***...เจดีย์พุทธคยา...วัดวังก์วิเวการาม...***
    ตามไปกราบพระบรมสารีริกธาตุกันค่ะ

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 9:28] ( IP A:202.12.118.61 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
    เจดีย์พุทธคยาตั้งอยู่ที่บริเวณฝั่งมอญ หากขับรถข้ามสะพานปูนไปฝั่งมอญ แล้วเลี้ยวซ้ายไปวัดหลวงพ่ออุตตมะ
ผ่านโรงเรียน ผ่านหมู่บ้านชาวมอญไป จะมีแยกซ้ายและขวา เลี้ยวขวาไปวัดหลวงพ่อ
เลี้ยวซ้ายไปเจดีย์ ให้เลี้ยวซ้ายค่ะ

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 9:32] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
    เจดีย์นี้ หลวงพ่ออุตตมะจำลองมาจากประเทศอินเดีย ริเริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2521
งบประมาณมาจากผู้มีจิตศรัทธาบริจาค โดยใช้คนงานชาวมอญชายหญิงในหมู่บ้านกว่า 400 คน

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 9:34] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
    ปี 2525 ได้เริ่มก่อสร้างจริงเจดีย์เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
กว้างยาว 42 เมตร สูง 59 เมตร มีเสาเหล็ก 4 ทิศจำนวน 16 ต้น

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 9:36] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
    ในปี 2532 พระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน มาประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ
ส่วนที่เป็นกระดูกหัวแม่มือขวา สององค์ขนาดเท่าเม็ดข้าวสาร มีสีขาวอมเหลืองเป็นเงาบรรจุในผอบ 3 ชั้น
ซึ่งหลวงพ่ออันเชิญมาจากประเทศศรีลังกาและฉัตรทองคำหนัก 40 บาท ขึ้นสู่ยอดพระเจดีย์

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 9:39] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
    เจดีย์นี้สวยงามมากเป็นทองเหลืองเป็นประกาย สามารถเดินชมได้โดยรอบ จะมีพระแบบมอญและไทย
ประจำวันเกิดตั้งอยู่รอบๆองพระเจดีย์ และมีชาวมอญจะมานั่งสวดมนต์ในวันพระเป็นภาษามอญ
(แต่มิได้ถ่ายภาพมา) (ขอบคุณข้อมูลจากหมูหินดอทคอมค่ะ)

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 9:41] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
    วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะ (พระราชอุดมมงคล หรือ พระมหาอุตตมะรัมโภภิกขุ)
กับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้ร่วมกันสร้างขึ้น ในปี พ.ศ. 2496 ที่บ้านวังกะล่าง อำเภอสังขละบุรี
จังหวัดกาญจนบุรี ใกล้กับชายแดนไทย-พม่า ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 220 กิโลเมตร

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 9:55] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
    ในระยะแรกมีเพียงกุฏิและศาลา มีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า วัดหลวงพ่ออุตตมะ ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สาย คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกัน

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 9:57] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
    ในปี พ.ศ. 2505 ได้รับอนุญาตจากกรมการศาสนาให้ใช้ชื่อว่า วัดวังก์วิเวการาม ซึ่งตั้งตามชื่ออำเภอเดิม คือ อำเภอวังกะ-สังขละบุรี ซึ่งต่อมาถูกยุบเป็นกิ่งอำเภอ ก่อนที่จะยกฐานะเป็น อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีในปี พ.ศ. 2508

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:00] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   ตามไปเที่ยวกับพี่บัวนี่ดีมากๆ เลยค่ะ
ได้ความรู้ และประวัติเก่าแก่อีกมากมาย
ขอบคุณมากๆ ค่ะ
โดย: nat1385 [21 มี.ค. 55 10:01] ( IP A:124.180.215.25 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
    ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2527 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเมื่อกักเก็บน้ำแล้ว น้ำในเขื่อนเขาแหลมจะท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่ารวมทั้งบริเวณหมู่บ้านชาวมอญทั้งหมด ชาวบ้านได้ช่วยกันย้ายวัดและบ้านเรือนขึ้นมาตั้งใหม่อยู่เหนืออ่างเก็บน้ำ

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:02] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   smile สวัสดีค่ะน้องแนท ยังมีอีกหลายที่ที่น่าไปของ จ.กาญจนบุรี นะคะ

ส่วนบริเวณวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิม เหลือเพียงซากปรักหักพังของวัดและอาคารบ้านเรือน ปัจจุบันอุโบสถหลังเก่าจมอยู่ใต้น้ำ และมีชื่อเสียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ (Unseen Thailand) เป็นที่รู้จักในชื่อว่า "วัดใต้น้ำ" หรือ "เมืองบาดาล"

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:05] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:06] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
    หอระฆัง เวลาหน้าน้ำ จะเหลือเพียงหอระฆังสีขาว ๆ เท่านั้น มองด้วยสายตา น้ำจะท่วมเยอะมาก ๆ เลยค่ะ

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:08] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
   

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:09] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
    เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2549 หลวงพ่ออุตตมะซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนชาวไทย ชาวมอญ รวมทั้งชาวกะเหรี่ยงและพม่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น มรณภาพด้วยอายุ 95 พรรษา สังขารของหลวงพ่ออยู่ในโลงแก้ว ไม่เน่าเปื่อย (ในภาพอยู่เหนือหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อค่ะ)

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:11] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
    ศาลาหลวงพ่ออุตตมะ
ภายในมีศพหลวงพ่ออุตตมะซึ่งไม่เน่าเปื่อยบรรจุในปราสาท 9 ยอดอันสวยสดงดงาม ซึ่งมีกระจกใสเจาะด้านข้างเพื่อให้มองเห็นสรีระของหลวงพ่ออุตตมะ โดยปราสาทหลังนี้ก่อสร้างจากแรงบันดาลใจในศิลปวัฒนธรรมและความเชื่อของชาวมอญหลายกลุ่มที่อาศัยกระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆในประเทศไทย ใช้งบประมาณ 1.5 ล้านบาท มีเจดีย์หงส์ทองคู่เป็นสัญลักษณ์ของชาวมอญ และเจดีย์ 9 ยอดที่บรรจุศพหลวงพ่อ แสดงให้เห็นถึงความรักและเคารพที่ชาวมอญมีต่อหลวงพ่ออุตตมะ


โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:14] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
    พระพุทธรูปหินอ่อน
พระพุทธรูปหินอ่อนสีขาวขนาดใหญ่ ชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อขาว" เป็นพระประธานในวิหาร ทำจากหินอ่อนทั้งองค์ หน้าตักกว้าง 9 ศอก น้ำหนัก 9 ตัน ศิลปะแบบประยุกต์ หลวงพ่ออุตตมะให้ช่างมัณฑะเลย์แกะสลักเมื่อ พ.ศ. 2514 ใช้เวลา 1 ปี จึงแล้วเสร็จ โดยส่งภาพถ่ายพระพุทธชินราชเป็นตัวอย่าง ค่าจ้างเป็นทองคำหนัก 25 บาท หลังจากนั้นได้ใช้วลาอีกปีครึ่ง รอเวลาดำเนินการขนส่งผ่านเส้นทางทุรกันดาร ทั้งค่ายทหารพม่าและกะเหรี่ยง เพื่อมาประดิษฐานในเมืองไทย

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:15] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
    หอระฆัง รูปทรงศิลปแบบมอญ มีบันไดเดินขึ้นเพื่อชมทิวทัศน์ของทะเลสาบสังขละบุรี

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:17] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
    ขอบคุณข้อมูลจากที่เที่ยวไทยดอทคอมนะคะ

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:22] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
    ลืมงาช้างแมมมอธในวิหารพระหินอ่อนค่ะ ห้ามสัมผัสนะคะ

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:24] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 21
    ดอกสาละสีเข้มมาก ๆ ไม่เคยเห็นสีนี้มาก่อนค่ะ

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:29] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 22
    ผลสาละค่ะ ใหญ่มาก

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:30] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 23
    ท้ายสุดกับดอกพิกุล เก็บภาพมาให้น้องสาวใจดีแห่งบ้านกรีนฯ ขอบคุณที่มีพื้นที่ให้พวกเรามาแปะภาพ
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 10:32] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 24
   พี่บัวจำได้ไงคะ ยังกะคู่มือการท่องเที่ยงเลย ??

วัดใต้น้ำ ..... น่าพิศวงจังค่ะ จมน้ำได้ไง อยากรู้จัง ต้องไปหาข้อมูลอ่านบ้างแล้วค่ะ คนไทยแต่ไม่รู้จักของดีของไทย เฮ้อ ...

สาละสีนี้ พิเศษนะคะ สีแดง ไม่เคยเห็นอีกเหมือนกันค่ะ
โดย: กะลา [21 มี.ค. 55 12:41] ( IP A:125.24.124.57 X: )
ความคิดเห็นที่ 25
   หนูเคยไปตอนวัดไม่ได้แช่น้ำค่ะ
แบบนี้ก้สวยอีกแบบ
ไปหน้าฝน อากาศดีมากค่ะ

โดย: ลกท [21 มี.ค. 55 12:50] ( IP A:58.11.88.162 X: )
ความคิดเห็นที่ 26
   วัดนี้อยากไปมาก ๆ ๆ ค่ะ สร้างได้สวยจริง ๆ
วัดใต้น้ำน่าสนใจจัง มีตอนไม่ได้แช่น้ำด้วยเหรอคะ
โดย: ใบไม้แดง [21 มี.ค. 55 13:23] ( IP A:124.122.197.38 X: )
ความคิดเห็นที่ 27
   
smile อากู๋ช่วยท่านได้ค่ะน้องกะลา ก่อนไปเที่ยวต้องทำการบ้านไปก่อน จะได้เที่ยวสนุกค่ะ
วัดจมน้ำ จมมา 30 ปีแล้ว จมหมดทั้งเมืองสังขละบุรี จนต้องย้ายที่ไปสร้างใหม่ ณ ที่ปัจจุบัน
ก็เนื่องมาจากการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนเขาแหลมค่ะ

สาละสีนี้จริง ๆ นะคะ ไม่ได้แต่งเติมรูปภาพแต่อย่างใดค่ะ

smile หน้าฝนพี่ไปครั้งแรกค่ะน้องลูกเกด อย่างเซ็ง ฝนตกตลอดทริปเลย
ครั้งนี้ไปหน้าเกือบแล้ง ถ้าไปเดือนหน้า คนเรือบอกว่า โบสถ์ ศาลา และหอระฆัง เราสามารถเดินได้ น้ำแห้งเลยค่ะ

smile มีค่ะน้องใบไม้แดง หน้าแล้งไงคะ เดินลำบากหน่อย ไม่เหมือนไปทางเรือค่ะ
ก็ยังไม่เคยไปตอนน้ำแห้งซักที หน้าฝนก็ไปมาแล้วค่ะ

โดย: บัวนลิน [21 มี.ค. 55 16:00] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 28
   
โอ้โห สุดยอดเลยค่ะพี่บัว ขอเกาะเอวพี่บัวเดินเที่ยวด้วยคนค่ะ ชอบวัดที่อยู่ในน้ำมาก ดูแล้วอยากไปเลยค่ะ บรรยากาศสุดๆเลยค่ะ ขอบคุณพี่บัวมากๆค่ะที่นำเที่ยวและขอบคุณสำหรับภาพดอกพิกุลที่เก็บมาฝากค่ะ รักๆ จุ๊บๆๆ heart

โดย: BB [21 มี.ค. 55 16:39] ( IP A:110.168.82.159 X: )
ความคิดเห็นที่ 29
   smile อันซีนไทยแลนด์ เมืองบาดาล ต้องไปเยือนให้ได้ซักครั้งนะคะน้องบีบี
สวยแปลกตามาก ๆ ค่ะ
โดย: บัวนลิน [22 มี.ค. 55 10:39] ( IP A:202.12.118.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 30
   
จริงด้วยค่ะพี่บัว ถ้ามีโอกาศจะไปแน่นอนค่ะ ขอบคุณพี่บัวค่ะ smile

โดย: BB [23 มี.ค. 55 16:15] ( IP A:124.122.245.225 X: )
* ขณะนี้พี้นที่เต็ม ไม่สามารถโพสต์กระทู้เพิ่มได้ *

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน