะอนุกรรมการจริยธรรม รวมถึงตรวจสอบต้นทุนการล้างไตว่าราคาสมเหตุสมผลหรือไม่ ด้านหมอผู้ถูกร้องรูดซิปปากเงียบ นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้ แต่หากเครือข่ายผู้ป่วยโรคไตจะเดินทางมาร้องเรียนต่อแพทยสภาเกี่ยวกับจริยธรรมผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ของนพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ และนพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่คณะอนุกรรมการจริยธรรมเพื่อพิจารณารายละเอียดข้อมูลต่อไป ทั้งนี้จะมีการพิจารณาต้นทุนในการล้างไตโดยการฟอกเลือดผ่านเครื่องไตเทียมว่ามีราคาที่สมเหตุสมผลหรือไม่ หรือเป็นการเอาเปรียบประชาชนเพื่อหากำไรเกินควร ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า แท้จริงแล้วราคาต้นทุนการฟอกเลือดเป็นเท่าใด ส่วนตัวมองว่า เรื่องนี้เป็นเสรีภาพในการทำงาน อาชีพแพทย์ก็เหมือนกับอาชีพอื่นๆ ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย การที่หมอเอื้อชาติส่งจดหมายไปให้ในสมาชิกสมาคมก็เป็นการทำภายในของเขา เมื่อก่อนหน้านี้ได้เคยตกลงค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2,000 บาท แล้วสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะไปบีบให้ได้ 1,500 บาท เพราะมีจำนวนคนมาก ซึ่งถ้าไม้คุ้มก็ไม่ควรรับ เพราะต้นทุนของโรงพยาบาลเอกชนอยู่ที่ 1,900 บาท ซึ่งหมอเอื้อชาติ ก็บังคับสมาชิกไม่ได้อยู่ดี แต่ขาดทุนคงไม่มีใครเอา เขาบอกกับผมอย่างนี้ ดูแล้วเป็นเรื่องการต่อรองกันทางธุรกิจ อาจไม่แฟร์สำหรับเขาถ้าไปเอาผิดเพราะต่อรองกันไม่ได้นพ.สมศักดิ์กล่าว นพ.สมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า หากมีโรงพยาบาลเจ้าเดียวหรือกลุ่มเดียวที่สามารถฟอกไตได้แล้วไม่ทำ ก็ถือเป็นการผูกขาด ข้อตกลงเท่ากับเป็นการฮั้วกัน จะต้องดำเนินการเอาผิด แต่ในความเป็นจริง คือ หากโรงพยาบาลนี้ไม่ทำก็ยังมีโรงพยาบาลอื่นที่สามารถทำได้ ก็เลือกโรงพยาบาลอื่นที่มีราคาถูกกว่า เป็นเสรีภาพที่ทำได้ ส่วนราคาต้นทุนนั้น มาตรฐานการรักษาอาจเป็นแบบเดียวกัน แต่ต้องพิจารณาปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบด้วย เช่น สถานที่ การให้บริการ น้ำยาที่ใช้ผสมขึ้นเองหรือมีการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งทำให้ราคาค่าใช้จ่ายแตกต่างกัน ด้านนพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน และประธานคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะต้องตอบโต้กัน ตนให้คำแนะนำสมาชิกสมาคมฯ แล้วก็จบเพียงเท่านั้น ดังนั้น ตนจึงไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อไป เหอะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ อมวัดมาพูด...ก็ไม่เชื่อ 
| โดย: จากผู้จัดการ [12 ก.ย. 51 11:41] ( IP A:58.9.197.35 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 สปสช = พ่อพระ นักบุญ ผู้ให้ ไม่ต้องตรวจคนไข้ รับเงินเป็นแสนๆ
หมอ = ทาส ขี้ข้า กรรมกร ผู้รองรับอารมณ์ญาติ ถูกด่าว่าชุ่ย ถูกฟ้อง รับเงินหนึ่งหมื่น พอกันทีอาชีพนี้ไปอยู่ สปสช ดีกว่า | โดย: w@yahoo.com [12 ก.ย. 51 14:10] ( IP A:125.26.70.218 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 อยากบอกว่าคนไข้ล้างไตนี่ น่าสงสารมากนะ หลายคนมีบ้านขายบ้านมีรถขายรถ มีเงินล้านก็หมด ส่วนคนที่ไม่มีเงินจริงๆ ก็อาจล้างแค่อาทิตย์ละครั้ง หรือ 10 วันครั้ง หรือมากกว่านั้น แล้วเป็นโรคที่รักษาไม่หาย (ยกเว้นผ่าตัดเปลี่ยนไต)
วันนี้รัฐจ่ายค่าล้างไตให้แล้ว ก็ขอดีใจกับทุกคนด้วย แต่ยังงงอยู่ว่าตกลงรัฐจ่ายให้ 1,500 หรือ 1,000 แล้วคนไข้ออกเองอีก 500 ส่วนประกันสังคม จ่ายให้แค่ 1,500 ไม่ใช่ 2,000 นะ อยากบอกว่าหมอไตรวยมาก เดือนๆหนึ่งรับหลายแสน คิดเล่นๆ คนไข้ 1 คนล้างไต 1 ครั้ง หมอเจ้าของไข้รับเหนาะๆ 300-500 บาท อาทิตย์หนึ่งเท่าไร เดือนหนึ่งเท่าไร ยิ่งมีคนไข้เยอะๆ คิดกันเอาเอง ถ้าไปลดค่าวิชาชีพหมอลงได้ ต้นทุนก็ไม่น่าถึง 1,900 หรอก 1,500 อยู่ได้สบายๆ
ที่มูลนิธิจำลอง มีบริษัทที่เกาหลีให้เครื่องล้างไตมาเกือบ 60 เครื่อง เท่าที่รู้ก็พออยู่ได้แต่ไม่กำไรอะไรนัก และที่นี่ดีมากเลย คนไข้บางคนมาไม่มีเงิน ล้างเสร็จแล้วเพิ่งมาบอกก็ติดไว้ก่อนได้ด้วยนะ ถ้าเป็นที่อื่นเก็บเงินก่อนเข้าเครื่องด้วยซ้ำ แถมบางทีเจ้าหน้าที่หรือพยาบาลยังต้องควักเงินให้คนไข้เป็นค่ารถก็มี --อันนี้เรื่องจริง (แม่เราเพิ่งเสีย เลยไม่ได้ไปที่นั่นมาเดือนกว่าแล้ว) | โดย: ouja [12 ก.ย. 51 16:23] ( IP A:124.120.90.95 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 แล้วทำไม สปสช. ไม่ไปล้างไตที่พ่อพระมหาจำลองซะเลยล่ะ ล้างไตเสร็จ ก็กู้ชาติต่อเลย | โดย: 555 [12 ก.ย. 51 18:54] ( IP A:89.149.244.184 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 คนไข้ไตวายน่าสงสารมากๆครับ เคยเห็นมาแล้ว ที่คนไข้ต้องขายนา ขาย *** ขายบ้านเพื่อไปล้างไต สุดท้ายพอเงินหมด ก็ต้องหยุด ถ้ารัฐบาลช่วยsupportค่าใช้จ่ายให้(จะบางส่วนหรือทั้งหมด) ก็เป็นเรื่องดีครับ | โดย: ปริญญา [14 ก.ย. 51 13:41] ( IP A:125.26.129.115 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 คห.9 ครับ... ผมเห็นด้วย แต่ สปสช.จะบีบคอให้ รพ. ล้างไตด้วยราคาที่ สปสช.กำหนด ซึ่ง รพ.เอกชนเค้าประเมินแล้วว่ามันขาดทุน เค้าก็ไม่รับ ถ้าหาก รพ.เอกชนเห็นว่ามันกำไรมากเหมือนที่ คห. ข้างบนๆ ว่าไว้ เดี๋ยวก็มีคนเข้าร่วมเองแหละ.. | โดย: ทีบังคับขาย LPG ถูกๆ ยังต้องให้เงินอุดหนุนเลย [16 ก.ย. 51 18:20] ( IP A:67.159.44.138 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 10 โรงพยาบาลเอกชนเป็นโรงพยาบาลที่แสงหากำไรเป็นหลักอยู่แล้ว แล้วจะไปโทษเขาทำไมเขามีสิทธิ์ ถ้าคุณว่าแพงเขาก็ไม่ได้บังคับคุณให้ทำอยู่แล้วมันเป็นหน้าที่ของโรงพยาบาลรัฐที่จะต้องหามา ถ้ายังหาไม่ได้ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปไม่ใช่ออกมาโม้ว่าทำได้ทั้งๆ ที่ทำไม่ได้ มันคล้ายๆกับคุณอยากนั่งรถเบนซ์แต่คุณมีเงินไม่ถึงล้านคุณก็ควรซื้อรถที่ถูกกว่านั้นไม่ใช่มาโวยวายให้เบนซ์ลดราคา มันผิดหลักธรรมชาติ
สปสช นายหน้าที่ชอบโม้ ไม่ทำงานชอบสั่งโง่โง่ เอาใจนักการเมืองที่หวังประชานิยม ขอไว้อาลัยแด่ สปสช(ทำไมทักษิณไม่เอาไปด้วยหา) | โดย: คนเก่า [20 ก.ย. 51 10:24] ( IP A:125.26.69.138 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 11 เห็นข่าวคนแย่งของบริจาคแล้วเหยียบกันตายที่อินโดนีเซียแล้วอดคิดถึงคนไทยไม่ได้ | โดย: ของฟรีไม่มีในโลก [20 ก.ย. 51 10:36] ( IP A:125.26.69.138 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 12 ไปด่า ปตท ดีกว่าไม๊ ไม่งั้นเค้าจะเรียก เอกชน เหรอ เอกชน = กำไร แต่ ปตท น่ะ มันเคยเป็นของคนไทยทั้งชาติ | โดย: รายได้ต่ำแต่ดัน รสนิยมสูง [21 ก.ย. 51 14:31] ( IP A:125.26.110.113 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 13 มันไม่เกี่ยวกับเรื่องรถเลยนะครับ เปรียบเทียบได้ไร้มนุษยธรรมมาก คนไม่ได้ฟอก 1 อาทิตย์นี่บวมเกือบตายเลยนะครับ
เห็นใจคนไข้บ้างเถอะ จะแสวงหากำไรไปถึงไหน?กัน นี่มันไม่ใช่การบริการนะ เครื่องฟอกไตเนี่ยมันไม่เพียงพอ ค่าใช้จ่ายสูงมากๆ สำหรับคนไข้ บางคนต้องยอมตายเพราะครอบครัวไม่มีเงินพาไปฟอกตลอดนะ ที่เคยเห็นมานี่ ฟอกได้ไม่กี่เดือนก็หมดตัว นอนรอให้ตายไปอย่างนั้นโดยที่ญาติก็ไม่รู้จะทำอย่างไร? แล้วจะเอาไปเปรียบเทียบกับ การแสวงหากำไรอีกเหรอ? มันแพงแล้วเขาไม่ได้บังคับน่ะใช่ แต่มันไม่ผูกขาดไปหน่อยเหรอ? ไม่ฟอกก็ตายเนี่ยนะ? ไม่ได้บังคับเหรอ? ก็มันไม่มีราคาที่ถูกกว่านี้นี่หว่า..ถ้าไม่ทำก็ตาย รัฐน่ะค่อยเป็นค่อยไปในการช่วยประชาชน แต่จะดีกว่าไหม?ถ้าคิดถึงเงินให้น้อยลงสักนิด ราคาที่เสนอก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไปไม่ใช่เหรอ? แปลกที่ราคาอุปกรณ์แพงตลอดชาติ ในขณะที่จริงๆ แล้วราคาของมีขึ้นมีลง ยิ่งซื้อ lot ใหญ่หรือผิตได้เองยิ่งถูก อาจจะลด cost ไปแล้วแต่คงราคาเดิมมีใครเคย track พวกคุณบ้างไหม? นี่ถ้าพวกคนไข้ตายหมดแล้ว จะเก็บเครื่องฟอกไตไปฟอกพระแสงอะไรครับ? เออ ช่วยๆกันหน่อยสิ พวกคุณจะได้แสวงหาผลกำไรจากความเจ็บไข้ของพวกผมไปนานๆไงครับ | โดย: eAglet [26 ก.ย. 51 16:13] ( IP A:118.172.45.2 X: ) |  |
|