ใครก็ได้ช่วยตอบหน่อย
   คนไข้อยู่ๆ ก็บ่นเวียนหัว เหนื่อยมาก อีกวันพาไปหาหมอ หมอได้ฉีดยาแก้เวียนศรีษะ เพิ่มยาความดัน คนไข้กลับบ้าน
เช้าวันต่อมาคนไข้เกิดอาการหลงลืม สับสน จำอะไรไม่ได้
ผ่านมาอีกคืนคนไข้นอนตาลอย พอตกเย็นตาเริ่มปิด เรียกไม่ตื่น นอนไม่รู้สึกตัว

คุณหมอคนไหนพอจะบอกได้หรือไม่ ว่าอาการคนไข้อย่างนี้ เกิดจากอะไรได้บ้าง คนไข้อายุ 60 กว่า มีเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ และล้างไตมาปีกว่า ขอบคุณล่วงหน้า
โดย: 666 [5 พ.ย. 51 17:37] ( IP A:124.121.240.192 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   น่าจะเป็นภาวะดังต่อไปนี้
1 hypoglycemic coma
2 uremia
3 hypertensive crisis
4 electrolyte abnormality ( hyponatremia , metabolic acidosis)
โดย: คนเก่า [5 พ.ย. 51 18:37] ( IP A:125.26.73.197 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   สวัสดี
คุณคนเก่า
วันนี้ไม่ออกตรวจที่รพ.เอกชนหรือ
โดย: แซวเล่น [5 พ.ย. 51 19:05] ( IP A:58.9.206.197 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ขอบคุณคุณคนเก่าค่ะ
แต่ขอภาษาธรรมดาที่พอจะเข้าใจหน่อยได้ไหมค่ะ
โดย: 666 [5 พ.ย. 51 19:12] ( IP A:124.120.76.204 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   คนไข้เป็นโรคไตวายเรื้อรัง
อาการนี้น่าจะเป็น Uremia ซึ่งไม่รู้ว่าจะแปลเป็นภาษาธรรมดาให้เข้าใจได้อย่างไร
ลองถามคุณหมอ ฟฟ เจ้าพ่อแห่งการเรียนรู้ด้วยตัวเองก็แล้วกัน...
โดย: คนแก่ [5 พ.ย. 51 21:46] ( IP A:117.47.12.60 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   คุณคนเก่า เขาเป็นพวกศาสตราจารย์
พูดภาษาชาวบ้านไม่ค่อยเป็น ต้องเข้าใจ
ขืนลดตัวมาพูดภาษาชาวบ้าน เดี๋ยวคนเขา
จะว่าเอาได้ว่า ไม่เก่ง...!

นี่แหละต้นเหตุของปัญหาการสื่อสารล่ะ...!
โดย: เหอ ๆ ๆ ๆ [5 พ.ย. 51 22:22] ( IP A:58.9.221.194 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   1.hypoglycemic coma =ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำมากจนเบลอหรืออาจช้อคได้หรืออาจถึงเสียชีวิตได้ถ้าช่วยไม่ทัน
2.uremia = ภาวะที่ของเสียคั่งในร่างกายมากจนมีผลต่อระบบต่างๆ สำหรับสมอง คือเบลอ เอ๋อไป ส่วนมากมักมีอาการคลื่นไส้อาเจียนด้วย ถ้าเอาของเสียออกไม่ทันหรือไม่มากพอก้เป้นอันตรายได้เช่นกัน การเอาออกในกรณีนี้คือการล้างไต ของเสียมากแค่ไหน เจาะเลือดดูค่า bun บอกได้ยิ่งสูงมากเช่นเกิน100ยิ่งไม่ดี ความทนทานและอาการแสดงแต่ละคนต่อระดับ bun ไม่เท่ากันและไม่เหมือนกัน
3. hypertensive crisis = ความดันศุงมากจนเบลอนะแหละ
4.electrolyte imbalance = เกลือแร่ที่สำคัญในร่างกายไม่สมดุล โดยทั่วไป ในคนไข้โรคไต มีอยู่4-6 ตัวที่สำคัญ แต่ละตัวสำคัญและอาการแสดงออกต่างๆกันไป รู้ได้ไง เจาะเลือดดูค่าเกลือแร่ที่ว่า
หวังว่าจะพอเข้ารใจได้มากขึ้นนะคะ
โดย: Ex-doctor [6 พ.ย. 51 9:30] ( IP A:75.137.110.141 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   ขอบคุณทุกความเห็นที่เข้ามาตอบ แต่ขอความกรุณาอย่าทะเลาะกันเลย

คุณคห.4 อาการ Uremia ใช่อาการของเสียขึ้นสมองหรือเปล่าค่ะ
ผลเลือดวันที่คนไข้เกิดอาการหลงลืม เช้านั้นได้พาไปล้างไตตามปกติ แต่อาการไม่ดีขึ้น เลยพาไปโรงพยาบาล ของเสียขึ้น 120 กว่าทั้งๆที่เพิ่งไปล้างไต (ก่อนหน้านี้ของเสียก่อนล้างไตจะอยู่ประมาณ 70 กว่าขึ้นไปแต่ไม่เคยถึง100 เลย) อาการหลงลืมมากขึ้นแต่ยังรู้สึกตัวดี วันนั้นไม่ได้เจอหมอไต เช้าอีกวันพบว่าคนไข้นอนตาลอย แต่ก็ยังไม่ได้เจอหมอไต หกโมงเย็นเริ่มลืมตาไม่ขึ้น จนไม่รู้สึกตัว พอสี่ทุ่มมีหมอเวร (ห้องฉุกเฉิน) มาสั่งใส่ท่อช่วยหายใจ เช้าวันต่อมาถึงได้เจอหมอไต หมอสั่งล้างไตเช้านั้น

ประมาณเดือนก่อนรพ.นัดเราเข้าไปชี้แจงหลังจากที่เราแจ้งเรื่องร้องเรียนไป จากที่พูดคุยกับ ผอ.ฝ่ายอายุรกรรมและคุณหมอไต พอจะสรุปได้ดังนี้

1.เราถามว่าทำไมคนไข้ไม่ได้เจอหมอไตตั้งแต่วันแรกๆ ทั้งที่คนไข้นอนตาลอยและหมอเวรก็แจ้งว่า consult หมอไตแล้ว

เขาตอบว่าจะมีคนที่คอยดูว่าเคสไหนควรตามไม่ควรตาม เพราะทั้งรพ.ตอนนี้เหลือหมอไตอยู่ 3 คน เราถามว่าใครดู เขาบอกว่าบอกไม่ได้

คนไข้นอนตาลอยทั้งวันหาสาเหตุอื่นๆ อยู่วันกว่าแล้วก็ไม่เจอ (เอ๊กซเรย์ปอด+สมองปกติ เจาะไขสันหลังไม่พบเชื้อ) อาการอย่างนี้ยังไม่ควรได้เจอหมอไตอีกหรือ เรานึกไม่ออกเลยว่าระหว่างนั้นคนไข้ยังพอรู้สึกตัวอยู่บ้างแต่สั่งการไม่ได้ ได้แต่นอนตาลอยจนตาเริ่มปิด ลืมตาไม่ขึ้น ระหว่างนั้นจะรู้สึกอย่างไรบ้าง

2.เราถามว่าใส่ท่อช่วยหายใจทำไม ทั้งๆที่ไม่ได้วัดปริมาณอ๊อกซิเจนก่อน และเราอยู่ข้างๆเตียงก็รู้สึกแค่ว่าเหมือนคนนอนหลับธรรมดาแต่ปลุกไม่ตื่น ซึ่งเป็นอย่างนี้ตั้งแต่หกโมงเย็นและเราก็ได้เรียกหมอมาดูแล้ว แต่ไม่เห็นหมอจะทำอะไรให้ (ได้แต่ถามว่าหมอไตมาดูหรือยัง)

เขาตอบว่าที่ใส่ไม่ใช่เรื่องช่วยหายใจ แต่ใส่เพื่อป้องกันเพราะคนไข้ไม่รู้สึกตัว อีกคำตอบที่เราได้ยินคือ หมอเวรที่สั่งใส่ท่ออาจจะไม่ได้เห็นอาการคนไข้ตั้งแต่แรก ???

3.สาเหตุที่คนไข้เสียชีวิตเกิดจากอาการติดเชื้ออย่างรุนแรง ไม่เกี่ยวกับยาฆ่าเชื้อที่ให้พร้อมกัน 4 ชนิด เพราะคนไข้เป็นไตวายมีการปรับขนาดยาแล้ว (แต่หลังให้ยาตอนเย็น คืนนั้นคนไข้ช็อค--หมอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับยาฆ่าเชื้อ)

4.เราถามว่าทำไมคนไข้หลงลืม นอนตาลอย เขาตอบว่าบอกไม่ได้มันเกิดได้หลายสาเหตุ แต่ไม่น่าจะเกิดจากโรคไต ญาติถามตรงๆว่าถ้าไปรักษาที่อื่นผลจะเป็นอย่างนี้หรือไม่ เขาตอบว่าไม่น่าจะต่างกัน ถ้าจะต่างกันคือที่นี่เป็นรพ.รัฐ เชื้อจะดุมากกว่า

(คนไข้อยู่รพ.2 อาทิตย์ ไม่รู้สึกตัว 7 วันล้างไตไป 3 ครั้งคนไข้ฟื้นขึ้นมาจำได้ทุกอย่าง จะพูดแต่พูดไม่ได้เพราะใส่ท่ออยู่ หลังจากนั้นไข้ขึ้นซึมลงอยู่ 3-4 วัน หมอเจ้าของไข้ (หมอใหม่) ว่าให้ยาอยู่ยาตัวนี้ออกฤทธิ์ช้าคนไข้คงซึมจากพิษไข้ ---วันสุดท้ายอาจารย์หมอด้านติดเชื้อมาดู เย็นนั้นให้ยา 4 ตัว ในที่สุด..คนไข้เสียชีวิตในวันต่อมา)

เราอยากบอกชื่อรพ.มาก เพราะหมอเขายืนยันว่าเขารักษาดีแล้ว (แต่หมอที่ชี้แจงบอกว่าที่ห้องฉุกเฉินเป็นคนละฝ่ายกับเขา) เอาเป็นว่าชื่อรพ.เป็นชื่อที่สูงสุดในประเทศแล้วกัน

เราไม่ต้องการอะไร แต่เราอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้แม่เราเป็นอย่างนั้น
โดย: 666 (phu_tara@hotmail.com) [6 พ.ย. 51 10:16] ( IP A:124.120.75.177 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ใครทะเลาะกับใคร และรับไม่ได้
ถ้าคุณไม่สบายใจ
ไปโพสต์ในเว็บนี้หมอโดยตรง
ที่นั่นน่าจะมีคนตอบคุณได้มากกว่า
https://www.thaiclinic.com/doctorroom/
โดย: ที่นี่เขาก็มีบรรยากาศแบบนี้ [6 พ.ย. 51 10:23] ( IP A:58.9.191.100 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ผู้ป่วยก็เป็นโรคหนักมาก และรักษาไม่หายขาด และมีภาวะความผิดปกติมากมายเกือบทุกระบบในร่างกาย แบบนี้ไม่แปลกหรอกครับที่จะเสียชีวิตถือว่าไม่แปลกจริงๆ นะ ได้โปรดเชื่อเถอะครับ
โดย: คนเก่า [6 พ.ย. 51 11:22] ( IP A:125.26.70.135 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ขอบคุณ คห.8 คห.9

ตอนนี้ผ่านมาเกือบ 3 เดือนแล้วแต่เรายังทำใจไม่ได้

อยากขอคำแนะนำว่าถ้าจะปรึกษาจิตแพทย์
เราควรไปที่ไหนดี แล้วต้องทำยังไงบ้าง
โดย: 666 [6 พ.ย. 51 11:58] ( IP A:124.120.83.159 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   ตัวคนไข้นั้น เป็นหมายเลข ๑

ตัวคนดูแลคนไข้ ถ้าเกี่ยวพันกับคนไข้ด้านสายเลือด หรือผูกพันทางใจมาก อาจเกิดภาวะกดดันทางใจและอารมณ์ จนถึงขั้นป่วยทางใจจนกลายเป็น "คนไข้หมายเลข ๒" ได้ ขอให้ระวัง+ทำใจ

ภาวะเช่นนี้ เป็นอันตรายมาก เพราะ หากคนไข้หมายเลข ๒ ผิดปรกติหรือเป็นอะไรจนถึงขั้นไม่สามารถเป็นที่พึ่งของหมายเลข ๑ ได้ ตัวคนไข้หมายเลขหนึ่งจะมีอาการหรุดฮวบเร็วมากๆ

ขอให้ทำใจเข้มแข็ง เพื่อคนไข้หมายเลข ๑ ได้ถูกเหี่ยวนำให้เข้มแข็งตามไปด้วย ขอให้บุญกุศลที่มีที่ได้ทำมา ให้ท่านทั้งสองได้พ้นทุกข์นี้โดยเร็ววัน ขอเอาใจช่วยครับ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [7 พ.ย. 51 8:34] ( IP A:58.8.103.102 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   เรียนคุณคนรู้ทันฯ
คนไข้หมายเลข1 ของเราคือ คุณแม่ ท่านเสียไปแล้วค่ะ
เสียอย่างที่ไม่น่าจะเสีย (นี่คงเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เราทำใจไม่ได้)

ตอนนี้เราคือคนไข้หมายเลข2 อย่างที่คุณว่า
เราพยายามทำใจและพยายามปล่อยวาง
แต่ยอมรับตรงๆ ว่า เรากลัวตัวเองจะกลายเป็นโรคซึมเศร้า
ออกไปข้างนอก พอนึกถึงแม่ นึกถึงภาพที่รพ.ก่อนที่แม่จะเสีย
มันทำให้เรามีน้ำตาทุกครั้ง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็เคยคิดว่าต้องมีวันนี้
ถึงขนาดที่บางวันแม่นอนไปยังต้องคอยมองว่าแม่ยังหายใจอยู่หรือเปล่า กลัวว่าท่านอยู่ๆจะหลับแล้วไม่ตื่น

แต่พอถึงวันที่แม่จากไปจริงๆ เรากลับทำใจไม่ได้
ไม่รู้สิ มีคนเคยบอกสั้นๆว่า ถ้าเป็นโรงพยาบาลรัฐบาล
เขาไม่ยื้อให้คุณหรอก --- คงจะจริงอย่างเขาว่า
โดย: 666 [7 พ.ย. 51 16:29] ( IP A:124.120.70.102 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ
โดย: GN+ [7 พ.ย. 51 16:46] ( IP A:117.47.40.54 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
   จากรายละเอียดที่ให้มาดูเหมือน คนไข้อาการหนักและหลายระบบจริงๆนะคะ ในทางการแพทย์ บ่อยๆที่เราตอบไม่ได้จริงๆค่ะว่าเพราะอะไรกันแน่แม้เราจะพยายามหาสาเหตุต่างๆแล้วก็ตามเพราะมันมีหลายปัจจัยที่ทำให้คนไข้แย่ลง ได้แต่ความน่าจะเป็นมากที่สุด ฟันธงไม่ได้จริงๆ อันนี้เป็นข้อเท็จจริงทางการแพทย์ที่เราก็ไม่อยากตอบคนไข้แบบนี้หรอก ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวคุณมากกว่านะคะ คิดว่าคุณแม่ของคุณคงอยากให้คุณมีความสุขมากกว่าทุกข์ใจนะคะ ถ้าท่านมองอยู่จากข้างบนท่านคงเป็นห่วงคุณเหมือนกับที่คุณห่วงท่าน บางครั้งหลายอย่างต้องใช้เวลา นึกถึงความทรงจำดีๆที่มีกับท่านแล้วยกมือและเข่าที่อ่อนล้าขึ้น เข้มแข็งแล้วเดินต่อไปดีกว่าค่ะ
โดย: Ex-doctor [15 พ.ย. 51 21:50] ( IP A:75.137.110.141 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   อาการเศร้าเสียใจอาจจะคงอยู่ได้นานถึง 6 เดือน ถ้าเกินนั้นต้องปรึกษาจิตแพทย์แล้วล่ะ
ขอให้โชคดี
โดย: nyhan [16 พ.ย. 51 19:40] ( IP A:125.27.147.151 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
   เสียใจด้วยจริงๆ ครับ
...แต่พออ่านความคิดเห็นที่ 14 ที่เต็มไปด้วยข้ออ้างเดิมๆ แล้ว
ก็ยังเสียใจอยู่ดีครับ...
โดย: วริต [16 พ.ย. 51 20:02] ( IP A:58.8.88.113 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
   เป็นอาการทางโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ระบบสมอง
ถ้ายังกินข้าวได้ อาจมีหวังและค่อยๆฟื้นฟูให้เร็ว
ลองมาปรึกษาก็ได้ครับ
หมอนิตย์ email: manitsripot@hotmail.com
https://www.healthsocity.org
โดย: manitsripot@hotmail.com [8 มิ.ย. 52 14:58] ( IP A:112.142.135.202 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน