Kurt Angle ชีวิตหลังออกจากWWE
   เคิร์ท แองเกิล พลิกลิ้นจากคนที่เดินออกประตู WWE ด้วยรอยยิ้ม หันกลับมาโอลิมปิกสแลมและล็อกข้อเท้าเจ้านายเก่าจนดิ้นพลาด ๆ สับแหลก วินซ์ แม็คแมน ว่า เป็นคนสนใจแค่ผลประโยชน์ทางธุรกิจ ไม่สนนักมวยปล้ำว่าร่างกายจะทรุดโทรม ชีวิตครอบครัวจะพัง

คราวที่แยกทางกันใหม่ ๆ ดูเหมือนว่า WWE กับ แองเกิล จะจากกันด้วยดี แม็คแมนยอมปล่อยแองเกิลไปเพื่อให้ไปรักษาอาการบาดเจ็บและแก้ไขปัญหาชีวิตครอบครัว พร้อมอ้าแขนรับ "เรสต์ลิ่ง แมชีน" กลับมาตลอดเวลา ขณะที่แองเกิลก็ขอบคุณบิ๊กแม็ค เอ่ยถึงชีวิตที่ WWE เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก

แต่ถัดจากนั้นไม่ถึงเดือน แองเกิลก็ทำให้ทุกคนใน WWE ช็อกด้วยการเซ็นสัญญากับ TNA สมาคมคู่แข่ง ก่อนให้สัมภาษณ์ลากไส้อันเน่าเฟะของแม็คแมนในสายตาของเขาออกมา ซึ่งข้อมูลต่างกันราวกับขาวดำกับเรื่องราวที่เขาเคยพูดไว้

อันดับแรกที่มีข่าววงในว่า WWE ไล่เขาออกนั้น แองเกิลบอกว่าผิดทั้งเพ "ผมต่างหากที่เป็นคนขอคุยกับวินซ์ และเป็นผมเองที่ขอให้ปล่อยออกจากสัญญา (เมื่อต้นปี 2006 แองเกิลเพิ่งเซ็นสัญญาใหม่ยาว 5 ปี) ข่าวลือที่ว่าผมโดนบีบให้ออกหรือกระทั่งถูกไล่ออกนั้นไม่ใช่ความจริง ผมไม่อยากอยู่ WWE เพราะไม่สนุกกับชีวิตที่นั้น WWE ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะเขี่ยผมทิ้ง เพราะผมเป็นนักมวยปล้ำที่ดีที่สุดของพวกเขา จริง ๆ แล้ว ผมเป็นคนขอให้มีการประชุมและปล่อยตัวผมไป"

"ต่อมาวินซ์ออกข่าวว่า เราสองฝ่าย ผมกับ WWE พร้อมใจยกเลิกสัญญาด้วยวาจา แต่ความจริงมันไม่ใช่ วินซ์พูดแบบนั้นเพื่อรักษาหน้าตัวเองเท่านั้น"

เป็นที่ทราบกันดีว่า นักมวยปล้ำ WWE ทำงานกันหนักมาก เฉลี่ยแล้ว 260-300 วันต่อปี ซึ่งซูเปอร์สตาร์อย่างแองเกิลก็ไม่มีข้อยกเว้น ตารางงานที่แน่เอียดทำให้ชีวิตคู่ของเคิร์ทและคาเรน (ภรรยา) ร้าวฉาน

"เราต้องแยกกันอยู่ช่วงหนึ่ง ผมก็ไม่ได้เห็นหน้าลูกสาว นอย่างวินซ์ทำงานสัปดาห์ละ 7 วัน วันละ 24 ชั่วโมง เขาคงไม่ได้ใช้เวลากับครอบครัวเกิน 10 วันต่อปีได้มั้ง แต่ผมไม่อยากเป็นอย่างนั้น"

"ผมไม่มีวันแลกชีวิตกับมวยปล้ำหรอก ผมเกือบสูญเสียชีวิตคู่และครอบครัว แต่ผมไม่คิดว่า บอสส์ (แม็คแมน) จะแคร์หรอก ตอนนี้สำหรับผมแล้ว พระเจ้ามาเป็นอันดับหนึ่ง ครอบครัวเป็นที่สอง และงานมาอันดับสาม"

แองเกิลยอมรับว่า เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับแม็คแมนมาตลอด จนกระทั่งถึงวันหนึ่งประมาณต้นปีที่แล้ว ความรู้สึกได้เริ่มแย่ลงและแย่ลงเรื่อย ๆ

"ช่วงนั้น ผมจำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวดหลังผ่าตัดต้นคอและไม่มีโอกาสพักผ่อน ผมจึงไปบอกว่า จิม รอสส์, จอห์น เลาริเนียทีส แล้วก็วินซ์ว่า ผมกลัวตัวเองกำลังจะตาย ผมลุกจากเตียงไม่ได้ถ้าไม่ได้กินยา ก็มากเป็นกำมือเลย"

"ผมไปหาแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านอาการเจ็บปวด อีกสามวันผมกำลังจะมีแมตช์เพย์-เพอร์-วิวกับจอห์น ซีนา (โน เวย์ เอาท์ 20 ก.พ.2005 เพื่อสิทธิไปชิงแชมป์ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21) หมอแนะนำว่า ผมควรหยุดเพื่อทำการบำบัด ไม่งั้นผมอาจตายได้ ผมจึงกลับไปบอกวินซ์ว่า ผมจำเป็นต้องหยุดสักสามเดือน แต่เขากลับสั่งให้ผมบำบัดตัวเองระหว่างเดินสายปล้ำแทน การปล้ำครั้งนั้นกับซีนาทำให้ผู้ชื่นชมกันมาก แต่ขณะอยู่บนเวที ผมกลับกลัวว่าอาจหัวใจวายตายได้"

"ครั้งนั้นสิ่งเดียวที่ WWE แคร์คือ พลักดันซีนา (ในเรสเซิลเมเนีย 3 ก.พ.2005 ซีนาก็ชนะเจบีแอล เป็นแชมป์ WWE คนใหม่) ผมทำให้ซีนาดูดีกว่าความเป็นจริงมาก"

"มันทำให้ผมรู้ซึ้งเลยว่า WWE ไม่ได้สนใจผมเลย พวกเขาแคร์ผมแค่สามารถทำให้ใครคนหนึ่งดูดีเท่านั้น ต่อมาจอน ไฮเดนไรช์ เกิดความดันโลหิตสูงขึ้นมากระทันหัน WWE บังคับให้ผมเดินทางไปบัลติมอร์เพื่อปล้ำแทนไฮเดนไรช์"
สำหรับการย้ายมา TNA นั้น แองเกิลเล่าว่า "ผมไม่เคยคุยกับ TNA จนกระทั่งถูกปล่อยตัว วินซ์คงไม่เคยคิดมาก่อนว่า ผมจะไปอยู่ TNA ด้วย ถ้ามันพอมีแววบ้าง เขาคงไม่ยอมปล่อยผมออกไปหรอก แล้วที่วินซ์ยอมปล่อยผมไปก็เพราะเขาโกรธมาก เลยตัดสินแบบหุนพันพลันแล่น ผมเชื่อว่า ตอนนี้วินซ์คงเสียใจไม่น้อย"

กับโอกาสที่จะกลับไปทำงานให้ WWE แองเกิลตอบว่า "Never Say Never แต่คาเรนคงไม่ยอมให้ผมกลับไปที่นั้นอีก และตอนนี้ ผมอยากทำงานให้ TNA นานถึง 30 ปี ไม่ว่าจะในฐานะหรือตำแหน่งงานอะไร"


Credit:วัฏฏะ การศึกษาวันนี้
โดย: Sacred Cena [23 ต.ค. 50 21:59] ( IP A:124.120.140.90 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   โหเฉียบมากๆครับ
โดย: Kowit [23 ต.ค. 50 22:50] ( IP A:124.120.105.203 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ อย่างนี้ครับ....ขอบคุณจริงๆ
โดย: DX [24 ต.ค. 50 12:35] ( IP A:203.144.183.117 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   สะใจ หุหุ
โดย: The-X-Show [25 ต.ค. 50 4:50] ( IP A:58.8.170.120 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน