ความคิดเห็นที่ 13 แท็กซี่ไปภูเก็ตคว่ำสาวสวีเดนดับ
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน รถแท็กซี่สีเขียว-เหลือง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอินโนวา ทะเบียน มจ 8485 กรุงเทพฯ มีนายปานทอง แซ่ตัน อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 33/1056 ถนนงามวงศ์วาน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เป็นคนขับนำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เช่าเหมารถให้ไปส่งที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต ประสบอุบัติเหตุจากฝนตกลื่นพลิกคว่ำบนถนนทางหลวงเอเชีย 41 หน้าปั๊มน้ำมันจิงโจ้ หมู่ 2 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ทำให้ น.ส.มอนโล อีวาแดนเชสเตอร์ อายุ 34 ปี สัญชาติสวีเดน เสียชีวิต ส่วนนายปานทองและผู้โดยสารชาวต่างชาติไม่ทราบชื่ออีก 1 คนบาดเจ็บเล็กน้อย
อีกรายรถตู้คว่ำชาวแคนาดาสิ้น
อีกราย เมื่อเวลา 02.17 น. วันที่ 1 ธันวาคม รถตู้ทะเบียน ชช 9315 กรุงเทพมหานคร มีนายสมศักดิ์ ทวีสิทธิ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180/96 เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร เป็นคนขับ พานักท่องเที่ยวต่างชาติ 6 คน ซึ่งเป็นผู้โดยสารสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิก ออกจากท่าอากาศสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต เมื่อถึงทางหลวงเอเชีย 41 บริเวณ ก.ม.ที่ 108 หน้าลานปาล์มโก๊ะตี๋ หมู่ 3 ต.คลองพา อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำเนื่องจากฝนตกถนนลื่น ทำให้นายเดวิด ยิค อายุ 49 ปี สัญชาติฮ่องกง และนายโรเบิร์ต เบาว์แมน อายุ 60 ปี สัญชาติแคนาดา เสียชีวิต
ส่วนผู้บาดเจ็บมี น.ส.แอน บูธ อายุ 38 ปี สัญชาติไอร์แลนด์ บาดเจ็บสาหัสกระดูกซี่โครงหัก นำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี นายกีราโร โอแนล อายุ 49 ปี แฟน น.ส.แอน, นางอริสแนน ยิค อายุ 49 ปี สัญชาติฮ่องกง ภรรยานายเดวิค และนายสมศักดิ์ คนขับรถบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์อนุญาตให้กลับกรุงเทพฯ
นายโอแนลกล่าวว่า รู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองไทย จึงต้องการจะกลับประเทศแต่ไม่สามารถขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ ทางสายการบินจึงบริการรถตู้ไปส่งขึ้นเครื่องบินที่ จ.ภูเก็ต แต่เกิดประสบอุบัติเหตุซ้ำอีก
นายภานุ วรมิตร ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสุราษฏร์ธานี ให้สัมภาษณ์ว่า ประสานงานกับสถานทูตประเทศของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมทั้งสายการบินทราบเหตุ เพื่อดูแลด้านค่าใช้จ่ายและนำศพผู้เสียชีวิตส่งกลับประเทศ
รถทัวร์ชน-ลูกเรือเกาหลีแอร์ฯเจ็บ
ที่ จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถทัวร์โดยสารปรับอากาศหมายเลข 31-6040 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท น้ำเพ็ชร จำกัด บรรทุกพนักงานสายการบินเกาหลีแอร์ไลน์ เดินทางจากโรงแรมสยามเบย์วิว เมืองพัทยา มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานอู่ตะเภา พยายามแซงรถคันหน้าแต่ไม่พ้นเกิดเสียหลักพุ่งชนรถเก๋งของพันจ่าตรี พัฒน์ เคน อายุ 32 ปี สังกัดกองกิจการพิเศษ ฐานทัพเรือสัตหีบ ทำให้พันจ่าตรีพัฒน์เคนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนสาย 332 หลักกิโลเมตรที่ 3 เส้นทางตัดระหว่างแยกเจ-แยกเกษมพล หมู่ที่ 9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้โดยสารในรถทัวร์เป็นนักบินสายการบินเกาหลีแอร์ไลน์ จำนวน 8 คน และแอร์โฮสเตส 8 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนคนขับไม่ทราบชื่อได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนี
วันเดียวกัน ที่ จ.ตาก รถบัสโดยสาร หจก.เอส.วี.บราเดอร์ส เทรดดิ้ง ทะเบียน 30-9261 กรุงเทพมหานคร ที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากกรุงเทพฯไปขึ้นเครื่องบินที่ จ.เชียงใหม่ เกิดเพลิงลุกไหม้บริเวณถนนพหลโยธิน เชิงสะพานกิตติขจร ฝั่งตะวันออก ต.เชียงเงิน อ.เมืองตาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองตากนำรถดับเพลิงกว่า 10 คัน เข้าช่วยเหลือ ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่างหนีตายลงจากรถกันจ้าละหวั่น เจ้าหน้าที่ใช้เวลาฉีดน้ำสกัดเพลิง 30 นาทีเพลิงจึงสงบ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
สธ.สั่งรพ.รักษานักท่องเที่ยวฟรี
ด้าน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์ที่บริการนักท่องเที่ยว 2 แห่ง ที่สนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี ว่า ให้โรงพยาบาลในสังกัด สธ. และโรงพยาบาลเอกชน ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดย สธ.จะเป็นผู้รับผิดชอบ นอกจากนี้ ที่สนามบินอู่ตะเภามีนักท่องเที่ยวรอขึ้นเครื่องบินกลับประเทศ วันละกว่า 5,000 คน ทำให้ห้องน้ำ-ห้องส้วมไม่เพียงพอ จึงให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ชลบุรี ประสานกับเมืองพัทยา จัดรถสุขาเคลื่อนที่มาให้บริการ 4-5 คันและเพิ่มถังขยะ 20 จุด
"ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม มีผู้เข้ารับบริการที่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในสนามบินอู่ตะเภา 282 ราย ส่งตัวไปรักษาต่อ 1 ราย ด้วยโรคหอบหืด ที่ รพ.กรุงเทพ-พัทยา โรคที่ป่วยอันดับ 1 คือ ปวดศีรษะ อาเจียน เป็นลม 137 ราย รองลงมา ไข้หวัด 65 ราย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ 29 ราย ผิวหนังอักเสบ 6 ราย อาหารเป็นพิษ 4 ราย ที่เหลือเจ็บป่วยอื่นๆ" |