Edge 13 ปี บนถนนสังเวียนเลือด
   เมื่อ11 เมษายนที่ผ่านมาแฟนๆมวยปล้ำคงต้องช้อคไปตามๆกันเมื่อ
Rate-R superstar นามว่า Edge ได้ประกาศอำลาสังเวียนแบบสายฟ้าแลบ ชนิดที่หลายๆคนคาดไม่ถึงเนื่องจากอาการเจ็บปวดที่เรื้อรังมานานจนเกินลิมิตเขาทำให้เขาไม่มีทางเลือกคืออำลาสังเวียนทีึ่ใช้ชีชีวิตถึง 13 ปี

วันนี้กระผมจะพาไปดู ชีวิตตั้งแต่เข้าวงการจนถึงวันสุดท้ายบนสังเวียน
เพื่อเป็นเกียรติให้กับแชมป์ 11 สมัยผู้นี้

Adam Copeland เริ่มเข้าวงการ ในช่วงต้นยุค 90 หลังจากได้รับการขัดเกลาฝีมือโดย Stu Hart โดยตระเวรปล้ำตามค่ายอิสระต่างๆแถว Ontario ชื่อที่ใช้คือ Sexton Hardcastle ในนามทีม Sex and Violence คู่กับ Joe Legend และ Jason Reso หรือ Christian นี่เอง
ทีม Sex and Violence โด่งดังในแถบ ICW/MWCW และพวกเขาคว้าแชมป์ Midwest Unified Tag Title เป็นเส้นแรกของเขา

นอกจากนี้ยังมีโอกาสออกไปปล้ำที่ญี่ปุ่นในนาม the Canadian Rockers และเขายังเคยชิมลางในWCW ในชื่อของ Damon Striker
แต่เป็นช่วงระยะสั้นๆ จนกระทั้งในปี96 เขามีแผนที่จะลองไปปล้ำที่สมาคม WWE ขณะเดียวกัน Bret Hart สตาร์ค้างฟ้าของ WWE ก็เห็นแววในตัวเขา และเชื่อว่าไปได้สวยแน่นอน แล้วAdam จึงจรดปากกาเซ็นสัญญาเข้าสังกัด ช่วงแรกในฐานะ นักมวยปล้ำระดับพัฒนาทักษะ
จนปี1997 เขาก็ได้เลื่อนขั้นเป็ฯสตาร์เต็ฒตัวตรงกับวันที่ Bret Hart ลาออกจาก WWE

ปี 1998 ใน Raw Is War Edge ประเดิมสังเวียนออกโทรทัศน์ โดยมี Jose Estrada, Jr คือคู่ปล้าคนแรก แมตช์จบลงที่เคานท์เอาท์ เพราะ
ใช้ท่า somersault senton ชนิดคู่ต่อสู้คอเกือบหัก
ในSummerslam อันเป็นแมตช์ใหญ่ครั้งแรกในชีวิตเขา จับคู่กับSable
เจอกกับ Jacqueline และ Marc Mero ซึ่งแมตช์นี้เขาก็ช่วย Sable คว้าชัยไปครอง

แต่บทบาทที่สร้างชื่อให้กับเขาคือ การรวมกลุ่มระหว่าง Grangel Christian และ เขา เป็ฯทีมในนาม The Blood ร่วมทีมกับ Ministry of Darkness แต่อยู่ไม่นานก็ลยุบวงหลังมีปัญหาในทีม Ministry

Edge ประเดิมแชมป์เส้นแรกด้วยการชนะ Jeff Jarett ในHouse Show
คว้าแชมป์ Inter แต่ก็เสียให้กับ Jeff ใน Fully loaded จากนั้นก็เปิดศึกกับ Hardy Boyz ทำให้เขากับ Christian จับคู่ใน New Blood และปี2000 ก็กลายเป็ฯทีมที่แฟนๆให้ความสนใจในฐานะคู่ดูโอ สุดกวน
รวยอารมณ์ขัน ไม่ว่าจะเป็นทำท่าแปลกๆ แต่งแฟนซีเป็นต้น
และท่าประจำตัวคือ "five second pose"

E&C ชนะ ในศึก TLC ครั้งแรกและแย่งแชมป์แท็กทีมมาครอง ก่อนจะเสียแชมป์ ในWM 17 พวกเขาเอาชนะ Hardyz และ Dudleys Boyzในภาคสองซึ่งมันส์กว่าภาคแรก แต่ก่อนหน้านี้ เสียให้ Dudleys ใน Royal rumble และ ชวดอีกครั้ง ใน No way out ในทีม3เส้า ที่มีทีม Destruction (Kane และ The Undertaker)ร่วมแข่งในกติกาฟาดโต๊ะ

ปี2001 Edge จะลงแข่งแต่แมตช์เดี่ยวๆวะส่วนใหญ่ โดยเขาชนะใน KOTR ซึ่งทำให้ Christian เริ่มอิจฉาในตัวเขา จนหักหลังในช่วงสัปดาห์ถัดมา เขายังครองแชมป์ U.S. และรวบแชมป์ Inter ใน SURVIVOR 2001 เอาชนะ Test ไปอย่างสุดมันส์

นอกจากนี้ยังเคยประมือกับ William Regal กับ Booker-T จนกระทั่ง
ถูกดราฟท์ไปSmackdown เปิดศึกกับ Kurt Angle ในJudgment Day
เดิมพันเส้นผม ซึ่ง Edge เอาชนะและได้กล้อนผมKurt เป็นรางวัล
และในช่วงกันยายน ในวันที่26 เขาเจอกับEddie Guerero ใน Smackdown ในแบบไม่จับแพ้ฟาวล์แใมตช์นี้ถูกยกย่องให้เป็ฯแมตช์สุดมันส์แห่งปี 2002

ปี2003 เขาได้รับบาดเจ็บที่้ต้นคอ ต้องพักยาวกลับมาอีกครั้งในปี 2004 ซึ่งเขาได้พลิกบทบาทมาเป็นอธรรมตัวพ่อ เจอดคู่ต่อสู็มากมาย อาทิ HBK Chris Benoit เป็นต้น ก่อนที่จะได้รับการผลักดัน เป็นท็อปสตาร์

ใน WM 21 edge ถูกบรรจุให้เข้าร่วมในแมตช์ Money in The Bank
และเขาก็โชว์ฟอร์ฒสุดฤิทธ์จนสามารถหยิบกระเป๋ารอชิงลูกเดี่ยวตลอดปี เขาก็ยังไม่ใช้สิทธ์ จึงเข้าปล้ำใน Gold Rush Tournament เพื่อไปชิง แชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ บาติสต้า ซึ่ง เอดจ์ ก็ได้เอาชนะนักมวยปล้ำหลายคนจนไปได้ไปชิงถึงรอบสุดท้ายกับ เคน ผลปรากฏว่า ลิต้า ที่เป็นแฟนของ เคน ในตอนนั้น ได้หักหลัง เคน โดยส่งกระเป๋าให้ เอดจ์ ไปตี เคน จนสามารถเอาชนะ เคน ไปได้ และได้ไปชิงแชมป์กับ บาติสต้า ทำให้ ลิต้า กลายเป็นแฟนกับ เอดจ์ นับตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา แต่ เอดจ์ ก็ไม่สามารถเอาชนะ บาติสต้า ได้ ส่วน แมทท์ ฮาร์ดี ที่เป็นแฟนของ ลิต้า อยู่ก่อนหน้านั้น ก็ได้กลับมาทำร้าย เอดจ์ ที่แย่งแฟนของเขาไป ทำให้ 2 คนนี้ต้องมาเจอกัน ในศึก Summerslam 2005 ผลปรากฏว่า เอดจ์ เป็นฝ่ายชนะ แต่ แมทท์ ฮาร์ดี ก็สามารถเอาคืน เอดจ์ ได้ ในศึก Unforgiven 2005 สุดท้าย 2 คนนี้ต้องมาเจอกัน ในศึก รอว์ โฮมคัมมิ่ง ในการไต่บันไดชิงกระเป๋า Money In The Bank และใครแพ้ต้องออกจาก รอว์ ผลปรากฏว่า ลิต้า ก็ได้ช่วย เอดจ์ จนเอาชนะ แมทท์ ฮาร์ดี ไปได้ ทำให้ แมทท์ ฮาร์ดี ต้องย้ายไปอยู่ที่ สแมคดาวน์ แทน

ปี2006 เขาอาศัยกฏใช้สิทธ์ จึงใช้ตอนที่วีน่าชนะและ กระชากแชมป์มาครองสมัยแรก ลังจากนั้น เอดจ์ และ จอห์น ซีนา ก็กลายเป็นคู่ปรับกันเป็นเวลานานพอสมควร ผลัดกันแพ้ - ชนะเรื่อยมา แต่ส่วนใหญ่ จอห์น ซีนา ชนะมากกว่า จนกระทั่ง เอดจ์ ก็ต้องเสีย แชมป์โลก WWE คืนให้กับ จอห์น ซีนา ในศึก Unforgiven จากนั้น เอดจ์ ก็หันไปเปิดศึกกับ ดิ-เจเรเนชั่น เอ็กซ์ โดยมี แรนดี ออร์ตัน เป็นเพื่อนร่วมทีม และสามารถคว้าแชมป์แทคทีมคู่กัน ซึ่งเป็นแชมป์แทคทีมสมัยที่ 12 ของ เอดจ์ อีกด้วย

หลังจากนั้นเอดจ์ก็ยังมีผลงานให้แฟนๆติดตามจนถึงปี2009 เขาก็พักยาวและกลับมาในปี2010 และจนถึงปีนี้ แมตช์สุดท้ายคือเอาชนะ Alberto Del Rio ใน WM 27 และนี่คือแมตช์สุดท้ายในชีวิตการเป็นนักมวยปล้ำแก่เขา

ตลอด 11 ปี เขาได้สร้างความสุขความมันส์แก่แฟนๆและจนถึงบัดนี้เขาขอพักผ่อนอย่างสุขสบายที่บ้านในนอรธ์ คาโรไลน่า
ขอบคุณตลอด11ปีที่ทำให้ผู็ชมและแฟนๆสนุก และจะไม่ลืมเหตุการณ์และความทรงจำดี ตลอดไป

THANK YOU EDGE!

โดย: patwrestlingboyz [28 เม.ย. 54 20:21] ( IP A:101.108.41.138 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   คนเริ่มรู้จักเอจตอนปี 1998 นะครับ
จนถึงตอนนี้ก็ 13 ปีแล้ว จะว่า 11 ปีได้ยังไง
โดย: aa [29 เม.ย. 54 1:10] ( IP A:125.26.222.131 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ออ ตอนท้ายเขียนผิด ขอโทษทีครับ ^^
โดย: patwrestlingboyz [29 เม.ย. 54 6:52] ( IP A:118.174.95.148 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ขอบคุณสำหรับบทความครับ
ชอบวีดีโอเปิดตัวของเอดจ์ยุคแรกๆ ที่นั่งๆ อยู่แถวรถไฟฟ้าใต้ดินอ่ะ
สมัยนั้นเพื่อนเดาว่าเอดจ์ต้องได้เป็นแชมป์โลกในอนาคตแน่นอน แต่ผมว่าไม่ได้เพราะตัวแห้งไป + ท่าไม้ตายยังไม่เด็ด (สมัยนั้นกระโดดดรอปคิกจากเชือกเส้นสามมั้ง) สุดท้ายเพื่อนผมถูกแฮะ 555
โดย: killerG [29 เม.ย. 54 9:27] ( IP A:203.146.104.32 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน