((แปลไทย)) # 2: Bret Hitman Hart - My Real Life in Cartoon World of Wrestling : ตอนที่ 1.1 ครับ
   สวัสดีครับ แฟนๆมวยปล้ำบอร์ดพันทิพย์ ^^
กลับมาอีกครั้งกับตอนที่ 2 ครับ
ตอนที่สองจะเข้าบทที่ 1 ของหนังสือล่ะครับ
ทีนี้บทที่ 1 เป็นบทยาวที่สุด เพื่อให้เรื่องไม่เกิดความขาดตอน
ผมขอลงตอนนี้ครึ่งหนึ่งก่อนละกันครับ แปลค่อนข้างนานเหมือนกัน
ถึงแม้คนอ่านบทความนี้จะมีไม่ค่อยเยอะ แต่ผมก็จะทำให้ดีที่สุด
เพื่อไม่ให้คนที่เข้ามาอ่านผิดหวังครับ ^^

หากผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัยด้วยนะครับ ^^

เหมือน เดิมครับเอาไปโพสต่อได้ แต่รบกวนให้เครดิทด้วยครับ ไม่จำเป็นว่าต้องเขียนชื่อผม อย่างน้อยเขียนว่านำมาจาก pantip.com ก็โอเคแล้วครับ : )

โดย: Jushin Liger [15 ก.ค. 53 23:21] ( IP A:125.25.68.223 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   สามารถอ่านแบบเต็มๆได้ที่ [url>https://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S9476503/S9476503.html#9[/url> ครับ

ส่วนที่ 1
ช่วงเวลาแห่งความวุ่นวาย

ตอนที่ 1
เด็กน้อยตระ *** ลฮาร์ท


ความทรงจำแรกเกี่ยวกับมวยปล้ำของผมต้องย้อนเวลาไปในช่วงปี 1960 ตอนที่ผมมีอายุได้ 3 ปี ครอบครัวของผมมีเด็กๆอยู่ทั้งหมด 9 คน และพวกเราทุกคนจะมารวมตัวกันที่ห้องกินข้าวทุกๆวันศุกร์ เพื่อมานั่งดูทีวีที่พ่อเป็นคนซื้อมา... มันเป็นทีวีขาวดำที่เก่าโกโรโกโส แถมภาพยังติดๆดับๆอีกต่างหาก...

ส่วนแม่ของผม ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ลูกๆพากันติดกีฬามวยปล้ำ เธอคิดว่ามันมีแต่ความรุนแรง ผมคิดว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะพวกผมเปิดทีวีเสียงดัง และเธอคงจะได้ยินเสียงผู้บรรยายประเภทที่ว่า “เอาแล้วครับ! โควาลสกี หักคอ แม็กเคนซี่เข้าให้แล้ว... คอเขาหักแล้วครับ!”

สำหรับตัวผมเองนั้น ผมรู้สึกว่าหลังจากที่ได้ดูมวยปล้ำครั้งนั้น ตาผมเบิกกว้าง ปากผมอ้าไม่ยอมหุบ ผมตกตะลึงไปกับมัน นั่นเพราะ “แม็กเคนซี่” เป็นคนหล่อ เขาคือชายในแบบที่ผมชอบและอยากจะเป็น ใส่ชุดคาวบอย ผมดำสนิท ต่างจากโควาลสกี้ ที่หัวโล้น เต็มไปด้วยรอยแผล และมีท่าทางน่ากลัวโดยสิ้นเชิง

ผมได้แต่สงสัยว่าคนแบบไหนถึงจะกล้าเรียกตัวเองว่าเป็น “นักฆ่า” (“Killer” ฉายาของโควาลสกี – ผู้แปล) แต่ผมก็เข้าใจได้ทันทีเมื่อเห็นโควาลสกีปีนขึ้นไปบนเชือกแล้วกระโดดลงมาใช้ เข่ากระแทกคอของแม็กแคนซี่เข้าอย่างจัง ผมเห็นโควาลสกียืนหัวเราะ ส่วนแม็กแคนซี่ นอนราบไปกับพื้น ขาที่สั่นค่อยๆช้าลงอย่างหมดกำลัง
โดย: Jushin Liger [15 ก.ค. 53 23:22] ( IP A:125.25.68.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ผมนั่งมองฮีโร่ของผมถูกหามลงเปลอย่างระมัดระวัง ในตอนนั้นภาพของโควาลสกีดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก ผมได้ยินเสียงผู้บรรยายบอกว่าแม็คเคนซี่อาจจะเป็นอัมพาต แต่ในตอนนั้นผมไม่เข้าว่าอัมพาตคืออะไร จึงหันไปถามบรูซ พี่ชายวัยสิบขวบซึ่งเป็นเสมือนผู้รอบรู้สำหรับผม ทันทีที่ผมถาม เขาได้แต่นั่งอยู่นิ่งๆ สายตาจับจ้องไปที่หน้าจอ ก่อนที่จะค่อยๆขยับปากบอกกับผมว่า... “มันหมายความว่าแม็กเคนซี่ อาจจะเดินไม่ได้อีกแล้วน่ะสิ!”


ในตอนที่แม็กเคนซี่ถูกหามลงเปลนั้น โควาลสกี ยังคงไม่ยอมหยุด เขาปีนขึ้นเชือกอีกครั้ง แล้วกระโดดลงมาสู่รถเข็นที่มีร่างของแม็กเคนซี่นอนราบอยู่ ถึงแม้เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลจะเข้ามาช่วยป้องกัน แต่ก็ไม่เป็นผล... ผู้ชมกรีดร้องตกใจรวมถึงพวกผมที่ได้แต่ตกตะลึง ในตอนนั้นผมได้แต่คิดในใจว่า “ไอ้โควาลสกีนี่มันเป็นนักฆ่าตัวจริงชัดๆเลยนี่หว่า!”


ผมเห็นสมิธ และน้องชายคนเล็กของผม นั่งวิเคราะห์กันว่าแม็กเคนซี่มีเทคนิคในการรับท่าที่ดีขนาดไหนถึงได้ถูกอัด เละเกินกว่าที่ควรจะเป็นแบบนี้ และเมื่อผมลองพิจารณาดู ผมก็คิดว่าเขายังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ หรือแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เมื่อเป็นดังนั้น ผมจึงสนใจเทคนิคการปล้ำ มากกว่าที่จะไปหาคำตอบว่าแม็กเคนซี่จะเดินได้อีกครั้งหรือเปล่าเสียอีก

แต่ท่ามกลางความโหดร้ายเหล่านี้ สิ่งหนึ่งที่พอจะทำให้แม่ของผมสบายใจขึ้นมาได้ก็คือรายการมวยปล้ำของพ่อผม ได้กลับมาฉายทางโทรทัศน์อีกครั้ง ซึ่งมันจะทำให้เราสามารถจ่ายค่าไฟ ค่าน้ำ และค่าสัพเพเหระอื่นๆได้อีกครั้ง


หลังจากคืนนั้นผ่านพ้นไป รุ่งขึ้นเด็กๆตระ *** ลฮาร์ทพากันพูดแต่เรื่องที่ได้ชมเมื่อคืนวาน เพราะมันช่างเป็นเรื่องที่สนุกและตื่นตาตื่นใจแบบที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน แต่ขณะที่ผมกำลังประทับใจกับแมตช์เมื่อคืนวานอยู่นั้น ดีน พี่ชายของผมก็พูดออกมาอย่างมั่นใจว่า

“รู้ไหม... คนที่เก่งที่สุดในโลกน่ะ ไม่ใช่โควาลสกีหรอก แต่เป็นพ่อของเราต่างหาก พวกนายจงรู้ไว้ซะ ว่าพ่อของเราน่ะ สามารถจัดการกับโควาลสกีได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ” เมื่อผมได้ยินดังนั้น ผมยิ่งรู้สึกว่าพ่อของผมช่างเป็นคนที่มหัศจรรย์เหลือเกิน
โดย: Jushin Liger [15 ก.ค. 53 23:23] ( IP A:125.25.68.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   พ่อของผมเกิดที่เมืองซัสคาตุน ในปีค.ศ.1915 และเติบโตที่เมืองเอ็ดมอนตันในครอบครัวที่ยากจนมาก พ่อของผมได้พยายามใช้ทักษะทางด้านกีฬาผลักดันให้ตนหลุดพ้นจากความยากจน เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ฝึกมวยปล้ำสมัครเล่นและอเมริกันฟุตบอลอยู่ที่ วาย.เอ็ม.ซี.เอ. ก่อนที่จะได้เข้าร่วมทีมอเมริกันฟุตบอล “เอ็ดมอนตัน เอสกิโม” โดยเล่นตำแหน่งคิกเกอร์ และดีเฟนซิฟ แท็คเกิล แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก เพราะสิ่งที่เขาชอบและทำได้ดีที่สุด ก็คือกีฬามวยปล้ำนั่นเอง

ในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มขึ้น พ่อของผม... “สตู ฮาร์ท” คือนักมวยปล้ำผู้ที่ยังไม่เคยแพ้ใคร รวมไปถึงเป็นแชมป์มวยปล้ำสมัครเล่นของประเทศแคนาดา... เขาต้องเข้าร่วมเป็นทหารป้องกันประเทศเช่นเดียวกับชายคนอื่นๆ พ่อของผมสังกัดหน่วยทหารเรือ และก็โชคดีอย่างยิ่งที่เขารอดมาได้

และเมื่อสงครามจบ พ่อของผมได้เดินทางไปที่นิวยอร์ก ที่ซึ่งเขาได้ถูกจ้างจากโปรโมเตอร์ชื่อดังในสมัยนั้น “ทูธ มอนด์” ให้ขึ้นปล้ำในค่ายทหารสหรัฐประจำกรุงนิวยอร์ก พ่อของผมทำมันอย่างเต็มที่ เพราะไม่ว่าจะอย่างไร ชายที่ชื่อ “สตู ฮาร์ท” ก็ไม่มีวันทิ้งความฝันของตนไปอย่างแน่นอน

พ่อของผมพบกับแม่ตอนอายุสามสิบเอ็ดปีที่ลอง ไอร์แลนด์ ราวปี 1946 แม่ของผมเป็นหนึ่งในลูกสาวทั้งห้าคนของ “แฮรี่ สมิธ” อดีตนักวิ่งมาราธอนชื่อดังเจ้าของเหรียญโอลิมปิกปี 1908 กับภรรยาชาวกรีก ซึงผมรู้จักเขาเพียงแค่ชื่อ “กาห์กาห์” เท่านั้น...

พ่อแม่ของผมแต่งงานกันในวันขึ้นปีใหม่ปี 1947 แต่ดูเหมือนทางผู้ใหญ่จะไม่ค่อยชอบพ่อผมเท่าไหร่ เพราะพวกเขาคิดว่าคนที่สวยและฉลาดอย่างเฮเลน (แม่ของผม) สมควรที่จะได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีกว่านี้ แต่ถึงกระนั้นแม่ของผมก็หลงรักพ่อเสียแล้ว และถึงแม้เธอจะมองว่ามวยปล้ำเป็นกีฬาที่โหดร้าย แต่แม่ก็พูดประโยคหนึ่งกับพ่อว่า

“พวกเราแต่งงานกันท่ามกลางพายุหิมะ ซึ่งฉันเพิ่งเคยพบเจอมันเป็นครั้งแรก” นั่นทำให้พ่อของผมพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ชีวิตครอบครัวมีความสุข และก้าวผ่านพายุหิมะนั้นไปให้ได้
โดย: Jushin Liger [15 ก.ค. 53 23:23] ( IP A:125.25.68.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   พ่อของผมหาเงินและเก็บมันอย่างหนัก จนสุดท้าย พ่อก็พาแม่ย้ายออกจากนิวยอร์กในปี 1948 มาสู่มอนทาน่า ที่ซึ่งพ่อของผมได้เริ่มธุรกิจมวยปล้ำ และอีกไม่กี่ปีต่อมา พ่อของผมก็จัดการเอาสมาคมแถวนั้นทั้งหมดมาเป็นของตน ก่อนที่ในปี 1951 พ่อของผมจะตัดสินใจย้ายจากเกรธ ฟอล มอนทาน่า ไปสู่คัลแกรี่... พร้อมด้วยลูกๆทั้งสามของเขา... พี่ชายทั้งสามของผม... บรูซ... สมิธ และ คีธ


โทรทัศน์ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นบนโลก และดูเหมือนมันกำลังแพร่กระจายไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว พ่อโชคดีที่ทำธุรกิจมวยปล้ำ เพราะการถ่ายทำรายการมวยปล้ำนั้น ได้เปรียบกว่าการถ่ายทำกีฬาชนิดอื่นเช่นอเมริกันฟุตบอลหรือเบสบอล ซึ่งในที่สุด รายการมวยปล้ำนี้ก็ได้รับความนิยมไปทั่วอเมริกาเหนือ

มีนักมวยปล้ำชื่อดังมากมายถือกำเนิดขึ้น ทั้ง “จอร์เจียส จอร์จ”... “ลู เธส”... “บิลลี่ วัทสัน”... “แพท โอ คอนนอร์”... “อาร์เจนติน่า ร็อคก้า”... ซึ่งทั้งหมดได้กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงไปในทันที นอกจากนี้ ยังมีนักมวยปล้ำอย่าง “ฟริตช์ วอน อีริค”... ชาวต่างชาติอย่าง “ชินจิ ชิบูย่า” ... อื่นๆอีกมากมาย

ที่สำคัญยังมี “พรีโม่ คาร์เนร่า” อดีตแชมป์มวยสากลระดับโลก รวมไปถึง “เลดี้ แองเจิล” นักมวยปล้ำหญิงหัวล้าน ที่มีคาร์แรกเตอร์โดดเด่นและปล้ำได้สนุก ผมคิดว่าถึงแม้เธอจะไม่สวย แต่เธอก็ปล้ำสนุกกว่านักมวยปล้ำหญิงที่ขายหน้าตาแล้วได้แต่จิกผมกันไปวันๆตั้งเยอะ
โดย: Jushin Liger [15 ก.ค. 53 23:23] ( IP A:125.25.68.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   พ่อของผมเริ่มฉายรายการ “บิ๊ก ไทม์ เรสลิ่ง” ซึ่งทำรายได้ให้กับครอบครัวมหาศาล พ่อพาพวกเราย้ายไปอยู่ที่แมนชั่นหรูสไตล์วิคตอเรียนในเมืองคัลแกรี่ ที่ซึ่งมองเห็นภูเขา มองเห็นสวน และเมืองคัลแกรี่ตอนใต้อย่างชัดเจน

ที่เมืองคัลแกรี่นั่นเอง แม่ของผมได้คลอดลูกชายออกมาอีกคนหนึ่ง เขาคือเวย์น... และจากนั้นไม่นาน ดีนก็คลอดตามมาอีกคน อย่างไรก็ตาม ในที่สุดสิ่งที่พ่อของผมหวังมาโดยตลอดก็เกิดขึ้น นั่นก็คือ “เอลลี่” ลูกผู้หญิงคนแรกของครอบครัว... หลังจากนั้น ก็คือ “จอร์เจีย” และผมเป็นคนต่อมา... ผมเกิดในวันที่ 2 กรกฏาคม ค.ศ. 1957...

พ่อเล่าให้ผมฟังว่า ทันทีที่ผมเกิดมา พ่อได้แต่มองนิ้วมือของผม ที่เรียวยาวต่างไปจากคนอื่น พ่อเลยทำนายไว้ล่วงหน้าว่าผมจะต้องเป็นลูกชายที่ยิ่งใหญ่ของเขาแน่นอน

แต่เรื่องก็พลิกผันไปเล็กน้อย เมื่อผมมีเวลาเป็นคนพิเศษของครอบครัวน้อยเหลือเกิน เมื่อแม่คลอดอลิสันในเวลาที่ *** งจากผมไม่นาน และยังมีรอสตามมาติดๆอีก พูดถึงรอส ผมมักนักถึงช่วงที่เขาเอาแต่ติดแม่ ปีนไปบนโต๊ะทำงานของแม่แล้วทำหมึกดำของแม่หกเลอะไปหมด พวกเราให้ฉายารอสว่า “ไอ้หมึก” เพราะเขามักทำหมึกดำของแม่หกตลอดเวลา... พี่น้องของผมยังมีอีกสองคน นั่นก็คือดิอาน่า และน้องคนสุดท้อง... โอเว่น ฮาร์ท นั่นเอง

ในช่วงที่ผมเกิดนั้น ความสนใจเกี่ยวกับมวยปล้ำของผมได้จบลงไปช่วงหนึ่ง และทุกสิ่งทุกอย่างดูจะไม่เป็นใจกับครอบครัวเราเหมือนแต่ก่อน ธุรกิจมวยปล้ำของพ่อผมขายไม่ออก ผู้คนเริ่มไม่สนใจ จนในที่สุด รายการ “บิ๊ก ไทม์ เรสลิ่ง” ก็ถูกถอดออกจากผังรายการ...

ปี 1962... ช่วงเวลาที่เหล่าเด็กๆตระ *** ลฮาร์ทได้สวมเสื้อสวยๆ ผ้าพันคออุ่นๆ อาหารการกินดีๆ... ได้จบสิ้นลงแล้ว! เพราะถึงแม้พ่อจะพยายามจัดมวยปล้ำทั้งในอัลแบร์ต้า... คัลแกรี่... หลายต่อหลายแห่ง แต่เมื่อปราศจากการฉายทางโทรทัศน์แล้ว สิ่งที่ทำไปทั้งหมด ก็แทบจะไร้ความหมายไปในทันที...
โดย: Jushin Liger [15 ก.ค. 53 23:24] ( IP A:125.25.68.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ผมได้รับรู้เกี่ยวกับความตายครั้งแรกตอนผมอายุ 4 ปี... ในตอนนั้นผมกำลังทำอาหารกับแม่อยู่ในครัว จู่ๆก็มีคนวิ่งมาเคาะประตูบ้านอย่างแรงแล้วตะโกนบอกแม่ของผมว่า นักมวยปล้ำที่ชื่อ “จิมมี่ ไรท์” เสียชีวิตแล้ว... ทันทีที่แม่ผมได้ยิน แม่ดูเศร้าและเสียใจอย่างมาก ผมจึงรีบเข้าไปปลอบเธอ

เพียงแต่ผมไม่เข้าใจ ว่าความตายคืออะไร และแม่ของผมจะเสียใจทำไม?... แม่จึงบอกกับผมว่า ความตายคือการที่คนๆหนึ่งไม่สามารถขยับและทำอะไรได้อีก พระเจ้าจะเป็นคนกำหนดว่าเราจะต้องเดินทางต่อไปที่ไหน ถ้าเราทำดี เราก็ได้ไปสวรรค์ ถ้าเราทำไม่ดี เราก็จะต้องตกนรก

อย่างไรก็ตาม แม่ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเหล่านี้มันมีจริงไหม... แม่ของผมเชื่อในพระเจ้า แต่ตัวผม เชื่อแต่ในสิ่งที่ผมต้องการเท่านั้น...

พ่อของผมเป็นนักมวยปล้ำที่ชอบการรุกและการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้เอามากๆ... ที่สนามฝึกของเรา มีเวทีเก่าๆอยู่เวทีหนึ่ง มันเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด และร่องรอยของการเหยียบย่ำที่และดูสกปรก...

บนเวทีแห่งนั้น เป็นที่ที่ผมได้เห็นการแสดงออกของพ่อ... เขากอดรัดคู่ต่อสู้อย่างน่ากลัวราวกับว่าเขากำลังจับเหยื่ออันโอชะมาเป็น อาหาร! และเมื่อมองไปทางด้านนอก ก็จะพบเห็นบรรดานักมวยปล้ำร่างใหญ่กำลังออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อกันเป็น สิบสิบคน และเมื่อพวกเขาฝึกกันเสร็จแล้ว พวกเขาก็จะพากันมาตั้งวงดื่มเบียร์ที่พ่อเป็นคนทำเอง...

แต่ว่าพ่อของผมไม่ได้กินเบียร์หรอก เขาทำเพื่อให้ลูกศิษย์ของเขาเท่านั้นล่ะ
โดย: Jushin Liger [15 ก.ค. 53 23:24] ( IP A:125.25.68.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   ส่วนแม่ของผมเป็นคนตัวเล็ก เธอสูงเพียงห้าฟุตกว่าๆเท่านั้น แต่ทว่า เธอก็เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถทำให้สัตว์ป่าผู้เกรี้ยวกราดอย่างพ่อผมยอม ตายแทนได้ หลายครั้งที่พวกเขาทะเลาะกัน ไมว่าจะทะเลาะกันแรงแค่ไหน แต่เมื่อแม่ใช้วิธีขู่ว่าจะหนีออกจากบ้านและเริ่มเก็บกระเป๋า พ่อของผมก็จะรีบวิ่งมาห้ามแล้วบอกว่า

“ที่รัก... อย่าจากพวกเราไปเลย... ผมขอโทษจริงๆ” ทุก ครั้งไป... เพียงแต่ว่าในตอนที่ผมเด็กๆนั้น ผมไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ เลยชอบหนีไปร้องไห้คนเดียวในทุกครั้งที่แม่ขู่ว่าจะหนีออกจากบ้าน เพราะผมกลัวเหลือเกินว่าแม่จะหนีผมไปจริงๆ... และเมื่อพี่ชายผมเห็นดังนั้น เขาก็รีบเข้ามาปลอบผมให้ใจเย็นๆแล้วบอกกับผมว่า “ไม่ต้องกลัวหรอก... พี่เห็นแบบนี้มาบ่อยแล้ว!”


พ่อของผมไม่ค่อยได้อยู่บ้านมากนัก เพราะธุรกิจมวยปล้ำของเขาต้องทุ่มเทมากกว่าคนอื่น เพราะหลังจากที่รายการถูกทอดออกจากโทรทัศน์ เขาก็ต้องเดินสายออกไปจัดมวยปล้ำในรัฐใกล้เคียงทั้งซัสคาตัน... เรจิน่า... เอดมอลตัน... มอนทาน่า... ก่อนที่จะกลับมาที่คัลแกรี่ในวันศุกร์ และพักในวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันเดียวที่พ่อของผมจะได้นอนหลับอย่างสบายใจ...

ทุกครั้งที่เขากลับมาบ้าน... ภาพที่ผมเห็นเป็นประจำก็คือภาพที่พ่อนั่งอยู่บนเก้าอี้สีดำตัวเก่ง เอามือพาดหัว และถือหูโทรศัพท์คุยกับโปรโมเตอร์สมาคมอื่นๆ โดยที่มีแม่นั่งพิมพ์ดีดอยู่ใกล้ๆ


ในครอบครัวของผมนั้น พ่อจะเป็นผู้จัดการทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายใช้สอย การทำอาหาร การทำความสะอาด รวมไปถึงเป็นคนขับรถด้วย... สาเหตุนั้นเป็นเพราะพ่อและแม่ของผมเคยประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรงแบบที่ต้อง ใช้เวลานานมากกว่าที่พวกเขาจะฟื้นตัวเป็นปกติได้ พ่อของผมรอดมาได้เพราะเขามีหน้าอกที่แข็งแกร่ง ส่วนแม่ผมน่ะเหรอ...

ถึงจะรอดมาได้ แต่เธอก็บาดเจ็บมากพอสมควรอยู่ และที่สำคัญในตอนนั้นเธอกำลังตั้งท้อง “บรูซ” พี่ชายของผมอยู่ด้วย... และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอไม่กล้าที่จะแตะต้องรถอีกเลย


ในวันที่ต้องไปโรงเรียน พ่อจะทำข้าวโอ้ตหม้อใหญ่ให้พวกเราทุกคนกิน... แต่ถ้าเป็นวันหยุดหรือวันเสาร์อาทิตย์ พ่อจะให้พวกเราจัดการกันเอง ซึ่งมันทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปีนเก้าอี้... จุดไฟ... และทำอาหารง่ายๆอย่างไข่ทอด หรือขนมปังปิ้งด้วยตัวเองเป็น


และหลังจากนั้นไม่นาน ผมก็มีแมตช์การปล้ำเป็นครั้งแรกในชีวิต!.... เหตุเกิดเมื่อตอนผมอายุประมาณสี่ขวบ ผมมีเรื่องกับลูกชายของ“สก็อค บราเทอร์” ซึ่งเป็นแชมป์แทกทีมในสมัยนั้น... ผมให้พี่ชายเป็นโค้ช... เราสู้กันบนคอกวัว กลิ้งไปกลิ้งมาบนลานหลังบ้าน ก่อนที่สุดท้าย ผมจะแพ้ไปอย่างหวุดหวิด... น่าเสียดายจริงๆ!
โดย: Jushin Liger [15 ก.ค. 53 23:24] ( IP A:125.25.68.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   จบแล้วครับ ครึ่งตอนแรกของบทที่ 1

หวังว่าคงจะถูกใจแฟนๆมวยปล้ำทุกคนนะครับ ^^

ยังไงถ้าอ่านแล้วรบกวนคอมเมนต์หน่อยนะครับ

เพราะอยากทราบผลตอบรับน่ะครับ จะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขด้วย

ขอบคุณบอร์ด pantown มากครับ

พี่นุ - ไม่ได้คุยกันนานเลยครับ หวังว่าพี่จะสบายดีนะครับ

คุณ pat : บทความดีมากเลยครับ หลายครั้งที่เข้ามาหาความรู้จากบทความของคุณครับ

คุณ dick the bruiser - ขอบคุณสำหรับข่าวครับ บางทีการแปลข่าวด้วยความรู้ ก็ดูมีค่าและมีความน่าสนใจกว่าการแปลเร็วแต่ไม่มีข้อมูล พี่แปลได้ดีมากครับ ขอบคุณมากๆเลย

คุณ II - ถ้าเป็นเรื่อง TNA ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้มากที่่สุดล่ะครับ ^^ ยังไงฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ ผมคงได้มาขอข้อมูลจากพี่แน่ๆ : P

คุณ bc-style - ขอบคุณมากๆที่อ่านผลงานของผมมาตั้งแต่บอร์ดน้าติง คำติชมของพี่ทำให้ผมกลับไปปรับปรุง และหวังว่าผลงานชิ้นใหม่นี้จะแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆไปได้บ้างนะครับ

พี่พี - พี่พี ผมก็ไม่ค่อยได้ส่งอีเมลไปหาเลย ต้องขอโทษด้วยนะครับ ยังไงก็ตาม หวังว่าพี่จะสบายดีนะครับ ^^

พี่เจ้าบ้าน - ขอบคุณที่สร้างสรรค์บอร์ดดีๆแบบนี้ให้คงอยู่กับแฟนมวยปล้ำมาโดยตลอดครับ

รวมไปถึงอีกหลายต่อหลายคนที่ผมไม่ได้กล่าวถึง ยังไงขอขอบคุณจากใจครับ ^^
โดย: Jushin Liger [15 ก.ค. 53 23:29] ( IP A:125.25.68.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   Thx Jushin boy ^^
โดย: Hitman [16 ก.ค. 53 4:24] ( IP A:125.25.115.141 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ก่อนอื่นก็ขอบคุณสำหรับคำติชมของน้องที่มีต่อข่าวมวยปล้ำนะครับ(ก็ไม่รู้ว่าจะแปลได้นานขนาดไหน งานก็รัดตัวเหมือนกัน แต่จะพยายามช่วยแปลให้นะครับ)

สำหรับการแปลเรื่องนี้นะครับ เมื่อกี้นี้เขาไปดูตาม ลิงค์ ที่น้องให้มา คือ พันทิปดอทคอม เห็นมีรูปอยู่ด้วย ไม่รู้ว่าเอามาที่นี่ และทำ Resize หน่อยผมว่าน่าจะทำให้เรื่องน่าสนใจขึ้นครับ (แต่ก็ยังกลัวว่า บอร์ดแพนทาว์น จะเต็มไปก่อนหรือเปล่าเท่านั้น? คงต้องถามเจ้าบ้าน?) สำหรับตัวเรื่องนั้นอ่านสนุกครับ คิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ทีวีขาวดำ,คิดถึง ลู เธส, โควาลสกี้ เป็นต้น เคยดูตอนช่วงท้ายๆ ก็เขาก่อนจะแขวนรองเท้าบู๊ต(Retired) "Cheer beer"
โดย: Dick The Bruiser [16 ก.ค. 53 9:00] ( IP A:202.32.86.102 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   รอติดตามอยู่นะครับ ^^
โดย: patwrestlingboyz (patwrestlingboyz ) [16 ก.ค. 53 12:28] ( IP A:58.11.74.173 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   เยี่ยมยอด ข้อดีมีเยอะ ส่วนข้อเสียไม่มี ให้คะแนนขยันเต็ม 10 ใครเป็นสมาชิก Pantip รบกวนช่วย ๆ กันโหวตเป็นกระทู้แนะนำด่วน ไม่อยากให้ตกกระทู้เร็ว ตั้งแต่ชม Pantip มารู้สึกจะมีแต่กระทู้คุณ Diesel นี่แหล่ะที่ได้เป็นกระทู้มวยปล้ำได้รับการแนะนำ จะว่าไปเดี๋ยวนี้คุณ Diesel หายไปเลยนะขอรับ...
โดย: Anurak_sk [16 ก.ค. 53 14:31] ( IP A:58.9.22.199 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   เยี่ยมครับ เป็นบทความที่ทำให้รู้สึกอยากติดตาม จริงๆผมไม่ทันนะ ที่จะได้ติดตาม เบรท ฮาร์ท สมัยที่ยังปล้ำอยู่ เป็นกำลังใจให้ครับ

ว่าแต่... พี่ข้างบนอ่ะครับ เมื่อไรจะมีสะกิดดาก ให้เราได้ฮากันอีกละครับ รอติดตามอยู่นะพี่ ^^
โดย: Bc-Styles [16 ก.ค. 53 22:46] ( IP A:114.128.167.200 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน