ความคิดเห็นที่ 1 https://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000143351 อันนี้ ก็ไม่กล้ว อยากให้ฟ้องเร็วๆ สู้คดีก็หลุด เพียงแต่ว่า เอาคดีเก่าๆ ก่อนดีไหมเพ่ เช่นคดีจักรภพ ดาตอปีโด วีระ มุสิกพงศ์ ไม่ได้เกลียดพวกนั้นหรอก กฎหมายยังสันนิษฐานว่าเขาบริสุทธิ์ จนกว่าเขาจะถูกศาลสั่งลงโทษ เพียงแต่รับไม่ได้กับการเร่งรัดคดี แบบไม่เป็นธรรม ตำรวจเฮงซวยจะทำแบบนี้ พวกกันก็ช่วยกัน พวกอื่นก็หาเรื่องฟ้องเขา ท่านคงไม่ใช่ตำรวจเฮงซวย จะทำแบบนี้ได้อย่างไร คดีที่ท่านจะฟ้อง พธม 100 เอาขี้หมากองเดียว ไม่ชนะ พธม หรอก ผมเป็นทนายความยังไม่ไปรับตั๋ว ยังฟันธงได้ ว่า พธม ไม่ผิด ว่างๆจะวิเคราะห์ให้ดู | โดย: ฟฟ [4 ธ.ค. 51 13:12] ( IP A:58.8.3.136 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 สุริยะใส จวกยับ ทอท.ไร้สัจจะ! กลับลำฟ้อง พันธมิตรฯ 2 หมื่นล้าน 4 ธันวาคม 2551 05:47 น.
สุริยะใส จวกยับ ทอท. ไร้สัจจะหลังเจรจาไม่ติดใจ พันธมิตรฯ ยึดสนามบิน แต่กลับลำฟ้อง 2 หมื่นล้าน ลั่น ไม่มี ไม่มีหนี ไม่จ่าย พร้อมต่อสู้คดี ตอกซ้ำ รัฐบาลทรราช เป็นต้นเหตุของความวุ่นวายทั้งหมด ก่อนแนะสภาฯ ใช้ ม.7 ขอนายกฯ พระราชทานผ่าทางตัน ชี้เหตุ ครม.หมดสภาพตามคำตัดพิพากษา วานนี้ (3 ธ.ค.) รายงานข่าวแจ้งจากวัดโสมนัสราชวรวิหารว่า นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการส่งคืนทำเนียบรัฐบาล ให้แก่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) และสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ว่า ในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ เวลา 12.00 น.จะมีการส่งคืนทำเนียบฯ ให้กับทาง สปน.อย่างแน่นอน เนื่องจากคณะกรรมการได้เข้าตรวจสอบแล้วทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกสันติไมตรี ซึ่งทุกอย่างเรียบร้อยดี ต้องขอก็ยอมรับว่า มีบางตึกที่ได้รับความเสียหายอยู่บ้าง เนื่องจากมีพวกมิจฉาชีพเข้าไปขโมยของภายในตึก ซึ่งตรงนี้ก็ต้องให้ทางสปน.เข้ามาประเมินความเสียหายด้วยตนเองว่ามีมากน้อยเพียงใด และถ้าหากจะมีการดำเนินการฟ้องร้องพันธมิตรฯ เราก็ยินดีที่จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย นายสุริยะใส กล่าว ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) จะมีการฟ้องร้องแกนนำพันธมิตรฯ โดยเรียกค่าเสียหาย 2 หมื่นล้านบาท นั้นนายสุริยะใส กล่าวว่า ทางพันธมิตรฯ ได้เตรียมใจไว้แล้วว่าจะถูกดำเนินคดี แต่ถ้าต้องถูกตัดสินให้จ่าย 2 หมื่นล้านบาท บอกได้เลยว่าไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เพราะแกนนำไม่มีปัญญาจ่ายอย่างแน่นอน ที่สำคัญ พันธมิตรฯ ขอตั้งคำถามต่อสังคมว่า หากปล่อยให้รัฐบาลที่หมดความชอบธรรมปกครองประเทศต่อไป แล้วบ้านเมืองจะเกิดความเสียหายมากกว่านี้หรือไม่ เรายืนยันว่า การยึดสนามบินไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แต่เป็นการทำเพื่อประเทศชาติ ซึ่งเชื่อว่าศาลน่าจะเข้าใจในประเด็นนี้ อีกทั้งยังขอตั้งคำถามกับผู้ใหญ่ในคณะกรรมการ ทอท. ที่เคยยืนยันกับแกนนำพันธมิตรฯ ว่า จะไม่แจ้งความเอาผิด เพราะเห็นว่าการยึดสนามบินเป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง รวมทั้งยังขอบคุณพันธมิตรฯ ด้วย ที่ไม่ทำลายตัวอาคาร เพราะพูดคุยกันด้วยเหตุผล แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นมีการกลับลำ โดยแจ้งความดำเนินคดีเพราะมีการเมืองเข้าไปแทรกแซง ถ้าคิดว่าทำถูกแล้วก็เชิญ พันธมิตรฯ ยินดีที่จะสู้ในชั้นศาลอย่างเต็มที่ ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ระบุ ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึง ครม.รักษาการว่า ทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค และตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคทั้ง 3 พรรค ซึ่งมีหลายคนเป็นรัฐมนตรี ก็เท่ากับว่ารัฐมนตรีเหล่านั้นสิ้นสภาพทันที จึงอยากถามว่าการประชุม ครม. รักษาการ และถือวิสาสะเลือกนายกฯ คนใหม่นั้น จะใช้กฎหมายมาตราใด เพราะตอนนี้ ครม. เป็น ครม. เถื่อนที่ชัดเจน จึงขอเรียกร้องให้ ส.ว.ยื่นเรื่องดังกล่าวไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความสถานภาพของ ครม.ชุดนี้ว่ายังมีสถานะหรือไม่ ผมมองว่าได้เกิดสภาพสุญญากาศทางการเมือง ซึ่งเข้าเงื่อนไขที่จะเข้ามาตรา 7 ตามรัฐธรรมนูญ โดยประธานสภา สามารถเรียกประชุม 2 สภา เพื่อดำเนินการงดเว้นการใช้รัฐธรรมนูญที่กำหนดให้นายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง โดยอาจจะขอนายกรัฐมนตรีพระราชทานจากในหลวง หรือทางสภาฯ จะเชิญคนนอกมาเป็นนายกฯ ก็ได้ ส่วนแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งมีชื่อทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ก็ล้วนเป็นนอมินีของระบอบทักษิณ และถ้าหากเลือกคนเหล่านี้ขึ้นไป ก็เตรียมเจอกับการต่อต้านจากพันธมิตรฯ อีกรอบอย่างแน่นอน โดยหลังจากนี้แม้จะไม่มีการชุมนุมใหญ่ แต่แกนนำพันธมิตรฯ จะประชุมหารือเพื่อประเมินสถานการณ์ และจะแถลงข่าวเป็นระยะๆ นายสุริยะใส ระบุ | โดย: ไม่เห็นด้วยกับไอ้ใส แบบนี้ไม่ใส [4 ธ.ค. 51 13:12] ( IP A:58.8.3.136 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 "จงรัก"เร่งรัดดำเนินคดีพันธมิตรฯฐานก่อการร้าย โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 4 ธันวาคม 2551 12:26 น. คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร.
นายพลหน้าจอ"จงรัก จุฑานนท์"ประชุมเร่งรัดดำเนินคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลังถูกแจ้งความฐานก่อการร้าย ระบุ จะให้ความเป็นธรรม และแจ้งข้อหาตามพยานหลักฐาน วันนี้(4 ธ.ค.)เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนฑ์ รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วยพล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ภานุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตัวแทน บช.ภ.1 พนักงานสอบสวน บก.ภ.จ.สมุทรปราการ บช.น. และ สภ.ราชาเทวะ ร่วมประชุมเร่งรัดการดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลังนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีในความผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ รวมทั้งคดีที่ นพ.เหวง โตจิราการ นพ.สันต์ หัตรัตน์ และนางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ กล่าวโทษว่ายึดสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ รวมทั้งหอบังคับการบิน ให้ดำเนินคดีในความผิดฐานก่อการร้าย ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า เมื่อมีผู้มาร้องทุกข์และกล่าวโทษพนักงานสอบสวนมีหน้าที่ต้องสอบสวนไปตามกระบวนการกฎหมาย โดยจะนำคำสั่งศาลแพ่งตามคดีหมายเลขดำที่ 6453/2551 ลงวันที่ 26 พ.ย. 2551 มาประกอบการพิจารณา ซึ่งคำสั่งศาลแพ่งได้ระบุว่าการปิดกั้นท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวท่าอากาศยานดอนเมือง ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 34 วรรคหนึ่งซึ่งเมื่อศาลแพ่งชี้ขาดไว้เช่นนี้ พนักงานสอบสวนก็ต้องยึดถือตามคำชี้ขาดของศาลว่าการชุมนุมไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และสอบสวนตามขั้นตอนเว้นแต่ศาลอุทรณ์จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น พล.ต.อ.จงรัก กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามตนได้กำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนิคดีการด้วยความเป็นธรรมไปตามพยานหลักฐาน เมื่อได้พยานหลักฐานมาก็ต้องดูกฎหมายว่าเข้าองค์ประกอบความผิดฐานใดบ้าง ก็ต้องดำเนินไปตามนั้น จะไม่มีการตั้งข้อหาลอยๆ โดยปราศจากพยานหลักฐานอย่างเด็ดขาด และแม้ว่าจะถูกดำเนินการแล้วแต่ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาก็สามารถนำพยานหลักฐานมาหักล้างว่าไม่เป็นความจริงได้ ตำรวจพร้อมจะให้ความเป็นธรรม ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรถูกกล่าวโทษให้ดำเนินคดีในความผิดฐานก่อการร้าย พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า ความผิดฐานก่อการร้ายเป็นความผิดที่กำหนดขึ้นใหม่เมื่อ พ.ศ.2546 ซึ่งมีสาระสำคัญว่าผู้ใดกระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ระบบการขนส่งสาธารณะ ระบบโทรคมนาคม ซึ่งการกระทำนั้นมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลไทยให้กระทำการหรือไม่กระทำการใด อันก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงหรือเพื่อสร้างความปั่นป่วน หวาดกลัวในหมู่ประชาชนให้ถือว่าผู้นั้นกระทำผิดฐานก่อการร้าย ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สามปีถึงยี่สิบปี ซึ่งตั้งแต่มีกฎหมายนี้ยังไม่มีใครเคยถูกกล่าวโทษกระทำผิดฐานนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องสอบสวนว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอเข้าองค์ประกอบความผิดฐานนี้หรือไม่ หากเพียงพอก็จะสรุปส่งเรื่องให้พนักงานอัยการพิจารณาต่อไป | โดย: พนันกันไหม พธม ชนะ [4 ธ.ค. 51 13:14] ( IP A:58.8.3.136 X: ) |  |
|