ขอเปิดประเด็นเรื่อง "ผลกระทบจากการค้าต้นไม้สไตร์สมัครเล่น....." ครับ
   เชื่อหรือไม่ครับ ว่าราคาไม้ที่ซื้อขายกันในเน็ตมีผลกระทบต่อยอดขายไม้ของตลาดโดยรวม.....

หลายวันมานี้ได้พูดคุยและรับฟังเรื่องราวหลายๆเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริงในวงการไม้ประดับเล็กๆของเรา หนึ่งในนั้นคือเรื่องที่นำมาเป็นหัวข้อสนทนาในวันนี้ เรื่องมีอยู่ว่า.... พ่อค้าหรือผู้เสียประโยชน์บางรายถึงกับโทร หรือฝากเรื่อง กับบางเวปไซค์ เกี่ยวกับการขายไม้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดของสมาชิกเวปไซค์นั้นๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายในตลาดโดยรวมทำให้ไม้ของเค้าขายไม่ออก และกล่าวทำนองว่าการขายไม้ราคาถูกในเน็ต จะทำให้วงการล่มสลาย บ้างถึงกับยกสมาคมชมรมต่างๆมาอ้าง เหมือนอำนาจของการกำหนดราคาไม้อยู่ทีคนเพียงกลุ่มเดียว..... นี่คือสิ่งที่ได้อ่าน และได้ฟังมาจาก เวปไซค์ และเจ้าของเวปไซค์อีกแห่ง ต่างที่ ต่างเวลา แต่ทำนองเดียวกัน จริงๆแล้วจะว่าไม่เกี่ยวกับผมก็ไม่เชิง เพราะขายของในเน็ตอยู่ทุกวี่ทุกวันแถมบางวันยังขายหลายที่ซะอีก จึงขอนำเรื่องนี้มาตั้งเป็นประเด็นให้แสดงความคิดเห็นกัน ว่ามันจริงหรือว่าการที่ "ผมขายถูกนี้ ทำให้พี่ล่มจม" .......

ด้วยเห็นว่าเรื่องของการซื้อขายต้นไม้เป็นเรื่องที่เกี่ยวขัองกับพวกเราโดยตรง จึงขอเปิดประเด็นนี้ขึ้น มิได้หวังให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งใดๆ ทุกความเห็นแม้จะคิดเหมือนหรือเห็นต่าง ขออย่าได้ขัดข้องเคืองใจกัน ขอให้ผู้ที่ได้เข้ามาอ่านแม้ไม่ได้แสดงความเห็น ก็ให้ได้รับคติแนวคิดบางสิ่งบางอย่างไป เพื่อให้เล่นไม้ได้อย่างสนุกและเท่าทันครับ.....
โดย: พลภัทร [7 ต.ค. 51 21:44] ( IP A:124.121.77.40 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   ลืมบอกไป.... เค้าไม่ได้โวยผมหรอกนะครับ แต่ผมร้อนตัวไปเอง....
โดย: พลภัทร [7 ต.ค. 51 21:46] ( IP A:124.121.77.40 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   เป็นเรื่องปรกติในธุรกิจทุกวงการคับ "รัก โลภ โกรธ หลง" คำนี้ใช้ได้ดีตลอดอายุการใช้งานคับพี่ ความสุกนี้มันร้อน แต่ความสุขอันนี่สิมันเย็น นอนดีกว่า อิอิ...วัสสลาม
โดย: รัชต [7 ต.ค. 51 22:41] ( IP A:118.173.206.104 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   เป็นเรื่องปกติ ส่วนมากมันเป็นความพอใจของแต่ละบุคคล ส่วนน้องพลภัทรพูดถึงมันก็เป็นเรื่องจริง คือต้องการเน้นถึงคุณภาพของการเลี้ยงไม้ ทำอย่างไรให้สวย ต้องขึ้นอยู่กับใจรักด้วย
โดย: เอ็ม 150 [8 ต.ค. 51 8:41] ( IP A:202.69.139.162 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ผมว่าตลาดมีหลายระดับมากกว่าในเนตนะ เท่าที่ขายไม้หลาอยอย่าง สังเกตุว่าคนที่ขายง่าย หรือขายได้ราคา จะต้องมีชื่อหน่อยถึงจะขายได้ง่ายในเนต
หมายความว่ามีความน่าเชื่อถือสูง เลยทำให้ขายได้ราคาหน่อย
หรือบางคนก็อยากจะขายทิ้ง เลยขายตัดราคาถูกซะ
ต้องเข้าใจว่าใครก็ขายได้ในเนตครับทั้งมือเก่ามือใหม่ มันก็ทำให้ราคา มีหลายระดับ
โดย: ลูแปง [8 ต.ค. 51 11:46] ( IP A:58.147.40.38 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   ขายไม่สมเหตุสมผล มีผลกะผู้ขายเอง
ขายแพงไม่มีคนซื้อ เอาไปประมูลไม่ได้ราคา ให้เพื่อนปิดราคาให้ก็มี
ขายบ่อยๆน่าจะทำเวปเอง(ประเภทกระทู้ละต้น)น่าทำเอาลิงค์แปะ
ขายทิ้งขายขว้าง หลอกคนใหม่ๆไปวันๆ ดูออกนา
ขายกินหัวคิว ไม่กินมากหยวนๆพอได้
คนซื้อก้อใช้ดุลย์พินิจกันเอาเอง ตาดีได้
...........* สวยและถูก อย่าคิดนาน หมดแล้วอดเด้อ *..........
โดย: ต้น ระยองฮิ(เข้ามาทุกเวป ขายสองกระทู้) [8 ต.ค. 51 12:40] ( IP A:61.19.47.117 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ....พี่โอ๋เปิดประเด็นได้โดนใจผมจัง....ผมว่ามันเป็นสิทธฺ์ของผู้ซื้อ และผู้ขายครับ อยู่ที่ความพอใจของทั้งสองฝ่ายมากกว่า ถ้าไม้มีคุณภาพ ถึงจะราคาแพงหน่อยก็คงมีคนซื้อครับ ในทางตรงกันข้าม ถ้าไม้ไม่มีคุณภาพ ถึงจะขายถูกซักเพียงใด ก็คงไม่มีใครอยากได้มาตั้งไว้รกบ้านหรอก
...ซึ่งมันก็ไม่ต่างกับเชิงธุรกิจนัก ที่จะมีการปรับราคาขายลงเพื่อกระจายตลาด...ที่จริงผมว่าถ้ามีการปรับลดลาคาลงเพื่อให้ขายได้ปริมาณมากขึ้น มันน่าจะส่งผลดีกับวงการมากกว่า จะหลับหูหลับตาขายแพงอยู่เหมือนเก่า อย่างน้อยก็จะมีคนกลุ่มใหม่ คนรุ่นใหม่หันมาสนใจมากขึ้น ตลาดจะได้กว้างขึ้น เพราะอย่าลืมว่ากลุ่มคนที่เล่นกันอยู่ทุกวันนี้ มันแค่หยิบมือเดียว เมื่อเทียบกับคนทั้งประเทศ คุณไม่คิดจะขยายตลาดบ้างหรือ หรือคิดว่าไม้ข้าดี ข้ามีคนเดียวในประเทศ ยังไงมันก็ต้องมาซื้อ...งั้นก็จงหวังลมๆแล้งๆ แบบนั้นต่อไป ไม่ได้กินตังค์ผมหรอก เพราะผมเป็นมนุษย์เงินเดือน เดือนละแค่หมื่นกว่าบาท แต่เจอแค่ค่าใช้จ่ายในครอบครัวที่นับวันจะยิ่งสูงขึ้น จนจะเกินเงินเดือนอยู่แล้ว แล้วผมจะเหลือเงินมาซื้อไม้ได้เท่าไหร่ แล้วยิ่งพวกที่รายได้ต่อเดือนต่ำกว่าผมอีกล่ะ มีมากมาย ที่เขาคิดอยากจะเล่น อยากจะซื้อไว้เชยชมบ้าง แต่ก็ติดตรง เรื่องราคา ที่ซื้อไปแล้ว เดือนนี้กรูจะแดกอะไร......

....พอแระขี้เกียจพิมพ์...เหลือไว้ให้ท่านอื่นบ้าง...จะได้โดนเหมือนๆกัน....อิอิ
โดย: takajad [8 ต.ค. 51 12:46] ( IP A:125.27.127.95 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   จริงๆแล้วสิ่งที่อยากจะบอกก็คือ ประเทศเราเป็นประเทศเสรีที่มีประชาธิปไตย ใครไคร่ค้า ค้า ใครไคร่ขาย ขาย จะถูกจะแพง ผู้ซื้อคือผู้ตัดสิน คนขายต้นไม้มีเป็นร้อยเป็นพันคน ต้นไม้ส่วนใหญ่ก็คงไม่ได้แตกต่างกันมาก ของเหมือนๆกัน เค้าขายถูกกว่า คุณก็ขายไม่ออก จะว่าใครได้ หรือจะอ้างว่า ผมชื่อดี นามสกุลดัง เจ้าของสวนใหญ่ เจ้าของสายพันธุ์ ฯลฯ ดังนั้นผมขายแพงได้ คุณจะขายของเหมือนๆกับผมต้องยึดราคาที่ผมตั้ง??? แล้วใครจะไปโง่ตามคุณ....

ด้วยความที่ตัวผมเป็นเกษตรกรคนนึง ที่ขายต้นไม้เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเลี้ยงครอบครัว จะให้มาทนรดน้ำใส่ปุ๋ยต้นไม้อยู่ทุกวันโดยไม่ยอมขายจนกว่าจะได้ราคาสูงๆผมคงทำไม่ได้ ธุรกิจก็คือธุรกิจ มันคือการแข่งขัน ถ้าเกิดผมขายของได้ในราคาถูกแล้วคุณอยู่ไม่ได้คุณก็ต้องถอยออกไป หรือถ้าคุณดั๊มป์ราคาแข่งสู้ ผมทำแล้วไม่คุ้ม ผมก็หลบไปทำไม้ตัวอื่น.....

ความคิดของผมก็ประมาณนี้แหละครับ ไม่ได้คิดจะทุบตลาดเพื่อกอบโกย(เหมือนที่ผู้ใหญ่บางคนในวงการเคยทำ) คิดแค่พออยู่รอดได้ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ก็เหนื่อยแย่แล้วล่ะครับ.....
โดย: พลภัทร [8 ต.ค. 51 13:15] ( IP A:124.121.142.153 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ก็มีทั้งส่วนดีส่วนเสียปะปนกันไปครับ ต่างคนก็ต่างมีเหตุผลของแต่ละฝ่ายครับ ถ้าถามผู้ค้าโดยอาชีพว่าคิดเห็นอย่างไรกับผู้ค้าสมัครเล่นที่นำไม้มาขายในราคาถูกกว่าของเรา แน่นอนเขาก็ต้องตอบว่าเซ็งครับ เพราะว่าผู้ค้าโดยอาชีพเขาลงทุนลงแรงลงเวลาไปเยอะเฝ้าพัฒนาสายพันธุ์มาแรมปี ตั้งใจว่าจะขายทำราคาได้ โดนไม่ชนิดเดียวกันตัดราคาโดยผู้ค้าสมัครเล่น ซึ่งเขาก็คงไม่ได้ตั้งใจจะขายเพื่อหักหาญน้ำใจผู้ค้าอาชีพ แต่ส่วนใหญ่จะขายเพื่อระบาย เพื่อซื้อกระถางปุ๋ย หรือสายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งราคาที่ผู้ค้าสมัครเล่นขายต่ำกว่าที่เราตั้งไว้ ทำให้เมื่อผู้ค้าอาชีพนำไม้ชนิดเดียวกันออกมาขายก็จะขายยาก แต่อย่าลืมนะครับว่าการที่ผู้ค้าสมัครเล่นจะนำของดีราคาถูกๆมาขาย ไม่ได้เกิดขึ้นมาบ่อยๆ (ซึ่งผมก็ซุ่มดูอยู๋เหมียนกันอิอิ ซื้อไม่เคยทัน) แล้วผมก็คิดว่าถ้าผู้ค้านำสินค้าที่คุณภาพคับแก้วมาจำหน่ายราคาสูงกว่าปกตินิดหน่อยผมว่า ใครเจอก็ซื้อครับ แล้วผู้ค้าสมัครเล่นเขาก็ยืนระยะไม่ได้นานหรอกครับเพราะไม้เขาไม่ได้มีปริมาณมากขายได้ไม่เท่าไหร่เดี๋ยวก็เงียบ สรุปคือ "ไม้คุณภาพไม่มีวันตาย" (ถ้าอ่านแล้วงงต้องขออภัยด้วยครับเพราะผมก็งง)อิอิ
โดย: อ้นพัทยา(อาศรม162) [8 ต.ค. 51 13:26] ( IP A:203.151.38.2 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   ขอโทษครับ คุณพลภัทร "นี่คือสิ่งที่ได้อ่าน และได้ฟังมาจาก เวปไซค์ และเจ้าของเวปไซค์อีกแห่ง ต่างที่ ต่างเวลา " มาจาก web site ไหนครับ ช่วยทำ link ให้หน่อย อยากอ่านเป็นความรู้ครับ ไม่มีเจตนาใด ๆ ทั้งสิ้น
โดย: twin1811 [8 ต.ค. 51 13:37] ( IP A:124.120.72.166 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ความคิดเห็น (ส่วนตัว)
- ต้นไม้ ราคาจะถูก จะแพง มันขึ้นอยู่กับเจ้าของสายพันธุ์ ว่าจะตั้งราคาขายไว้เท่าไหร่
- ต้นไม้ (บางชนิด) สามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย หากเราซื้อสายพันธุ์ดี ๆ ราคาแพง ๆ มา นำมาขยายพันธุ์ได้จำนวนหนึ่ง เราจะขายเท่ากับราคาที่ซื้อมาไม่ได้ (เพราะไม่มีคนซื้อ) ราคาขายเท่ากันไปซื้อกับเจ้าของสายพันธุ์ไม่ดีกว่าหรือ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไปขายตัดราคากันจนเกินไป
- ต้นไม้ ที่ขายกันตามบอร์ดต่าง ๆ ในเว็บไซต์ มันก็เป็นไปตามกลไกของตลาด (ของดี ราคาไม่แพง ก็ขายง่าย, ของดี ราคาแพง ก็ยังขายได้, ของไม่ดี ราคาไม่แพง ก็ยังพอขายได้ แต่ที่แย่ที่สุด คือ ของไม่ดี และหลอกลวง แล้วราคาแพง) ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย และผู้ขายต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้า
- ต้นไม้ ราคาต่ำลง ก็ช่วยกันพัฒนาสายพันธุ์ให้ดีขึ้น แล้วส่งออกต่างประเทศ ไม่ใช่มัวแต่หลอกลวง ทำให้ผู้ผลิต (ที่ดี) และประเทศชาติ เสียชื่อ
โดย: อาท ♂ (art2cactus) [8 ต.ค. 51 14:43] ( IP A:203.151.46.130 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   แม่เจ้าวุ้ย...กระทู้โดนใจ
ในฐานะที่ทำงานประจำเป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อ บริษัทยักษ์ใหญ่ อายุ 90 ปี ในแวดวงอะไหล่จักรยานยนต์ มีหน้าที่ ควบคุมเครดิตลูกค้า และดูแลผู้แทนขายทั่วประเทศ ว่ามีการตุกติกบริษัทหรือไม่ และหลังจากที่ผมควบคุมสถาณการณ์ลูกค้าทั่วประเทศที่มียอดการสั่งซื้อปีละ พันห้าร้อยล้านบาท ได้สำเร้จ จะมีหนี้เสียปีละไม่เกิน 2 % ผมเลยโดนควบตำแหน่งลูกค้าสัมพันธ์ อีก 1 ตำแหน่ง และตำแหน่งนี้เองทำให้ผมคลุกคลีตีโมงกับลูกค้าระดับหัวกระทิ ประเภทความคิดหาเงินแข่งกับเวลาเลยทีเดียว
...เรามาวิเคราะห์ดูว่า การขายแบบสมัครเล่น มีผลกระทบผู้ขายอาชีพอย่างไร
...อะไรคือสาเหตุ ที่แท้จริง
ผมพูดได้ในตอนนี้เลยครับ ประสบการณ์ มุมมอง ความคิด มือสมัครเล่น ยังมีไม่ถึง คิดไม่ถึง หรือมองภาพไม่ออก ซึ่งเขาได้ทำลงไปในขณะนั้น ซึ่งเขาก็คิดดีอยู่แล้วว่า มันใช่ มันถูกต้อง แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่ มันกลับกลายเป็นความเสียหายต่อระบบและวงการเลยทีเดียว
...ผม หรือใคร หรือคุณ ก็ต้องผ่านการเป็นนักขายเริ่มจากมือสมัครเล่นด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครผิด หรือใครถูกต้องไปเสียทุกๆอย่าง ผมเคยขายเพชรบ้านนาเสียบละ 100 บาท 200 เสียบ แค่ความคิดที่จะถอนทุนกิ่งเสียบราคาเรือนหมื่นเท่านั้น ทั้งๆที่ ท่านอื่นขายกันเสียบละ 3-500 บาท วิธีการนี้ ผมไม่ใช่คนเก่งที่ขายได้ดี ใครๆก็ขายได้ถ้าในตอนนั้นทุกคนขายอยู่ที่เสียบละ 300-500 บาท
....มาถึงตรงนี้ โทษใครครับ โทษคนขาย หรือโทษคนซื้อ หรือโทษรุ่นใหญ่ไม่สั่งสอน เอ...ผมนึกไม่ออกว่าโทษใครดี ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดา เป็นวัฎจักรสากลของวงการไม้ เหมือนๆ กับเรื่องที่จะมีรถผ่าไฟแดงทุกครั้งรอบละ 2-3 คัน
....ผมยกตัวอย่าง ที่บริษัทผมเค้าประชุม การเพิ่มยอดขาย เจ้าของบริษัท ถามบรรดาผู้จัดการว่ามีวิธีอย่างไรที่จะเพิ่มยอดขาย ส่วนใหญ่ไม่พ้นเรื่อง ลดราคา แถม โปรโมชั่นต่างๆ ซึ่งเจ้าของบริษัทบอกว่า ไอ้เรื่องที่แนะนำมา ผมว่า เด็กประถมมันก็คิดได้ ผมจ้างคุณมาคิดไม่ใช่มาผลาน

...ขอยกตัวอย่าง เรื่องที่1
มีพ่อค้าอาชีพ ได้ตกลง กับลูกค้า ไม้ด่างล๊อตใหญ่1000 เสียบ ก่อนที่จะมีการรับไม้ ปรากฎว่า มีพ่อค้ามาเทขายในราคาถูกจำนวน ร้อยกว่าต้น ผลก็คือ ลูกค้าของพ่อค้าเอามาเป็นข้ออ้าง ว่า ผมขายไม่ไม่ได้ ตลาดเสียแล้ว จากที่ผมสั่งเสียบละ 100 ผมให้คุณได้เสียบละ 40 จะเอาหรือไม่ มือสมัครเล่น คงไม่รู้ว่ามันส่งผลไปได้ถึงขนาดนี้

...ขอยกตัวอย่างที่ 2
มือสมัครเล่นมือเติบเงินหนา เที่ยวซื้อไม้ตามกระแส ชอบต้นไหน ตัวไหน อยากได้เป็นล้นพ้น ทุ่มซื้อ ถ้าไม่ขายให้เกราคาให้เจ้าของจนใจอ่อน ยิ่งโดยเฉพาะกิ่ง ที่มีแม่พ่วงท้ายยิ่งชอบใหญ่ ด้วยที่ตัวเองมีฐานะไม่ได้เดือดร้อนเท่าไหร่นักกับการซื้อ แต่เวลาท่านขายออกมาสิครับ เล่นเอามืออาชีพสอึก ลมแทบจับ ท่านเล่นขายแบบเอาบุญ แบบเอาไปศึกษา เมื่อของหายากกลับกลายมาเป็นของหาง่าย ตลาดไม้ต้องปรับตัวไปตามสภาพ คือถูกแบบไร้คุณค่า ยกตัวอย่างซ้อนยกตัวอย่าง สมมุติว่า มกท. มีขายทุกที่ ทุกแผง แผงไม้สี แผงรถเร่เปิดท้าย เรียกว่าเดินไปที่ไหนเกร่อไปทั่ว ผมยังอยากจะถามว่าคุณยังจะขายในราคาต้นละ 800 หรือ1000 ได้อีกหรือไม่ นี่แว่วๆจะมีกิ่งแม่บ้านนาขายในราคาหลักสิบ อิอิอิ สนุกล่ะท่าน จะได้จบกันเร็วๆซะที ถ้าจะให้ดี ลงทุนล้านบาท ซื้อกิ่งแม่ เขาหินซ้อน แล้วมาหั่นขาย ราคาเสียบละ 50 ผมว่าดีนะ ไม่เกิน 2 เดือน เขาหินซ้อนวายแน่นอน

๑๑๑ ยกตัวอย่างหลายเรื่องแล้ว ขอจบลงที่แนวคิด หรือท่านที่จะคิด หรืออาจเป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ว่าผลกระทบจะเป็นอย่างไร เรามาช่วยกัน สร้างวงการ ไม่ว่าจะวงการไหน ให้มองเผื่อเขาเผื่อเรา มองเขามองเรา ด้วยฐานะคนเราแตกต่างกัน เงิน 100 บาทของผู้ขายบางคนมันมีค่ามหาศาล กับเงิน 100 บาทอีกคนมันช่างไร้ค่าแค่เศษเงิน มีพ่อค้าหลายท่าน ยึดอาชีพนี้ และผยุงอาชีพนี้ เพื่อให้มีรายได้พอกับการดำรงค์ชีพตราบนานเท่านาน ถ้าพวกเรามือใหม่หรือมือเก่า เปิดราคาก็ให้สมต่อเหตุละผล มองเผื่อคนที่เขาฝากชีวิตกับการขายไม้แต่อย่างเดียว บางครั้งเราอาจไม่รู้เลยว่า เราได้ทำร้ายคนอีกกลุ่ม หรือมีผลกระทบกับอีกกลุ่มโดยไม่รู้ตัวเป็นตราบาปที่เราก่อโดยไม่ได้ตั้งใจ
.....ผมไม่ได้บอกว่าสิ่งเหล่านี้ใครเป็นคนผิด มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกวงการ แต่ถ้าเรารู้ซะก่อน เรื่องที่เกิดมันน้อยลง ผลกระทบมันน้อยลง ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยผยุงให้วงการมันอยู่นานๆ เมื่อเรารู้ก็น่าจะช่วยกันนะครับ อย่าขายตัดราคาเพียงแค่คิดว่าขายได้เท่านั้น ควรคิดเสมอว่าคนซื้อเขาซื้อของเราที่ตรงไหนกันแน่ (ยกเว้นเรื่องราคาถูกๆ) เราควรเอาเรื่องตรงนั้น มานำเสนอดีกว่าครับ มันมีตั้งมากมาย แล้วทำไมคิดได้แค่เรื่องเดียว อิอิอิอิ
.....ขอขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่าน สงสัยอัดอั้นไม่ได้เข้าเวบ 3 วันมั้งครับ สวัสดี

โดย: กฤตย์ ลูกไม้ไทย [8 ต.ค. 51 16:13] ( IP A:124.120.62.39 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   บางอารมณ์ผมคิดเหมือนพี่กฤตย์เลยนะ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า ธุรกิจก็คือธุรกิจ เมื่อไม้ผลิตง่ายอย่างไม้เสียบยอดเริ่มขายไม่ออก ผู้ค้าก็จำต้องลดราคาลง และเมื่อลดลงแล้วผมเชื่อว่าต้องมีอย่างน้อย1คนที่ลดลงแบบทุบตลาด เพราะคาดว่ามันจะเป็นก๊อกสุดท้าย ขอข้าขายเองดีกว่า และดึงเอาส่วนแบ่งทางการตลาดมาไว้ให้ได้มากที่สุด..... ธุรกิจการค้ามันเป็นเรื่องโหดร้ายนะผมว่า ช่วงหลังๆผมเลยพยายามเลี่ยงไม่ขายอะไรซ้ำชาวบ้านเค้า เดี๋ยวจะผิดใจกันเสียเปล่า แต่ผมยังเชื่อนะครับว่าการขายตัดราคาเพื่อชิงความได้เปลียบในวงการต้นไม้ไม่ได้ทำให้ไม้มันจบ อย่างมากก็ทำให้คนกลับมาอยู่กับความเป็นจริงเท่านั้นเอง.....

ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ไม่ได้ copy กระทู้ ที่ผมได้อ่านมาให้ดู เพราะคิดว่าไม่เหมาะและเรื่องมันก็จบไปแล้ว ส่วนอีกเรื่องที่ได้ฟังมาเป็นเรื่องของพวกทำไม้สุดฮ๊อตอีกตัวนึงครับ ประเภท ทุ่มไปเย๊อะแล้วเกรงจะไม่ได้ร่วมโกยเพราะทำไม้ไม่ทันชาวบ้าน ประมาณนั้นแหละครับ....

แต่ยังไงซะต้องขอเตือนผู้ที่เข้ามาอ่านอีกครั้ง ให้จับประเด็นให้ถูกนะครับ ทั้งผู้ค้าสมัครเล่นและอาชีพ ก็เป็นคนที่เดินทางสายเดียวกันทั้งนั้น บทสรุปที่สวยหรูคงหาไม่ได้ แต่หลายๆความคิดเห็นที่ได้เสนอออกมาอาจจะมีบางสิ่งที่ตรงใจท่านก็ได้ครับ....
โดย: พลภัทร [8 ต.ค. 51 18:36] ( IP A:124.121.139.3 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   ขอออกความเห็น...ในฐานะมือใหม่..แต่ยังไม่ได้ ค้า ดิฉันเพิ่งเริ่มปลูกชวมชม..และซื้อชวนชมจากเวป..ไม่ว่าจะเป็นเมล็ด..ต้น..หรือกิ่งเสียบ และไ่ม่เคยเข้าไปซื้อจากสวนเลย..เพราะอะไร ? บอกตรงๆว่า กลัวราคา..มหาโหด...ถามมากก็อาจจะโดนฟัน..ไม่มีความมั่นใจ เพราะเขาคงอยากขายแต่ลูกค้ารายใหญ่ๆ และที่สำคัญ..ไม่ใช่คนรวย..แค่อยากเป็นเจ้าของชวนชม..อยากลองเพาะ..อยากทำให้ไม้ของเราสวยๆอย่างเขาบ้าง..ซื้อไม้จากเวป..สบายใจดี..ถึงโดนหลอก..ก็ไม่เห็นหน้าเรา..ราคาเหมาะสม..ไม่เว่อร์...โง่มาก่อนฉลาด ถึงซื้อไม้ไม่สวย..ไม่ใช่พันธุ์ที่เขาบอกไว้..ก็ไม่เป็นไร..เราจะเรียนรู้ไปเอง..แต่เท่าที่สั่งซื้อมา..ก็พอใจทุกครั้ง..ดิฉันคิดว่า...มันไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรมากมาย..ลูกค้าคนละกลุ่มกันอยู่แล้ว..ก็มีบ้างในการเปรียบเทียบราคา...ถ้ามันทำให้ราคาตกลงมา...ก็น่าจะเป็นการดี..ที่มันจะได้ขยายวงกว้างออกไป...คนธรรมดาจะได้มีโอกาสเล่นชวนชม...มากขึ้นๆ
เพราะบอกตรงๆว่า...เมื่อก่อนก็ซื้อไม่ลงเหมือนกัน..แพงซะจนคิดว่าอะไรกันนักกันหนา...ตั้งราคากันจนเว่อร์..กะเอารวยกันเลย..ถ้ามันแพงมาก ก็คงอยู่ในวงแคบๆ...ชื่อสายพันธุ์ใครๆก็ตั้งกันได้...แต่ว่าจะมีใครสนใจกันหรือเปล่า..แต่ถึงจะติดตลาดแล้ว...คุณก็ไม่ใช่เจ้าของ..พันธุ์ไม้ไม่มีใครเป็นเจ้าของได้...แต่เครดิต..ความน่าเชื่อถือต่างหาก..ที่คุณจะเป็นเจ้าของได้..ที่เค้าเรียกกันว่า..เจ้าตำหรับ...และเมื่อมีคนซื้อไม้มาจากคุณแล้ว..เค้าก็มีสิทธิ์ ที่จะ ตอน..เสียบ ชำ ขายเมล็ด..จกาต้นนั้นได้..ถึงจะขายถูกก็เป็นสิทธิ์ของเขา...เจ้าของเดิมไม่มีสิทธิ์อะไรมาต่อว่า...ต้นไม้ไม่มีลิขสิทธิ์....
อีกหน่อยดิฉันยังอยากลองขายลูกไม้...ที่ได้จากการสั่งซื้อเมล็ดจากเวปมาเลย...แต่ไม่รู้จะมีใครซื้อหรือเปล่า....แต่ถึงขายไม่ได้ ก็คงไม่ดั๊มราคาจนติดดินหรอก...เพราะมันก็มีเหตุผลของมัน...ถ้าไม่คุ้มค่ากับเวลา..และแรงงานที่เสียไป...ใครจะไปขายขาดทุน..เสียดายเหมือนกันนะ...ปล่อยมันรกอยู่หลังบ้านยังดีซะกว่า....จริงไหมคุณๆ....

โดย: นิต2546-B [8 ต.ค. 51 19:55] ( IP A:117.47.244.210 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
   ....Supplyเยอะ....Demandน้อย.... ของถูกยังแทบไม่มีคนซื้อ ....
....Demandสูง....Supplyต่ำ......... แพงแค่ไหนก็ขายได้ตลอด ....
.... ของแพง ....คือ ของที่ราคาสูงกว่าความน่าจะเป็น ....
.... ของราคาสูง. ... อาจจะไม่ใช่ของแพง .....อาจเป็น...'ของดีที่สมราคา'....
.... ของราคาสูง. ... อาจจะคือของธรรมดาๆ....แต่มีแบรนด์ ...มีคนหลงซื้อเพียงช่วงแรก....สุดท้ายก็ต้องขายไม่ออก..เพราะลูกค้าเริ่มคิดเป็น....
....ของดีราคาถูก...ใครๆก็ต้องการ...ถ้าหาตลาดเจอ..มีเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย....เสียดายที่ออกมาเพ่นพ่านน้อย....เพราะเจ้าของต้องการระบายของเป็นพักๆ...ไม่ว่าจากการที่พื้นที่เต็ม...หาค่าปุ๋ย...ค่ายา....แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะขายราคานี้ซะทุกครั้งไป....
....ใกล้เวลาปิดคลินิกแล้ว..คืนนี้ไปต่อตอนจบที่บ้านน้าจ๊าพี่น้อง.....
โดย: เล่งฮู้ชง [8 ต.ค. 51 20:01] ( IP A:125.27.215.21 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   ประมาณ70% ไม้ในอินเตอร์เนต ขายแพงกว่าพ่อค้านอกตู้..
มองภาพรวมนะครับ ไม่ใช่มองไม้แยกประเภท..

สินค้ามันก็มีทั้งถูกและแพง มีคนได้ประโยชน์ มันก็มีเหยื่อ..แล้วแต่ภูมิคุ้มกันของคนเดินเข้ามาวงการต้นไม้ใหม่ๆ..เวลาจะให้คำตอบกับคุณเอง แต่จากประสบการณ์ตีโง่บ่อยๆ มักจะสอนตัวเองเสมอว่า..ยังมีเวลาอีกมาก ที่จะฝึกให้โง่น้อยลง..ขายังครบ และโปลิศยังไม่มา..

เรื่องของผลประโยชน์ ใครเสียหายก็ว่ากันไป..แก้ไขโดยใช้มันสมองกับสองมือ บางทีมันไม่ง่าย บางคนใช้ปากแก้ไขปัญหา..ทุกวงการมันถึงวุ่นวายกันไปหมด..

และสุดท้ายดีใจที่เพื่อนพ้องน้องพี่ในอาศรมฯ มีแนวคิดที่เป็นเอกภาพชัดเจนขึ้น ไม่ตามกระแส หรือ โหนความอยากทั้งหลายแหล่เพื่อตัวเองเป็นที่ตั้ง..

ช่วงนี้ผมชีพจรลงเท้า เดินทางบ่อย วันนี้ผ่านดอนเมือง นึกถึงท่านเจ้าของกระทู้..เห็นแต่ตึกปูน นึกแต่ว่า ตาคนนี้ไปทำสวนอยู่ตรงไหนหว่า..เดี๋ยวรอความขยันเขยิบขึ้นมาอีกสักนิด จะขยับแนวคิดเรื่องตลาดชวนชม ปี 2010 มาให้อ่านกัน..
.
โดย: อรรถพล [8 ต.ค. 51 20:58] ( IP A:125.27.112.175 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
    ....ลูกค้าครับ..จะเป็นคนกำหนด....ว่าจะซื้อหรือไม่
....ทุกคนมีวิจารณญาณในการเลือกซื้อ....แล้วแต่ว่าใครจะโชคดีเจอผู้ขายที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้องรึป่าวเท่านั้นเอง...
....พวกเราเอง....ถึงแม้จะเริ่มมีของขาย....แต่ก็ยังซื้ออยู่กันทุกคน....ก็คงต้องสอนให้คนใหม่ 'ฉลาดเล่น' ...ก็เท่านั้น....
....มาเข้าเรื่องกัน....
....ผมขอถามว่า 'การขายตัดราคา' แบบที่น้องโอ๋โดนต่อว่าคืออะไร....ราคากลางใครเป็นคนกำหนด....ใครจะตอบผมได้บ้างครับ....
....ถ้าผมจะถามคนที่ต่อว่าน้องโอ๋ว่า...ทำไมพวกคุณอยากให้ราคาสูง....เราเรียกพวกเค้าว่า 'ขายโก่งราคา' บ้างได้มั้ย....
....ทีนี้มาดูต้นทุนกัน....
....เมล็ดราคาไม่กี่บาท...เต็มที่ก็ไม่ถึง50บาท...เกินกว่านี้คงมีไม่กี่สายพันธุ์...แล้วก็คงมีคนหลวมตัว(บ้า)ซื้อไม่เท่าไหร่.....ตอนนี้ก็ผสมกันเป็นทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว...เก็บฝักให้อยู้บ้างก็ลดต้นทุนได้อีกเยอะ....
....ต้นทุนกระถาง+ดิน+ค่าดูแล+ปุ๋ยและยา ก็ไม่เท่าไหร่.....
....ต้นทุนแท้จริงๆก็ไม่เท่าไหร่....
....แล้วทำไม....กับไม้ตลาดๆ...ราคาขายยังจะต้องการให้สูงกันนัก....
....ไม่ทราบว่าจะขายไปตั้งเนื้อตั้งตัวกันในเวลาปีสองปีกันรึอย่างไร....
....ไม้ราคาสูงจะมีคนใหม่ๆกล้าเล่นกล้าสะสมเพิ่มขึ้นซักกี่คน....
....ถ้าไม้เพลนๆ..ไม้ตลาดๆ...ยังราคาสูง...แล้วราคาไม้คอลเลคชั่นจะทะลุหลักอะไร....
....ถ้าฐานลูกค้า(คนเล่น)หลักแสนคน....ราคาไม้จะต้องสูงอยู่อีกมั้ย....
....คนบางคนยังทำการตลาดแบบเก่าๆ...แบบผิดๆอยู่ครับ....ไม่รู้จักการตลาดที่แท้จริง....
....การเพิ่มฐานคนเล่นระยะยาวสิครับ...คือการทำการตลาดที่แท้จริงและยั่งยืน....
....ส่งเสริมให้คนเลี้ยงไม้ด้วยความสุข....เราเองก็ได้อานิสงค์โดยไม่รู้ตัว....สุขใจทั้งครอบครัวคนขาย...และครอบครัวคนซื้อ....
....อย่างน้อยก็ผมละคนนึงที่เลิกเที่ยวเลิกเตร่และดื่มสุราไปแล้ว....อันนี้ต้องขอขอบคุณพี่ทรงกลด.....
.... การขายต้นไม้เป็นสัมมาอาชีพ ...แต่ก็มีบางกลุ่มที่ทำให้เป็น มิจฉาชีพ ....เงินที่ได้มาจากมิจฉาชีพเป็นเงินร้อน...อยู่ได้ไม่นาน...ลองย้อนประวัติศาสตร์กลับไปดูครับ....
....เงินที่เค้าทุบหัวลูกค้าแล้วเข้าบ้าน....หรือได้มาแบบผิดคุณธรรม...จะตามหลังมาด้วยพลังทางด้านลบ....ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง....ยิ่งถ้าลูกค้าถึงบางอ้อ...ส่งพลังแช่งตามมา...จะทำให้ไม่มีความเจริญ...เป็นเวรเป็นกรรมจนต้องตามขออโหสิกันไม่รู้จบ....
....บางคนก็ชอบรวยเร็ว...รวยลัด...แบบนี้จะรวยไม่นานและยั่งยืน... "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" ครับ....รวยได้ก็จนได้...ดังได้ก็ดับได้....มาเร็วก็ไปเร็ว....ทุกสิ่งทุกอย่างไม่แน่นอน....เป็นกฎของธรรมชาติ....
....ลงทุนไปเยอะ...โดนตัดราคา...ก็ต้องโกรธบ้าง...เพราะสิ่งที่คาดหวังว่าจะได้... มันไม่ได้ ....คงต้องเข้าใจเค้าอยู่เหมือนกันครับ....
....ถ้าลงทุนน้อยๆ....แบบพอเพียง....ซื้อตามอัตภาพ....เลี้ยงให้จำนวนเหมาะกับพื้นที่...ส่วนที่เกินกำลังค่อยขายไป...
....ขายออกไป...เอาปุ๋ยเอากระถางเอาไม้ใหม่เข้ามา...แบบนี้ไม่ค่อยเครียด...เพราะต้นทุนต่ำ....อยากขายเท่าไหร่ก็ขาย....เล่นแบบพอเพียง....รู้จักเพียงพอ....

....อีกอย่าง...ผมว่ามันอาจเป็นอย่างนี้นะน้องโอ๋
....คนที่คอมเพลนน้องโอ๋มา...เค้าอาจจะโดนเล่นมาก่อน...อาจมีต้นทุนที่สูงกว่ามาก....อาจโดนคนที่ขายเค้าหลอกมาว่า..."ลงทุนซื้อไปเท่านี้...จะได้ผลตอบแทนเท่านี้...ในเวลาเท่านี้...ซื้อไปกำไรเห็นๆ"....เป็นต้น....ซึ่งพวกเราก็เห็นกันอยู่ประจำ....หรือไม่ก็อาจเป็นคนที่คาดหวังกับรายรับสูงเกินไป...
....ก็น่าเห็นใจครับ...แต่ใครจะไปช่วยได้..ของแบบนี้ขึ้นกับการใช้สติในการพิจารณาตั้งแต่แรก....
....ถ้าคุณซื้อมาด้วยความหวัง....เป็นการลงทุน....ก็จงรับรู้ไว้เลยครับว่า...ความหวังของคุณอาจโดนความแปรปรวนทางการตลาดทำร้ายเอา....เหมือนการลงทุนแบบอื่นๆ....
...."High Risk...High Return"....นักลงทุนไม่ว่าหน้าเก่าหน้าใหม่ต้องทราบทุกคน....
....ผมเองก็เคยโดน....
....นี่คือเรื่องของผมเอง....
....ไม้ชุดแรกๆ...ที่จำหน่ายแบ่งปันกันในบ้านคนรักโซโคฯ คือกิ่งตอนราชินีพันดอก....ขนาดลำต้นประมาณนิ้วก้อย..สูง8-12นิ้ว....ราคาจำหน่ายในแถบที่ราบสูงอยู่ที่ 500บาทได้กิ่งเล็กกว่าผม...ผมขาย250บาท....
....ขาย100กว่าต้น..แป๊บเดียวหมด....
....แล้วก็ทราบภายหลังว่า...มีหลายท่านต่อว่าผมว่าขายตัดราคา....ทั้งๆที่ผมจำหน่ายให้กับสมาชิกเพื่อนๆที่เล่นด้วยกัน....ไม่มีคนนอกเลย...เพื่อนๆกันทั้งนั้น....ยังไม่วายโดน...5..55...
....แต่ก็น่านละครับ...ชุดหลังผมก็ไม่ต้องแปะขาย....เพื่อนทางที่ราบสูงก็รับไปขายต่อเองซะเลย..5..5.5...เพื่อนฝูงกานท้างน้าน...ต่อว่ากานไปไย...
....ผมว่าเรามาขยายฐานคนเล่นกันดีกว่าครับ....
....ทั้งในและนอกประเทศ....
....มาแข่งกันขยายกลุ่มชวนชมของตนให้กว้างๆ....อย่ามองเค้าเป็นลูกค้า....ขอให้มองเค้าเป็นเพื่อน....สอนเค้าให้เล่นเป็น..ให้เค้าสนุก...ให้เค้าอยู่ได้....เดี๋ยวปากต่อปากออกไปเอง....ไม่ต้องใช้กลยุทธอะไร....
.... ใช้ความจริงใจอย่างเดียวพอ ....
....เศรษฐกิจแบบนี้....คนที่จะซื้อของแพงๆ....คงมีไม่กี่คนหรอกครับ
....ใครอยากรวยจากต้นไม้....ต้องทำของหายาก...ถูก...แล้วปริมาณเยอะๆเข้าไว้
....สายป่านต้องยาวนะครับ....ขอบอก....ราคาตกต้องยืนระยะให้ได้
....ลดต้นทุน....ราคาจะสู้กับคู่แข่งทางการค้าได้ครับ....
....กำไร/unit ไม่ต้องสูง...เล่นปริมาณ....
....ไม้คอลเลคชั่นสวยๆราคาสูงๆก็ทำไว้บ้าง...ทำแต่เล็กแต่น้อยต้นทุนต่ำครับ....ใครมาขอซื้อก็ขายไปบ้าง...เก็บไว้ตัวสองตัวพอ...อย่าบ้าเก็บไว้หมด.... ไม้มีโตมีตาย ....(ประโยคนี้ของคุณศรีฯ...พูดไปก็คิดถึง...ไม่รู้ลูกคลอดยัง....ใครรู้บ้าง....???)
....โชคดีจงเป็นของทุกคนครับ....smile
โดย: เล่งฮู้ชง [8 ต.ค. 51 22:59] ( IP A:222.123.91.64 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
   เค้าไม่ได้ว่าผมหรอกครับพี่หมอ(ไม่ค่อยมีใครกล้าเพราะผมตัวใหญ่ อิ...อิ....) เป็นเรื่องของน้องสาวคนนึงที่เลี้ยงไม้จนมีผลผลิตเล็กๆน้อยๆแล้วเอามาลองขายในราคาไม่แพง แต่โดนผู้ไม่ประสงค์ออกนามโทรไปโวยเฉยเลย พอดีผมได้คุยกับแฟนของน้องเค้าเกี่ยวกับปัญหาในการขายของบน ebay แล้วเค้าบ่นเรื่องนี้ให้ฟัง ประกอบกับเมื่อไม่นานมานี้ก็มีการบ่นในระยะเผาขนเกี่ยวกับการขายไม้ราคาย่อมเยาว์ในเวป ให้กับพี่ชายในห้องกระบองเพชรฟังจนแกเป๋ไปเลย เหมือนเวปที่เค้าสร้างไว้เป็นตัวการทำให้วงการแย่ลง(หลายๆคนคงพอทราบ).....

ก็อยากให้หลายๆท่านได้อ่าน และเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากเจ้าของ คห. หลายๆท่านไว้ เพราะในคำโฆษณาขายไม้ของพ่อค้าทั้งหลายจะไม่มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยพวกนี้ให้ได้ทราบกัน(ของผมก็ไม่มีครับ ขายอย่างเดียว) ส่วนในเรื่องของราคาสินค้า ก็คงยังต้องถกกันต่อ เพราะแต่ละคนก็แต่ละความคิด มีความจำเป็นบีบรัดอยู่สารพัดเรื่อง บางครั้งรู้ทั้งรู้ว่าทำแล้วคนอื่นจะแย่แต่ก็ต้องทำเพราะตัวเองก็กำลังแย่เหมือนกัน....

จึงยังขอเปิดรับทุกความคิดเห็นไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย รายใหญ่หรือรายย่อย ส่วนท่านที่เข้ามาอ่านก็สุดแล้วแต่ว่าจะเก็บอะไรกลับไปได้แค่ไหนแล้วกันนะครับ....
โดย: พลภัทร [8 ต.ค. 51 23:30] ( IP A:124.121.135.111 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
   ----ขอเเข้ามาเล่าแชร์ประสบการณ์ให้ฟังเฉยๆครับ เป็นประสบการณ์ตอนเป็นน้องใหม่เพิ่งหัดเลี้ยงชวนชม
----เคยซื้อกิ่งตอนราชินีพันดอก กิ่งประมาณนิ้วกลาง สูงไม่ถึงฟุต ราคา ๑๕๐๐บาท คิดเล่นๆว่า ไม่เป็นไรหรอกซื้อจากเจ้านี้มันต้องเป็นของแท้เพราะมาจากจังหวัดต้นกำเนิด เด๋วพอเสียบเป็นแล้ว
ก็หั่นมาเสียบซะ ๑๕กิ่ง ขายเสียบละ ๑๐๐บาทเอาทุนคืน แล้วเก็บกิ่งเดิมไว้เลี้ยง แฮ่ๆๆๆ หลังจากนั้นไม่นาน ก็ซื้อตัวอื่นๆจากพี่ที่ใจดีอีกคนในราคาที่ค่อนข้างจะถูก แล้วก็กึ่งขายกึ่งแถมกิ่งตอนราชินีมาให้๑กิ่งที่ราคา ๑๕๐บาท จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยเอากิ่งเสียบไป
ปล่อยขายให้ใคร ที่เสียบไว้ก็แจกๆน้องๆ ญาติๆไปเลี้ยงกัน ปัจจุบันไอ้ต้น ๑๕๐บาทนี่โตนำหน้าต้น ๑๕๐๐บาทไปแล้วครับ สิ่งที่ผมรับรู้ตอนนี้ก็คือคนที่เอามาปล่อยผม ๑๕๐๐บาทน่ะ ผมจำไม่ได้แล้วว่าเป็นใคร แต่คนที่ให้ผม ๑๕๐บาทน่ะ ผมจำเค้าไว้ในใจเสมอ และทุกวันนี้ก็ยังติดต่อ พบปะพูดคุย ให้คำปรึกษากันอยู่ครับ สิ่งนี้ก็เป็นมิตรภาพอันนึงที่ฝากผ่านกันได้จากรุ่นสู่รุ่น ส่วนคนที่ขายผม ๑๕๐๐บาทนั้น ผมจำชื่อเค้าไม่ได้จริงๆ นี่คือธรรมชาติของสิ่งที่เกิดขึ้น
----ทับทิมธงชัย เป็นอีกชื่อนึงที่ผมมีประสบการณ์ที่ไม่ดีด้วย เค้าขายกันในนาม ราชินีที่มีดอกซ้อน ตอนปล่อยออกมาใหม่ๆ ราคาก็ค่อนข้างสูง ผมเองก็เห่อตามกระแสตอนนั้น
ซื้อต้นแรกมาที่ราคา ๖๕๐บาท เป็นยอดเสียบยาวราว ๑ ซม ที่เค้ารีบเสียบรีบปล่อย เพื่อเอาราคา
ได้มาตอนนั้นยอดเกือบหลุด เพราะเนื้อยังไม่ประสานกันดี รีบปล่อย ผมต้องเอาเสียบแล้วผูกเชือกใหม่ เลี้ยงอยู่นาน ไม่กระดุกกระดิกเลย
----ก็เลยไปเจอที่เค้ากำลังจะขายทิ้งกิ่งเสียบที่มีแผลเฉือนไปแล้ว ไม่รู้กี่แผล แล้วมียอดเล็กๆ แทงขึ้นมา ๓ยอด ราคา ๙๕๐บาท ก็ว่าซื้อไว้ล่ะกัน น่าจะแข็งแรงกว่าต้นเก่าที่ไม่กระดุกกระดิก
ต่อมาพอยอดเริ่มยาวขึ้นบ้าง ก็เลยตัด ๓ ยอดที่ว่าไปเสียบตอฮอลแลนด์ เน่าไป๒ ติด๑ แต่ก็ไม่ค่อยจะเต็มใจงอก อยู่นิ่งๆเฉยๆมานมนาน ท้ายสุดต้นที่ซื้อมาก็ไม่ยอมแตกยอดอีกเลย
ใช้มีดสะกิดดู พบว่าเนื้อไม้ค่อยๆเน่าเสียไปหมดจนถึงรอยต่อ เลยตัดสินใจเอายอดเพชรพระนครมาเสียบแทนที่ตอนั้น ตอนนี้กลับงอกงามเป็นเพชรพระนครไปแล้ว
----ต่อมาซื้อเป็นต้นตอไทยสูง๑ฟุต มี๓เสียบ ราคา ๑๒๐๐บาท กะว่าคราวนี้ต้องแข็งแรงดีแน่ๆ
ใครจะไปรู้ว่า โดนเข้าอีกแล้ว เค้ารีบทำรีบขายกันให้ทันเวลาขาขึ้น ตอไทยต้นนั้นมีรากติดมาแค่กระจุกเล็กๆนิดเดียว ยอดที่เสียบมาก็เหมือนกะเพิ่งจะติด แผลยังใหม่มากๆ ปลูกไปได้แค่สองอาทิตย์ ไปธุระต่างจังหวัดหลายวัน พอกลับมาพบว่า มันเน่าลามจากโคนต้นขึ้นมา ตายหมดทั้งตอ ทั้ง๓กิ่งเสียบ
----ยังไม่จบครับ ต่อมาประมูลเล่นๆ ได้ทับทิมธงชัยจากน้องแพรวมา ๑เสียบยาวราวๆ นิ้วครึ่งที่ราคา๓๕๐บาท ต้นนี้อยู๋รอดปลอดภัยมาจนทุกวันนี้เพราะเสียบติดแบบแข็งแรงมาแต่แรก
เคยออกดอกมาสองครั้ง
----ที่เล่ามาให้ฟังทั้งหมดนี้ก็เพียงแต่จะเล่าให้ฟังว่า ในช่วงขาขึ้น พ่อค้าก็มักจะรีบทำรีบขาย โดยไม่ระวังเรื่องคุณภาพว่า คนที่ซื้อไปจะได้หัวหรือก้อย คนที่โดนก็คือน้องใหม่ที่ไม่ค่อยประสา
แต่ถ้าการที่มีคนทำไม้ออกมาให้น้องใหม่แบบมีคุณภาพและราคาไม่แรงเกินไป ย่อมสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นได้ และทำให้คนเล่นก็มีกำลังใจและกำลังทรัพย์ที่จะสืบสานเลี้ยงดูเพิ่มขึ้นต่อๆไป เช่นกรณีของผมนั้น
หากว่าเจอกรณีแบบทับทิมธงชัยเข้าไปซักอีก ๒ที ผมก็คงเลิกเล่นเหมือนกัน เพราะเห็นว่า แพง เลี้ยงยาก ตายง่าย แต่โชคดีที่ผมก็ยังเจอพี่ๆใจดีหลายคนอยู่ในยุคนั้น ขอเอ่ยนามเลยครับ
เพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องน่าอาย ที่จะสรรเสริญใครจากความจริงใจ ผมโชคดีที่เจอ พี่หมออ๊อบ พี่ท ทหาร ลพบุรี พี่กฤตย์ ที่ขายไม้คุณภาพ ราคาเด็กๆให้ รวมทั้งเมล็ดพันธุ์ที่แจกฟรี จากคุณพลภัทร
มหาสิทธิ์ และ ท่านเจ้าอาศรมทั้งลีลาวดีและชวนชม
----ผมว่าการที่เรายังมีน้องใหม่ก้าวเข้ามาในวงการนี้เรื่อยๆ ส่วนหนึ่งมาจากมิตรภาพที่พี่คนเก่ามีให้ไม่ว่าจะเป็นคำแนะนำ คำปรึกษา การเขียนบทความสอนเทคนิคต่างๆ รวมถึงความซื่อสัตย์และจริงใจในการขายสินค้าคุณภาพในระดับราคาที่ไม่แพง
----ลองคิดดูเล่นๆว่า หากในวงการนี้มีแต่คนที่เล่นบทพ่อค้า แม่ค้าอย่างเดียว เอาสินค้ามาแปะขาย เก็บตังค์ ส่งของ จบ ๆ ๆ ๆ ๆ หรือสุมหัวกันปั่นราคา สุมหัวกันเข้ามาเชียร์สินค้าต่างตอบแทนกันจนเกินงาม ในที่สุดน้องใหม่เริ่มเรียนรู้ เค้าจะรู้สึกอย่างไร จะมีใครอยากก้าวเข้ามาในวงการนี้อีกหรือไม่ เมื่อความจริงถูกกล่าวขาน
โดย: ทาร์ซาน [9 ต.ค. 51 4:22] ( IP A:202.149.24.161 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
   
โดย: takajad [9 ต.ค. 51 8:42] ( IP A:125.27.122.210 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
   ผมอาจเห็นแตกต่างจากท่านอื่น ยังไงก็ขออภัยไว้ที่นี้ ณ ครับ

มันฟันธงยากครับ คนซื้อก็เชียร์คนขายที่ขายถูก คนขายก็อยากมีกำไร ซึ่งขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ผลิตได้น้อย ต้นทุนก็สูงกว่าคนที่ผลิตเยอะ ๆ ราคาเลยไม่เท่ากัน

Demand และ Supply เรามักโทษสองตัวนี้ แต่เราไม่เคยคุมสองตัวนี้ ผมมองกว่าการขยายฐานการเลี้ยงไม่ใช่อยู่ที่ไม้ราคาต่ำ แต่เป็นเรื่องการประชาสัมพันธ์ ความสวยงามของไม้ ลักษณะเด่น แพร่พันธุ์อย่างไร เมื่อซื้อไปแล้วสามารถขยายพันธุ์ได้ เค้าก็คงแบ่งปันให้เพื่อนฝูงไปหัดเลี้ยง และจะเริ่มหาซื้อ ศึกษาเพิ่มเติม สิ่งที่ตัวเองยังขาดไป ผมยังพบเห็นน้อยที่คนในวงการชวนชมไปประชาสัมพันธุ์ชวนชมให้ผู้เลี้ยงไม้ชนิดอื่น ซึ่งผมมองว่านี่คือการขยายฐานการเลี้ยง

เรามาควบคุม Demand และ Supply กันดีกว่า ทำอย่างไรให้ Demand สูง การขายราคาต่ำทำให้เร่งการซื้อมากกว่าเพิ่มจำนวนการซื้อ แต่การเผยแพร่ วิธีการเลี้ยงดู วิธีการขยายพันธุ์ ทำให้เลี้ยงแล้วสนุก ใครก็อยากเลี้ยง ไม่ได้เลี้ยงเพราะซื้อไม้ได้ราคาถูกน่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนมากกว่า Supply ควบคุมการผลิต ไม่ใช่ผลิตให้เยอะแล้วขายต่ำกว่ารายอื่นเพื่อให้ตัวเองขายได้มากกว่า เปลี่ยนไปพัฒนาสายพันธุ์ให้หลากหลายแทน ขายแตกต่างจากรายอื่น เป็นการพัฒนาวงการ เปลี่ยนไปพัฒนาวิธีเลี้ยง เลี้ยงอย่างไรให้ได้ลูกไม้สวย ซึ่งเหล่านี้มักยากกว่าการขายราคาต่ำกว่า ถ้ามุ่งมองแต่เรื่องราคาต่ำเพื่อแข่งขันกัน ก็จะทำเฉพาะตัวเก่า ๆ กัน เร่งผลิตให้ได้เยอะ ๆ เพื่อต้นทุนต่ำ ๆ สุดท้ายขายไม่หมด ก็จะเกิดคำพูดว่า “เลี้ยงทำไมให้เปลืองน้ำเปลืองปุ๋ย ขายให้ได้ทุนคืนก็ยังดี”

ทีนี้เข้าประเด็นหัวข้อกะทู้ เรื่องผลกระทบ ผมว่ายังไงก็มีผลกระทบครับ อย่างน้อยก็เห็นมาแล้ว 1 เรื่อง คือ การพยายามทำให้ต้นทุนต่ำเพื่อให้ขายได้ในราคาที่ต่ำกว่า ก็จะมีการกดราคา ตอ จากผู้ผลิตตอ ทั้งที่ปัจจุบันต้นทุนทุกอย่างสูงขึ้น เนื่องมาจากเศรษฐกิจ ต่อไปคนผลิตตอก็ไปกดราคาผู้ผลิตเมล็ด (อันนี้มองในด้านของผลิตอาชีพตามหัวข้อกะทู้นะครับ)

ประเทศเราจะพัฒนามากกว่านี้ครับ ถ้าถามหา”ใครขายไม้คุณภาพ มากกว่า ถามหา ใครขายไม้ราคาถูก”
ประสบการณ์ตรง ผมทำธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสาร สิบกว่าปี มีลูกค้า 2 คนจากเป็นหมื่นคน มาซื้อสินค้าที่ร้านผมและพูดทำให้เราได้คิด ว่า “ร้านอื่นขายถูกกว่า ราคาที่โฆษณาในหนังสือพิมพ์” คงเป็นของไม่ดี ของย้อมแมว ของตกเกรด และซื้อคนเดียว 3 เครื่อง แพงกว่าร้านอื่น 1500 บาท แต่สองคนนั้นเป็นวิศวกรชาวอเมริกัน ซึ่งมาเช่าที่เลี้ยงกุ้งกุลาดำ อีกคนนึงเป็นเยอรมัน ข้าราชการเกษียณ ส่วนชาวพม่าจะวิ่งรอกถามทุกร้าน ว่าร้านไหนให้ราคาถูกที่สุด หลายคนอาจมองว่าเป็นเพราะฐานะทางการเงิน แต่ผมมองว่าเป็นเพราะฐานะทางความคิดมากกว่าครับ
โดย: ไก่49 [9 ต.ค. 51 10:23] ( IP A:222.123.144.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 21
   เป็นธรรมดาของวัฏจักรครับ
น้ำมีขึ้นมีลง
เมื่อปีสองปีก่อนราคาไม้ในท้องตลาดสูงขึ้นได้ก็ราคาจากเวป
ดังนั้นไม่แปลกเลยที่ราคาท้องตลาดจะตกได้จากราคาของเวป
ชวนชมเป็นไม้ผลิตง่ายอย่างไงก็ราคาต้องตก
แต่มันจะตกอย่างไรต่างหาก
ตกมาเร็วไปก็มีแต่ตายครับ
ราคาถูกลงก็ใช่ว่าคนเล่นจะมากขึ้น
บางครั้งอาจทำให้คนเล่นน้อยลงเสียอีก
แต่ทุกอย่างก็ต้องทำใจครับ
เลี้ยงไม้ด้วยความรักดีกว่า
มองกี่ที่ก็มีความสุข
ราคาจะขึ้นจะลงก็ไม่ค่อยมีปัญหา
โดย: Tor [9 ต.ค. 51 10:59] ( IP A:58.147.85.3 X: )
ความคิดเห็นที่ 22
   ผมว่ามันเรื่องปกติครับ จริงๆมันก็มีผลกระทบทั้ง 2 ฝ่ายนั่นแหละครับ สลับกันไปสลับกันมา อยู่ที่ใครจะโวยก่อน คนขายประเภทขายเพราะอยากขาย ไม่คิดอะไรมาก(แม้แต่ต้นทุน)มันก็เยอะ ส่วนคนทำเป็นอาชีพก็คิดมากหน่อย วิตกมากหน่อย มันมีขึ้นมีลงเหมือนคุณTor ว่านั่นแหละครับ คนที่ยืนได้ยาวก็ได้เปรียบหน่อย ช่วงน้ำลงก็ประหยัด ปรับ พัฒนาว่ากันไปเรื่อยๆ ช่วงน้ำขึ้นก็รีบตักกอบโกย เป็นแบบนี้มานานแล้ว
โดย: กบ-236 [9 ต.ค. 51 13:11] ( IP A:203.185.133.8 X: )
ความคิดเห็นที่ 23
   ได้ปรึกษากับท่านจ้าอาศรม ปรึกษาหารือกันหาทางแก้ไข ที่เป็นรูปธรรมแบบยั่งยืน และมองกันยาวๆ เห็นทีจะต้องใช้ กฎหมายเข้ามามีบทบาท กำหนดทิศทางการขายของมืออาชีพ
....มืออาชีพผลิตไม้ได้ 1 สายพันธุ์ใหม่ ใครคือคนที่เข้ามาซื้อท่าน ร้อยละ 90 น่าจะเป็นมือทำไม้ ที่มองเห็นกำไร เป็นส่วนใหญ่ที่เข้ามาเป็นลูกค้าท่านในลำดับแรกๆ
....ถามต่อว่ามือทำไม้ เขาได้มาแล้วต้องขยายเร็ว ทำจำนวนให้มาก เพื่อชิงการเปิดราคาขายที่คู่แข่งน้อย จะมี % ส่วนแบ่งตลาดสูง และเมื่อมือทำไม้รายอื่นที่ต้วมเตี้ยมชักช้า ทำไม่ทันเขา ก็ต้องออกมาเลขาย ขอทุนคืนก็ยังดี

...เรื่องกฎหมายที่เข้ามาเกี่ยวข้องคือ พรบ.คุ้มครองพันธุ์พืช
1.มันจะทำให้ พ่อค้ามืออาชีพ ค้นคิด และหาไม้ใหม่ๆเข้ามาจำหน่ายแบบมีเงื่อนไขที่ชัดเจนระหว่าง เจ้าของกับคนทำ จะไม่มาทะเลาะกันภายหลัง เพราะมีข้อสัญญาต่อกัน
2.ถ้าผู้ทำไม้ขายผิดเงื่อนไข เจ้าของพันธุ์ไม้ที่จดทะเบียนอาจเอาเรื่องเป็นความผิดกฎหมายได้
3.ไม้ทุกตัวที่จดทะเบียน เจ้าของมีสิทธิจำหน่ายแต่ผู้เดียวตลอดระยะเวลา 10 ปี คนที่อยากขายก็ต้องรอ 10 ปี แต่ถ้าอยากขายก่อนก็มาทำข้อตกลงกับเจ้าของจนเป็นที่พอใจกันทั้งสองฝ่าย
4.จะทำให้วงการพัฒนาไม้สายพันธุ์ใหม่ๆ มากขึ้น และเจ้าของไม้ไม่ต้องกลัว ใครเอาไม้ของตนไปขายตัดราคา หรือทำปู้ยี่ปู้ยำ ให้เกิดความเสียหายได้อย่างแน่นอน
5.ผู้ที่จดทะเบียนคุ้มครอง จะได้เครดิต ความเชื่อถือจากผู้ซื้อ เพราะต้องติดฉลากรับรองสายพันธุ์ทุกครั้งที่ขาย

....ผมนึกออกแค่นี้ และนี่เป็นอีกแนวทางหนึ่งสำหรับการแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อการขายแบบสมัครเล่น ถ้าผู้ค้ารายใดที่คิดทำการค้าขายแบบมืออาชีพ แบบถาวร ผมขอแนะนำให้มีการจดทะเบียนสายพันธุ์ชวนชมที่ยังไม่มีในท้องตลาด เพื่อเป็นการควบคุมกลไกตลาดให้มีมาตรฐาน และความรับผิดชอบที่ดียิ่งขึ้นต่อไป
....อาจถึงเวลาแล้วก็ได้ ที่วงการจะมีการเปลี่ยนแปลง แบบขับเคลื่อนไปข้างหน้า ปัญหามีไว้แก้ไข มองอดีตเป็นบทเรียน ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด แล้วอนาคตจะสดใสแน่นอนครับพี่น้องทุกท่าน สวัสดี

โดย: กฤตย์ ลูกไม้ไทย [9 ต.ค. 51 13:48] ( IP A:203.156.81.181 X: )
ความคิดเห็นที่ 24
   พี่หมออ๊อบครับ ลูกผมคลอดแล้ว ชื่อเหมือนที่ผมบอกพี่ครับ "ฮู้ชง" ครับ
https://www.pantown.com/board.php?id=20239&area=3&name=board1&topic=391&action=view
โดย: ศรีราชาดีไลท์ 122 [9 ต.ค. 51 17:37] ( IP A:58.147.16.10 X: )
ความคิดเห็นที่ 25
   ขออนุญาติออกความเห็นกึ่งสอบถามนะครับ....ช่วงนี้ผมมีเวลาว่างค่อนข้างเยอะเลยมีโอกาสติดตามเกือบทุกบ้านทุกวัน..เท่าที่ผมสังเกตุไม้ที่ลงขายส่วมมากผมว่า 60 % จะเป็นไม้เสียบพันธ์ดังๆ ทั้งหลาย...ออกตัวก่อนนะครับผมสะสมชวนชมมา 3-4 ปีแต่ไม่ใช่นักเล่น ผมยังไม่รู้เลยว่าเค้าซื้อกันไปทำไม....ถ้าซื้อไปเพื่อทำฝักอีกหน่อยไม้เล็กๆไม่เต็มบ้านหรือครับ...แล้วไม้อายุขนาดนั้นก็จะขายได้เฉพาะนักเล่นเท่านั้น..ความเห็นผมนะครับ...คนชอบอย่างผมซึ้งผมว่าน่าจะเป็นกลุ่มซึ้งเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ในตลาดชวนชมจะไม่ค่อยซื้อไม้ในลักษณะที่ขายในเวป...ถ้าไม่ถูกใจจริงๆ....ส่วนตัวผมเลยคิดว่าราคาในเวปไม่น่าจะกระทบกับบรรดาสวนต่างๆ....อย่างผมชอบตออยากหามาไว้ทางเข้าหน้าบ้านซัก 2 ต้นขนาดใหญ่ๆหน่อยหาในเวปก็ไม่มี...หรือถ้าโทรถามก็มีแต่ราคาหลายๆหมื่น.....เเต่ไปเจอที่สวนใหญ่ที่หนึ่งน่าจะใหญ่ระดับต้นๆของบ้านเรา บอกราคามาคู่หนึ่งไม่เกิน 20000 เป็นไม้หน้า 8 นิ้วกว่าๆ ซึ้งก็น่าจะถูกกว่าในเวปเข้ากรุงเที่ยวหน้าเลยว่าจะไปเอา เคยเห็นท่านเจ้าบ้านแนะนำสวนป้าจำปี ก็ไปไม่ถูก พี่พลภัทรเคยบอกว่าจะแนะนำก็กลัวจะติดต่อกับคนขายลำบาก ความเห็นของผมซึ้งอาจจะไม่กว้างอย่างพวกพี่ๆอยากบอกว่า ไม้ในเวปถูกจริงครับ แต่เป็นไม้สำหรับนักเล่นหรือผู้ที่จะพัฒนามาเป็นผู้ค้า ส่วนอย่างผมซึ้งเป็นผู้ซื้อทั่วๆไป ไม้สี ไม้เพาะเมล็ด ต้นละพันสองพัน มีบ้านละ 2-3 ต้น ก็คงซื้อตามสวนทั่วไปเหมือนเดิม ผิดถูกขออภัยด้วยนะครับ
ปล. ท่านเจ้าบ้านครับผมยังติดใจตอไทย 7 ตอที่เคยบอกถ้ามีโอกาสจะรบกวนนะครับ.....ขอบคุณ
โดย: นิรุต [11 ต.ค. 51 14:16] ( IP A:125.25.137.133 X: )
ความคิดเห็นที่ 26
   หลายท่านแสดงความคิดเห็นได้น่าอ่านมากครับ ผลกระทบจากการค้าต้นไม้สไตร์สมัครเล่น ไม่น่าจะมีผลกระทบกับมืออาชีพเท่าไหรนะผมว่า
โดย: THANAWUT 102 [11 ต.ค. 51 16:33] ( IP A:58.8.97.220 X: )
ความคิดเห็นที่ 27
   เคยถามนักสะสมชวนชมหลายคนครับสำหรับข้อสงสัยของคุณนิรุต หลายๆท่านก็ให้ความคิดเห็นคล้ายๆกันคือ ซื้อเก็บไว้ก่อนตอนที่ยังมีขายครับ ส่วนต่อไปจะเอามาทำฝักหรือไม่คงต้องแล้วแต่อนาคต....

ส่วนการเก็บรวบรวมสายพันธุ์ที่มืออาชีพจริงๆใช้กันคือ เลือกเก็บกิ่งที่คิดว่าดีที่สุดให้ได้เย๊อะที่สุดเพื่อประโยชน์ในการสร้างสายพันใหม่ หรือเก็บเพื่อรักษาสายพันธุ์ดั้งเดิม....

สังเกตุกันไม๊ครับ ว่าถึงหลายๆความคิดเห็นจะแตกต่างกันสิ้นเชิง แต่ไม่มีความคิดเห็นไหนเลยที่ค้านกันแบบหัวชนฝา ข้าไม่ยอมใคร ผมอยากให้การแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะเป็นแบบนี้ทุกที่จริงๆ เพราะผู้ที่เข้ามาอ่านจะได้ทั้งสาระ ข้อคิด และความสุขสบายใจครับ...
โดย: พลภัทร [11 ต.ค. 51 20:22] ( IP A:124.121.78.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 28
   อ่านจนตาลายเลยครับ
ผมว่ามือสมัครเล่นอย่างผมนี้ก้มีข้อดีนะครับทำให้มือใหม่ทั้งหลายที่เข้ามาได้ไม้ดีราคาถูกไปครอบครองแต่มันก้ไม่ถูกมาก
เจ้าตำหรับทั้งหลายก็มีเครื่องหมายการค้าที่ติดตลาดอยู่แล้วทำตลาดสิครับ คุณขายราคาแพงแต่ของคุณภาพเขาก้ซื้อนะครับ แต่แพงแล้วไม่ได้เรื่องแถมเสี่ยงเจอตุ้นอีก เขาก็เลือกซื้อกับมือใหม่สิครับ มือให้ขาดการเชื่อมั่นจากลูกค้าเขาเลยใช้ราคาเป็นต้วกำหนดความน่าเชื่อถือครับ
โดย: นพดล [13 ต.ค. 51 19:51] ( IP A:202.149.25.225 X: )
ความคิดเห็นที่ 29
    อ่านมาตั้งแต่ต้นจนถึง คห.คุณนพดล...ตาลายเหมือนกัน แต่ก็ได้ทราบถึงความคิดที่หลากหลายดีครับ ...มือสมัครเล่น ชื่อก็บอกแล้วว่า เล่น ....บางทีการทำอะรัยที่ต่างไปจากมืออาชีพบ้าง ก็คงไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายแต่ประการใด ..งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาฉันใด มือสมัครเล่นก็คงต้องมีวันเลิกเล่นฉันนั้น....ยกเว้นเสียแต่ว่า จะปรับตัวเองจากสมัครเล่น มาเป็นสมัครจริง-จริง .....ชักเลอะ
เพียงแต่อยากจะบอกว่า มือสมัครเล่น อะรัยๆก็คงมีไม่มากนักหรอกครับ มีของออกขายบ้าง ก็คงมีจำนวนไม่มากมายเหมือนมืออาชีพ(ที่ยังชีพด้วยการขายเป็นหลัก)ขายของถูกไปบ้างก็คงมิได้ตั้งใจจะทำให้ใครต่อใครต้องกระทบกระเทือนจากผลการขายของของเขาหรอกครับ..... ซื้อมาเล่นมาชม แบ่งกันเล่น แบ่งกันชม เป็นเพื่อนกัน มีเพื่อนใหม่ๆเพิ่มขึ้น อบอุ่นด้วยมิตรภาพ ความมีน้ำใจต่อกัน หนุกหนานและมีความสุขดีออกครับ ......ยังงัย เด็ดดอกไม้ ก็คงไม่สะเทือนถึงดวงดาวอย่างแน่นอนครับ......สวัสดี
โดย: นายเข็ม-94 [15 ต.ค. 51 10:37] ( IP A:222.123.119.161 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน