Gene-Pool-Aquarium.pantown.com
โรงพยาบาลสัตว์ประหลาด <<
กลับไปหน้าแรก
กระทู้แนะนำ ตอนที่5 White's tree frog ครับ
สวัสดี ทุกท่านครับ วันนี้ผมขอเเนะนำให้รู้จัก กับ เจ้า กบต้นไม้ นะครับ
ชื่อสามัญ White's tree frog
ชื่อวิทยาศาสตร์ Litoria caerulea
ถิ่นกำเนิด ประเทศออสเตรีย นิวกีนี
อัตราการโต 8-10เซนติเมตร
การเลี้ยงดู เลี้ยงในตู้หรือในกรงก็ได้เเล้วเเต่สะดวก เเต่สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือกิ่งไม้หรือต้นไม้ไว้ในกรง เเละ ต้องมีอากาศถ่ายเทได้เพื่อไม่ให้เกิดการอับชื้นจะทำให้เกิดโรคต่างๆตามมารวมถึงควรมีอ่างน้ำไว้ด้วย
อุปนิสัย เชื่อง เป็นมิตร
อาหาร เเมลงเเล้วสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก
ข้อพึงระวังในการเลี้ยง ระวังการโดดหนีเเละการฉีดปัสสาวะใส่ เมื่อเค้าตกใจ
ข้อสังเกตุเมื่อไม่สบายเเละโรคที่อาจเกิดขึ้นรวมถึงการรักษาเเละการป้องกัน
1อาการท้องอืด
เนื่องมาจากการได้รับอาหารมากเกินไป
ป้องกันโดย อย่าให้กบได้รับอาหารมากเกินไป ให้ครั้งละจำนวนน้อยๆ อย่าเห็นว่าเค้ากินเก่งอยากกินอีกเเล้วเราจะให้ ใจเเข็งไว้
2อาการท้องอืดเนื่องมาจากน้ำ
ป้องกันโดย ให้น้ำในสถานที่เลี้ยงสะอาดเพื่อไม่ให้เกิดเเก๊สในสถานที่เลี้ยง
ขอขอบคุณคุณโอ๊ดมากนะครับที่เสนอสัตว์ประหลาดชนิดนี้มาหวังว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อคุณโอ๊ตเเละทุกท่านด้วยนะครับ
ข้อความที่ได้กล่าวมานี้ ได้มาจากประสบการ์ณการเลี้ยงสัตว์ชนิดนี้ด้วยตัวผมเองหากมีสิ่งใดผิดไปก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ด้วย ขอบคุณมากครับ
โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank
) [7 พ.ย. 50 20:06] ( IP A:202.176.73.23 X: )
ความคิดเห็นที่ 1
สวัสดีคุณ น.ศ.สัตวเเพทย์ (แบงค์)
พอดีผมอยากทราบว่า ถ้ากบท้องอืด วิธีรักษายังไงครับ พอดีผมมี ฮอนฟร๊อค กับ ไวท์ทรี ไม่ทราบว่ารักษาเหมือนกันไหม หาความรู้ไว้ก่อนเมื่อเจอปัญหาได้ไม่ ตื่นตกใจครับ
โดย: บอกไม่ได้
[7 พ.ย. 50 22:18] ( IP A:58.9.15.169 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
โรคกบท้องอืด เป็น กลุ่มอาการโรคที่เกิดในระบบทางเดินอาหาร
สาเหตุ เกิดจากการไม่เลี้ยงดูอย่างถูกสุขลักษณะ ทำให้เกิดการหมักหมมของเสียในที่เลี้ยง การได้รับอาหารในปริมาณมากทำให้ระบบย่อยอาหารเกิดผิดปกติซึ่งทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อนกลับเกิดเเก๊ซในกระเพราะอาหารโรคในกบส่วนมากเกิดจากเชื้อเเบคทีเรียเเละปรสิต
อาการ ตัวกบจะลอยไม่จมน้ำ มีอาการซึม ไม่ค่อยเคลื่อนไหว
อาการข้างเคียง ไม่ถ่ายหรือท้องผูก
การป้องกัน 1 ค่าความเป็นกรดเเละด่างในน้ำอยู่ที่6.5-7.5
2 กบเป็นเเอมพิเบียด ดังนั้นควรมีทั้งบกเเละน้ำในอัตราส่วนที่เหมาะสมกัน
3 เลี้ยงในที่ๆมีเเสงเเดดส่องถึง เพื่อกระตุ้นความอยากอาหารเเละการเจริญเติบโต
4 รักษาความสะอาดสถานที่เลี้ยง
5 ให้อาหารที่มีคุณภาพ ปริมาณพอเหมาะในอัตราส่วน3เปอร์เซนต์ ต่อน้ำหนักตัว
6 หากเลี้ยงด้วยอาหารสดควรถ่ายพยาธิทุก 2 สัปดาห์
7 ไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะในการป้องกันโรคติดต่อกันในระยะเวลายาวนาน
8 ควรซื้อจากเเหล่งที่เชื่อถือได้ ไม่มีประวัติการเกิดโรคร้ายเเรง
การรักษาเเละการบำบัด
1 การกำจัดปรสิตภายนอกใช้ ฟอร์มาลิน 25-30ซีซี ต่อน้ำ 1ลิตร
2 ใช้ยาออกซิเตทตราไซคลีน 3กรัม ต่อ อาหาร 1 กิโลกรัมให้กินทุกมื้อประมาณ 3-7 วัน
3 ถ่ายพยาธิ โดย ใส่ดีเกลือ 3กรัม ต่อ อาหาร 1กิโลกรัม ให้เพียง1มื้อ เดือนละครั้ง
4 เมื่อมีอาการท้องอืดตัวเหลืองซึม ให้ใช้ ข่า พะลัย เเละ ฟ้าทลายโจรต้มให้น้ำมีสีชา เเล้วนำมาผสมกับอาหาร หรือ ใส่กระบอกฉีดยาเเล้วฉีดเข้าปาก 1ซีซี
เมื่อพบว่าป่วยสิ่งเเรกที่ควรให้ความสนใจคือ ระบบการจัดการการเลี้ยงดู สะอาดสถานที่เลี้ยง การหมักหมมของเศษอาหาร น้ำเน่าเสีย ซึ่งเมื่อสามารถเเก้ปัญหาได้เเล้ว โดยส่วนใหญ่จะคืนสู่สถาพปกติ โดยไม่ต้องใช้ยาหรือสารเคมีใดใดในการรักษา จะเห็นได้ว่าหากผู้เลี้ยงเอาใจใส่เเละมีเวลาเลี้ยงดูอย่างถูกวิธี ปัญหาการเกิดโรคจะน้อยหรือไม่เกิดโรคเลย
หวังว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อคุณ บอกไม่ได้ เเละทุกท่านด้วยนะครับ
โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank
) [8 พ.ย. 50 1:19] ( IP A:202.176.73.23 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
เป็นประโยชน์อย่างมาก ขอบพระคุณอย่างสูง น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank)
โดย: บอกไม่ได้
[8 พ.ย. 50 10:49] ( IP A:58.9.13.88 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
ยินดีครับผม
โดย: เเบงค์ น.ศ.สัตวเเพทย์ (bank
) [8 พ.ย. 50 17:19] ( IP A:58.10.140.237 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
ขอบคุนมากครับ คุนแบงค์ เป็นประโบขน์ทั้งผม และพี่ๆน้องๆ ในเว๊ปนี้มากครับ ^^
โดย: SynthatiC@hotmail.com (O-at
) [8 พ.ย. 50 18:51] ( IP A:58.10.164.28 X: )
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน