|
| | Elmar Oliveira Oliveira ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักไวโอลินชั้นแนวหน้าในของยุคปัจจุบัน ด้วยการผสมผสานระหว่างความเป็นศิลปินที่สมบูรณ์และความสง่างามงามในแบบของเขา นอกจากน้นเขายังเป็นศิลปินเพียงไม่กี่คนที่เผยแพร่ผลงานเพลงไวโอลินในหลากหลายสไตล์ ซึ่งเขามักจะข้ามพรมแดนของบทเพลงคลาสสิกโดยสนับสนุนบทประพันธ์ร่วมสมัยและงานในอดีตที่หาฟังได้ยาก อุทิศแรงกายเพื่อพัฒนานักดนตรีรุ่นใหม่ในอนาคต และคอยสนับสนุนศิลปะการทำไวโอลินและคันชักของช่างร่วมสมัยอยู่เสมอๆ
ในบรรดานักดนตรีร่วมสมัยด้วยกันแล้ว เขาเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่ง และยังเป็นนักดนตรีชาวอเมริกันคนแรกและเพียงคนเดียวที่ชนะเลิศการแข่งขันรางวัลเหรียญทองการแข่งขันไวโอลินในรายการ Tchaikovsky International Competition ที่กรุงมอสโคว์ และยังเป็นนักไวโอลินคนแรกที่ได้รับรางวัล Avery Fisher Prize อันเป็นที่ปรารถนาของนักดนตรีทุกคน นอกจากนั้นเขายังได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันไวโอลินในรายการ Naumburg international Competition และรายการ G.B. Dealey Competition
ชื่อของ Oliveira เริ่มเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในแวดวงคอนเสิร์ทระดับโลก เขาออกแสดงคอนเสิร์ทระดับนานาชาติอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการแสดงรีไซทัลและออกแสดงร่วมกับวงออร์เคสตร้าชั้นนำของโลกมากมาย เช่น วง Zurich Tonhalle, Cleveland, Philadelphia, Leipzig, Gewandhaus Orchestras, New York, Helsinki, Los Angeles และ London Philharmonic Orchestras และวง the San Francisco, Saint Louis, Boston และวง Chicago Symphony Orchestra
นอกจากนั้นเขายังออกแสดงในตะวันออกไกล ทวีปอเมริกาใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์อีกด้วย ผลงานล่าสุดของเขารวมถึงการร่วมแสดงในเทศกาลดนตรี Amelia Island Festival, Chamber Music Northwest และออกแสดงร่วมกับวงออร์เคสตร้าของเมืองต่างๆ เช่น Detroit, Rochester, Honolulu, Seattle, Chattanooga, Puerto Rico และเมือง Buffalo และเป็นศิลปินรับเชิญร่วมแสดงเดี่ยวไวโอลินให้กับวง Chamber Music Society of Lincoln Center รวมถึงการแสดงรีไซทัลอีกหลายครั้ง
| โดย: - [3 ม.ค. 50 13:20] ( IP A:202.12.74.7 X: ) |  |  | | |
ความคิดเห็นที่ 1 Oliveira ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากผลงานชุด Barber Concerto ที่เขาบันทึกแผ่นเสียงร่วมกับวาทยกร Leonard Slatkin และวง Saint Louis Symphony เขามีผลงานการบันทึกเสียงร่วมกับสังกัดต่างๆ เช่น Artek, Angel, SONY Masterworks, Vox, Delos, IMP, Naxos, Ondine และ Melodiya ซึ่งงานที่เขาเลือกมาบันทึกเสียงมีความหลากหลาย ตั้งแต่ผลงานของ Bach และ Vivaldi ไปจนถึงผลงานร่วมสมัย ผลงานที่ขายดีของเขาคืออัลบั้มชุด Rautavaara Violin Concerto ที่บรรเลงร่วมกับวง Helsinki Philharmonic ภายใต้สังกัด Ondine ซึ่งได้รับรางวัล Cannes Classical Award และได้รับเลือกจากสังกัดแผ่นเสียง Gramophone ให้เป็น Editors Choice รวมถึงติดอยู่ในรายชื่อแผ่นเสียงยอดเยี่ยมจากสถาบันต่างๆ ทั่วโลกอีกด้วย
ผลงานการบันทึกเสียงอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงได้แก่ -อั ลบั้มชุด Brahms & Saint-Saens B minor Concerti ร่วมกับวาทยกร Gerard Schwarz และวง Seattle Symphony (สังกัด Artek) - อัลบั้ม Respighi B minor & Pizzeti A Major Violin Sonatas (สังกัด Artek) - อัลบั้ม Favorite Encores ร่วมกับนักเปียโน Robert Koenig (สังกัด Artek) - อัลบั้ม The three Brahms Sonatas ร่วมกับนักเปียโน Jorge Federico Osorio (สังกัด Artek) - อัลบั้ม Joachim Concerto in the Hungarian Manner ร่วมกับวง London Philharmonic (สังกัด IMP) - อัลบั้ม Tower Concerto (เขียนขึ้นเพื่อมอบให้กับเขา) ร่วมกับวง Louisville Orchestra (สังกัด dNote) - อัลบั้ม Chausson Concerto for Violin & String Quartet & Lekeu Sonata (สังกัด Biddulph)
ส่วนผลงานเพลงที่ถือเป็นประวัติศาสตร์ได้แก่อัลบั้มซีดีเพลงชุดพิเศษที่เขาทำร่วมกับ Bein & Fushi แห่งชิคาโก ซึ่ง Oliveira บันทึกแผ่นเสียงโดยใช้ไวโอลินชั้นเยี่ยมของโลกโดยใช้ไวโอลินฝีมือของ Stradivari 15 คัน และไวโอลินฝีมือของ Guarneri del Gesus อีก 15 คัน และอัลบั้ลผลงานเพลงชิ้นสั้นๆ ที่บรรเลงโดยใช้ไวโอลินชั้นยอด สมบัติสะสมของห้องสมุดสภาคองเกรส (Library of Congress) ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
Oliveira เกิดในครอบครัวผู้อพยพชาวโปรตุกีส เขาเริ่มเรียนไวโอลินร่วมกับ John พี่ชายของเขาเมื่ออายุเพียง 9 ขวบเท่านั้น ต่อมาเขาได้ศึกษาต่อในระดับสูงกับ Ariana Bronne และ Raphael Bronstein ที่วิทยาลัยการดนตรี Hartt College of Music และโรงเรียนดนตรี Manhattan School of Music ซึ่งเขาได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจากทางสถาบัน ส่วนรางวัลเกียรติยศอื่นๆ ได้แก่ รางวัลเชิดชูเกียรติจากมหาวิทยาลัย Binghamton University และรางวัลเครื่องราชอิสริยาภรณ์ Order of Santiago ซึ่งเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดที่รัฐบาลโปรตุเกสที่มอบให้กับพลเรือน นอกจากนั้นเขายังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตัดสินการแข่งขันไวโอลินที่มีชื่อเสียง เช่น การแข่งขันไวโอลินในรายการ Montreal, Indianapolis, Naumburg และ Vianna da Motta เขาใช้ไวโอลิน Stretton ที่ทำขึ้นในราวๆ ปี 1729-1730 ฝีมือของ Giuseppe Guarneri del Gesu รวมถึงไวโอลินอื่นๆ ที่มำจากฝีมือของช่างร่วมสมัยที่มีชื่อเสียง
ปัจจุบันเขาพำนักและเป็นอาจารย์สอนไวโอลินอยู่ที่มหาวิทยาลัย Lynn University Conservatory of Music ที่เมือง Boca Raton รัฐฟลอริดา | โดย: - [3 ม.ค. 50 13:24] ( IP A:202.12.74.7 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 Stretton แม้ว่าฉลากจะระบุปี 1726 ก็ตาม แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าไวโอลินตัวนี้ทำขึ้นหลังจากนั้น 2-3 ปี ไม้แผ่นหลังทำจากไม้ท่อนเดียวกับไวโอลิน 'Kreisler' ที่ทำขึ้นในราวๆ ปี 1730
| โดย: - [3 ม.ค. 50 13:41] ( IP A:202.12.74.8 X: ) |  |
|