30violin.pantown.com
ยอดนักไวโอลิน <<
กลับไปหน้าแรก
Pierre Amoyal
Pierre Amoyal
Amoyal เกิดเมื่อปี 1949 ที่กรุงปารีส เขาเริ่มเรียนไวโอลินเพราะที่บ้านไม่มีห้องสำหรับตั้งเปียโน เขาศึกษาด้านไวโอลินที่สถาบันการดนตรี Paris Conservatoire และจบการศึกษาโดยได้รับรางวัลที่หนึ่ง Premier Prix จากทางสถาบันเมื่ออายุเพียง 12 ขวบเท่านั้น หลังจากนั้นเขาได้ทุนเรียนไวโอลินกับ Roland Charmy และเมื่ออายุได้ 17 ปี เด็กมหัศจรรย์ผู้นี้ได้เดินทางไปยังลอสแอนเจลิสเพื่อเรียนไวโอลินอย่างจริงจังกับ Jascha Heifetz สุดยอดนักไวโอลินของ 20 ผู้เป็นตำนาน เขาใช้เวลาศึกษาไวโอลินกับ Heifetz อย่างจริงจังนานถึง 5 ปี ก่อนที่ทั้งคู่จะมีโอกาสออกแสดงคอนเสิร์ทแบบแชมเบอร์มิวสิคด้วยกัน และมีผลงานบันทึกแผ่นเสียงร่วมกับยอดนักเชลโลคือ Gregor Piatigorski เขามีโอกาสบันทึกแผ่นเสียงกับสังกัด Erato ก่อนที่จะมีผลงานกับบริษัทอื่นๆ ตามมา
ในช่วงที่เขาอายุได้ 22 ปี เขาออกทัวร์คอนเสิร์ทในยุโรปเป็นครั้งแรกร่วมกับ เซอร์ Georg Solti วาทยกรชั้นนำ และวง Orchestre de Paris ตามมาด้วยการออกทัวร์คอนเสิร์ทตามเมืองสำคัญของยุโรปหลายๆ เมือง รวมถึง สหรัฐอเมริกา คานาดา เม็กซิโก อเมริกาใต้ และประเทศในแถบตะวันออกไกล Amoyal มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับวาทยกรคนสำคัญในวงการดนตรีคลาสสิกช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา อาทิ Karajan, Ozawa, Boulez, Maazel, Solti, Pretre, Sanderling, Roshdestvensky, Rattle และ Mung Whun Chung ซึ่งนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น การแสดงครั้งแรกของเขาร่วมกับวง Berlin Philharmonicที่กรุงเบอร์ลิน โดยมี Karajan เป็นผู้อำนวยเพลงนั้น ทำให้เขามีโอกาสออกแสดงคอนเสิร์ทอื่นๆ ร่วมกับทางวงอีกหลายครั้ง เช่น การแสดงคอนเสิร์ท German premier of the Dutilleux Concerto ร่วมกับวาทยกรคือ Lorin Maazel หลังจากนั้นในปี 1985 เขาออกแสดงรีไซทัลที่ Carnegie Hall เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับคำวิจารณ์ที่ดีและความชื่นชมเป็นอย่างมาก
ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มผู้รักเสียงเพลง เขามีโอกาสได้ร่วมงานกับวาทยกรและวงออร์เคสตร้าชั้นนำมากมาย ณ สถานที่แสดงคอนเสิร์ทสำคัญๆ ทั่วทุกมุมโลก นอกจากนั้นเขายังเป็นนักดนตรีผู้โชคดีที่มีโอกาสได้ครอบครองไวโอลินที่ดีที่สุดเท่าที่เคยสร้างกันมา นั่นคือไวโอลิน "Kochanski" ที่มีชื่อเสียง ฝีมือของ Stradivari ที่เคยถูกขโมยไปจากเขาเมื่อปี 1987 และถูกค้นพบอย่างปาฏิหารย์ในอีก 4 ปีต่อมา โดยหน่วยตำรวจ "Carabinieri" ของอิตาลี
ในปี 1977-1986 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์ที่สถาบันการดนตรี Paris Conservatoire และเขาเป็นนักดนตรีที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ทางดนตรีของสถาบันแห่งนี้ หลังจากนั้นเขาได้ย้ายไปพำนักยังสวิสเซอร์แลนด์ ปัจจุบันเขาสอนอยู่ที่สถาบันการดนตรี Lausanne Conservatory ที่เมืองโลซานน์ นอกจากนั้นเขายังริเริ่มทำหนังสือนิยายเกี่ยวกับดนตรี โดยอุทิศให้กับบทเพลงไวโอลินและเปียโน ซึ่งทำออกเป็นรายปีร่วมกับ Bruno Canino
โดย: - [9 ก.พ. 50 1:32] ( IP A:202.12.74.8 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
ไวโอลิน Kochanski ปี 1717
Pierre Amoyal ใช้ไวโอลิน Kochanski ปี 1717 ฝีมือของ Antonio Stradivari ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในไวโอลิน Stradivari ที่สวยที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ไวโอลินตัวนี้เคยเป็นสมบัติของพระเจ้า Tsar Nicolas II แห่งรัสเซียมาก่อน เมื่อการปฏิวัติในรัสเซียเริ่มขึ้น พระองค์ได้มอบไวโอลินตัวนี้ให้กับ Pavel Kochanski นักไวโอลินชาวโปล เพื่อต้องการให้ไวโอลินตัวนี้ปลอดภัย Kochanski จึงพยายามหนีออกจากรัสเซียโดยขบวนรถไฟที่บรรทุกสัตว์ เขาหนีไปกับ Artur Rubinstein เพื่อนสนิทที่เป็นนักเปียโน เมื่อรถไฟถูกสั่งให้หยุดโดยทหารของคณะปฏิวัติ Kochanski จึงอาศัยปฏิภาณโดยการเล่นไวโอลินเพลงของพวกปฏิวัติด้วยไวโอลินของเขา ซึ่งช่วยให้ทั้งคู่รอดชีวิตมาได้
Amoyal กล่าวว่า เมื่อเขาได้ไวโอลิน "Kochankski" มาครอบครองในอีกหลายทศวรรษหลังจากนั้น ทุกๆ คนต่างคิดว่าเขาต้องเสียสติแน่ๆ เพราะว่าในเวลานั้นมันเป็นเรื่องที่เหนือความสามารถของเขาโดยสิ้นเชิง แต่สำหรับเขาแล้วมันคือความฝันอันเหลือเชื่อที่กลายมาเป็นความจริง และเป็นสิทธิพิเศษของเขาที่สามารถแสดงออกถึงตัวตนผ่านสายทั้ง 4 และไม้เพียงไม่กี่ชิ้นที่นำมาประกอบเข้าด้วยกันอย่างมหัศจรรย์โดยอัจฉริยะผู้หนึ่ง
Amoyal ปล่อยให้ความฝันของเขาดำเนินต่อไป ทั้งจากการที่ได้เรียนกับ Heifetz และกับอาชีพที่เขาใฝ่ฝัน จนกระทั่งความฝันอันนั้นต้องพังทลายลง เมื่อไวโอลินคู่ใจของเขาถูกขโมยไปในขณะที่เขาเดินทางไปอิตาลี เขากล่าวว่า มันเป็นเหมือนภาพฝันร้ายจากหนังสยองขวัญเลยทีเดียว คนที่ขโมยไปได้ยินมาว่า มันเป็นไวโอลินของ Stradivari ที่มีชื่อเสียงและมีค่ามากตัวหนึ่ง และเชื่อว่าจะขายมันได้ราคางาม นอกจากนั้นชายผู้นี้ยังเกี่ยวข้องกับการค้ายาอีกด้วย แต่เขาถูกลอบสังหารใน 2-3 เดือนต่อมา แต่ก็หลังจากที่เขาขายไวโอลินตัวนี้ให้กับนายหน้าค้าของเก่าคนหนึ่งไปแล้ว ซึ่งก็คิดว่าตนเองสามารถหาตลาดมืดปล่อยของได้ราคาดีเช่นเดียวกัน แต่หลังจากที่เขาพยายามปล่อยของอยู่ 2-3 ครั้งแล้ว เขาตระหนักว่าไม่มีใครที่เตรียมตัวจะซื้อเครื่องดนตรีที่มีค่าและโด่งดังขนาดเช่นนี้มาก่อน Amoyal กล่าวว่า คนที่จะซื้อได้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือเขานั่นเอง
ความเจ็บปวดของเขาได้ผ่านไปวันแล้ววันเล่าอย่างทรมาน แต่ด้วยความช่วยเหลือจากทนายความในกรุงโรมที่เชี่ยวชาญเรื่องการเจรจากับแก๊งค์มาเฟียและแก๊งค์เรียกค่าไถ่ในคดีที่ยุ่งยากแบบนี้ รวมถึงฝีมือตำรวจ "Carabinieri" ของอิตาลี คดีที่เลวร้ายก็จบลงด้วยดี ไวโอลินได้เดินทางกลับไปอยู่ในครอบครองของ Amoyal ในสภาพที่เรียกว่าแทบจะไม่บุบสลายเลย ซึ่งความรักของเขาที่มีต่อไวโอลินตัวนี้ยิ่งเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นไปอีก ในตอนนี้เขากำลังลงมือเขียนหนังสือชื่อ
"Pour l'amour d' un stradivarius"
ซึ่งเป็นเรื่องราวไวโอลินของเขาที่ถูกขโมยไป และกำลังจะตีพิมพ์เร็วๆ นี้
โดย: - [9 ก.พ. 50 2:20] ( IP A:202.12.74.8 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
หนังสือ
"Pour l'amour d' un stradivarius"
เรื่องราว ไวโอลิน Kochanski ของเขาที่ถูกขโมยไป
โดย: - [9 ก.พ. 50 2:23] ( IP A:202.12.74.5 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
หัวไวโอลิน Kochanski ปี 1717
โดย: - [9 ก.พ. 50 2:26] ( IP A:202.12.74.7 X: )
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน