ปลูกหม่อนหิมาลายัน
   หลายปีที่ปลูกมา เพราะมัวแต่ทำกิ่งขาย ตัดเสียบเป็นจำนวนมาก เลยไม่มีโอกาสพิจารณาธรรมชาติของหม่อนหิมาลายันอย่างจริงจังเมื่อมีคำถามเข้ามา ถามว่า หม่อนหิมาลายันออกลูกดกไหม? จึงตอบได้ไม่เต็มปาก จวบจนการออกลูกสองครั้งหลังของหม่อนหิมายายันสีขาว และสีอื่นๆ จากที่ติดตามดูมา จึงสามารถพูดได้เต็มปากว่า หม่อนหิมาลายันทุกสี สามารถออกลูกได้ผลดกในเมืองไทย โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยหรือฮอร์โมนใดๆช่วยในการออกผล..

เพราะผมไม่เคยใช้.. แต่ถ้าใช้ปุ๋ย อาจจะยิ่งดกมากขึ้นก็เป็นไปได้..

ต้นหม่อนอาจมีแมลงศัตรูพืชกวนบ้าง เท่าที่เห็นในระยะต้นเล็กๆ จะมีแมลงกินใบ และเพลี้ยแป้งลงบ้าง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยารุนแรงอะไร แมลงกินใบกับเพลี้ยแป้ง ใช้แค่สารสะเดา กับน้ำส้มควันไม้ ก็อยู่แล้ว พอต้นโตขึ้น ก็ไม่ต้องดูแลฉีดยาอะไรเลย..

การปลูกหม่อนหิมาลายันในเมืองไทย ยังไม่มีการปลูกเป็นแปลงใหญ่ๆเพื่อขายผลผลิต (เพราะในตลาดยังไม่มีข่าวว่ามีการนำผลหม่อนหิมาลายันมาขาย)มีแต่ปลูกไว้เพื่อบริโภคเป็นของแปลกเท่านั้น ซึ่งก็ยังไม่แพร่หลายเท่าไหร่ในเมืองไทย และปลูกไปเรื่อยก็จะเบื่อ เพราะต้นมันจะสูง กินลูกยาก การเขียนครั้งนี้ ผมเลยตั้งใจ จะแนะนำวิธีการปลูกหม่อนหิมาลายัน ให้ได้ประโยชน์ที่สุด จากประสบการณ์ที่ปลูกเลี้ยงมาเองในอาศรมลีลาวดี..
.

โดย: อรรถพล [25 เม.ย. 57 22:26] ( IP A:182.52.203.90 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   หม่อนหิมาลายัน จากที่ศึกษาลักษณะทั่วไป ก็คล้ายกับหม่อนไทยทั้งหลาย เคยเอาใบไปตากแห้ง ชงน้ำกินเป็นชาใบหม่อน ก็แยกไม่ออกว่าต่างจากชาใบหม่อนที่มีการทำขายเป็นสินค้าอยู่ทั่วไปตรงไหน..

ไม่มีผลวิจัยทางวิชาการเป็นหลักฐานมายืนยันว่าสรรพคุณ ของหม่อนหิมาลายัน จะเป็นแบบหม่อนไทยในแง่ของสมุนไพรหรือไม่ แต่คาดเอาเองว่า คงไม่แตกต่างกันนัก มีสรรพคุณเป็นผลไม้รักษาสุขภาพ เป็นน้ำตาลดี กินแล้วไม่เหี่ยว (ผิวหนัง) แต่ไม่รู้ว่าต้องกินกี่กิโล 555..

หม่อนหิมาลายัน ที่ขายกันอยู่จะมีสามตัว คือ หม่อนสีขาว (ขาวอุดร) หม่อนสีม่วง (ม่วงกัลยา) และ หม่อนสีแดง (แดงวิจิตร) ชื่อที่วงเล็บไว้ด้านหลัง เป็นชื่อที่คนขายชาวไทย ตั้งเอาไว้ตั้งแต่แรก ระยะหลังก็มีหม่อนจากไต้หวัน มาแจมอีกตัว ชื่อ หม่อนแม่ช่อ ลักษณะพวงลูกจะยาวกว่าหม่อนหิมาลายัน แต่ผอมกว่า ..

สี่ตัวนี้หวานทั้งหมด ..สีขาวพวงลูกประมาณ 2-3 1/2 นิ้ว แล้วแต่การดูแลและความดก (ลูกมากก็ลูกเล็ก) สีขาวจะหวานที่สุด หวานกว่าน้ำผึ้ง ถ้ารอเก็บกินตอนผิวสีออกเหลือง แต่ผิวเขียวเริ่มเหลืองนิดๆก็กินได้แล้ว รสชาติจะหวานออกมันๆ

สีม่วงขนาดผลพอๆกับสีขาว รสชาติหวานสนิท แต่เวลากินไม่หวานแสบคอแบบสีขาว..

สีแดงขนาดผลยาวและใหญ่ที่สุด รสหวาน ผมว่ามันน้อยกว่าสีม่วงนิดหน่อย แต่เวลาเด็ดกิน เนื่องจากพวงลูกใหญ่กว่า จึงกินได้เต็มปากเต็มคำกว่าทุกสี..

หม่อนไต้หวันแม่ช่อ ตัวนี้ผมว่าความหวานน้อยสุด แต่ลูกจะยาวที่สุด มีเสียงเล่าลือกันมาว่า ตัวนี้ผลดกที่สุด แต่เนื่องจากที่อาศรมฯ ตัดเสียบซะมาก เนื่องจากซื้อเข้ามาทำพันธุ์หลังสุด เลยยังไม่มีโอกาสได้เห็นความดกของเขาตามเสียงเล่าลือ..

วันนี้ก็เอาแค่นี้ก่อน วันหลังจะมาเล่าถึงวิธีการปลูก ที่ทำแล้วน่าจะได้ผลดี..

.

โดย: อรรถพล [25 เม.ย. 57 22:58] ( IP A:182.52.203.90 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ค้างไว้หลายเดือนแล้ว ต้องมาต่อให้จบเสียที..

หม่อนหิมาลายันส่วนมากจะสูงชะลูดขึ้นไป ด้านล่างจะแตกกิ่งก้านไม่เยอะ ฉะนั้นเวลามีลูกจึงเก็บลำบาก เก็บไม่ทันนกกับกระแต ถ้าปลูกยิ่งชิดกันมาก ตามธรรมชาติของต้นไม้ก็จะยิ่งแข่งกันสูง เพื่อยึดครองพื้นที่บนอากาศ

ถ้าจะปลูกหม่อนเป็นพืชเศรษฐกิจเพื่อเก็บผล อาจจะเอาผลสดไปขาย หรือเอาไปแปรรูปในลักษณะต่างๆ แนะนำระยะแถวควรปลูกประมาณ 3 x 3 ถึง 4 x 4 เมตร เพื่อให้ทำงานสะดวก ปลูกและบำรุงให้สม่ำเสมอต้นจะโตเร็ว หม่อนอายุ 2-3 ปี ก็ตัดยอดออกให้เหลือความสูงประมาณ 1.50 เมตร พออั้นยอดต้นจะโตขึ้นเดี๋ยวหม่อนจะแตกกิ่งใหม่ ปล่อยให้กิ่งหม่อนแตกยาวประมาณ 1-2 เมตร (รวมทั้งกิ่งเก่าด้วย เพราะตัดทิ้งแต่ยอด) แล้วทำแบบชาวสวนกระท้อน..

คือใช้หินผูกเชือก ถ่วงโน้มปลายกิ่งหม่อนให้นอนลง ไม่ใช้ชี้สูงขึ้น และธรรมชาติของกิ่งไม้ เมื่องอกิ่งฝืนดัดกิ่งผิดธรรมชาติ ตรงส่วนที่งอ จะแตกกิ่งเพิ่มขึ้นอีก พอกิ่งยาวได้ระยะเราก็เอาหินผูกเชือก ถ่วงให้กิ่งห้อยลงอีก บังคับให้กิ่งไม่พุ่งขึ้นสูง ลักษณะก็จะเหมือนกับคนไว้ผมยาวปะบ่านั่นแหละ ทีนี้เราก็เลือกตัดแต่งกิ่งเอาไว้ตามต้องการให้ทรงพุ่มสวยงามเป็นระเบียบ..

หลังจากได้ทรงพุ่มตามต้องการแล้ว แม้หม่อนจะสามารถออกผลได้ตลอดไปเมื่อมีการตัดแต่ง แต่ช่วงหน้าฝน ควรพักบำรุงต้นบ้าง ช่วงนี้อาจใช้ปุ๋ยมูลสัตว์ หรือปุ๋ยสูตรเสมอให้บ้าง หรือจะไม่ใส่เลยก็ได้..หมดฝนเริ่มตัดปลายกิ่งหม่อนทุกกิ่งออก ประมาณหนึ่งฟุต แล้วงดน้ำจนใบร่วงหมดทั้งต้น (อย่าใจอ่อนรดนะ) พอใบร่วงหมด จะหว่านปุ๋ย 8-24-24 ที่โค่นต้น หรือไม่ใส่ปุ๋ยก็ได้ (แต่ใส่จะเป็นผลดีกว่า ลูกจะใหญ่กว่าและดกกว่า ) พร้อมกับรดน้ำ ให้ชุ่มวันละครั้งก็พอ หม่อนก็จะแตกใบออกมาใหม่ พร้อมกับติดช่อผลจำนวนมาก..

หลังจากติดผลหม่อนตามกิ่งทั่วๆไปแล้ว อย่าให้ขาดน้ำ ผลหม่อนจะโตขึ้นเรื่อยๆ ..
หม่อนขาวระยะแรกผลจะเป็นสีเขียว พอผลแก่จะเป็นสีเหลืองถึงขาวครีม ก็จะหวานมากไม่ต้องอาศัยปุ๋ยหวาน

โดย: อรรถพล [7 ต.ค. 57 19:52] ( IP A:182.52.206.122 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   หม่อนสีม่วงและหม่อนสีแดง ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่จะคล้ำสีออกเป็นสีม่วง และสีม่วงเข้มตามลำดับ สองสีนี้ไม่หวานเท่าสีขาว แต่ก็ยังไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยหวานช่วย เพราะบางคนอาจชอบกิน ไม่ชอบหวานมากแบบหม่อนขาว

ตัวสุดท้ายหม่อนไต้หวันแม่ช่อ ตัวนี้ผลอ่อนก็เขียว ผลแก่จะเป็นสีม่วงเช่นกัน ตัวนี้ความหวานต่ำและพวงลูกผอม ประมาณตะเกียบ ควรใช้ปุ๋ย 0-0-60 (ปุ๋ยหวาน) ใส่ช่วยจะทำให้ผลใหญ่ขึ้นและรสชาติดีขึ้น

ก็ง่ายๆแบบนี้ครับ หม่อนพวกนี้ดกทุกตัวครับ ตามรูปที่ผมเคยลงไว้ และผลหม่อนจะสุกไม่พร้อมกัน ระยะเก็บเกี่ยวไม่ต่ำกว่า 3 สัปดาห์ ผลจึงจะหมดจากต้น..

หม่อนหิมาลายันเป็นไม้ที่ชอบแดด ชอบน้ำ และชอบปุ๋ย ถ้าเลี้ยงดูแลอย่างดีจะโตเร็วมาก เรื่องของหม่อนคงหมดแค่นี้มีปัญหาประการใดก็สอบถามเพิ่มเติมเข้ามาได้ ทางโทรศัพท์จะสะดวกที่สุด..

เกี่ยวกับหม่อนอีกนิด..จะได้ไม่ต้องขึ้นเรื่องใหม่..หม่อนสามารถทำเป็นไม้บอนไซได้ เคยเห็นที่งานประกวดบอนไซ และสามารถทำไม้ดัดได้ รูปทรงตามที่เราจินตนาการ เพราะหม่อนเป็นไม้เนื้ออ่อนก็จริง แต่เป็นไม้เนื้อเหนียว สามารถทำบอนไซและไม้ดัดได้ ลองปลูกหม่อนกันดู สวัสดีครับ..
.

โดย: เจ้าบ้าน [7 ต.ค. 57 19:55] ( IP A:182.52.206.122 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   

ต้องการซื้อใบหม่อนสด รบกวนแนะนำด้วยคะ

 

ขอบคุณคะ

ปอ

โดย: Chitradee@hotmail.com [10 ก.ค. 58 18:09] ( IP A:171.96.170.168 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน