รีวิวไม้ปิงปอง SANWEI YEW WOOD PBO FIBER <โดยพี่ซิน>
|
ความคิดเห็นที่ 1 ผมเลยเอามาลองทาซักหนึ่งรอบเพื่อดู Effect ยางสองดัวผมทาทั้ง สามเค ทั้ง tuner ของ Juic มาหลายรอบ ยางก็ยังไม่ขึ้นเม็ด ผมทาตัวนี้แค่รอบเดียว ดูยางจีนในรูปซิครับ ขึ้นเม็ดไม่ต่างจากไม้ในระดับแชมป์โลกตามรูปข้างล่างเลย ด้านนี้ด้านโฟร์แฮนด์ เป็นยาง hurricane 3 national version โดยติดกับไม้ Sanwei ที่ผมทดสอบ
| โดย: Pimple Lover [3 พ.ค. 55 23:14] ( IP A:118.174.93.221 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนข้างล่างเป็นไม้ของ Ma Lin
| โดย: Pimple Lover [3 พ.ค. 55 23:16] ( IP A:118.174.93.221 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 จะเห็นได้ว่า ทั้งสองไม้ จะถูก Tuner ดึงหน้ายางจนเห็นลอยปูดของเม็ดเหมือนกัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ผมพยามใช้ Tuner ตัวอื่นมาหลายรอบ แต่ก็ไม่สามารถดดึงหน้ายาง ให้เม็ดมันปูดได้ขนาดนี้
ส่วนรูปถัดไปจะเป็นยาง Spin art ที่ถูกดึงจนปูด
| โดย: Pimple Lover [3 พ.ค. 55 23:18] ( IP A:118.174.93.221 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 จากนั้นผมก็เอาลองเอาลูกมาเดาะดู ผลที่ได้ทำให้ผมประหลาดใจ สำหรับ spin art แล้ว ยางจ๊อกได้ดั่งใจ ขึ้นลูกง่าย ตีแรงคุมได้ แต่ความเหนียวของหน้ายางลดลง หมายถึง spin ที่ลดลงไปด้วย แต่กับ nation version หน้ายางเหนียวขึ้นครับ ขึ้นมันเงาเหมือนในรูป เหนียวเป็นกาวเลยก็แล้วกัน ผมเอามาติด Hurricane king ลูกเด้งแค่แปะเดียว แล้วติดอยู่ที่หน้าไม้เลยครับ เวลาตีถ้าไม่ขึ้นวงทอป ลูกจะมุดทันที แต่ถ้าตีวงลากไม้แบบจีนล่ะก็ ลูกหนักมา ปิดหน้าไม้ เกือบ 180 องศา ลูกยังขึ้นเลยครับ แล้วขึ้นเป็น Drive ทุกลูก
ผมก็เอามาเปลี่ยนมาติดกับไม้รุ่นทอป ของ Sanwei ค่อยยังชั่วครับ ไม้มีความเด้ง ถ้าติดฟิล์มที่หน้ายาง ยางจีนจะเด้งกว่ายางญี่ปุ่นซะอีก แต่ถ้าถอดฟิล์มออก จะเหมือนยางไม่เด้งทั่วไป แต่ตีให้จม ไดร์ฟให้แรง ลูกจะออกไปแรงมาก ไม้ตัวนี้ให้ความรู้สึกที่ดีมากสำหรับ ยางตัวนี้ คือใครอยากรู้ว่า เวลาตี ยางเหนียวสุดๆ เด้งสุดๆ อุ้มลูกสุดๆเป็นอย่างไร ต้องลองตัวนี้เลยครับ แล้วลองจินตนาการเอาเวลาทอป ด้วยยางที่เหนียวจัด แรงและอุ้มลูกขนาดนี้ มันจะเป็นอย่างไร
สำหรับ Spin art ทา tunder แล้วไม่ค่อยแตกต่างกันครับ ยางจะเด้งกว่าเดิม แต่ไม่เสียการคอนโทรล ผมเลยเอามาตี แบ๊คแฮนด์ | โดย: Pimple Lover [3 พ.ค. 55 23:20] ( IP A:118.174.93.221 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 ผมเริ่มจากลูกเสริฟก่อน โดยปกติแล้วไม้แรงๆอย่าง Sardius จะเสริฟลูกให้สั้นตกหน้าเนต ทำใด้ยาก กว่าไม้ธรรมชาติ ที่เป็นไม้บุก ข้อเสียของ พวกไม้คาร์บอนคือออกจากหน้าไม้เร็วมาก สำหรับไม้ตัวนี้ไม่เป็นครับ ครั้งแรกผมนึกว่าใช้ได้กับยางจีน แต่พอเอา Spin art มาเสริฟ คิดว่าลูกมันจะล้น มันก็แค่เด้งกว่า hurricane แต่ลูกกลับไม่ล้นตกออกนอกโต๊ะ ลูกเสริฟที่ผมลอง มีทั้ง หนักเบา ไซด์สปิน รีเวอร์ส รวมไปถึงลูกกลับหลังแบบ Ma Lin ด้วย ถ้าเป็น H3 blue sponge ทำได้อย่างง่ายดายครับ แต่ Spin art ทำไม่ได้ ฟิลของไม้เวลาเสริฟลูก จะออกกระด้างกว่าไม้ธรรมชาติ แต่ลูกก็ไม่ดีดออกจากหน้าไม้เร็วเหมือนไม้คาร์บอน คงเป็นเพราะไม้ Yew ที่มีความอ่อนตัว ทำให้รู้สึกได้แม้เวลาเสริฟ ว่ามันมีแรงหยุ่นตัวเวลาลูกกระทบ ทำให้ลูกที่ออกไปจากหน้าไม้วิ่งเร็ว แต่เวลาตก กลับมีแรงหมุนสูง ทำให้ลูกไม่เด้งหลุดออกนอกโต๊ะเวลาเสริฟ
หลังจากนั้น ก็เอามาลองตีเบสิค ฟิลของไม้แข็งๆครับ โดยความรู้สึกผม ผมว่าแข็งกว่า ซาเดียสเล็กน้อย และเวลาตีลูกออกไป ลูกจะมี curve ช่วย ลูกเบสิค ผมเลยออกโด่งๆ เบาๆ ความรู้สึกนี้เหมือนตอนผมตี Tenergy ครั้งแรก ลักษณะที่ไม้มันมี Curve ช่วย ผมว่าเกิดจาก แรงดีด ที่อ่อนตัวของไม้ Yew แต่ความกระด้างที่ได้รับ คงเกิดมาจาก ตัว PBO ที่มีคุณสมบัติแข็งกว่าเหล็กสิบเท่า ทำให้เราสามารถกดลูก ลงได้มากกว่าปกติ แต่ด้วยความที่ยังไม่เคยชินผมเลยไม่กล้าส่งแรงออกไปมากเท่าที่ควร
หลังจากนั้นผมก็มาลองบล๊อค ซึ่งปกติแล้ว ถ้าเป็น Sardius หรือไม้แรงๆ ลูกบล๊อคจะออกจากหน้าไม้เร็ว ลูกบล๊อคที่สปินสูงๆ จะกดหน้าไม้คุมลูกได้ยาก แต่ไม้ตัวนี้ไม่เป็นครับ เวลาบล๊อคจะเหมือนพวกไม้ธรรมชาติ ความกระด้าง จากที่ตีเบสิค หายไปเลย คือเหมือนตีไม้นุ่มๆตัวหนึ่งแค่นั้นเอง | โดย: Pimple Lover [3 พ.ค. 55 23:22] ( IP A:118.174.93.221 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 ผมให้หลายคนลองตีดู คนที่เป็นมือ drive บอกว่าไม้แรงขึ้นสปินง่าย ส่วนอีกคนเป็นมือเม็ด จะทอปโรยๆ คุมลูกดี กลับบอกว่าไม้นิ่ม โดยสรุป ผมว่าเป็นความรู้สึกเดียวกัน เวลาที่เรากระแทกลูก ไม้จะแข็งกระด้าง ออกตัวเร็ว แต่เวลารับ ตัวไม้ เหมือนมีแรงหยุ่น ทำให้เราคุมลูกได้ง่าย เหมือนไม้พวกนี้มีสองเกียร์
เวลาเข้าเกมขึ้นไม้สาม ผมลองเล่นจากเกมวางก่อน ตัดได้หนักครับ หรืออาจจะเพราะยาง spin art ด้วย องศาที่ต่ำเวลาตัดอาจจะเป็นคุณสมบัติยาง แต่ฟิลของไม้ที่ตี มันจะนุ่ม ออกไปทางไม้ที่ใช้หน้าไม้เป็นไม้ Koto เช่นพวก hurricane king หรือ Stiga CR ประมาณนั้น
แต่พอเปิดบุกไม้สาม ทั้งโฟร์แฮนด์ แบ๊คแฮนด์ ไม้จะกระด้าง ออกตัวจากหน้าไม้เร็วทันที ผมลองเปิดไดร์ฟ แบบกระแทกลูก ฟิลการตีจะคล้ายๆ ไม้กระด้างๆ แบบ Photino หรือ ซาลาเซนเจอร์ นั่นล่ะครับ ลูกจะออกตัวจากหน้าไม้เร็วมาก ถามว่าชอบมั๊ย ผมว่ามันแข็งสำหรับผม แต่สำหรับนักกีฬาระดับสูงผมว่าดีนะครับ เพราะลูกจะออกจากหน้าไม้ได้เร็ว และแรง ในขณะเดียวกัน เวลาถอยออกมาทอปสวน ผมว่ามันเป็นไม้ All round ตัวหนึ่งเลยทีเดียวครับเพราะไม้จะสั่นและกระด้างไม่เท่าตอนขึ้นไม้สาม
สำหรับ เกรดของไม้ตัวนี้ เขาให้มา off ++ แต่ผมว่า ถ้าวัดกันตรงนี้ จะเป็นไม้แรง แบบตะพึดตะพือ แบบพวก tri carbon หรือพวก ซาลาเซนเจอร์ แต่ไม้ตัวนี้สำหรับผม เวลาบุกแรงประมาณ ซาเดียสครับ แต่เวลาทอปสวน รับ หรือบล๊อคลูก ฟิลมันประมาณ Hurricane king
สำหรับข้อติสำหรับไม้ตัวนี้ ผมว่าตรงคอด้ามจับที่ติดกับยาง มันกว้างและคมพอสมควร ถ้าคนจับไม้ลึก เวลาตีโฟร์แฮนด์ เอานิ้วชี้กินลึกไปที่หัวไม้ เวลาตีจะรู้สึกเจ็บและไม่ค่อยถนัด เพราะตัวไม้มันเป็นเสี้ยน เพราะถ้าเป็นไม้ของ Butterfly Juic Stiga Dr. Galaxy ตรงขอบมันจะลบคมมาเป็นอย่างดีเวลาจับจะไม่รู้สึกเจ็บ | โดย: Pimple Lover [3 พ.ค. 55 23:23] ( IP A:118.174.93.221 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 วันต่อมา ผมลองเอาไม้ตัวนี้ไปให้ เม็ดมือดี ของ จังหวัด มาทดสอบดูบ้าง คือไม้ก่อน เขาตี เม็ดด้วย Sadius ผมก็รู้สึกว่ามันแรงไป มันทำให้เขาบุกต่อเนื่องได้แค่ไม้เดียว พอลูกตามก็จะหลุดแล้วทำให้ต้องถอยออกมารับนอกโต๊ะ
ผมเลยให้ลองไม้ตัวนี้ดูเพราะมันน่าจะตีเม็ดจีนได้ เพราะมันมีสองเกียร์ ยางเม็ดใช้เม็ดจีน ของ Double happiness ส่วนด้านโฟร์แฮนด์ ใช้ Hurricane 3 provincial blue sponge
ด้านโฟร์แฮนด์ เขายังไม่คุ้นนัก เพราะองศามันสูงกว่า ไม้เดิม คือ Sardius เวลาเปิดทอปไม้สาม จะเหินออก นิดๆอยู่ตลอดเวลา ผมก็ถามเขาว่า ไม้มันแรงไปรึเปล่า เขาบอกว่าไม้ดีครับ แต่วอร์มไม่พอยังไม่คุ้นกับไม้ ไม้มันจะแรงกว่า Sardius ที่ตีอยู่พอสมควร คือต้องปิดวงตีและกระแทกลูกให้มากกว่านี้
สังเกตุว่าลูกที่ตีลง มันจะต้องไดร์ฟไปที่ลูกแบบวงจีน ส่วนการทอปไกลโต๊ะ จะเห็นว่าจะมีลักษณะ Speed ที่สองเหมือนที่ Sanwei บอกไว้ คือลูกจะออกจากหน้าไม้ช้าหน่อย แต่ลูก จะมีแรงดีดเพิ่มเวลาลงโต๊ะ ทำให้อ่านน้ำหนักลูกเวลาตีด้วยแรกๆ ยากพอสมควร
แต่พอมาตีเม็ดเป็นเรื่องครับ ไม้มันจะไม่มีฟิลแบบแข็งๆของการตีบุกอยู่ เริ่มจากลูกบล๊อคก่อน ถ้าเป็นวงเดิม ใช้ Yasaka phanter ลูกจะตกประมาณหัวเนต ถ้าใช้ไม้ชั้นเดียว Kiso hinoki หนาประมาณ 9 mm. ลูกจะตกประมาณเส้นขาวหรือเลยโต๊ะนิดๆ ถ้าเป็น Sardius ลูกเหินไปไกลเลยครับ แต่ถ้าเป็นไม้ตัวนี้ เวลาไม้กระทบลูกมันจะมีลักษณะของการอุ้มลูกได้นาน ทำให้ลูกตกประมาณกลางโต๊ะ
ซึ่งคุณสมบัติอันนี้ ไม้บุกทั่วไปในตลาดไม่มี เพราะไม้แรงก็แรงไปเลย โดยเฉพาะพวก ZL carbonด้วยแล้ว ถ้าเข้าโฟกัสจะตีแรง แบบตีหายไปเลย สวีท สปอท ต่ำกว่าไม้ของ Sanwei รุ่นนี้อยู่พอสมควร
ลูกต่อมา คือลูกเปิดไม้สาม ลูกดีดยังตีกั๊กๆวงอยู่เพราะต้องรอให้ปรับตัว แต่เจ้าตัวบอกว่าตีง่าย ที่ตีด้วย ผมรู้สึกว่าอ่านทางยากมาก เพราะลูกออกจากหน้าไม้เร็วมาก ทำให้ไม่รู้ว่า ลูกจะไปทางซ้ายหรือขวา สำหรับเม็ดแล้วจะเห็น Second speed ของ Sanwei ทำงานได้ดีพอสมควร เพราะออกจากหน้าไม้เร็ว แล้ววิ่งช้าพอควร แต่พอลงโต๊ะลูกมันจะ kick เร็วและแรงอย่างเห็นได้ชัด องศาของการดีด จะต่ำกว่า ไม้ ฮิโนกิชั้นเดียว แต่จะควบคุมง่ายกว่า Sardius ลูกที่ผมเห็นว่า มีประสิทธิภาพและควบคุมง่ายคือลูกปาดครับ เพราะลูกจะวิ่งเป็นตัว S มีการสปินแบบแปลกๆ และคุมง่าย
สำหรับพวกตัดไกลโต๊ะ หรือวางลูกสั้น ทำได้ปกติเหมือนพวกไม้นิ่มที่เป็นไม้ธรรมชาติ ---------------------------------------------------------------------------------- รีวิวโดย : พี่ซิน (Zincin) ; 3-May-2012 | โดย: Pimple Lover [3 พ.ค. 55 23:26] ( IP A:118.174.93.221 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องลูกปาดส่ายแปลกๆเนี่ยไม้ตัว YEW WOOD ที่ไม่มี PBO ก็เป็นครับ เอาติด Meteor 8512 เนี่ย เห็นลูกส่ายเป็นงูจากฝั่งผมเลย ในขณะที่ปกติถ้าลูกส่ายทางผมจะไม่เห็นแต่คนตีด้วยจะเป็นคนบอก เข้าใจว่าน่าจะเกิดจากตัวไม้ YEW WOOD ครับ | โดย: Pimple Lover [4 พ.ค. 55 9:23] ( IP A:155.126.8.15 X: ) |  |
|