[อารัมภบท : ตรงนี้เป็นส่วนของอารัมภบทนะครับ แต่ด้วยความที่ผมเขียนแล้วติดลมเลยยาวมาก ชอตัดยกไปต่อท้ายบทความแทน จะได้อ่านบทความกันเลย .... ] ผมเคยอ่านบทความทางเว็บเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ พูดถึงช่วงที่เรียกว่า Little Ice Age อยู่ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว โดยบทความนั้นพูดถึงเรื่องงานวิจัยที่ว่าระหว่างปี 1645 ถึง 1750 มีปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Little Ice Age ซึ่งมีผลทำให้ไม้ที่ Strad นำมาใช้ทำไวโอลินมีความพิเศษ คือมีความหนาแน่นสูงกว่าปรกติ จึงให้เสียงที่ผู้ทำไวโอลินในปัจจุบันไม่สามารถทำมาเทียบได้ ในหนังสือ The Strad เล่มล่าสุด เขาลงบทความนัยเป็นเชิงตอบโต้ทฤษฎีข้างต้น ว่าไม่เป็นเรื่องจริง โดยจั่วหัวไว้บนหน้าปกว่า "Wood Density : Myths Exploded" … อื่มม์ นี่แหละ น่าสนใจ ดูซิว่าเขาจะเถียงกันอย่างไร ไทยมุงอย่างผมชอบอยู่แล้วเวลาฝรั่งตีกันเนี่ย .. 555  ในบทความสั้นๆนี้เขาอธิบายการคำนวนหา Density ของไม้ หน้า/หลัง ของไวโอลินโดยใช้ CT Scan เพราะแน่ละ คงไม่มีใครยอมให้เฉือนเอาไม้ของ Strad Violin ไปวัดความหนาแน่นเอาตรงๆแน่ๆ และหลังจากคำนวนความหนาแน่นของไม้จาก Violin จำนวน 44 คัน เป็นที่ครึ้มอกครึ้มใจ ก็นำมาพล็อตเป็น Time Line ด้านล่าง จากนั้นสรุปโป้งเลย … "เห็นมั๊ยๆ … Density ของไม้ที่ Strad ใช้ ไม่ได้ประหลาดอะไรสักหน่อย ก็กระจัดกระจายเหมือนคนที่ Maker คนอื่นๆใช้นั่นแหละ … ที่สรุปและเชื่อกันผิดๆว่า Maker ยุคปัจจุบัน ไม่มีทางทำไวโอลินได้ดีเท่า Strad เพราะไม่มีวันมีไม้จากยุค Little Ice Age ให้ใช้อีกแล้วนั้น ไม่จริ๊ง !! ไม่จริง !!" โดยส่วนตัวผมยังไม่ถือหางข้างไหน ต้องให้ชัดก่อนว่าใครจะชนะค่อยตัดสินใจ แต่วิเคราะห์ว่า งานนี้ ยังงัย ยังงัย มีโอกาสเกิดดราม่าสูงแน่นอน คือถ้าผมเป็นนาย Henri Grissino-Mayer หรือนาย Lloyd Burckle สองนักวิจัยที่เสนอเรื่อง Little Ice Age มีผลกับไวโอลิน Strad ละก็ ผมจะไม่ยอมให้ใครมาชี้หน้าว่าผมสรุปมั่วๆด้วยข้อมูลสั้นๆแค่นี้แน่ ยกเว้นว่าตอนนั้นผมแค่อยากจะทำเล่มวิทยานิพนธิ์ให้จบๆไป เพื่อจะได้เอาปริญญาไปสมัครงานทำมาหากินเสียที แต่อาจารย์ที่ปรึกษายังงอแงไม่ยอมเลิกนั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตามระหว่างรอชมดราม่าระหว่างนักวิทยาศาสตร์สองขั้ว ผมพบว่ามีข้อมูลหนึ่งในบทความนี้น่าสนใจ คือระหว่างที่เขาวัด Density ของไม้แล้วพบว่ามันก็มีขึ้นๆลงๆตามสภาพ แล้วแต่ว่าเถ้าแก่โรงไม้จะให้คนงานแบกซุงต้นใหนมาส่งหน้าบ้านของ Strad ก็ตาม แต่หากลองเทียงสัดส่วนของ Density ระหว่างไม้แผ่นหน้าและแผ่นหลังดู จะพบตัวเลขที่น่าสนใจว่า อัตราส่วนความหนาแน่นของไม้ หน้า:หลัง จะอยู่ที่ประมาณ 1:1.5 เกือบทุกครั้ง (ตัวเลขจริงคือ 1:1.48 +/-0.15) เขาเลยมีสมมุติฐานว่า ปรมาจารย์รุ่น Strad นั้น แม้จะไม่ได้เลือก Density ของไม้โดยตรงเสียทีเดียว แต่น่าจะเลือกสัดส่วนความหนาแน่นระหว่างไม้แผ่นหน้าและไม้แผ่นหลังเป็นแน่แท้ คือไม้แผ่นหลังจะต้องหนักว่าไม้แผ่นหน้า ประมาณ 50% เสมอ ตัวเลขนี้ผมว่าน่าสนใจส่วนเรื่องอื่นให้เขาทะเลาะกันไป แล้วคอยตามๆดูเพื่อความบันเทิง 555  |