การตรวจโรค ตอนที่12 โรคที่พบในกบ การป้องกัน เเละ รักษา ครับ
   สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ การตรวจโรค ตอนที่12

ขอเสนอ เรื่อง โรคที่พบในกบ การป้องกัน เเละ การรักษา นะครับ

การที่กบที่เลี้ยงไว้เป็นโรคต่าง ๆ นั้น สาเหตุส่วนใหญ่มาจากความสกปรกของสถานที่เลี้ยง

การจัดการและดูแลไม่ทั่วถึง ทำให้กบมีสภาพอ่อนแอ หรือในกรณีที่กบไม่มีบาดแผล อาจเกิดจากอาหารสกปรกก็ได้

การดูเเลที่ดีควรคำนึงถึงความสะอาดเป็นอันดับเเรก เพื่อการเลี้ยงดูที่ถูกสุขลักษณะ

เปลี่ยนน้ำเเละอาหารทุกวัน เเละควรเลี้ยงในที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ให้รับเเสงเเดดในตอนเช้า

เปลี่ยนชนิดของอาหารโดยคำนึงถึงโภชนะที่สัตว์ควรได้รับในเเต่ละวัน

โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank ) [30 ม.ค. 51 23:32] ( IP A:124.120.66.115 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   โรคติดเชื้อแบคทีเรียในระยะลูกอ๊อด

อาการ

ลูกอ๊อดจะมีลำตัวด่าง คล้ายโรคตัวด่างในปลาดุก จากนั้นจะเริ่มพบอาการท้องบวมและตกเลือดตามครีบหรือระยางค์ต่างๆ

สาเหตุของโรค แบคทีเรียในกลุ่ม Flexibacteris


การรักษา

1. ใช้เกลือแกงแช่ในอัตรา 0.5% (5 กิโลกรัมต่อน้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร) นาน 3-5 วัน

2. ใช้ยาออกซีเตตร้าซัยคลินแช่ในอัตรา 10-20 กรัมต่อน้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร ติดต่อกันทุกวันนาน 3-5 วัน

การป้องกัน

1. อนุบาลลูกอ๊อดในความหนาแน่นที่เหมาะสม ตารางเมตรละ 1,000 ตัว

2. คัดขนาดทุกๆ 2-3 วันต่อครั้ง จนกระทั่งเป็นลูกกบแล้วอนุบาลให้ได้ขนาด 1-1.5 อัตราความหนาแน่นตารางเมตรละ 250 ตัวจากนั้นจึงปล่อยลูกกบลงเลี้ยงในอัตราตารางเมตรละ100 ตัว


3. ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำสม่ำเสมอ และรักษาความสะอาดของบ่ออนุบาล

โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank ) [30 ม.ค. 51 23:33] ( IP A:124.120.66.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   โรคติดเชื้อแบคทีเรียในระยะตัวเต็มวัย

อาการ

มีลักษณะเป็นจุดแดงๆ ตามขาและผิวตัว โดยเฉพาะด้านท้องจนถึงแผลเน่าเปื่อยบริเวณปาก ลำตัวและขา ตับมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีจุดสีเหลืองซ้อนๆ กระจายอยู่ทั่วไป ไตขยายใหญ่ บางครั้งพบตุ่มสีขาวกระจายอยู่


สาเหตุของโรค สภาพบ่อสกปรกมาก


การรักษา

ออกซีเตตร้าซัยคลินผสมอาหารให้กบกินในอัตรา 3-5 กรัม/อาหาร 1 กิโลกรัมต่อวันกินติดต่อกันจนกว่าอาการจะดีขึ้น หรือให้กินไม่น้อยกว่าครั้งละ 5-7 วัน

โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank ) [30 ม.ค. 51 23:34] ( IP A:124.120.66.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ขอบคุณคับหมอแบงค์ แล้ว จำเป็นต้องเอากบไปถ่ายพยาธิไหมอะคับ
โดย: TENKAMUSOU [30 ม.ค. 51 23:39] ( IP A:124.120.1.197 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   โรคที่เกิดจากโปรโตซัวในทางเดินอาหาร

อาการ

กบไม่ค่อยกินอาหาร ผอมตัวซีด


สาเหตุของโรค โปรโตซัวในกลุ่ม Opalina sp. และ Balantidium sp.


การรักษา

ใช้ยา Metronidazole ผสมอาหารให้กินในอัตรา 3-5 กรัม/อาหาร 1 กิโลกกรัม กินติดต่อกันครั้งละ 3 วัน และเว้นระยะ 3-4 วัน แล้วให้ยาซ้ำอีก 2-3 ครั้ง หรือจนกว่ากบจะมีอาการดีขึ้น และกินอาหารตามปกติ

โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank ) [30 ม.ค. 51 23:40] ( IP A:124.120.66.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   โรคกบขาแดง

อาการ

เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ผิวหนังสีผิดปกติ เสียการทรงตัว มีจุดเลือดออกตามตัว และมีแผลเกิดขึ้นชักขากระตุกและมีผื่นแดงบริเวณโคนขาหลัง เม็ดเลือดมีอาการของโลหิตจางเลือดแข็งตัวช้า และมีเลือดออกบริเวณอวัยวะภายใน

สาเหตุของโรค การติดเชื้อ bact. A. hydrophila, Haemophilus piscium

การรักษา

เตรทตร้าไซคลิน 50-100 mg/น้ำหนักกบ 1 กิโลกรัม (ป้อน) อาจผสมอาหารหรือแช่ก็ได้ (ปริมาณเพิ่มขึ้น)

โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank ) [30 ม.ค. 51 23:42] ( IP A:124.120.66.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   โรคตาขาว คอเอียง กระแตเวียน บวมน้ำ



สาเหตุ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ฟลาโวแบคทีเรียม เมนิงโกเซพติคุ่ม (Flavobacterium meningosepticum)



อาการและรอยโรค

ลักษณะตาขาว ขุ่น บอด เกิดการอักเสบที่ตา มีหนองในช่องหน้าตา มีอาการทางประสาทโดยกบจะนอนหงายท้อง แสดงอาการควงสว่าน คอเอียง กบบางตัวจะบวมน้ำ พบน้ำคั่งใต้ผิวหนังและมีน้ำในช่องท้อง



การรักษา

การรักษาโรคนี้มักไม่ค่อยได้ผล โดยเฉพาะในตัวที่ป่วยหนัก ทำได้โดยลดความรุนแรงของโรค โดยแยกตัวป่วยออกและฆ่าเชื้อโรคในบ่อโดยใช้ยาฆ่าเชื้อ เช่น ไอโอดีน เป็นต้น หรือ อาจใช้ด่างทับทิม 5-8 กรัม/น้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร สาดให้ทั่วบ่อติดต่อกัน 3 วัน และผสมยาปฏิชีวนะ เช่น เอนโรฟล็อคซาซิน กับอาหารเพื่อป้องกันการติดเชื้อในกบที่เหลือ นอกจากนี้แล้วจะต้องแยกกบให้ปริมาณน้อยลงจากเดิม

การป้องกัน

ไม่เลี้ยงกบหนาแน่นเกินไป มีการพักน้ำและฆ่าเชื้อโรคในน้ำก่อนนำมาใช้ด้วยคลอรีน เปลี่ยนถ่ายน้ำสม่ำเสมอ

โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank ) [30 ม.ค. 51 23:51] ( IP A:124.120.66.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   โรคแผลที่หัวและลำตัว

อาการของกบบริเวณหัว และลำตัวกบ จะเป็นแผลเน่าเปื่อย ถ้าไม่แก้ไขก็จะตาย

สาเหตุเกิดจากสภาพบ่อสกปรกมาก

การรักษา

ควร จัดการทำความสะอาดเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยๆ หรือใช้ปูนขาวผสมน้ำลาดลงไปในบ่อบริเวณขอบบ่อ จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งถ้าหากไม่อยากให้เกิดโรค ควรดูแลเรื่องระบบน้ำในบ่อให้ดีอยู่เสมอ

โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank ) [30 ม.ค. 51 23:55] ( IP A:124.120.66.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   การป้องกันโรคกบแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน


- ในกรณีที่เลี้ยงด้วยบ่อปูนควรจะล้างบ่อด้วยด่างทับทิมอัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 2 ลิตร ทุกครั้งที่มีการล้างบ่อ

- ผสมอาหารด้วยน้ำหมักชีวภาพก่อนที่จะนำมาให้กบกิน ด้วยการผสมน้ำหมักชีวภาพอัตรา 2 ช้อนโต๊ะ ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม

- เมื่อกบมีอาการท้องอืดหรือตัวเหลือง ซึม ให้ใช้ขิง ข่า พะลัย และฟ้าทลายโจร ต้มให้น้ำมีสีชาแล้วนำมาผสมกับอาหารกบป้อน หรืออาจจะฉีดด้วยกระบอกฉีดยา เข้าทางปากตัวละ 1 ซีซี

- ถ้ากบเป็นแผลเปื่อยให้ใช้ขมิ้นผงและใบน้อยหน่าตากแห้ง (หรือเปลือกมังคุดตากแห้ง) นำทั้ง 2 อย่าง มาบดให้ละเอียดและผสมปูนแดงลงไปเล็กน้อย ทาที่บริเวณแผล ที่สำคัญเกษตรกรผู้เลี้ยง จะต้องแยกกบที่ป่วยออกไว้ต่างหากอย่างน้อยเป็นเวลา 1 วัน โดยนำกบที่เป็นโรค มาใส่ถุงพลาสติกเจาะช่องระบายอากาศและไม่ให้ถูกน้ำ

- กรณีที่เลี้ยงกบในบ่อดินหรือบ่อปูนควรจะนำเกลือแกงผสมน้ำใส่ลงไปในบ่อเลี้ยงกบด้วย เพื่อฆ่าเชื้อราหรือเชื้อโรคอื่นๆ อัตราการใส่ถ้าบ่อเลี้ยงมีขนาด 4x4 เมตร ให้ใส่น้ำสูง 5 เซนติเมตร และใส่เกลือแกงลงไปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ

โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank ) [30 ม.ค. 51 23:58] ( IP A:124.120.66.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   โรคที่เกิดจากสารพิษ

มีสารพิษหลายชนิดที่มีผลต่อความเป็นอยู่ของกบทั้งทางตรงและทางอ้อม

สามารถทำให้กบตายได้ทันทีทันใด หรือทำให้เกิดอาการเรื้อรัง

สารพิษต่างๆเหล่านี้ได้แก่ น้ำยาฆ่าเชื้อ เมื่อใช้ยาดังกล่าวแล้วควรล้างทำความสะอาด

โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank ) [31 ม.ค. 51] ( IP A:124.120.66.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   โรคที่เกิดจากเชื้อรา

ได้แก่ เชื้อซาโพเล็กเนีย เป็นเชื้อราที่พบทั่วไปในน้ำ เชื้อชนิดนี้ สามารถทำอันตรายต่อปลาได้เช่นกัน

โดยโรคจากเชื้อราอาจจะเกิดร่วมกับโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ตัวอย่างเช่น

กรณีที่กบเป็นโรคขาแดง และผิวหนังมีบาดแผล
เชื้อราชนิดนี้เข้ามาเกาะตามบาดแผลทำให้บาดแผลมีอาการรุนแรงและเสียหายมากขึ้น ฉะนั้นในการรักษาจำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อราร่วมกับยาปฏิชีวนะ

โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank ) [31 ม.ค. 51] ( IP A:124.120.66.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่พบเป็นครั้งคราว

คือเชื้อไมโครกรัมแบคทีเรีย ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นตุ่มตามผิวหนังและอวัยวะภายใน

เชื้อสแตปฟิลโลค๊อกคัส อิพิสเดอมิส ที่ทำให้เกิดเป็นหนอตามผิวหนังหรือตามขา

โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank ) [31 ม.ค. 51] ( IP A:124.120.66.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   ผมได้ทำกระทู้

เรื่อง* กระทู้แนะนำ ตอนที่5 White's tree frog ครับ*

กระทู้อันดับที่16

ในกระทู้นี้จะมีข้อมูลของ โรคกบท้องอืด การป้องกันเเละการรักษา ไว้เเล้ว

เชิญชมครับ

https://www.pantown.com/board.php?id=2888&area=4&name=board15&topic=16&action=view

โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank ) [31 ม.ค. 51] ( IP A:124.120.66.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   ข้อความที่ได้กล่าวมานี้ ได้มาจากประสบการณ์เเละจากข้อมูลที่ผมได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมด้วยตัวผมเอง

หากมีสิ่งใดผิดไปผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อ สัตว์เลี้ยงของทุกท่านในยามเจ็บไข้ได้ป่วยนะครับ

ขอบคุณครับ

โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank ) [31 ม.ค. 51] ( IP A:124.120.66.115 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน