ย้อนรอยมวยปล้ำ 52 ตอน WWE 1# professional of sport-entertainmain
สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่านหลังจากที่ผมลงประวัติสถาบัน WCW ไปแล้ว คราวนี้จะเอาประวัติ WWE มาลงกันเสียที เพื่อแฟนๆรุ่นใหม่โดยเฉพาะ อย่างที่สาวกมวยปล้ำทุกท่านทราบดี WWE คือสมาคมที่อยู่คู่วงการเกือบทศวรรษก็ว่าได้ ไปกันเลยครับกับอดีตที่ผ่านมาของ WWE
จุดเริ่มต้นนั้น เริ่มจาก Jess Mcmahon ต้นสกุลMcmahon เป็นโปรโมเตอร์มวยสากลอาชีพ เป็นคนที่ริเริ่มจะจัดมวยปล้ำอาชีพ แต่กลับถูกปฏิเสธจตากTex Richard ผู้ร่วมงานของJessทำให้ทั้งคู่ตัดขาดความเป็นเพื่อน ในขณะเดียวกันก็มีนักมวยปล้ำนามJoseph Raymond "Toots" Mondt ได้รวบรวมโปรโมเตอร์ที่มีชื่อเสียงมากมายในแต่ละเขตซึ่งรวมถึงJess ก่อตั้งสมาคม Gold dust trio ขึ้นประมาณทศวรรษ30
ก่อตั้งได้ไม่นาน Jack Curley ก็จากโลกไปทำให้ต้องยุบสมาคมและ กลุ่มผู้ก่อตั้งGold dust trio ที่เหลือจึงประชุมว่าจะตั้งสมาคมถาวร ในNew York ในชื่อใหม่Capitol Wrestling Corporation (CWC) และเข้าเป็นสมาชิกของNWA ซึ่งเป็นสมาคมยักษ์ใหญ่ในตอนนั้น
ปี1953 Ray Fabiani ซึ่งเป็นหุ้นส่วนได้เชิญVincent James McMahon มาสานงานต่อ จากพ่อคือJess และประสบความสำเร็จอย่างราบรื่น ในช่วงที่ยังร่วงานกับNWA จะมีอำนาจ70% ได้ด้านเขียนบท แต่เพราะได้รับความนิยมนั่นเองMondt ได้พูดคุยกับ McMahon ต่อเรื่องการเขียนบท และวิธีการดำเนินธุรกิจในวงการมวยปล้ำ ในเรื่องของตำแหน่งแชมป์ก็ใช้ของNWA และจะต้องป้องแชมป์ตามสมาคมต่างๆในเครือNWA ปี1963 แชมป์ในขณะนั้นคือ Buddy Roger
จากนั้นสถาปนาให้Buddy Rogerเป็นแชมป์คนแรกจาการชนะในศึกหาแชมป์ที่ว่างที่บราซิล 1เดือนให้หลังก็เสียแชมป์ให้Bruno Sammartino เพราะก่อนการปล้ำBuddyเป็นโรคหัวใจ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นสมาคมของNWA แต่Jameยังเป็นคณะกรรมการของNWA ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับจากทั่วอมเริกาแม้จะมีศึกชนแชมป์แต่ผลเป็นแพ้ฟาวล์ทั้งสองฝ่าย ปี1979 เปลี่ยนชื่อเป็นWorld Wrestling Federation และเป็นจุดเริ่มต้นของ Vincent Kenedy Mcmahon หรือ Vince Mcmahon ประธานคนปัจจุบันนี่เอง
โดยเริ่มนำธุรกิจของพ่อเดิมพันด้วยความเสี่ยงทันที คือการเปลี่ยนรูปแบบมวยปล้ำกลายเป็นสปอต์เอนเตอร์เทนเมนต์ เริ่มจากการยกระดับสมาคมให้เป็ฯเบอร์1 ด้วยการดึงตัว Hulk Hogan และ Rowdy Rody Piper นอกจากนี้ก็มีAndré the Giant, Jimmy Snuka, Don Muraco Paul Orndorff, Greg Valentine, Ricky Steamboat และ The Iron Sheik ยุคนี้กลายเป็นยุคทองของWWF โดยมีHoganเป็นตัวชูโรง นอกจากนี้ยังได้สร้างศึกที่เปรียบเสมือน ซุเปอร์โบว์ คือ Wrestlemania นอกจากนี้ยังได้เชิญเหล่าดาราเช่น Mr.Tมาสร้างสีสัน
ทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ว่าก็เกิดเบื่อHogan เพราะชนะตลอด ทำให้เกิดเสื่อมความนิยมในปี1990 นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาสารพัด ทำให้บางส่วนย้ายไปWCW ปีนี้มีซุเปอร์สตาร์เข้ามาใหม่ในยุคนั้นเช่นShawn Michaels, Diesel (หรือ Kevin Nash), Razor Ramon (หรือ Scott Hall), Bret Hart และ The Undertaker และเริ่มเชื่อมโยงปูเนื้อเรื่องถึง 2 อดีตซูเปอร์สตาร์ของ WWF อย่าง Hulk Hogan และ Randy Savage ซึ่งในขณะนั้นได้ย้ายไปสังกัด WCW และเป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม ดึงเรทผู้ชมในคืนวันจันทร์ หรือ Monday night war
ปี1996 เพื่อเตรียมรับมือกับสงครามดึงเรทจึงเปลี่ยนคอนเซปท์เนื้อหารุนแรง การปล้ำดุดัน ภายใต้ชื่อ Attitude โดยมีSteve Austin เป็นตัวชูโรง และนอกจากนี้ยังเกิดเหตุการณ์อัปยศที่แคนนาดาระหว่าง Bret Hart Vs HBK เกิดการล้มมวยแบบไม่มีใครรู้เรื่องโดยมี Vince เป็นแกนนำ สาเหตุเพราะBret ทำตัวไม่เป็นที่น่าพอใจ Vince จึงนำเหตุการณ์นี้มาสร้างตัวเอง เป็นฝ่ายอธรรมซึ่งตอบรับอย่างดี ในปี1999 นอกจากมี RAW แล้วยังสร้างSMACK DOWN เป็นรายการที่สองและธุรกิจWWF ได้ขึ้นหุ้นตลาดหลักทรัพย์ ในราคาหุ้นละ 17 เหรียญสหรัฐ และยังสร้างผับWWF NEW YORK เพื่อรองรับแฟนๆมวยปล้ำ(ปัจจุบันปิดกิจการไปแล้ว)
ปี2001 WWF ประกาศชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สามรถซื้อWCW และ ECW ส่งผลให้กลายเป็นสมาคมยักษ์ใหญ่แต่เพียงผู้เดียว ส่งผลในศึกWWF VS WCW/ECW ต่อมาWWF ก็ต้องขึ้นศาลเนื่องกองทุนสัตว์โลกฟ้องร้องว่า ใช้ชื่อย่อซึ่งฝ่าฝืนปี1994 ในที่สุดWWF แพ้คดี จึงเปลี่ยนชื่อเป็น World Wrestling Entertainment จนถึงทุกวันนี้ และเซนเซอร์Attitude ทั้ง หมดแต่สามารถใช้ตัวย่อWWFปี1984-1994และการประกาศเปลี่ยนแปลงชื่อสมาคมใน ครั้งนี้ได้ถูกนำมาประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ระหว่างการออกอากาศรายการ RAW ซึ่งจัดขึ้นที่สนาม Hartford Civic Center ในเมือง Hartfort มลรัฐ Connecticut และในช่วงระยะหนึ่ง ทาง WWE ได้ใช้สโลแกน "Get The 'F' Out." เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงชื่อของสมาคมด้วย
ปี2005 ได้ฟื้นฟูรายการSaturday night main event ปี2006 ได้นำECWมาเป็ฯรายการที่3ของWWE ปี2008 ได้นำระบบHDเข้ามาถ่ายทอดสดที่ทำให้ภาพชัดกว่าเดิม