ในปี 1836 เขาเดินทางไปยังอังกฤษ โดยนำบทประพันธ์ Military Concerto ของตนออกแสดงร่วมกับวง Royal Philharmonic Orchestra ในเดือนมิถุนายนปี 1839 เขาได้รับการว่าจ้างงานถึง 2 งานที่เมืองเดรสเดรน ทั้งในฐานะหัวหน้าวง Royal Oratory และหัวหน้าวงดนตรีประจำโบสถ์ (Kapellmeister) ที่โบสถ์ประจำราชสำนักของเมืองเดรสเดรน ด้วยภาระหน้าที่ในเมืองเดรสเดรนที่รัดตัว เขาจึงงดการออกทัวร์คอนเสิร์ทในฐานะนักเดี่ยวไวโอลิน แต่หันมาเน้นดนตรีแชมเบอร์มิวสิคแทน โดยเฉพาะบทเพลงสตริงควอเต็ทของ Beethoven นอกจากนั้นเขายังมีโอกาสได้ร่วมแสดงรีไซทัลกับ Franz Liszt โดยเล่นเพลง Kreutzer Sonata ของ Beethoven ที่เมืองนี้อีกด้วย
Lipinski ยิ่งมีชื่อเสียงในฐานะคู่แข่งคนสำคัญเพียงหนึ่งเดียวของ Paganini นักไวโอลินเอกและนักประพันธ์ชาวโปล Henryk Wieniawski ได้อุทิศบทประพันธ์ Polonaise Brilliant in D ให้กับเขาในปี 1861 เขาเกษียณตัวเองโดยได้รับเงินบำนาญ และถึงแก่กรรมที่หมู่บ้าน Virlov (ในเขต Ternopil ประเทศยูเครน)
Lipinski มีไวโอลิน 2 คัน คันแรกเป็นไวโอลินปี 1715 ฝีมือของ Antonio Stradivari ส่วนอีกคันเป็นฝีมือของ Giuseppe Guarneri del Gesu ไวโอลินทั้ง 2 คันต่างได้ชื่อว่า "Ex-Lipinski"
บทประพันธ์ที่เขาแต่งขึ้นถูกลืมเลือนไปนานแล้ว แต่ปัจจุบันเริ่มถูกนำมาบันทึกแผ่นเสียงมากขึ้น ซึ่งรวมถึงไวโอลินคอนแชร์โตจำนวน 4 บท แบบฝึกหัดต่างๆ บทเพลง Polonaise, Rondo, Variation และ Capriccio เขาเขียนซิมโฟนีขึ้น 3 บท เพลงที่เขาดัดแปลงขึ้น ซึ่งบางส่วนเป็นเพลงที่เขาเขียนขึ้นเองแต่เรียบเรียงขึ้นใหม่ เช่น บทเพลง Donauweibchen ของ Ferdinand Kauer นักเปียโนและนักประพันธ์ชาวออสเตรีย ถูกนำไปเล่นที่เมือง Lwow เป็นประจำทุกๆ ปีเป็นเวลาเกือบๆ 30 ปีมาแล้วนับตั้งแต่ปี 1814 แต่ปัจจุบันธรรมเนียมดังกล่าวได้ยกเลิกไปแล้ว มหาวิทยาลัย Karol Lipinski University of Music ใน Wrocław ประเทศโปแลนด์ ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติกับเขา