arowana.pantown.com
FAQ <<
กลับไปหน้าแรก
~~~ ยาผีบอก ยาสารพัดประโยชน์ ยาสารพัดนึก Fungus Cure ~~~
วันนี้...ขอนำเรื่องเกี่ยวกับยาฟังกัส อันเป็นที่นิยมใช้กันมากกกกกก(ในอดีต)ในหมู่ผู้เลี้ยงปลาอโรฯ
แทบจะเป็นยาผีบอกเลยก็ได้ครับ
ปลาอโรฯจะป่วยเป็นโรคอะไร...ก็ให้ใส่ยาฟังกัสเคียว แก้ได้ทุกโรค
พ่อค้าบางคน...ให้ใส่หลังเปลี่ยนถ่ายน้ำด้วยซ้ำไป
แต่.....ช้าก่อน
โดย: ปิติ (เจ้าบ้าน
) [11 มี.ค. 51 11:48] ( IP A:58.9.172.48 X: )
ความคิดเห็นที่ 1
รออยู่ครับ
โดย: เด็กใต้ [11 มี.ค. 51 11:54] ( IP A:61.7.188.245 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
เห็นแค่นี้ก็กลัวแล้วครับ
โดย: โกโก้บีช [11 มี.ค. 51 11:57] ( IP A:58.64.74.83 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
คุณหมอหนิ่งท่านย้ำเสมอมาว่า...ไม่ให้ใช้ยาตัวนี้เด็ดขาด
เพราะมีผลข้างเคียงมหาศาล
อาการปลาแปลก ๆ เช่น วางยาเบา ๆ แล้วน็อคเลย หรือพยายามทำตัวพ้นน้ำ ฯลฯ ก็ล้วนแต่เป็นผลข้างเคียงของยาตัวนี้
ยาตัวนี้..ทำให้ช่องท้องและอวัยวะภายในของปลา...เขียวไปหมด
บางตัว..ถึงกับสมองเขียวปี๋เลย
บางตัวที่ถูกแช่ยานี้มาบ่อยครั้ง ก็จะมีสภาพ...ไร้ชีวิตชีวา ทำตัวนิ่ง ๆ ว่ายน้ำแบบไ่ม่มีอารมณ์ ทำตัวเบื่อโรคสุดเดช อาหารก็กินบ้าง ไม่กินบ้าง เวลากิน..ก็กินอย่างไร้อารมณ์
ย้ำว่า...........ยาตัวนี้..ไม่ใช่ยาสารพัดประโยชน์ที่มีคุณอนันต์ แต่กลับเป็นยาที่มีโทษมหันต์เสียเหลือเกิน
โดย: ปิติ (เจ้าบ้าน
) [11 มี.ค. 51 11:57] ( IP A:58.9.172.48 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
มียาทำเลียนแบบยาตัวนี้เหมือนกันนะครับ
แต่..ก็น่ากลัวทั้งคู่ครับ
ถ้าท่านได้เห็นอวัยวะภายในปลาทั้งหมดเป็นสีเขียว(เขียวจริง ๆ ) ก็จะเข้าใจเลยว่า...ทำไมคุณหมอท่านถึงได้ห้ามอย่างเด็ดขาด
---end---
โดย: ปิติ (เจ้าบ้าน
) [11 มี.ค. 51 11:59] ( IP A:58.9.172.48 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
ขอบคุณครับพี่ พวกที่ขาดความรู้และแนะนำยาตัวนี้ให้กับเพื่อนผู้เลี้ยงจะได้ทำความเข้าใจใหม่
โดย: พัต [11 มี.ค. 51 12:12] ( IP A:124.120.98.205 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
ผมซื้อไปให้คุณรักกัน...ใช้บำรุงกำลังดีกว่า 555
โดย: โลกีย์ [11 มี.ค. 51 12:12] ( IP A:203.113.116.10 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
มีคำถามนิดนึงครับ แล้วFungus ของAzoo ละครับเหมือนกันหรือเปล่า
โดย: November_yo [11 มี.ค. 51 12:19] ( IP A:124.120.106.207 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
ตอบคุณโย
สำหรับยาของ azoo นั้น ผมตอบไม่ได้ว่า...เค้าพัฒนาสูตรมาจากอะไรนะครับ
กรณีเชื้อรา..ก็ใช้ฟอร์มาลีนครับ
โดย: ปิติ (เจ้าบ้าน
) [11 มี.ค. 51 12:21] ( IP A:58.9.172.48 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
ขอบพระคุณครับพี่ที่ให้ความกระจ่าง
โดย: November_yo [11 มี.ค. 51 12:28] ( IP A:124.120.106.207 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
ขอบคูณมากคับพี่ปิติได้ความรู้มากเลยคับเมื่อก่อนใช่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ใช้แล้วคับ
โดย: ร่ำรวยอโรวน่า(sharnon) [11 มี.ค. 51 12:36] ( IP A:125.25.252.163 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
ฟังกัส อะไรๆ ก็ฟังกัสไว้ก่อน ทั้งๆที่ฟังกัส มันแปลว่าเชื้อรา...
ผมย้ำเรื่องนี้มาเสมอในห้องปลาป่วยของทุกๆเวปที่รับผิดชอบ
ถ้าอ่านข้างขวดดูจะรู้ว่า มีส่วนผสมของ วิคตอเรียกรีนบี
ซึ่งก็คือมาลาไคท์กรีนนั่นเอง แต่มาในรูปแบบผง
จริงๆแล้ว มาลาไคท์กรีน นิยมใช้กันมานานมากๆแล้ว เพื่อรักษาเชื้อรา และจุดขาวในปลาสวยงาม
มาลาไคท์กรีน เป็นสีย้อมชนิดหนึ่งในอุตสาหกรรม แต่เนื่องจากนักวิชาการเก่าๆคนพบว่า มันมีฤทธิ์ทำลายเชื้อรา และปรสิตบางชนิดได้ ก็เลยนำมาทดลองใช้กับปลา
ปลาที่ทดลองใช้ แรกๆ คาดว่าจะเป็นปลาพื้นๆ เช่นปลาในกลุ่มไซปรินิดส์ต่างๆ และบังเอิญว่า มันมีความทนทานต่อสารตัวนี้สูง และเชื้อตาย ก็เลยสรุปออกมาว่า มันใช้รักษาโรคในปลาได้
แต่มาในสมัยนี้ โลกและสังคมของการเลี้ยงปลามันกว้างขึ้นมาก
เราไม่ได้เลี้ยงกันแต่ปลาคาร์พและปลาทองเหมือนเมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่เรามีปลามากมายหลายชนิดที่เราได้มีโอกาสศึกษา สัมผัส เรียนรู้ และนำมาเลี้ยง
เราก็เลยค้นพบว่า มาลาไคท์กรีนนั้น แท้จริงแล้ว มีความเป็นพิษสูงมากๆ ต่อปลาอีกหลายๆชนิดเลยทีเดียว บางชนิด ก็สูงมากๆเสียจนไม่สามารถนำมาใช้กับปลาดังกล่าวได้เลย แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม
พิษของมาลาไคท์กรีนนั้น ขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของตัวสารด้วย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น แม้จะเป็นมาลาไคท์กรีนความบริสุทธิ์สูง ก็ยังมีความเป็นพิษต่อปลาอยู่มากเช่นกัน และที่สำคัญ ยังเป็นสารก่อมะเร็ง ขั้นรุนแรง ในมนุษย์อีกด้วย
แต่ทำไม มาถึงยุคนี้ สมัยนี้ ยังมีคนขายและใช้มาลาไคท์กรีนกันอยู่มากมาย
ขอตอบสั้นๆเลยว่า
"เพราะคนเหล่านั้น ยังขาดความรู้ และความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค"
อย่าคิดว่า ร้านขายปลาใหญ่ๆสวยๆ มีปลาแพงๆมากมาย หรือ ร้านขายยาและอุปกรณ์ปลาใหญ่ๆ จะสามารถให้ความรู้เรื่องยาสารเคมี และการรักษาโรคปลาแก่เราได้อย่างแท้จริง
ผมเลี้ยงปลามาตั้งแต่เด็กๆ และเลี้ยงมาตลอดจนถึงวันนี้ เจอเรื่องเหล่านี้มามากครับ กว่าจะรู้ว่า อะไรเป็นอะไร ก็เสียเงินเสียทองไปมากมาย
โรคเชื้อรา และจุดขาว ยังเป็นปัญหาอยู่คู่การเลี้ยงปลามาตลอด
แต่เมื่อไรล่ะ จะมี ใครสักคน ผลิตยา ที่ไม่มีส่วนผสมของมาลาไคท์กรีน (หรือจะเรียกชื่อทางการค้า ทางเคมี ใดๆของสารเคมีตัวนี้ก็แล้วแต่ ยังไงมันก็คือตัวเดียวกัน) ออกมาสักที
จนแก่แล้ว ก็ยังหาไม่เจอ ยังคงใช้สูตรเดิมๆ แต่เปลี่ยนฉลากไปเรื่อยๆมากมายหลายยี่ห้อ พยายามที่จะทำให้ผู้บริโภคสับสน
แต่วันนี้ดูเหมือนผมจะสมหวังแล้ว ด้วยการลงมือทำเอง
ขอบคุณพี่ปิติที่กรุณาย้ำประเด็นนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ให้นักเลี้ยงปลารุ่นใหม่ได้ศึกษาและเข้าใจครับ
โดย: RoF [11 มี.ค. 51 13:09] ( IP A:58.9.141.193 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
ขอบคุณคุณต้นRoF มากครับที่ช่วยนำเสนอข้อมูลให้แน่นยิ่งขึ้นครับ
ขอบคุณมากครับ
โดย: ปิติ (เจ้าบ้าน
) [11 มี.ค. 51 13:13] ( IP A:58.9.172.48 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
คุณ ต้น มาพอดีเลยมีเรื่องจะถามครับ ยาแก้โรคจุดขาว 1 ฝาผสมน้ำ
กี่ลิตรครับ คือขี้เกลียดนับหยดนะครับ ตู้ 60*30*24
รบกวนด้วยนะครับ ^____^ "
ขอบคุณครับ
โดย: หนุ่ม vigo ดำ [11 มี.ค. 51 14:05] ( IP A:202.149.25.241 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
ขอบคุณพี่ปิติและพี่ต้น ที่ให้ความกระจ่างครับ
มาลาไคล เป็นยาฆ่าเสือตอ โดยตรงจริงๆ
โดย: mofish_6 [11 มี.ค. 51 14:35] ( IP A:125.24.137.116 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
ขอบคุณมาก ครับ .
โดย: goft12555@hotmail [11 มี.ค. 51 14:51] ( IP A:124.120.159.156 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
ขอบคุณมากครับ
โดย: phop_99 [11 มี.ค. 51 15:40] ( IP A:222.123.177.19 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
เหมือนมีผู้เชียวชาญมาให้ความรู้ถึงบ้าน ขอบคุณครับ
โดย: zjate [11 มี.ค. 51 16:07] ( IP A:58.10.158.10 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
ขอบคุณมากครับผม
โดย: อาร์ม บางสิบหมื่น [11 มี.ค. 51 17:22] ( IP A:61.7.182.131 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
มันต้องอย่างง้านครับเอาเข้าFAQเลยครับพี่ปิติ
โดย: Arowanaman99 [11 มี.ค. 51 17:43] ( IP A:222.123.236.211 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
มาลาไคท์กรีน และ ฟอร์มาลิน สองแรงร่วม รวมพลัง
มาลาไคท์กรีน และ ฟอร์มาลิน เป็น สารเคมี ที่เรารู้จักดีและนิยม อย่างแพร่หลายในการรักษา โรคปลา เนื่องด้วยคุณสมบัติ ที่ตัวยา สามารถคงรูปได้นาน รวมทั้งตัวมันเองจะไม่เป็นพิษอย่างเฉียบพลัน ต่อ แบคทีเรีย บางชนิดที่เป็นประโยชน์ ต่อ ระบบการกรองน้ำ แบบชีวภาพ นอกจากสารเคมี ทั้งสองชนิด จะมีคุณสมบัติ ในการรักษา โรคปลาได้ต่างๆ กัน แล้ว สารเคมีทั้งสองชนิด ยัง สามารถ ใช้ร่วมกัน ซึ่งจะเสริมฤทธิ์ ในการ รักษา โรดจุดขาว และ ยังออกฤทธิ์ได้ดี กับเชื้อในสกุล คอสเตีย และ ชิโลโดเนลล่า อีกด้วย
มาลาไคท์กรีน (Malachite Green) มี ฤทธิ์ ในการต่อต้าน เชื้อรา ในกลุ่ม Saprolegnia โดยมาก เราจะใช้ ในการรักษา ปลาที่ป่วยด้วยโรคเชื้อรา หรือใช้ในการป้องกันการติดเชื้อรา บนไข่ปลา สิ่งสำคัญที่สุด ที่เราต้องเข้าใจกันก่อน เกี่ยวกับ เชื้อรา คือ โดยปกติแล้ว เชื้อรา จะไม่สามารถทำอันตราย ปลา ได้ เว้นเสียแต่ว่า บนผิวปลา มีบาดแผลติดเชื้อ อยู่ก่อนแล้ว เจ้าเชื้อรา ถึงแผงฤทธิ์ ซึ่งเรียกตามภาษาวิชาการว่า Secondary Infection ดังนั้น ถ้าเราไม่ได้รักษา ที่ตัวต้นเหตุจริงๆ แล้ว มาลาไคท์กรีน อย่างเดียว ก็ไม่อาจฆ่า หรือ กำจัด เชื้อราอย่างได้ผล
ฟอร์มาลิน (Formalin) เป็นสารเคมี ที่มีอำนาจ ฆ่า สิ่งมีชีวิต ขนาดเล็กๆ พวกโปรตัวซัว และ พาราสิต ภายนอก (External Parasites) ในทางสายงาน อนุกรมวิธานปลา (Taxonomy) เราจะใช้ฟอร์มาลิน ในการเก็บรักษาตัวอย่างปลา (ดองปลา) เพื่อการศึกษา
มาลาไคท์กรีนและฟอร์มาลิน ความจริงแล้ว มันก็คือ สารที่พิษนั่นเอง
มาลาไคท์กรีน จะอกฤทธิ์ ต่อระบบการ หายใจ ของเซล ซึ่งเป็น แหล่งสร้างพลังงาน ในขณะที่ ฟอร์มาลินจะ ออกฤทธิ์ โดยที่ตัวมันจะทำการปรับเปลี่ยนรูปแบบ โครงสร้างและหน้าที่ ของ โปรตีน และ กรด นิวคลีอิค ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเซล
ทั้งมาลาไคท์กรีน และฟอร์มาลิน จะมีฤทธิ์ต้านแบคที เรีย ในระดับปานกลาง ปกติแล้วจะไม่ทำลาย แบคทีเรีย ชนิดที่เป็นประโยชน์ ในระบบการกรองน้ำแบบชีวภาพ แต่อาจ ทำให้ระบบดังกล่าว หยุด ไปชั่วขณะ ดังนั้น เราจึงควรใส่ใจถึง ระดับอ๊อกซิเจ่น ที่อาจลดต่ำ จนเป็นอันตรายต่อปลาได้ ในระหว่างการรักษา
การใช้มาลาไคท์กรีน ร่วมกับฟอร์มาลิน
อีกเช่นเคย อย่างที่คุณอาจ คาดเดาได้ ประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ ของทั้งมาลาไคท์กรีนและฟอร์มาลิน จะขึ้นกับ คุณภาพน้ำ สารทั้งสองตัว ไม่สามารถทำงานได้ดี หาก สภาพน้ำในขณะนั้น มีตะกอน เช่น ขี้ปลา หรือ เศษผงอาหาร ต่างๆ
ฟอร์มาลินตัวมันเอง จะเป็นพิษมากยิ่งขึ้น ในสภาพน้ำ ที่เป็นกรดอ่อนๆ รวมทั้ง จะทำให้ อ๊อกซิเจ่น ในน้ำลดต่ำลงอย่างฉับพลันด้วย โดยมีหลักว่า ฟอร์มาลิน 5 มิลลิกรัม จะทำให้ อ๊อกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำ 1 มิลลิกรัม ต้องสูญเสียไป
ส่วน มาลาไคท์กรีน ตัวมันเอง จะเป็นพิษ เมื่อน้ำมี pH ต่ำ หรือ เป็นกรดนั่นเอง รวมทั้ง ในที่ อุณหภูมิสูง
รูปแบบของมาลาไคท์กรีน จะมีสองรูปแบบ ขึ้นกับ ความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำ (pH) ในน้ำที่มีสภาพเป็นกรด มาลาไคท์กรีน จะมีสีเขียว ในขณะที่ตัวมันเอง จะเปลี่ยนรูปเป็น คาร์บินอล ฟอร์ม ในสภาพน้ำ ที่เป็นด่าง ดังนั้น ในน้ำที่มีสภาพเป็นด่าง มาลาไคท์ที่เราๆ ท่านๆ หยด ลงไปมันจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นใส หรือไม่มีสี นะครับ ในขณะที่ ตัวยายังคงอยู่
อื่นๆ น่ารู้เกี่ยวกับสารทั้งสองชนิด
การสัมผัส ถูกสารทั้งสองตัวนี้ จะเป็นอันตราย ดังนั้น ควรสวมถุงมือ รวมทั้ง ผ้าปิดปาก ระวังอย่าสูดดม ฟอร์มาลิน เข้าไป เพราะมันจะทำลายเนื้อเยื่ออ่อนภายในร่างกายเรา ส่วน มาลาไคท์กรีน ก็จะเป็นพิษต่อระบบหายใจเช่นกัน รวมทั้งตัวมันเอง ก็ถูกสันนิษฐานว่าจะเป็นสารก่อมะเร็ง Carcinogen
มาลาไคท์กรีน มีอนุภาพ ออกฤทธิ์ ซึมเข้าไป ใต้ผิวหนังปลา ได้ลึก ดังนั้น จึงถูกใช้ ในการรักษา โรคไตแบบลุกลาม ในปลาแซลมอน ในอนาคต อันสั้น มาลาไคท์กรีน อาจถูกห้ามใช้ รวมทั้งถูกประกาศ เป็นสารควบคุม
มาลาไคท์กรีน จะเสื่อมสภาพ เมื่อ โดนแสง ดังนั้นควรเก็บไว้ในขวดสีชา หรือภาชนะ ที่สามารถ กันการสัมผัสกับแสง โดยตรง
มาลาไคท์ กรีน ไม่สามารถใช้รักษา ได้กับปลาทุกชนิด มีรายงานว่า ตัวมันเองจะเป็นพิษ กับปลาในกลุ่ม แคทฟิช เตตร้า และ พวก ปลาหมู ตระกูล Loaches ต่างๆ รวมทั้งปลาทะเล
ฟอร์มาลิน ควรเก็บในที่มืด และ อุณหภูมิ มากกว่า 4 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกัน การเปลี่ยนรูป
เป็นพาราฟอร์มอลดีไฮด์
ฟอร์มาลิน จะทำให้เกิดการระคายเคือง กับเหงือก ดังนั้น ไม่ควรใช้ กับปลาที่มีบาดแผล หรือ ปัญหาเรื่องเหงือก
ฟอร์มาลิน สามารถใช้กำจัดพวก โปรตัวซัว และ เมต้า โปรตัวซัว
เพื่อกันความเข้าใจผิด จริง ๆ แล้ว ฟอร์มาลิน จะเป็น สารละลาย 37-40 ส่วน ของฟอร์มาลดีไฮด์ ซึ่ง เป็นก๊าซไม่มีสี ที่มีพิษมาก หากเราสังเกตเห็น ว่า ฟอร์มาลิน ของเราเริ่มมีตะกอน ขาว ขึ้นภายในขวด ก็ไม่ควรใช้นะครับ เพราะฟอร์มาลิน ได้เปลี่ยนรูปเป็นพาราฟอร์มาลดีไฮด์ ซึ่งเป็นพิษต่อปลา ดังนั้ ควรเก็บฟอร์มาลิน ในที่มืด และก็ต้องระวังๆ กันหน่อยเวลาหยิบจับครับ
รูปแบบการใช้ฟอร์มาลิน เพื่อกำจัด พวกโปรตัวซัว ก็มี 2 รูปแบบ คือ
แช่ระยะสั้น - - - 0.15 - 0.25 มิลลิลิตร ต่อ น้ำ 1 ลิตร เป็นเวลา 60 นาที
สามารถทำติดต่อกัน 3 วัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา แต่ควรระวัง หากปลามีปัญหาเรื่องเหงือก ก็ไม่ควรใช้ฟอร์มาลิน เพราะตัวมันเอง จะทำอันตรายต่อเหงือกปลา นอกจากนี้ ในการรักษาด้วยฟอร์มาลิน ควร ให้อากาศ ตลอดเวลา และควรทดลอง ใช้ ที่ ความเข้มข้น ต่ำ ก่อน
แช่ระยะยาว - - - 0.015 - 0.025 มิลลิลิตร ต่อ น้ำ 1 ลิตร
หาก แช่เป็นเวลา 3 - 4 วัน ไปแล้ว ควรเปลี่ยนน้ำบางส่วน แล้วเติมยาใหม่ สามารถแช่ ติดต่อกันได้เต็มที่ 3 ซ้ำ ระหว่างการรักษาก็ควรให้อากาศตลอดเวลา ห้ามใช้ ในปลาที่ มีปัญหา กับเหงือก
มาลาไคท์กรีน ใช้ต่อต้าน เชื้อรา Saprolegnia รวมทั้ง โปรตัวซัว
ควรใช้ ซิงค ฟรี เกรด มาลาไคท์กรีน แต่หากเราต้องการเตรียมเอง ก็สามารถทำได้โดย โดย ใช้ มาลาไคท์กรีน20 กรัม ละลายในน้ำ กลั่น 1 ลิตร ซึ่งที่ความเข้มข้น ดังกล่าวนี้ จะให้ มาลาไคท์กรีน 20 มิลลิกรัม ต่อ 1 มิลลิลิตร ของ สารละลาย
แช่ระยะสั้น - - - จะใช้มาลาไคท์กรีน 1-2 มิลลิกรัม ต่อ น้ำ 1 ลิตร เป็นเวลา 30-60 นาที
แต่ถ้า ใช้จาก สารละลาย ที่เราเตรียมไว้ ก็จะใช้ จำนวน 1 มิลลิลิตร ของสารละลาย ต่อน้ำ 20-40 ลิตร สามารถใช้ในอัตราที่เข้มข้นกว่านี้ สำหรับรักษาปลาที่มีขนาดใหญ่ เช่น ปลาคาร์พ ควรทำติดต่อกัน 4 ครั้ง
แช่ระยะยาว - - - จะใช้มาลาไคท์กรีน0.1- 0.25 มิลลิกรัม ต่อ น้ำ 1 ลิตร
ทำซ้ำ ทุกๆ 3 วัน โดยสามารถทำซ้ำได้ มากถึง 3 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งจะเท่ากับ ความเข้มข้น ของ สารละลาย ที่เราเตรียมไว้ จำนวน 1 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 80-200 ลิตร
การใช้ทาแผล
ก็สามารถใช้สารละลายที่เราเตรียม ทาที่แผลเชื้อรา ได้โดยตรง โดยต้องระวัง อย่าให้โดนตาและเหงือกของปลา
การใช้มาลาไคท์กรีนร่วมกับฟอร์มาลิน หรือ ที่รู้จักกันดีใน ชื่อสูตรของ ( Letuex Meyer Mixture)
ใช้ในการกำจัดพวก โปรตัวซัว และเมต้าโปรตัวซัว สามารถใช้รักษา โรคจุดขาว ที่เป็นมาก
มีด้วยกัน หลายส่วนผสม โดยที่นิยมกัน จะมีอยู่สองสูตร คือ
แบบเข้มข้น
เตรียม สารละลาย โดยใช้ มาลาไคท์กรีน 3.68 กรัม ละลายใน ฟอร์มาลิน จำนวน 1 ลิตร เราจะใช้ สารละลายที่เตรียมได้ ใน อัตรา 0.025 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 1 ลิตร เป็นแช่ปลา ที่ป่วยเป็นเวลา 60 นาที นอกจากนี้ สามารถใช้ แช่ตลอดไป สำหรับพาราสิต บางตัว ที่เป็นเรื้อรัง ในปลาขนาดใหญ่ เช่น ปลาคาร์พ หรือ ในน้ำที่มีสภาพ เป็นด่างสูง
ซึ่ง ณ. ที่อัตราการใช้ ดังกล่าว ถ้าเราไม่ได้เตรียม สารละลาย ก็สามารถแยกใช้ โดยใช้ มาลาไคท์กรีนจำนวน 0.1 มิลลิกรัม ต่อลิตร และ ฟอร์มาลินจำนวน 0.025 มิลลิลิตร ต่อ ลิตร ซึ่งจะให้ผลในการรักษาเช่นเดียวกัน
แบบอ่อน
เตรียม สารละลาย โดยใช้ มาลาไคท์กรีน จำนวน 3.3 กรัม ละลายในฟอร์มาลินจำนวน 1 ลิตร เราจะใช้สารละลายที่เราเตรียม นี้ใน อัตรา 0.015 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 1 ลิตร สำหรับการแช่ระยะยาว ซึ่งที่ความเข้มข้นดังกล่าวนี้ หากแยกใช้ จะเทียบเท่ากับ 0.015 มิลลิลิตร ของฟอร์มาลิน ต่อน้ำ 1 ลิตร ร่วมกับ มาลาไคท์กรีนจำนวน 0.05 มิลลิกรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร
เป็นงัย ครับ กับความรู้เกี่ยวกับ สารเคมี ทั้งสองชนิด ที่ ตัวมันเอง ต่างก็ มีประโยชน์ ในการรักษาโรคสัตว์น้ำ นอกจากนี้ แล้ว หากใช้ร่วมกัน ก็จะมีผลในการเสริมฤทธิ์ ในการรักษาโรค จุดขาว และ กำจัดเชื้อ โปรตัวซัว บางชนิด ที่เป็นเรื้อรัง แต่หลัก ที่สำคัญที่สุดแล้ว ในการเลี้ยงปลา ก็คือ พยายาม อย่าให้ปลาที่คุณเลี้ยงป่วยจะดีที่สุด ครับ ดูแลเรื่องคุณภาพ น้ำ ดีๆ โรคภัย จะได้ไกล จาก ปลาที่คุณรักครับ
จากบทความข้างต้น ก็ ยังพอสรุปได้ว่า เจ้าสองชนิดเป็นยารักษาเฉพาะทาง ไม่ได้ป้องกัน และ รักษาโรคอื่นเลยแม้แต่น้อย แต่หากเป็นเชื้อรา จริง ๆ จะให้ทำอย่างไร ต้องใช้ยาอะไร
พร้อม ขอ ถามคุณ ROF เกี่ยวกับยาแก้จุดขาว ไม่ทราบว่ามีส่วนผสมทั้งสองตัวนี้หรือไม่ คอบคุณ
โดย: ทดสอบ [11 มี.ค. 51 18:52] ( IP A:125.24.255.30 X: )
ความคิดเห็นที่ 21
กระทู้นี้สุดยอดแห่งความรู้ครับ ขอเสนอให้เก็บเข้า FAQ ด้วยครับ
โดย: ครูเม้ง [11 มี.ค. 51 21:26] ( IP A:118.172.136.81 X: )
ความคิดเห็นที่ 22
ตอบคุณ หนุ่มวีโก้ดำครับ
ข้างขวดจะบอกไว้ว่า 1 หยด ต่อลิตร
ซึ่งก็คือ 1 ซีซี ต่อน้ำ 15 ลิตร (15หยดเท่ากับ1ซีซี)
1 ฝา ประมาณ 10 ซีซี
ความเข้มข้นนี้คือความเข้มข้นสูงสุด ที่ควรใช้ในการรักษาที่ครอบคลุม ในทุกๆสถานการณ์
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเรามีประสบการณ์ในการรักษาโรค และการใช้ยาตัวนี้ เราจะรู้ว่า เราสามารถลดโดสลงมาได้อีกมาก สำหรับ อาการต่างๆกัน และสถานการณ์ต่างๆกัน
ในกรณีที่ ปลาเป็นจุดขาวมองเห็นได้ชัดเจน ไม่มีการปูกรวดหรือหินรองพื้น แทงก์เมทไม่แน่น ไม่ได้เปิดกรองที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับสูง ไม่ได้เปิดยูวี ไม่โดนแดดแรงๆทั้งวัน ไม่มีสารอินทรีย์หรือสารแขวนลอยในน้ำปริมาณที่สูง
เราสามารถใช้ยาดังกล่าว ในอัตราส่วน 1 ซีซี ต่อน้ำ 40 ลิตร เปลี่ยนน้ำและยา 30 เปอร์เซนต์ทุกๆสามวัน ควบคุมอุณหภูมิคงที่ไว้ที่ 30 องศาเซลเซียสครับ
โดย: RoF [11 มี.ค. 51 22:28] ( IP A:58.9.150.38 X: )
ความคิดเห็นที่ 23
ตอบคุณ ทดสอบ ครับ
จริงๆ ลงชื่อจริงที่ใช้เล่นเวป ก็ได้ครับ ถ้าอยากจะลองของ ^^~
จริงๆแล้ว ผมไม่อยากจะตอบคุณเลยครับ เพราะมันจะกลายเป็นกระทู้ขายยา ไม่เหมาะสมจะเก็บไว้ใน FAQ แต่ในเมื่อความเห็นคุณไม่โดนลบ ผมจำเป็นต้องตอบให้ชัดเจนที่สุดละกันครับ
ผมขอบอกว่า ข้อความที่คุณก๊อบมาโพสทั้งหมด ผมอ่านและเข้าใจแล้ว ตั้งแต่ก่อนสมัยเข้าเรียนปริญญาตรี อีกครับ
พอเข้าปริญญาตรี ก็ได้เรียนรู้อย่างชัดเจน และละเอียดยิ่งขึ้น
พอปริญญาโท เข้าเข้าใจลึกซึ้ง กว่าที่คุณก๊อบมาโพสมากนัก
**ยาของผม ไม่มีส่วนผสมของมาลาไคท์กรีน อนุพันธ์ของมาลาไคท์กรีน และ ฟอร์มาลีน หรืออนุพันธ์ใดๆของฟอร์มาลีนโดยสิ้นเชิงครับ** บอกไว้ที่ฉลากชัดเจน
ผมเข้าใจครับว่า การที่ผมทำยาตัวนี้ขึ้นมา ย่อมส่งผลกระทบต่อยาตัวอื่นๆที่วางขายอยู่ในท้องตลาดแน่นอน แต่ไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องหลีกทางให้ครับ
ผมเคยโดนกระทู้แบบนี้สอบถ่ายอยู่บ่อยๆครับว่า มีสารสองตัวนั้นผสมหรือเปล่า ถามซ้ำถามซาก ก็ยังถามอีก
สาเหตุที่โดนถามบ่อยๆซ้ำๆ ด้วยความไม่แน่ใจ ผมคิดว่า สาเหตุคงมาจาก องค์ความรู้ในปัจจุบัน มีเท่าที่คุณ ทดสอบ โพสไว้จริงๆ และไม่มีมากเกินไปกว่านี้ สำหรับยารักษาจุดขาว และเชื้อรา
เมื่อใครสักคน อยากจะทำยารักษาจุดขาวและเชื้อราขึ้นมาสักตัว และทำการค้นคว้าอย่างหนัก ทั้งหนังสือวิชาการ บทความวิชาการ ทั้งในและต่างประเทศ ก็จะเจอบทความลักษณะดังกล่าวที่คุณโพสมา ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ไม่มีสารเคมีตัวใหม่ ยาตัวใหม่ หรือคอมบิเนชั่นตัวใหม่ ที่ใช้รักษาแล้วได้ผล
แต่เมื่อคุณมาเจอยาตัวหนึ่ง ซึ่งผลิตออกมาจากคนโนเนม ติดดินธรรมดาๆ ไม่ได้เป็นสัตว์แพทย์ผู้มีชื่อเสียง ไม่ได้เป็นด๊อกเตอร์ หรือนักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่ แต่สามารถผลิตยา ที่แตกต่าง จากสิ่งที่คุณรู้โดยสิ้นเชิง คุณก็ย่อมสงสัย และติดใจเป็นธรรมดา
**เพราะคุณคิดอยู่เสมอว่า มันเป็นไปไม่ได้ ที่จะทำยาแบบนี้ขึ้นมา**
แต่ความจริงแล้ว
**มันทำได้ และเกิดขึ้นมาแล้วครับ**
สูตรยาของผม ไม่มีอธิบายในตำราใดๆ ที่คุณเคยเรียนและศึกษามา
มันเกิดจากการศึกษา การเรียนรู้ และประสบการณ์ของผมเอง
ถ้าจะให้ตอบว่าผสมจากอะไรบ้าง ก็คงไม่ตอบเพื่อเป็นการทุบหม้อข้าวตัวเองครับ ขอเอาไว้หากินสักอย่างนะครับ รู้แต่เพียงว่า มันเป็นคอมบิเนชั่น ของยาหลายตัว ในอันตราส่วนที่ลงตัวเหมาะสม ยากที่จะลอกเลียนแบบได้ง่ายๆครับ
ดังนั้น การที่คุณออกมาสงสัยแบบนี้บ่อยๆ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อยาที่คุณขายอยู่แน่นอนครับ เพราะมันจะยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า
ยาผมพิเศษแค่ไหน จึงทำให้คุณสงสัยได้ขนาดนี้
และยาคุณ ยังใช้อะไรผสมอยู่
คนใช้เท่านั้นครับ ที่พิสูจน์ได้ครับ ^^~
โดย: RoF [11 มี.ค. 51 22:46] ( IP A:58.9.150.38 X: )
ความคิดเห็นที่ 24
อย่างที่คุณ rof บอกครับ เมื่อประมาณ3วันที่ผ่านมาครับ
ปลาผมเป็นโรคจุดขาวครับ ผมใช้ยาrofใช้ได้ผลดีจริงๆครับ
ตอนนี้อโรทองออ่นผมกลับมาร่าเริงกินเก่งมากครับ
โดย: elninho [12 มี.ค. 51] ( IP A:118.174.252.41 X: )
ความคิดเห็นที่ 25
ขอบคุณคุณ RoF มากกกกก ครับ เห็นด้วยกับคุณ elninho ครับ
ผมเคยใช้ยาตัวอื่นโดยไม่ได้ศึกษาตัวยานั้นๆให้ดีก่อนบอกตรงๆก็คือโงนะครับ ทำให้ผมเสียเสือตอขนาด 2-3 นิ้วไปถึง 50กว่าตัวในช่วงเวลาแค่ข้ามคืนและเจ็บอีก 30ตัว บอกได้คำเดียวเลยครับ ว่าเจ้งครับ
โดย: หนุ่ม vigo ดำ [12 มี.ค. 51 10:21] ( IP A:202.149.24.129 X: )
ความคิดเห็นที่ 26
ความคิดเห็นส่วนตัว..สำหรับยาคุณ rof นะครับ
หลาย ๆ ท่านคงทราบอยู่แล้วว่า ซีบร้าไทเกอร์บอบบางขนาดไหน
ยิ่งกว่าปลาอโร ยิ่งกว่าเสือตอเสียอีก
แต่ยาคุณ RoF นั้น...ใส่ได้ครับ มีประจักษ์หลักฐานพยานพิสูจน์ครับ
โดย: ปิติ (เจ้าบ้าน
) [12 มี.ค. 51 14:52] ( IP A:58.9.169.188 X: )
ความคิดเห็นที่ 27
123 test ptcture
โดย: 111 [16 มี.ค. 51 20:11] ( IP A:117.47.16.188 X: )
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน