มาดูปลาน้ำกร่อยกันครับ
   น้ำจืดเบื่อละ มาดูอะไรที่มันเค็ม ๆ ทะเล ๆ มั่ง

เห่อ ๆ เริ่มเลยนะครับ ตัวแรกครับ คุ้นหน้าคุ้นตากันดี

ข้างตะเภา ครับ blink

โดย: *** [20 ก.พ. 50 10:35] ( IP A:58.9.190.97 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   ข้างตะเภา นั้น มีชื่อที่เรียกโดยลุงขยะ กับร้านแม่น้ำว่า มงกุฎ

มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Terapon jarbua ถามว่าเป็นปลาอะไร ? น้ำจืด หรือ น้ำเค็ม ? ถ้าถามแบบนี้ ผมก็ขอตอบว่า

" น้ำเค็ม " ครับ

โดย: *** [20 ก.พ. 50 10:38] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   แล้วถ้าถามต่อไปว่า เลี้ยงในน้ำจืดได้ไหม ?

ผมก็ตอบว่า " ได้ครับ " แต่ในเงื่อนไขที่ว่า ต้องปรับน้ำมาแล้วเรียบร้อยนะ

ก็คือ ปลาเหล่านี้ แท้ที่จริงแล้วเป็นปลาทะเล ที่มีวงจรชีวิต 2 ช่วง คือ ช่วงแรกที่เป็นตัวอ่อนจะอาศัยอยู่ตามปากแม่น้ำ หรือป่าชายเลน อันเป็นเขตน้ำกร่อยหรือที่ติดต่อกับน้ำจืด พอโตเป็นตัวเต็มวัยแล้วค่อยอพยพกลับลงทะเลไป

**รูปนี้เข้าใจว่า คงถ่ายตอนอยู่ในทะเล

โดย: *** [20 ก.พ. 50 10:42] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ข้างตะเภา นั้นเป็นปลาขนาดเล้กครับ โตเต็มที่ไม่เกิน 15 ซ.ม. อาศัยอยู่รวมเป็นฝูง อาหารการกินกินง่ายครับ กุ้งฝอย ไรทะเล หรือแม้แต่อาหารเม็ด

แต่เห็นตัวจิ๋ว ๆ แบบนี้ อย่านึกว่าไม่ดุนะครับ ก้าวร้าวพอสมควรเหมือนกัน ไม่แนะนำให้เลี้ยงรวมกับปลาอื่นที่อืดอาดเลยครับ


อ๋อ ใช่ ลืมบอกไปว่า ตัวนี้มีอีกชื่อเรียกนึงนะครับว่า " ออดแอด " เหตุเพราะมันส่งเสียงร้องได้นะครับ หุ หุ blink

โดย: *** [20 ก.พ. 50 10:46] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ตัวต่อไปปปปปปปปปปปปป


หุ หุ ชื่อแปลก ๆ ครับ " อีคุด " ทำไมถึงชื่อนี้ก็ไม่รู้ เพราะหัวมันสั้น ๆ หรือเปล่า...ก็ไม่รู้นะ

โดย: *** [20 ก.พ. 50 10:48] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   โอ๊ะ โอ
คลิกมาเจอพอดีเลย สงสัยกำลังโพสอยู่
สวัสดีครับบบบ
มีแบบช๊อตบอดี้ด้วยนะเออ

โดย: Reign_of_Fishes@hotmail.com (เจ้าบ้าน ) [20 ก.พ. 50 10:49] ( IP A:58.9.144.99 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   อีคุด เป็นปลาใหญ่ครับ โตขึ้นมาก็เกือบเมตรเหมือนกัน หนักก็เป็นสิบโล

มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Acanthopagrus berda ชื่ออื่นก็เรียกว่า หม้อแตก หรือ กูดู (ทำไมเรียกว่า หม้อแตก ตอนท้าย ๆ มาฉะเหลย )

โดย: *** [20 ก.พ. 50 10:51] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   หุ หุ หุ เจอะเจอเจ้าบ้านปาดซะแหล๋วววววววว

เด๋วผมเข้าไป 'bd ย้อนหลังนะครับ ขอตั้งกระทู้ก่อน puppy


อันนี้ คือ ตอนที่เป็นเด็ก ๆ อ่ะนะ

โดย: *** [20 ก.พ. 50 10:55] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ตัวต่อไปปปปปปป


อันนี้เป็นปลาที่ผมชอบมากกกกกกกกกก (เสียงยาวววววว)


Lutjanus argentimaculatus กะพงแดงครับ blink

โดย: *** [20 ก.พ. 50 10:58] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   เป็นปลาที่ อื๊อมมมม บอกได้เลยครับว่า เลี้ยงได้มันส์มากก

เหตุเพราะมันสามารถโตได้ถึง 1.20 เมตร และก็แดงแป๊ดดดดเลย ถ้าโตขึ้นมา ในfishbaseเขาเรียกว่า กะพงสีเลือด เลยนะ อุ อุ

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:01] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   แล้วก็เป็นที่ อือมม ขอเรียกว่าเลี้ยงตัวเดียวเหมือน เลี้ยงปลาอื่นถึง 3 ตัวรวมกันแน่ะครับ คือ หมอสี + เสือตอ + อาร์มาทัส

เพราะ มีพฤติกรรมเหมือนเสือตอที่อยู่ในอันดับเดียวกัน แต่มีรูปร่างและสีสันคล้ายหมอสี และโตขึ้นมาในปากจะเห็นชัดเจนเลยครับว่า มีเขี้ยวโง้ง ๆ อยู่ 2 ชิ้น แม้แต่จะใหญ่เท่าอาร์มาทัส แต่ก็เอาน่ะ โหดหินมาก ๆ ละกัน


**อันนี้เป็นพัฒนาการของมันนะครับ จะเห็นได้ว่าตอนเบบี๋ ตัวจะลาย ๆ อย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นหมอสีจากเลคอะไรเข้าล่ะ blink

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:06] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   แล้วนิสัยนี่ดุมากกกกกกก เลยครับ ดุจริงๆ เลี้ยงรวมกับปลาอื่นไม่ได้เลย กัดเขาแหลก

เคยเห็น เขาเลี้ยงรวมกับเสือตอที่ตัวใหญ่กว่ามาก แต่มันไล่ไอ้เสือซะจนหงอสิ้นลายเลยอ่ะครับ

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:10] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   ให้ดูชัด ๆ อีกรูปครับตอนเบบี๋

(จริง ๆ แล้วกะพงแดง ยังมีอีกชนิดนึงนะ แดงแป๊ดเหมือนกัน คือ Lutjanus malabaricus แต่ชนิดนี้ผมไม่แน่ใจว่า จะเลี้ยงในน้ำจืดได้ไหม)

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:13] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   ปลาในสกุลปลากะพงแดง Lutjanus มีเยอะมากมายหลายสิบชนิดมากเลยครับ

ตัวต่อไปที่จะแนะนำคือ ตัวนี้สวยนะครับ กะพงข้างปาน

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:18] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
    Lutjanus johnii กะพงข้างปาน โตเต็มที่ได้ 97 ซ.ม. หนักสุดเป็นสถิติโลกคือ 10.5 ก.ก.

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:24] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   เราเรียก " ข้างปาน " ก็จากเจ้าจุด กลม ๆ ดำ ๆ ที่อยู่ลำตัวมันค่อนข้างไปทางโคนหางนี่หล่ะครับ

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:26] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
   เป็นปลาที่มีสีสวยนะครับ คือ สีออกเขียว ๆ เหลือบ ๆ เหลืองทองหน่อย ๆ ซึ่งฝรั่งเขาเรียกว่า " กะพงทอง " เลยล่ะ (Golden Snapper)

ตัวเล็ก ๆ นะฮะ จะเห็นดวงดำใหญ่เลย smile

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:29] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
   ตัวนี้ก็สวยมากอีกตัวเลยครับ เหมือนปลาผมนางเลย

ดอกหมาก

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:33] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
   ดอกหมาก Gerres filamentosus

หรือ ดอกหมากกระโดนครับ โตเต็มที่ได้ 35 ซ.ม. ก็ไม่ใหญ่มาก

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:36] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
   อันนี้ก็เป็นรูปรวมฮิตนะครับ ใครเป็นใคร ดูกันเอาเองละกัน smile

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:39] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
   ปลาทะเลที่พออาศัยในน้ำจืดได้ มีอีกหลายชนิดเลยครับ ไว้วันหลังจะมีภาค 2 ต่อละกัน blink ตอนนี้ขอแค่นี้ก่อน

ตัวสุดท้ายแล้วครับ เขาเรียก ตะกรับทะเล ครับ หน้าตาน่ารักดีม่ะ

เห่อ ๆ ๆ ๆ

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:42] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 21
   แต่ชื่อที่รู้จักกันดีมากกว่า คือ หมอขี้เซา กะพงดำ หรือ หม้อแตก ครับ

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:44] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 22
   เห็นหน้าตามันแบบนี้ อย่านึกว่ามันเป็นตระกูลเดียวกับ Nandus เสือดำ หรือปลาใบไม้อเมซอนนะ เชื่อไหมว่า มันอยู่ในวงศ์ Lobotidae หรือวงศ์เดียวกับปลาเสือตอนะ เออ

ว่าแต่ มันมีตรงไหนเหมือนเสือตอหว๋า !?!

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:46] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 23
   ยังไม่ได้บอกชื่อวิทยาศาสตร์เลย Lobotes surinamensis ครับ

ฝรั่งเขาเรียกว่า กะพง 3 หาง (Tripletail) ทำไมถึงเรียก 3 หาง ก็เพราะว่า ครีบหลังตอนที่ 2 ของมัน กับครีบท้องมันอยู่ใกล้ครีบหางมากน่ะสิครับ ถึงได้เรียกว่า 3 หาง

โตเต็มที่ได้ 89" นะครับ ก็ใหญ่อยู่เหมือนกัน

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:49] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 24
   กะพงดำปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงแล้วนะครับ และเป็นปลาที่เขาว่า ปลาเลี้ยงรสชาติจะอร่อยกว่าปลาธรรมชาติ พอชาวประมงจับปลาที่ได้จากธรรมชาติ รสชาติจะไม่อร่อย ซดน้ำแกงแล้วรู้สึก ไม่อรอยยยย เลยโยนทิ้ง เลยเรียกว่า " หม้อแตก " ไงฮะ ฮ่ะ ฮ่ะ


เท่ดีเหมือนกันเนอะ เจ้าหม้อแตก เนี่ย blink

**รูปนี้ดูแล้วรู้เลยเนอะ ว่าทำไมเขาถึงเรียกว่า กะพงดำ

โดย: *** [20 ก.พ. 50 11:55] ( IP A:58.9.190.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 25
   ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
กระพงแดงนี่ผมเคยเลี้ยงตั้งแต่ 3 นิ้ว จนยาวเท่าใหร่ไม่รู้ แต่หนัก 2.4 กก. แล้วก็ต้องเอามาทำอาหารซะ เนื่องจากมันดุไปหน่อย ฮุบปลาเหยื่อทีนึงเสียงสนั่น สีก็แดงเข้มๆ ทีนี้เราอยากใส่ปลาเล็กลงบ่อก็ไม่ได้ เลยกินซะเลย
โดย: เด็กอนุบาล (เด็กอนุบาล ) [20 ก.พ. 50 12:41] ( IP A:58.9.142.21 X: )
ความคิดเห็นที่ 26
   เห็นปลากระพงแล้วอยากกินข้าวต้มปลากระพงจัง อุอุอุ
โดย: อีกาตัวดำๆ [26 มี.ค. 50 14:02] ( IP A:58.8.76.42 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน