ความคิดเห็นที่ 1 Yo-Yo Ma มีผลงานบันทึกเสียงร่วมกับบริษัทโซนี่มาโดยตลอด ได้รับรางวัล Grammy ถึง 9 ครั้งด้วยกัน ผลงานล่าสุดของเขา เช่น "The New York Album" คอนแชร์โตบทใหม่ของ Stephen Albert วิโอล่าคอนแชร์โตของ Bartok และ "Schelomo" ของ Bloch ร่วมกับวง Baltimore Symphony กำกับวงโดย David Zinman ผลงาน Cello Sonata and Piano Trio ของ Chopin ร่วมกับนักเปียโน Ax และ Frank ผลงาน Clarinet trios ของ Beethoven, Brahms และ Mozart ร่วมกับ Ax และ Richard Stoltzman เชลโลคอนแชร์โตของ Dvorak และเชลโลคอนแชร์โตบทที่ 2 ผลงานของ Victor Herbert ร่วมกับวาทยากร Kurt Masur และวง New York Philharmonic นอกจากนั้นยังมีผลงาน Chamber Music เช่น Piano Quartet บทต่างๆ ของ Mozart บทเพลง "King Gesar" ของ Peter Lieberson ผลงาน "Trout" Quintet ของ Schubert และผลงานที่บันทึกเสียงร่วมกับนัก Fiddle แนวคันทรี่จากแนชวิลล์ Mark O'Connor และมือเบส Edgar Meyer
สำหรับงานดนตรีร่วมสมัย โดยเฉพาะผลงานของนักประพันธ์เพลงชาวอเมริกัน มีผลงานการบันทึกเสียง เช่น บทประพันธ์ของ Stephen Albert, William Bolcom, John Corigliano, Richard Danielpour, David Diamond, John Harbison, Leon Kirchner, Ezra Laderman, Peter Lieberson, Tod Machover, Christopher Rouse, Bright Sheng และ John Williams ในช่วงปี 1995-96 เขาได้บันทึกแผ่นเสียงเชลโลคอนแชร์โตบทใหม่จำนวน 3 บท ผลงานของ Kirchner, Rouse และ Danielpour ร่วมกับวาทยากร David Zinman และวง Philadelphia Orchestra นอกจากนั้นยังมีผลงานบันทึกเสียงผลงานใหม่ของ Andre Previn ที่แต่งเนื้อร้องโดย Toni Morrison ร่วมกับนักร้องเสียงโซปราโน Sylvia McNair โดยมี Previn เป็นผู้เล่นเปียโนด้วยตัวเอง
ในช่วงปี 1995-96 เขามีโปรแกรมแสดงคอนเสิร์ทร่วมกับวง London Philharmonic โดยมี Bernard Haitink เป็นวาทยากร เป็นการนำบทเพลงเชลโลคอนแช์โตของ Dvorak ออกแสดง เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบวันเกิดปีที่ 100 ของ Dvorak (19 มีนาคม 1996) นอกจากนั้นยังมีทัวร์คอนเสิร์ทในอเมริกาใต้และเอเซียตะวันออก ร่วมกับวงออร์เคสตร้าจาก Cleveland, Montreal, Philadelphia, Pittsburgh, San Francisco, St. Louis และ Toronto รวมถึงวงออร์เคสตร้าจากอเมริกาใต้ เช่น Concertgebouw, La Scala และ Tonhalle นอกจากนั้นยังมีคอนเสิร์ทร่วมกับนักเปียโน Jeffrey Kahane อีกด้วย
นอกเหนือแสดงจากงานคอนเสิร์ทและบันทึกแผ่นเสียงแล้ว เขายังได้อุทิศเวลาให้กับนักดนตรีรุ่นใหม่ ในโครงการที่เกี่ยวกับการศึกษา เช่น เทศกาล Interlochen และ Tanglewood Festival ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งผสมผสานกิจกรรมทางการศึกษาต่างๆ ในช่วงที่เขาออกทัวร์คอนเสิร์ท เช่น การจัดมาสเตอร์คลาสหรือการแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้ฟังและนักเรียน เขายังแสดงคอนเสิร์ทเพื่อกลุ่มผู้ฟังที่เป็นครอบครัว โดยออกแสดงร่วมกับ Emmanuel Ax ในคอนเสิร์ทต่างๆ สำหรับครอบครัวที่ Carnegie Hall ในช่วงปี 1995-96
สำหรับด้านชีวิตครอบครัว Ma และ Jill ภรรยาของเขามีบุตรสองคนคือ Nicholas และ Emily Ma มีเชลโลคู่ใจ 2 ตัวคือ เชลโลที่ทำขึ้นในปี 1733 ของ Montagnana แห่งเมืองเวนิส และ Davidoff ที่ทำขึ้นในปี 1712 ผลงานของ Stradivari ที่ตั้งชื่อตามนักเชลโลเจ้าของเดิมคือ Carl Davidoff และเคยอยู่ในความครอบครอง Jacqueline de Pre นักเชลโลสาวชาวฝรั่งเศสมาก่อน
| โดย: - [13 ก.พ. 50 8:18] ( IP A:202.12.74.6 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 Davydov, Davidoff ถ้าจะกล่าวถึงช่างทำไวโอลินแล้ว คงจะไม่มีช่างทำไวโอลินคนไหนที่มีชื่อเสียงเกินกว่า Antonio Stradivari เป็นแน่ เขาเกิดเมื่อปี 1644 และเสียชีวิตในปี 1737 ตามบันทึกของ Hill กล่าวว่า เชลโลของ Stradivari มีความยอดเยี่ยมเหนือกว่าไวโอลินของเขาเสียอีก แม้ว่า Stradivari จะไม่ได้เป็นช่างคนแรกที่ทำเชลโล แต่เขาเป็นผู้กำหนดขนาดและสัดส่วนที่เป็นมาตรฐานของเชลโลขึ้น เชลโลส่วนใหญ่ในปัจจุบันล้วนแต่สร้างขึ้นตามแบบที่ยอดเยี่ยมของเขา
เท่าที่ทราบ Stradivari สร้างเชลโลตัวแรกของเขาขึ้นในปี 1667 ในขณะที่เขามีอายุ 23 ปี และพึ่งแต่งงานได้ไม่นานนัก ในช่วงปี 1680 ถึงปี 1700 เขาได้สร้างสรรค์เชลโลไว้กว่า 30 ตัว แต่ได้สูญหายไปหมด เชลโลที่เขาสร้างในยุคแรกมีขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่นิยมกันในยุคนั้น เชลโลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดสร้างขึ้นในปี 1696 มีชื่อว่า "Lord Aylesford" ตามชื่อของลอร์ด Aylesford นักสะสมชาวอังกฤษที่ซื้อเชลโลตัวนี้มาจาก Giardini เมื่อปี 1780 Janos Starker นักเชลโลที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของยุคเคยใช้เชลโลตัวนี้อยู่เสมอๆ โดยเฉพาะในการบันทึกแผ่นเสียงของเขานับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 เป็นต้นมา
แต่น่าเสียดายว่าไม่มีเชลโลของเขาในช่วงระหว่างปี 1701 ถึง 1707 หลงเหลืออยู่เลย ในช่วงปี 1717 ถึง 1730 มีเชลโลของเขาหลงเหลืออยู่ประมาณ 20 ตัวเท่านั้น เป็นเครื่องดนตรีมีความยอดเยี่ยมทั้งน้ำเสียงและโครงสร้างของตัวมันเอง เชลโลชื่อ Paganini ที่สร้างขึ้นในปี 1707 ปัจจุบันอยู่ในความครอบครองของนักเชลโล Bernard Greenhouse เชลโลตัวนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Countess of Stanlein ซึ่งเขาพึ่งจะบูรณะให้มันอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ส่วนใหญ่เชลโลของ Stradivari มักจะตั้งชื่อตามเจ้าของหรือนักดนตรีที่มีชื่อเสียง ตัวอย่างเช่น "Duport" "Batta" "Romberg" ซึ่ง "Duport" ที่สร้างขึ้นในปี 1711 ได้รับการยกย่องจาก Hill ว่าเป็นเชลโลที่ดีที่สุดที่ Stradivari ได้สร้างขึ้นเลยทีเดียว
| โดย: - [13 ก.พ. 50 10:25] ( IP A:202.12.74.5 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 "Davydov" หรือ "Davidoff" สร้างขึ้นในปี 1712 ในปี 1870 คหบดีที่มั่งคั่งผู้หนึ่งได้มอบให้กับ Carl Davidoff นักเชลโลที่มีชื่อเสียง ขนาด รูปทรง และฝีมือช่างของ "Davydov" คล้ายคลึงกับ "Duport" เป็นอย่างมาก วานิชสีส้มแดงที่อบอุ่น แต่น่าเสียดายว่าสภาพภายนอกของเชลโลค่อนข้างบอบช้ำในช่วงที่อยู่กับ Davydoff แสดงว่าขาดความเอาใจใส่ในการใช้งานและการดูแลรักษา ภายหลังการเสียชีวิตของ Davydoff เชลโลได้ถูกส่งไปยังปารีส และขายให้กับนักเชลโลสมัครเล่นที่มั่งคั่ง ซึ่งเขาได้ขายออกไปอีกครั้งในปี 1928 ให้กับ Herbert N. Straus นักบริหารชาวอเมริกัน และเมื่อ Straus เสียชีวิตลง ภรรยาม่ายของเขาได้ขอร้อง Rembert Wurlitzer ให้ช่วยขายเชลโลตัวนี้ให้กับเธอในปี 1964
เจ้าของคนใหม่ที่ซื้อ "Davydov" ไปในราคา 90,000 เหรียญ เพื่อมอบให้กับ Jacqueline du Pre ก็คือ Ismena Holland มารดาอุปถัมภ์ของ du Pre นั่นเอง ก่อนหน้านั้นเธอยังได้ซื้อเชลโลยุคแรกๆ ของ Stradivari รวมถึงยังได้ซื้อผลงานของ Guarneri, Ruggieri และเชลโลปี 1696 ของ Techler อีกด้วย
William Pleeth ครูของ du Pre ไปช่วยเธอลอง "Davydov" เขาได้กล่าวแนะนำกับเธอว่า นี่คือหนึ่งในเครื่องดนตรีชั้นเยี่ยมที่สุดของโลกอย่างแท้จริง ผลงานบันทึกเสียงในช่วงปี 1965 ถึง 1968 ทั้งหมดของ du Pre ล้วนใช้เชลโลตัวนี้ในการบันทึกเสียงทั้งสิ้น
แต่เธอมักไม่ค่อยพอใจกับเสียงของเจ้าเชลโล "Davydov" " สักเท่าไหร่ เพราะมันอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ง่ายมาก เธอมักจะแสดงอาการเกรี้ยวกราดกับเชลโลของเธออยู่เสมอๆ ซึ่งเป็นสไตล์การเล่นของเธอด้วย ภายหลังการเสียชีวิตของ Jackie เชลโลตัวนี้ได้ตกไปอยู่กับ Yo-Yo Ma เขากล่าวว่า Jackie ไม่สามารถควบคุมพลังที่อยู่ใน "Davydoff" ได้ คุณต้องรู้จักอ่อนโยนกับมัน ยิ่งคุณรุนแรงกับมันเท่าไหร่ ผลลัพธ์ที่ได้จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น
"Davydov" ปี 1712 เป็นเชลโลที่มีชื่อเสียงตัวหนึ่งของ Antonio Stradivari ไม้แผ่นหลังตัดแบบ Quarter-cut เชลโลตัวนี้สร้างขึ้นตามแม่แบบ B (B mould) ซึ่งเขาอาจจะพัฒนาขึ้นในช่วงทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 18 ซึ่งเชลโลของเขาในยุคก่อนหน้านั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีประมาณ 35 ตัวเท่านั้นที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน หลังจากนั้นเขาก็ได้ลดขนาดความยาวของลำตัวลง มีเชลโลประมาณ 20 ตัวที่สร้างขึ้นตามแบบ B จากรูปทรงภายนอกแสดงให้เห็นว่ามีแบบ B มากกว่า 8 พิมพ์ด้วยกัน หลังจากนั้น เขาได้สร้างเชลโลในขนาดที่เล็กกว่าขึ้น เรียกว่า "B Picola" แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าแบบ B ธรรมดา ซึ่งได้กลายเป็นมาตรฐานของช่างทำเชลโลเกือบทุกคนนับตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา เจ้าของ "Davydov" คนปัจจุบันก็คือ Yo-Yo Ma
| โดย: - [13 ก.พ. 50 10:33] ( IP A:202.12.74.8 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 Yo-Yo Ma และนาง Condoleezza Rice รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ในคราวที่ทั้งคู่ออกแสดง Duet ด้วยกันที่ Constitution Hall ณ กรุง Washington D.C.
| โดย: - [13 ก.พ. 50 10:45] ( IP A:202.12.74.7 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 Yo-Yo Ma และ Bobby Mcferrin 
| โดย: - [13 ก.พ. 50 10:46] ( IP A:202.12.74.8 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 Ex-Mayes เชลโลฝีมือของ Domenico Montagnana ช่างชาวเวนิส ทำขึ้นในราวปี 1733 ในปี 1999 Yo-Yo Ma เคยลืมเชลโลตัวนี้ไว้ในแท็กซี่แต่ได้คืนมา
| โดย: - [26 เม.ย. 50 8:41] ( IP A:202.12.74.7 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 10 
| โดย: - [26 เม.ย. 50 8:41] ( IP A:202.12.74.5 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 11 
| โดย: - [26 เม.ย. 50 8:42] ( IP A:202.12.74.8 X: ) |  |
|