ปลาไทยถูกจัง ตอนที่ 4: ปลาในวรรณคดีไทย
   มาดูกันครับ


พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คิดถึงเจ้าเศร้าอารมณ์
มัศยายังรู้ชม สมสาใจไม่พามา

นวลจันทร์เป็นนวลจริง เจ้างามพริ้งยิ่งนวลปลา

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 17:42] ( IP A:124.120.106.212 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   คางเบือนเบือนหน้ามา ไม่งามเท่าเจ้าเบือนชาย

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 17:43] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   เพียนทองงามดั่งทอง ไม่เหมือนน้องห่มตาดพราย

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 17:43] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   กระแหแหนห่างชาย ดังสายสวาทคลาดจากสม

กระแหกับตะเพียนรูปสลับกันครับ กดผิด

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 17:45] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   แก้มช้ำช้ำใครต้อง อันแก้มน้องช้ำเพราะชม

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 17:45] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   ปลาทุกทุกข์อกกรม เหมือนทุกข์พี่ที่จากนาง ฯ

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 17:46] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   น้ำเงินคือเงินยวง ขาวพรายช่วงสีสำอาง

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 17:46] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   ไม่เทียบเปรียบโฉมนาง งามเรืองเรื่อเนื้อสองสี

ปลากรายว่ายเคียงคู่ เคล้ากันอยู่ดูงามดี
แต่นางห่างเหินพี่ เห็นปลาเคล้าเศร้าใจจร

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 17:48] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   หางไก่ว่ายแหวกว่าย หางไก่คล้ายไม่มีหงอน
คิดอนงค์องค์เอวอร ผมประบ่าอ่าเอี่ยมไร

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 17:49] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   ปลาสร้อยล่องลอยชล ว่ายเวียนวนปนกันไป
เหมือนสร้อยทรงทรามวัย ไม่เห็นเจ้าเศร้าบ่วาย

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 17:49] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   เนื้ออ่อนอ่อนแต่ชื่อ เนื้อน้องฤาอ่อนทั้งกาย
ใครต้องข้องจิตต์ชาย ไม่วายนึกตรึกตรึงทรวง

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 17:50] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   ปลาเสือเหลือที่ตา เลื่อมแหลมกว่าปลาทั้งปวง
เหมือนตาสุดาดวง ดูแหลมล้ำขำเพราะคม

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 17:54] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   แมลงภู่คู่เคียงว่าย เห็นคล้ายคล้ายน่าเชยชม
คิดความยามเมื่อสม สนิทเคล้าเจ้าเอวบาง

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 17:55] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   หวีเกศเพศชื่อปลา คิดสุดาอ่าองค์นาง
หวีเกล้าเจ้าสระสาง เส้นเกศสรวยรวยกลิ่นหอม

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 18:00] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
   ชะแวงแฝงฝั่งแนบ

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 18:01] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   ชะวาดแอบแปบปนปลอม

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 18:01] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
   แปบ

เหมือนพี่แนบแอบถนอม จอมสวาทนาฎบังอร

พิศดูหมู่มัจฉา ว่ายแหวกมาในสาคร
คะนึงนุชสุดสายสมร มาด้วยพี่จะดีใจ

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 18:06] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
   ต่อด้วยนี่ครับ

เทโพพื้นเนื้อท้อง เป็นมันย่องล่องลอยมัน
น่าซดรสครามครัน ของสวรรค์เสวยรมย์

โดย: kapomguy [2 ต.ค. 51 18:15] ( IP A:124.120.106.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
   แจ่มดีคับพี่น้อง WOW
ยกนิ้วให้เล๊ยยย
รู้จักอยู่ ไม่กี่ตัวเอง แหะๆ
โดย: wmekloy [2 ต.ค. 51 18:25] ( IP A:125.25.136.149 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
   ชอบกระทู้นี้จัง
ขอบคุณคับ คุณ kapomguy
โดย: phatphon [3 ต.ค. 51 9:08] ( IP A:61.7.141.151 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
   กวีท่านสุนทรภู่ป่าวครับ

อ่านเพลินดีครับได้ความรู้ แต่ที่ขำๆอย่างนึง คือกระทั่งดูปลาก็ยังโยงไปเรื่องของสาวๆได้อีก แหล่มๆ หุหุ
โดย: jay [4 ต.ค. 51 7:42] ( IP A:58.64.94.103 X: )
ความคิดเห็นที่ 21
   เยี่ยมเลยครับ นึกถึงตอนสมัยเรียนเมื่อนานมาแล้ว

กาพย์เห่เรือพระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร ไชยเชษฐ์ สุริยวงศ์ (เจ้าฟ้ากุ้ง)ครับคุณเ้จ
โดย: สามบั้ง [4 ต.ค. 51 23:09] ( IP A:124.157.141.4 X: )
ความคิดเห็นที่ 22
   ผมว่า ชายไทย เมื่อหลายร้อยปีก่อน
ก็ลุ่มหลง... มัวเมา กับ อิสตรี และน้องปลา...
เหมือนผม...
...จริงๆแล้วอยากจะบอกว่าเหมือนคนที่เวบนี้ แต่เกรงใจ...
ผมเอง ผูกพันกับกวีแบบนี้มาตั้งแต่จำความได้
มาเห็นภาพ วันนี้เองครับ ^____^
สุนทรภู่ เท่าที่พอรู้จัก น่าจะเป็นอันนี้ครับ
" น้ำใสไหลเย็๋นเห็นตัวปลา
แหวกว่ายปทุมาอยู่ไหวๆ "
โดย: wmekloy [5 ต.ค. 51] ( IP A:124.121.114.101 X: )
ความคิดเห็นที่ 23
    " น้ำใสไหลเย็๋นเห็นตัวปลา
แหวกว่ายปทุมาอยู่ไหวๆ "

โดย: wmekloy

บทนี้เป็นบทที่ทำให้พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวครั้นดำรงพระยศเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ทรงกริ้วเนื่องจากตอนนั้นสุนทรภู่ทรงถวายงานเป็นพระอาจารย์อยู่ ก่อนขึ้นพระที่นั่ง ได้ทรงตรวจทานของเดิมที่รัชกาลที่สองพระราชทานช่วงให้นิพนธ์ที่ว่า
"น้ำใสไหลเย็นเห็นตัว แหวกว่ายกอบัวอยู่ไหวไหว" ต่อมาเมื่อเข้าสู่พระที่นั่งสุนทรภู่กลับเสนอเสียใหม่ว่าให้แก้เป็น
"น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ว่ายแหวกปทุมาอยู่ไหวไหว" ตามที่เห็น ทำให้พระนั่งเกล้าทรงเสียพระพักตร์หน้าพระที่นั่ง จึงเป็นเหตุให้ในสมัยรัชกาลที่สาม สุนทรภู่ไม่ได้เป็นที่โปรดปรานมากนัก หรือบางคนจะเรียกว่าเป็นยุคตกอับของสุนทรภู่ก็ว่าได้

.... ไปถึงสุนทรภู่ได้ไงหว่า 55555

คุณ kapomguy ยอดเยี่ยมเลยครับ ^__^
โดย: ttdc (ttdc ) [5 ต.ค. 51 9:43] ( IP A:125.26.149.133 X: )
ความคิดเห็นที่ 24
   WOW สุดยอดครับ
โดย: ฟ่อน [5 ต.ค. 51 18:37] ( IP A:222.123.171.208 X: )
ความคิดเห็นที่ 25
   โอ๊ะ...เจอแฟนพันธุ์แท้ สุนทรภู่เข้าแล้ว

ดีครับได้ความรู้ดี
โดย: เอก (kaikem121 ) [7 ต.ค. 51 8:42] ( IP A:58.9.166.88 X: )
ความคิดเห็นที่ 26
   ความเห็น23 เหตุที่เกิดนั้น..เขาว่า..ตอนที่ถูกถามครั้งแรก อารมณ์กวีมันยังไม่เกิด ก็คิดว่าดีแล้ว..แต่พอถูกถามตอนหลัง อารมณ์กวีมันเกิด ก็คิดและตอบไป ทำให้เกิดเหม็นหน้ากัน.. ท่านก็เลยซวยไป
โดย: 102412 (102412 ) [8 ต.ค. 51 19:44] ( IP A:58.9.140.110 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน