ภาพถ่ายในกระเป๋าเงิน..ของชายคนนั้น..(อ่านให้จบนะ จะได้รู้ว่าภาพนั้นคือภาพใคร)....ทรงพระเจริญ
   พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันพ่อแล้ว วันนี้ผมขอนอกเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับฟรุทมาเล่าให้ฟัง หวังว่าเรียงความเรื่องนี้ คงทำให้หลายคนยิ้มได้นะครับ

****************************************


ปี 1999 แม้จะผ่านมาหลายปีแล้ว ต่ข้าพเจ้ายังจดจำเรื่องราวเรื่องหนึ่ง
ที่นึกถึงทีไร ข้าพเจ้าก็อดที่จะชื่นใจ ปลี้มใจ ทุกทั้งที่ข้าพนึกถึง

เพื่อนหญิงของข้าพเจ้าคนหนึ่ง เล่าเรื่องชายลึกลับคนหนึ่งให้ฟังที่เธอพบ เธอเล่าให้ผมฟัง
พร้อมๆๆกับรอยยิ้ม และความปลาบปลื้ม ข้าพเจ้าไม่คิดเลยว่า หลังจากที่ข้าพเจ้าได้ฟังเรื่องของเธออีกประมาณ 1 ปี ข้าพเจ้าก็ได้พบกับชายลึกลับคนนี้ด้วยตัวเอง

เย็นวันหนึ่งในปี 1999 ที่ประเทศนิวซีแลนด์ วันนั้น เป็นวันที่อากาศค่อนข้างหนาวเย็นและลมแรง วันสุดท้าย ที่ข้าพเจ้าหมดสัญญาการเช่าหอพัก ข้าพเจ้าต้องขนข้าว
ของออกจากหอพัก เพื่อจะย้ายที่อยู่ใหม่ ข้าพเจ้ายืนข้างๆๆสัมภาระ 3-4 กล่อง ยืนใจ
จดใจจ่อหารถเพื่อเข้าไปในเมือง วันนั้นเป็นวันที่โชคร้ายมาก ข้าพเจ้ายืนคอยรถกว่า
2 ชั่วโมง ก็ยังไม่มีรถแท็กซี่ผ่านมา



จนกระทั้งพลบค่ำ มึดสลัวๆๆๆ ก็มีแท็กซี่คันหนึ่งวิ่งผ่านมา และรับข้าพเจ้าขึ้นรถ
ข้าพเจ้าขึ้นรถด้วยความ ว้าวุ่นใจมาก เพราะชายคนนี้ดูหน้าตาหน้ากลัว ผู้ชายคนนั้น
หน้าตาเหมือนคนเอเซีย ผิวคล้ำ ผมยุ่งรกรุงรังไม่น่าไว้วางใจ ข้าพเจ้าไม่มีทางเลือก
ถึงจะกลัวอย่างไร ถ้าไม่ไปกับเขา ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่าจะ
มีรถแท็กผ่านมาอีกหรือเปล่า ข้าพเจ้าจึงนั่งรถไปด้วยใจกระวนกระวาย

ในระหว่างนั่งในรถ ชายคนนี้ก็สอบถามถึงที่มาที่ไปของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามาจาก
เมืองไทยหรือเปล่า หน้าตาเหมือนคนไทยจังเลย ข้าพเจ้าแปลกใจมากทำไมเขาจึง
สอบถามเรื่องราวบ้านเมืองของข้าพเจ้ามากมายเหลือเกิน ยิ่งถามข้าพเจ้าก็ยิ่งกลัว

และแล้วแกก็ถามถึงเรื่องส่วนตัวของข้าพเจ้า ซึ่งแกถามเป็นภาษาอังกฤษว่า

"คุณพ่อที่รัก ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง ท่านสบายดีไหม "

ข้าพเจ้าก็ตอบไปว่า พ่อสบายดี โทรศัพท์หากันทุกวัน

"สุขภาพท่านเป็นอย่างไรบ้าง ฝากความคิดถึง ฝากความเคารพ
ถึงคุณพ่อคุณด้วยนะครับ ผมคิดถึงท่านครับ"

ข้าพเจ้าก็ตอบไปว่า ได้ครับ แล้วจะบอกให้ กลับถึงบ้านเมื่อไร จะรีบไปบอกเลย
ข้าพเจ้าตอบไปเพื่อจะให้แกจบๆๆเรื่องที่เราจะต้องคุยกัน ข้าพเจ้าแปลกใจว่าทำไม
แกถึงคุยกับข้าพเจ้ามากจังเลย ผิดปกติของคนขับรถแท็กซี่ทั่วไป

ชายคนนี้ขับรถไป นั่งยิ้มไป แกทำไมถึงอารมณ์ดีจังเมื่อแกคุยกับข้าพเจ้า ในขณะที่
ข้าพเจ้ารู้สึกกลัวแกอย่างบอกไม่ถูก น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง

และแล้วชายคนนี้ก็จอดรถที่บ้านพักหลังใหม่ของข้าพเจ้า แกลงจากรถ และกุลีกุจอ
ขนข้าวของลงมาให้ข้าพเจ้าด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้ม

หลังจากขนของเสร็จ ชายคนนี้ เอื้อมมือมาจับที่บ่าของข้าพเจ้า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า

"น้องเอ๋ย พี่ดีใจมากที่มีโอกาสพบคนไทย พี่ไม่ได้พบคนไทยมานานแล้ว
พี่มาอยู่ที่เมืองนี้กว่า 20 ปี ไม่ค่อยได้เห็นคนไทยมาที่นี่กัน"

"วันนี้พี่ดีใจมาก เห็นคนไทยแล้วทำให้พี่รู้สึกอบอุ่นเหมือนได้พบกับญาติคนหนึ่ง
พี่เป็นชาวกัมพูชา อพยพมาที่นิวซีแลนด์เมื่อหลายสิบปีก่อน

เพราะด้วยพระบารมีและพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
ที่ได้ให้ที่พักพิงในยาม ที่เราหนีตาย มาพักในแผ่นดินไทย
พี่ๆๆและครอบครัวถึงได้มีโอกาสเริ่มต้น
ชีวิตใหม่ มีความหวังและได้ชีวิตใหม่

่ ชีวิตของครอบครัวของพี่มีได้มาถึงทุกวันนี้เพราะพระมหากรุณา
ของในหลวงของประเทศไทย"

หลังจากชายคนนี้พูดจบ แกก็เอามือล้วงเข้าไปหยิบกระเป๋าเงินออกมา พร้อมกับพูดว่า

"แม้จะผ่านมาหลายปี พี่เก็บภาพนี้ในกระเป๋าเงินของพี่ตลอดเวลา พี่เก็บภาพนี้เพราะ
พระองค์คือผู้มีพระคุณต่อครอบครัวของเรา เราซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
ครอบครัวของเรา รัก และเทอดทูลบูชาพระองค์ตลอดเวลา เพราะพระองค์คือที่ยึดเหนี่ยว
จิตใจของครอบครัวของเรา"



หลังจากพูดเสร็จ แกก็จับมือของข้าพเจ้า และหยิบธนบัตรในมือของข้าพเจ้า
ซึ่งข้าพเจ้าเตีรยมไว้เพื่อจ่ายเป็นค่าโดยสารให้กับเขา แต่ชายคนนั้นหยิบธนบัตร
จากมือของข้าพเจ้าใส่กระเป๋าเสื้อของข้าพเจ้าแทน
และบอกข้าพเจ้าว่า วันนี้พี่ขอมาส่งน้องชายของพี่นะ "

หลังจากแกจากไป ข้าพเจ้าพึ่งเข้าใจคำถาม ของแกที่ถามเกี่ยวกับพ่อของข้าพเจ้า
พ่อที่รักและเคารพของข้าพเจ้า นั้นแกหมายถึงใคร และข้าพเจ้าก็เข้าใจทันทีเลยว่า
ทำไมชายคนนี้ถึงเก็บภาพในหลวงและพระราชินีขณะทรงชุดพลางทหาร เดินออก
เยี่ยมพสกนิกร

ข้าพเจ้าเข้าใจในความรู้สึกของชายคนนี้ทำไมเก็บภาพนี้ในกระเป๋าเงิน
ของชายคนนี้มากว่า 20 ปี

แม้จะผ่านมาหลายปี ภาพในกระเป๋าเงินของชายคนนี้ยังอยู่ ในความทรงจำของข้าพเจ้านึกถึงทีไรก็อดปลาบปลื้มไม่ได้ว่า

พระองค์ทรงที่รักยิ่งและพระองค์ทรงอยู่ในใจไม่เฉพาะคนไทยเท่านั้นแต่อยู่ในใจของ
พี่น้องเพื่อนบ้านของเราด้วยครับ




รักในหลวงครับ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


-----------------------------------------------------------------------------------------------------

ภาพสีน้ำโดย Kibangkok
เนื้อเรื่องชีวิตจริงของ Kibangkok (กิ๊บางกอก)

คัดลอกจาก
https://www.oknation.net/blog/thaithai/2007/10/08/entry-1

โดย: achoowong@gmail.com [4 ธ.ค. 51 22:20] ( IP A:115.67.233.112 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจมากๆ ครับ
วันนี่เป็นวันพ่อแล้ว เข้าไปใกล้ๆท่านแล้วกระซิบบอกท่านว่า ผมรักพ่อ กันเถอะครับ

ป.ล. หากรักพ่อในวันพ่อแล้ว จงระลึกเสมอว่าทุกๆวันนั้นคือ วันพ่อ
โดย: คุน ครับ [5 ธ.ค. 51 8:20] ( IP A:125.24.13.208 X: )


คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน