ขอประวัฒิของ The Animal Batista ทีคับ
|
ความคิดเห็นที่ 1 เด็กวัยรุ่นมากมายโทษสังคม สภาพแวดล้อม พ่อแม่ ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้พวกเขาเลว แต่กับ ดิ แอนิมอล บาติสตา แชมป์โลกเฮฟวีเวทของสแมคดาวน์! พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันไม่จริง! ตนเองต่างหากที่คนตัดสินใจและเลือกว่าจะก้าวเดินบนเส้นทางสายไหน ... ธรรมะ? หรือ อธรรม?
ธรรมะหรืออธรรมที่ว่า ไม่ใช่บทบาทหรือแคแรกเตอร์ที่ฝ่ายครีเอทีฟกำหนดให้เขาเป็นบนเวทีมวยปล้ำ แต่เป็นชีวิตจริง
เดวิด ไมเคิล บัวติสตา (David Michael Bautista) เกิดวันที่ 18 มกราคม 1969 ที่อาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย คุณพ่อเป็นคนฟิลิปปินส์ คุณแม่เป็นชาวกรีก วัยเด็กเขาเติบโตในวอชิงตัน รัฐดี.ซี. ซึ่งก็เหมือนเมืองหลวงเกือบทั้งโลกที่ประกอบด้วยสังคมและสภาพแวดล้อมส่วนที่ดีและไม่ดี แต่กรณีของเด็กชายเดวิด เขาต้องใช้ชีวิตในพื้นที่ที่อาจถึงขั้นเลวที่สุดของนครหลวงแห่งนี้ก็ว่าได้ ซึ่งช่วงทศวรรษ 1970-80 นั้น ฆาตกรรมถือเป็นเรื่องธรรมดา การสูบโคเคนเริ่มก่อตัวขึ้น และคนไร้ที่อยู่ก็มีอยู่ทั่วไปในเขตนี้
ซูเปอร์สตาร์นักมวยปล้ำวัย 38 ปี เล่าว่า แถว ๆ หน้าบ้านเคยเกิดคดีฆาตกรรมถึง 3 ครั้งก่อนเขาอายุ 9 ขวบด้วยซ้ำ ส่วนตัวเขาเองก็หนีวังวนมืดนี้ไม่พ้น เคยขโมยของในร้าน ขโมยมอเตอร์ไซด์ ต่อยตีทะเลาะวิวาท และหนีออกจากบ้าน รวมถึงถูกศาลตัดสินว่าผิดในคดียาเสพติดและทำร้ายร่างกาย แต่คดีหลังได้รับการยกฟ้องภายหลัง
บาติสตาต้องเติบโตภายใต้สภาพแวดล้อมที่แย่ ๆ ไม่ใช่เฉพาะภายนอกบ้าน แต่รวมถึงภายในบ้านด้วย พ่อแม่แยกทางกัน ต้องตระเวณเดินทางไปกับแม่ที่เลสเบียน ซึ่งพาลูกชายย้ายถิ่นฐานจากฝั่งหนึ่งของประเทศไปยังอีกฝั่งหนึ่งเพื่อหนีสังคมอันเลวร้ายและรุนแรง
นอกเหนือคุณแม่ที่พยายามปกป้องลูก ยังมีปัจจัยอื่นอีกที่รั้งไม่ให้บาติสตาเดินชีวิตไปบนเส้นทางที่ผิดพลาด นั่นคือ ความลุ่มหลงการยกน้ำหนักและเพาะกาย บวกความปรารถนาที่จะต้องลงมือทำบางสิ่งบางอย่างให้ชีวิตตนเองดีขึ้น ซึ่งนำเขาไปสู่วงการมวยปล้ำอาชีพ
ด้วยความสูง 6 ฟุต 5 นิ้ว (192 เซนติเมตร) และน้ำหนักประมาณ 290 ปอนด์ (132 กิโลกรัม) แม้เป็นข้อได้เปรียบ แต่ด้วยวัยที่ปาเข้าไป 30 ปีแล้ว ได้ตัดโอกาสของเขาให้ลดน้อยลงไปมาก บวกกับความไร้ประสบการณ์ อดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคลับแห่งหนึ่งในรัฐ ดี.ซี. ลองเข้าไปเรียนรู้ศาสตร์มวยปล้ำอาชีพที่ Power Plant ของ WCW แต่ท้ายสุด WCW ก็ไม่ได้ยอมรับเขาเข้ามาเป็นนักมวยปล้ำอาชีพ
เมื่อถูกถามถึงอาชีพอื่น ๆ หากไม่ได้เป็นนักมวยปล้ำเหมือนวันนี้ บาติสตายอมรับว่านึกไม่ออก เพราะมันไม่เคยอยู่ในหัวของเขาเลย ผมเติบโตมาพร้อมกับการชมฮองก์ โฮแกน ดังนั้นจึงเป็นความเหลือเชื่อเลยเมื่อวันหนึ่งผมมีโอกาสยืนอยู่บนเวทีเดียวกับเขา และผมยังไม่ลืมบิ๊กแมตช์คืนแรกที่ได้พบกับชอว์น ไมเคิลส์
เพื่อไล่ล่าตามความฝัน บาติสตาจึงยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ เขาสมัครเข้าฝึกมวยปล้ำกับ ไวลด์ ซามัวส์ เทรนนิ่ง เซนเตอร์ ที่อัลเลนทาวน์ รัฐเพนน์ซิลเวเนีย ในเดือนมีนาคม 1999 และมีโอกาสปล้ำในโชว์ของ WXW เป็นเวลา 12 เดือน โดยใช้ชื่อว่า คาห์น (Kahn หรือ ข่าน ในภาษาไทย) ก่อนได้เซ็นสัญญาเป็นนักมวยปล้ำระดับพัฒนาของ WWE และถูกส่งตัวไปเรียนรู้เพิ่มเติมที่ OVW ในหลุยส์วิลล์ รัฐเคนตักกี ตั้งแต่มีนาคม 2000 ซึ่งที่นี่ เขาใช้ชื่อว่า เลอเวียนธาน (Leviathan)
บาติสตาถูก WWE เรียกตัวไปปล้ำในเฮาส์โชว์เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2002 ผลปรากฏว่า เขาแพ้ต่อเชลตัน เบนจามิน และได้เริ่มเดินสายเต็มเวลากับทีมชุดใหญ่ของ WWE อีกสองเดือนต่อมา จนกระทั่ง 9 พฤษภาคม 2002 ก็ปรากฏตัวทางจอแก้วเป็นครั้งแรกในสแมคดาวน์! ในนาม เดียคอน บัวติสตา (Deacon Bautista) คอยถือกล่องบริจาคเงินให้กับดี-วอน ดัดลีย์ ส่วนประวัติถัดจากนั้นของบาติสตา แฟนมวยปล้ำน่าจะรับรู้กันอย่างดีอยู่แล้ว
ใน Batista Unleashed หนังสือชีวประวัติที่บาติสตาเขียนร่วมกับเจอเรมี่ โรเบิร์ตส์ เขายอมรับถึงข้อเสีย จุดบกพร่อง และมลทินในชีวิต อย่างซื่อสัตย์ แต่อีกมุมหนึ่ง แชมป์โลกเฮฟวีเวทวัย 38 ปีผู้นี้มีจุดยืนในใจว่า จะต้องทำสิ่งที่ดีที่สุดแม้อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ซึ่งส่งผลให้เขาสามารถฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายจนมายืน ณ ตำแหน่งที่เป็นอยู่ขณะนี้
แม้ประสบความสำเร็จในอาชีพนักมวยปล้ำ เป็นดาราเบอร์ต้น ๆ ของสมาคมอันดับ 1 ของโลกอย่าง WWE แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ ดิ แอนิมอล นึกเสียใจอยู่เสมอ นั่นคือ การที่เขาลาออกจากโรงเรียนขณะที่เหลือแค่ 2 หน่วยกิตก็จะจบการศึกษาระดับไฮสคูล
บาติสตากล่าวว่า การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตที่คุณควรจะหาเข้าใส่ตัว เวลามีโอกาสพูดกับเด็ก ๆ ผมจะย้ำเน้นให้พวกเขาเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเรียน ผมไม่อยากให้พวกเขาเป็นเหมือนผม ... หาเลี้ยงชีพด้วยร่างกาย
ถ้าวันหนึ่ง ผมได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถเป็นนักมวยปล้ำได้ ผมไม่มีความรู้หรือทักษะใด ๆ มารองรับชีวิตหลังจากนั้น นี่แหละจึงเป็นเรื่องที่ผมเสียใจมากที่สุด ความจริงแล้วผมเป็นเด็กเรียนดีนะ มีผลการเรียนที่ดีเลยล่ะ แต่พอชีวิตส่วนตัวเริ่มมีปัญหา โดยเฉพาะกับครอบครัว ตอนนั้นเองที่รู้สึกว่า โรงเรียนไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับผมอีกต่อไป แต่โชคดีที่เขามีพื้นฐานจิตใจและความคิดที่ดี จึงสามารถพาตัวหลีกหนีจากยาเสพติดและอาชญากรรมหลากหลายรูปแบบได้สำเร็จ
ดิ แอนิมอล บาติสตา จึงเป็นตัวอย่างที่ดีมากสำหรับเยาวชนที่กำลังมีชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย และฉุกคิดว่าถึงเวลาต้องเลือกว่า จะก้าวเดินถลำลึกไปสู่ด้านมืดต่อไปหรือเปลี่ยนใจหันไปเดินบนเส้นทางชีวิตที่สว่างกว่าดี
อธรรมอาจดูเท่ห์ดูเจ๋งได้เมื่อยืนบนเวทีมวยปล้ำ แต่กับโลกแห่งความจริง อธรรมคือคนเลวเสมอ | โดย: .....ลอกมาจาก คนชื่อเจ้าบ้าน [26 ธ.ค. 50 17:21] ( IP A:125.25.61.182 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 เป็นกำลังใจให้บาติสต้าไม่ว่าจะเจออะไรมาปัจจุบันบาติสต้าคือพระเอกในดวงใจเสมอ | โดย: yrrehc_pitatnom@Gmail [16 ก.พ. 51 11:10] ( IP A:61.19.236.197 X: ) |  |
|