Julia Fischer
    Julia Fischer
Fischer เกิดเมื่อปี 1983 ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน เธอได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเดี่ยวไวโอลินชั้นนำของโลกในยุคปัจจุบัน ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังมาแล้วทั่วโลก เธอมีโอกาสได้ร่วมงานกับวาทยกรที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ Lorin Maazel, Christoph Eschenbach, Yakov Kreizberg, Yuri Temirkanov, เซอร์ Neville Marriner, David Zinman, Jun Markl, Ruben Gazarian, Marek Janowski, Jeffrey Tate, Herbert Blomstedt, Michael Tilson Thomas รวมถึงวงออร์เคสตร้าชั้นนำของประเทศต่างๆ เช่น เยอรมัน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร โปแลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ นอรเวย์ รัสเซีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเชคและสโลวัค ซึ่งเธอมีโอกาสได้แสดงคอนเสิร์ทในประเทศยุโรปมาแล้วเกือบทุกประเทศ รวมถึงประเทศสหรัฐอเมริกา บราซิล และญี่ปุ่น เป็นการแสดงที่ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และวิทยุในประเทศสำคัญๆ ของยุโรป เช่นเดียวกับรายการโทรทัศน์และวิทยุที่สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย

ในปี 2003 ซึ่งครบรอบ 6 ปีที่ Fischer ออกแสดงคอนเสิร์ทในสหรัฐอเมริกา ในวาระพิเศษอันนี้เธอได้ออกแสดงเดี่ยวไวโอลินร่วมกับวง New York Philharmonic ภายใต้การควบคุมวงของ Lorin Maazel ซึ่งเธอบรรเลงบทเพลง Violin concerto ของ Sibelius ที่ Lincoln Center ในนิวยอร์ค รวมถึงบทเพลง Violin concerto ของ Mendelssohn ที่ Vail การแสดงของเธอครั้งแรกที่ Carnegie Hall ในปี 2003 ได้รับการยืนปรบมือจากผู้ชมอย่างกึกก้อง ซึ่งเธอเดี่ยวไวโอลินในเพลง Double concerto ของ Brahms ร่วมกับ Han–Na Chang และวง Bavarian Radio Symphony Orchestra โดยมีเซอร์ Lorin Maazel เป็นวาทยกรคือ นอกจากนั้นเธอยังออกทัวร์คอนเสิร์ทร่วมกับ เซอร์ Neville Marriner และวง Academy of St. Martin in the Fields รวมถึงวาทยกร Herbert Blomstedt กับวง Gewandhaus Orchestra, Royal Philharmonic Orchestra และวง Dresden Philharmonic


เพื่อนๆ สมาชิกในวงแชมเบอร์ของเธอได้แก่ Christoph Eschenbach, Jean–Yves Thibaudet, Daniel Muller–Schott, Tabea Zimmermann, Gustav Rivinius, Lars Vogt, Oliver Schnyder และ Milana Chernyavska


ในฤดูใบไม้ผลิปี 2004 บริษัทแผ่นเสียง PentaTone ได้ออกผลงานชุดแรกของเธอในอัลบั้มที่ชื่อ Russian violin concertos ร่วมกับวาทยกร Yakov Kreizberg และวง Russian National Orchestra ซึ่งได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างดี ที่ประเทศเยอรมันนั้น ผลงานของเธอติดอันดับขายดี 5 อันดับแรกในกลุ่มอัลบั้มเพลงคลาสสิกในเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น และได้รับเลือกเป็น "Editor's Choice" จากนิตยสาร Gramophone เมื่อเดือนมกราคมปี 2005

Fischer เริ่มเรียนไวโอลินครั้งแรกก่อนวันเกิดครบรอบ 4 ขวบของเธอเสียอีก ซึ่งเธอเริ่มเรียนไวโอลินครั้งแรกกับ Helge Thelen และ 2-3 เดือนต่อมาเธอเริ่มเรียนเปียโนกับ Viera Fischer แม่ของเธอ และเริ่มเรียนไวโอลินอย่างจริงจังที่สถาบันการดนตรี Leopold Mozart Conservatory ที่เมือง Augsburg ภายใต้การสอนของ Lydia Dubrowskaya พออายุได้ 9 ขวบเธอได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาในสถาบันการดนตรี Munich Academy of Music ผู้ที่อาจารย์ของเธอคือ Ana Chumachenco


รายการแข่งขันไวโอลินที่มีชื่อเสียงต่างๆ ที่เธอเคยชนะเลิศได้แก่ การแข่งขันไวโอลินในรายการ International Yehudi Menuhin Violin Competition ภายใต้การดูแลของ ลอร์ด Yehudi Menuhin เธอได้รับทั้งรางวัลชนะเลิศและรางวัลพิเศษสำหรับการเดี่ยวไวโอลินบทเพลงของ Bach ซึ่งเธอได้รับรางวัลดังกล่าวเมื่อปี 1995 และรางวัล Eighth Eurovision Competition for Young Instrumentalists ในปี 1996 จัดขึ้นที่กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส และออกอากาศไป 22 ประเทศในยุโรป และในปี 1997 เธอได้รับรางวัล “ Prix d‘Espoir ” ที่จัดโดยมูลนิธิ Foundation of European Industry

งานดนตรีของเธอมีความหลากหลาย ตั้งแต่ Bach ไปจนถึง Penderecki และจาก Vivaldi ไปจนถึง Shostakovitch ประกอบด้วยงานออร์เคสตร้ากว่า 40 ชิ้น และแชมเบอร์มิวสิคอีกกว่า 60 บทด้วยกัน

Julia Fischer ใช้ไวโอลินปี 1750 ฝีมือของ Jean Baptiste (Giovanni Battista) Guadagnini ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ไวโอลิน Otto Booth, Cho-Ming Sin ที่ทำขึ้นในปี 1716 ฝีมือของ Antonio Stradivari โดยมูลนิธิ Nippon Music Foundation เป็นผู้ให้เธอยืมใช้ตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา

โดย: - [26 ส.ค. 49 12:18] ( IP A:202.12.74.6 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 2
    'Booth' ไวโอลินปี 1716
ไวโอลิน Stradivari ปี 1716 มีชื่อเสียงทั้งในเรื่องของความไพเราะและพลังเสียงที่ดังกังวานของมัน ในปี 1855 ไวโอลินตัวนี้อยู่ในความครอบครองของมาดาม Booth สุภาพสตรีชาวอังกฤษ ซึ่งเธอพยายามก่อตั้งวงควอเต็ทให้ Otto Booth ลูกชายของเธอโดยใช้เครื่องดนตรีของ Stradivari ทั้งหมด ต่อมาในปี 1889 บุตรชายของเธอได้ขายไวโอลินตัวนี้ออกไป และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไวโอลินตัวนี้ได้ถูกนำออกแสดงคอนเสิร์ททั่วโลก ในปี 1931 ไวโอลินได้เปลี่ยนมือไปอยู่กับ Mischa Mischakoff (1896-1981) นักไวโอลินที่มีชื่อเสียงชาวอเมริกัน หลังจากนั้นในปี 1961 มันได้ตกไปอยู่ในครอบครองของตระกูล Hottinger ที่นิวยอร์ค และในเดือนมกราคมปี 1999 ทาง NFM จึงได้ซื้อไวโอลินมาเป็นกรรมสิทธิ์ ผู้ที่ได้สิทธิ์ในการยืมไวโอลินตัวนี้คือ Julia Fischer ซึ่งเธอใช้มาตั้งแต่ปี 2005

โดย: - [26 ส.ค. 49 12:47] ( IP A:202.12.74.6 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
    J.B. Guadagnini (Piacenza period)
ปัจจุบัน Fischer ใช้ไวโอลิน J.B. Guadagnini ที่ทำขึ้นในราวปี 1742 ซึ่งเธอซื้อมาเมื่อปี 2004 ก่อนหน้านั้นตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา เธอใช้ไวโอลิน ‘Booth’ Stradivari ปี 1716 ที่เธอยืมมาจากมูลนิธิ Nippon Music Foundation และผู้ที่ใช้ไวโอลินตัวนี้ก่อนหน้าเธอคือ Iona Brown นักไวโอลินและวาทยการสาวชาวอังกฤษ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2004 และก่อนที่เธอจะได้สิทธิในการใช้ Stradivari เธอเคยใช้ไวโอลินของ Guarneri del Gesu และ Gagliano เธอมีคันชัก 2 คน อันแรกเป็นคันชักที่เลียนแบบคันชักของ Heifetz ฝีมือของ Tourte ซึ่งทำโดย Thomas Gerbeth ช่างทำคันชักชาวเวียนนา ส่วนอีกอันเป็นคันชักฝรั่งเศสของ Tourte

โดย: - [18 ต.ค. 51 9:58] ( IP A:203.170.144.1 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
    ไวโอลิน J.B. Guadagnini ทำขึ้นในราวๆ ปี 1742 (Piacenza period)

โดย: - [18 ต.ค. 51 10:01] ( IP A:203.170.144.1 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน