หลังจากฝึกที่สำนักStu Hartวิทยาคมจนสำเร็จยุทธจึงเริ่มต้นการเดินทางที่ Stampede Wrestling Federation และไปปล้ำนอกถิ่นอาทิ ญี่ปุ่น เม็กซิโก และ อเมริกา
โดยใช้ชื่อเช่น Pegasus Kid, Wild Pegasus, Chris Benoit ปี1994 เป็นปีที่สมาคมใหญ่ๆ ต้องการตัวมาก Benoit เดินทางศู่เอมริกาครั้งแรก โดยเริ่มไป WCW ระยะสั้นก่อนที่ Paul Heyman เจ้าของ ECW ซซึ่งตอนนั้นต้องการพวกฝีมือมาผสมเข้ากับฮาร์ดคอร์
ช่วงที่อยู่ชายคาECW Benoit ได้เผยฝีมือที่แท้จริงตอนเจอกับ Sabu สู้จน Sabu คอเกือบหัก กลายเป็นจุดเริ่มต้นของฉายา "The Canadian Cripper"
ปี1995 Benoit กลับไปWCW ครั้งที่สองแต่คราวนี้อยู่ยาว เริ่มเปิดศึกกับ Eddie Guerero ซึ่งเข้าตากลุ่ม4ม้าโหด 4HORSEMEN จนทาบทามให้เขาเป็นสมาชิก ในที่สุดและ ไปเปิดศึกคู่กัดในและนอกเวที่อย่าง Kevin Sullivan จนเป็นคู่กัดแห่งปี1995
หลังจากนั้ชื่อของ Benoit ก็ติดลมบน WCW โดยอัติโนมัติ เปิดศึกอย่าง Randy Savage ,Sid Vicious จนคว้าแชมป์ WCW แต่ระยะสั้น หลังจากนั้นพวกแชมป์ก็จะกลัว Benoit เพราะฝีมือที่ร้ายกาจ โดยเฉพาะท่าไม้ตายอย่าง Clipper causeface
พอปี2000 Benoit เจอปัญหาบบาทน้อยลง เพราะ WCWอยู่ในช่วงขาลง จึงลาออก พร้อม Malenko,Guerrero,Saturnมุ่งหน้าสู่ WWE และฟอร์มทีม นาม The Radicalz เป็นลูกสมุนของ Triple H แต่ไม่นานก็แตกทีมกัน เลยมาเป็นศิลปินเดี่ยว เปิกศึก Y2J , The Rock ,Stone cold,rvd,Big Show แล้วหายไปพักนึงเพราะอาการบาดเจ็บ แล้วกลับมาสร้างฟอร์มจน2004 เขาได้รับโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตเมื่อได้ปล้ำคู่เอกในWM20 2004 ที่ แมดิสัน สแควร์การ์เด้น เจอ HBK VS HHH และทำให้ HHH แตะพื้นยอมแพ้ ค้าแชมป์ได้สำเร็จหลังแมตช์ Eddie มาแสดงความยินดีปิดศึก
แต่แชมป์อยู่ไม่นานก็เสียให้ Randy Orton แล้วเขาตกต่ำลง แต่ก็กลับมาได้แชมป์ US จาก Orando Jordan เวลา 25วิ จน Benoit ถึงกับเอาสถิติไปเทียบตอนชงกาแฟ