ผลงานบันทึกเสียงของท่านเช่นคอนแชร์โตบทต่างๆ ของ Brahms, Beethoven, Mendelssohn และผลงานของคีตกวีท่านอื่นๆ เช่นเดียวกับผลงานของคีตกวีร่วมสมัยเช่น Samuel Barber, Bela Bartok, Igor Stravinsky และ Leonard Bernstein นอกจากนั้นท่านยังมีผลงานด้านภาพยนตร์โดยเล่นให้เสียงไวโอลินแทนนักแสดงในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น ภาพยนตร์เรื่อง "Fiddler on the roof" ท่านเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2001
โดย: - [19 ม.ค. 49 14:26] ( IP A:202.12.74.6 X: )
ความคิดเห็นที่ 1 'Ysaÿe' ไวโอลินปี 1740 ฉลากเป็นของเดิม ด้านหลังเป็นไม้แผ่นเดียว มันคือสุดยอดไวโอลินคอนเสิร์ทตลอดอย่างแท้จริง ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในมือของยอดนักไวโอลินที่มีชื่อเสียงคือ Eugene Ysaye (1858-1931) และ Isaac Stern (1920-2001) ในปี 1928 ในขณะที่ช่างซ่อมไวโอลิน Joseph Hel แห่ง Lille ทางกำลังลงมือซ่อมอยู่นั้น Ysaye ได้ขอให้เขาทำฉลากอีกอันติดไว้ข้างในมีข้อความว่า " De Del Jesus fut le fidele compagnone de ma vie" (ไวโอลินตัวนี้คือเพื่อนแท้ในชีวิตของฉัน) ซึ่งยังคงติดอยู่ควบคู่กับฉลากของเดิมฝีมือของ Guarneri del Gesu และไม่เคยถูกรบกวนใดๆ เลย ปัจจุบันไวโอลินตัวนี้อยู่ในความครอบครองของมูลนิธิ Nippon Music Foundation ซึ่งซื้อไปเมื่อปี 1998
โดย: - [19 ม.ค. 49 14:28] ( IP A:202.12.74.8 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
โดย: - [19 ม.ค. 49 14:28] ( IP A:202.12.74.6 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
โดย: - [19 ม.ค. 49 14:29] ( IP A:202.12.74.5 X: )
ความคิดเห็นที่ 4 Isaac Stern Isaac Stern นักไวโอลินชั้นนำชาวอเมริกัน-รัสเซีย ท่านเกิดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 1920 ที่เมือง Kremenetz ในยูเครน และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2001 ที่นิวยอร์คเนื่องจากหัวใจล้มเหลว
ครอบครัวของท่านอพยพไปตั้งรกรากที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เขายังเล็กๆ ในตอนแรกท่านเรียนเปียโนก่อนที่จะเปลี่ยนมารียนไวโอลินเมื่ออายุ 10 ขวบ หลังจากที่เข้าศึกษาในสถาบันการดนตรี San Francisco Conservatory ท่านได้เรียนกับอาจารย์คนสำคัญคือ Naoum Blinder และยังได้เรียนเพิ่มเติมกับ Louis Persinger ในขณะที่ยังอยู่ในวัยเยาว์นั้น ท่านออกแสดงเดี่ยวและแสดงร่วมกับวงออร์เคสตร้าอยู่หลายครั้ง พออายุได้ 17 ปี ท่านออกแสดงเดี่ยวที่นิวยอร์คเป็นครั้งแรกที่ Town Hall เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 1937 แต่ต้องรอจนกระทั่งการแสดงครั้งแรกของท่านที่ Carnegie Hall เมื่อวันที่ 8 มกราคม 1943 ชื่อเสียงของท่านจึงเริ่มเป็นที่รู้จัก หลังจากนั้นท่านออกแสดงทั้งในฐานะนักแสดงเดี่ยวและนักเดี่ยวไวโอลินร่วมกับวงออร์เคสตร้าตามเมืองสำคัญๆ ของสหรัฐฯ
หลังจากที่ท่านออกทัวร์คอนเสิร์ตในยุโรปเป็นครั้งแรกในงานเทศกาลดนตรี Lucerne Festival ในปี 1948 ท่านได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก และออกทัวร์คอนเสิร์ตในสหภาพโซเวียตเมื่อปี 1956 ต่อมาในปี 1961 ท่านได้ก่อตั้งวง Trio ร่วมกับนักเปียโน Eugene Istomin และนักเชลโล Leonard Rose ถือเป็นวง Trio ชั้นนำวงหนึ่งในยุคนั้นจวบจนกระทั่ง Rose เสียชีวิตในปี 1983
ในปี 1968 ท่านได้ฉลองครบรอบ 25 ปีของการแสดงครั้งแรกของท่านที่ Carnegie Hall และนับแต่นั้นเป็นต้นมาชื่อเสียงของท่านไม่เคยตกเลย ท่านเดินทางไปยังประเทศจีนในปี 1979 และร่วมปรากฏตัวในภาพยนตร์สารคดี FROM MAO TO MOZART: ISAAC STERN IN CHINA เรื่องราวของท่านถูกถ่ายทอดไว้ในภาพยนตร์สารคดีชุด ISAAC STERN: A LIFE (ปี 1991) กว่า 60 ปีในอาชีพนักดนตรีที่ยาวนานของท่านนั้น ท่านเชื่อมั่นในหลักการที่ว่าฝีมือและความชำนาญของคนที่มีชื่อเสียงนั้น คือส่วนประกอบของพรสวรรค์และความพากเพียรที่ผสานเข้าด้วยกัน การแสดงของท่านมีความหลากหลาย ทั้งผลงานของนักประพันธ์ชั้นยอดในอดีตและนักประพันธ์ร่วมสมัยอีกหลายคน
นอกเหนือจากงานด้านดนตรีแล้ว ท่านยังมีบทบาทอย่างสูงในการส่งเสริมกิจกรรมทางวัฒนธรรมและสิทธิมนุษยชน เมื่อ Carnegie Hall ประสบปัญหาที่จะถูกรื้อถอนในปี 1960 ท่านเป็นตัวตั้งตัวตีในความพยายามที่จะอนุรักษ์อาคารประวัติศาสตร์แห่งนี้เอาไว้สำหรับคนรุ่นหลัง หลังจากนั้นท่านได้ดำรงตำแหน่งประธานของโครงการดังกล่าว
Stern ได้รับเกียรติยศต่างๆ มากมาย ในปี 1979 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกของ Legion d'honneur ของฝรั่งเศส ในปี 1984 ได้รับรางวัลเกียรติยศ Kennedy Center Honors Award ในปี 1987 ได้รับรางวัล Wolf Prize of Israel ในปี 1992 ได้รับรางวัล Presidential Medal of Freedom จากประเทศสหรัฐอเมริกา และในปี 2000 ได้รับรางวัล Polar Music Award of Sweden จากประเทศสวีเดน และในปี 1999 ท่านได้ตีพิมพ์หนังสืออัตชีวประวัติของตนเองที่ชื่อ ISAAC STERN: MY FIRST 79 YEARS ท่านอาศัยอยู่ในรัฐคอนเนคติกัท มีบุตร 3 คนและมีหลาน 5 คน ไวโอลินคู่ใจของท่านเป็นฝีมือของ Guarneri del Gesu
ความคิดเห็นที่ 7 ไวโอลินของ Isaac Stern - Guarneri del Gesu (1737) "The Vicomte de Panette" ซึ่ง Stern ซื้อมาเมื่อปี 1947 ก่อนที่จะขายไปในปี 1994 หลังจากนั้นในปี 1996 Vadim Repin ได้ขอยืมไวโอลินตัวนี้จาก Mr. David Fulton เพื่อใช้บันทีกแผ่นเสียงผลงานเพลงของ Ravel และโซนาต้าของ Medtner - Guarneri del Gesu (1740) เคยเป็นไวโอลินคู่ใจของ Eugene Ysaye มาก่อน มีข้อความที่เขียนบนไวโอลินโดยนักดนตรีชาวเบลเยี่ยมผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ว่า " This violin was the faithful companion of my career" ผู้ที่เป็นเจ้าของคนต่อมาคือ Charles Munch หลังจากนั้น Stern ได้ขอซื้อต่อในปี 1965 นักไวโอลินผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 2 ท่านคือลอร์ด Yehudi Menuhin และ Ivry Gitlis ต่างก็เคยใช้ไวโอลินตัวนี้เช่นกัน - Stradivari (1721) "The Kruse" ตั้งชื่อตามเจ้าของเดิมคือ Rodolphe Kreutzer - Carlo Bergonzi เจ้าของเดิมคือ Paavo Berglund - G. B. Guadagnini (1750) - G. B. Guadagnini (1754) เจ้าของเดิมคือ Boris Belkin - J. B.Vuillaume (1846) "The Tsar"