ระวัง !!! อย่าเชื่อใจ...หมอรักษาปลา
   จากประสบการณ์ที่ได้ประสบพบเจอมาโดยตรงนะคะ ทำให้ไม่เคยลืมเลย เหมือนกับว่าเราตัดสินใจผิดจริงๆ ที่เลือกให้หมอช่วยดูแลปลาป่วยของเรา สุดท้ายเหมือนกับว่า เราส่งมันไปตาย ขอไม่เอ่ยชื่อ และสถาบันของหมอผู้นี้นะคะ เพราะคิดว่าเขาคงไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน ที่จะทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ เอาเป็นว่าอยากฝากให้เป็นข้อคิด เตือนใจหลายๆ คนแล้วกันนะคะ.... ประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ปลาไม้น้ำตัวรักตัวโปรดทั้งหลายในตู้ใบใหญ่ขนาด 40 *20 *20 เริ่มส่ออาการไม่น่าใจ โดยมีจุดขาวๆ ขึ้นตามตัวกันหลายตัวเลย เราก็ไม่รอช้า มั่นใจแน่ๆ ว่าปลาเป็นโรคจุดขาวแน่นอนเพราะตอนนั้นอากาศหนาวมาก จึงใส่ฮีตเตอร์ให้ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ประมาณ 30 องศาเซลเซียส และคว้าขวดยาประจำตู้ นั่นคือ ซุปเปอร์อิ๊ค คำนวณปริมาณน้ำแล้วก็หยดใส่ทันที (ที่ใส่ลงไปในตู้เลยเพราะตอนนั้นไม่มีตู้พยาบาลนะคะ เลยจำเป็นต้องรักษาภายในตู้ ซึ่งเป็นสิ่งไม่ควรเลยในการรักษาให้ได้ผล) จากนั้นก็ดูอาการสัก 2-3 วัน ปรากฏว่าปลาไม่มีอาการดีขึ้นเลย แต่เหมือนว่าจุดจะเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะหมูอินโด และหมูอารีย์ (คงเป็นเพราะอุปกรณ์ในตู้ ที่เราไม่สามารถย้ายออกได้ ทำให้การกำจัดเชื้อเป็นไปได้ยาก) เราจึงเริ่มวิตกกังวล เริ่มมองหาที่พึ่ง เลยนึกได้โทรหาหมอประจำคลินิกสัตว์น้ำแห่งหนึ่ง อธิบายรายละเอียดให้เขาฟัง คุณหมอก็แนะนำเรื่องตัวยาที่เราใช้ อย่างแรก คุณหมอบอกว่า ยาเหล่านี้ที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปนั้น ไม่แน่ว่าจะเป็นยาเสื่อมคุณภาพแล้วหรือไม่ เนื่องจากผสมเอาไว้เป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้การนำไปใช้ไม่ได้ผล โดยคุณหมอถามว่า ตัวยานั้นมีสีอะไร เราก็ตอบไปตามที่เห็นว่ามันมีสีออก สีฟ้าๆ เขียวๆ คุณหมอก็บอกเลยว่า นั่นแสดงว่าตัวยามีลักษณะที่เสื่อมคุณภาพแล้ว ทำให้มันมีสีออกเขียวๆ (อันนี้ไม่รู้จริงหรือเท็จอย่างไรนะคะ) สรุปว่าวันรุ่งขึ้น คุณหมอก็ให้ไปเอายาที่คลินิก (เนื่องจากวันที่โทรไป เป็นวันอาทิตย์) คุณหมอให้ยามา 2 ชนิด ชนิดแรกหมอบอกว่าเป็นยารักษาโรคจุดขาว ซึ่งคุณหมอผสมขึ้นเอง ประกอบไปด้วยมาลาไคท์ ฟอร์มาลิน และสารอีกตัวหนึ่งจำชื่อไม่ได้แล้วค่ะ ต้องขอโทษด้วย ในอัตราส่วนหนึ่ง ตัวนี้หลังจากที่คำนวณปริมาณน้ำแล้ว คุณหมอแนะนำให้ใส่ปริมาณ 8 cc ห่างกันครั้งละ 2-3 วัน ส่วนชนิดที่สอง เป็นยาปฏิชีวนะ เม็ดสีขาวๆ คุณหมอแนะนำว่าให้บดให้ละเอียด ผสมน้ำให้ละลาย ก่อนใส่ลงในตู้ และให้ใส่เวลาเดียวกันทุกวัน ยาตัวนี้คุณหมอบอกว่า เอาไว้ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนในปลาที่เป็นจุดขาวได้ พอได้ยามา ก็รีบบึ่งรถกลับบ้านทันทีจากนั้นก็ทำตามที่คุณหมอแนะนำ ใส่ยาทั้งสองลงไป บันทึกเวลาที่ใส่ไว้ด้วยกันลืม และจะได้เอาไว้อ้างอิงได้ หากเกิดอะไรผิดปกติ ตอนนั้นใส่ไปประมาณ 11 โมงเช้า จากนั้นก็ออกไปข้างนอก ไปเรียน แล้วก็ไปธุระต่อ กลับเข้ามาอีกทีราวๆ 4 ทุ่ม ภาพที่เห็นคือ สุมาตรา 1 ตัว ก้างพระร่วง 1 ตัว ตายอยู่ก้นตู้ โดยที่สองตัวนี้ไม่มีร่องรอยของจุดขาวแต่อย่างใด นอกจากนี้ก้างพระร่วงอีก 1 ตัวก็มีอาการผิดปกติเช่นเดียวกัน มีลักษณะตัวขุ่นๆ ครีบเปื่อย (อันนี้ไม่สามารถฟันธงได้ว่าเป็นเพราะแพ้ยาหรือโดนปลาอื่นตอดเอา) ไม่นานก็ตาย พอเช้ามาก้างพระร่วงอีก 2 ตัวที่เหลือก็ตายเช่นเดียวกัน ส่วนตัวอื่นมีอาการหอบ หายใจถี่ ในตอนนี้มีปลาที่อาการหนักค่อนข้างมากอยู่ 3 ตัว นั่นคือ หมูอินโดขนาดประมาณ 3 นิ้ว และหมูอารีย์อีก 2 ตัว โดยมีจุดขาวขึ้นทั้งตัว ปลามีอาการซึม นี่คือวันที่สอง ของการรักษาตามคำแนะนำของคุณหมอ โดยยังคงเห็นได้ชัดว่าปลายังคงมีจุดขาวอยู่มาก แต่จากการสังเกตแล้ว ดูเหมือนว่าปลาหมูอินโดนั้น จะมีแรงว่ายหนี เวลาเราไปยืนดู ซึ่งต่างจากวันแรกที่นิ่งมาก วันนี้เวลาเดิมคือ 11.00 น. เราก็ใส่ยาปฏิชีวินะลงไป รอดูอาการไปเรื่อยๆ วันนี้สรุปว่ามีก้างพระร่วงตายไป 2 ตัวเท่านั้น เช้าวันที่ 3 ของการรักษา คาดว่าอาการน่าจะดีขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย แต่ปรากฏว่าหมูอารีย์ 1 ตัวทนไม่ไหวหนีกลับบ้านเกิดไปซะก่อน ส่วนอีกตัวหนึ่งก็ดูไม่ดีขึ้นเลย จุดขาวไม่ลดลง ปลาซึมหนักกว่าเก่า หมูอินโดก็จุดขาวไม่ลดลง อาการเหมือนวันที่สอง เห็นอย่างนี้เราก็เริ่มใจเสีย หลังจากนั้นจึงโทรไปหาคุณหมอ เล่าอาการทุกอย่างให้ฟัง คุณหมอเลยบอกว่าอยากได้ปลามารักษาเอง มีประโยคหนึ่งคุณบอกว่า "อยากได้เป็น case study ด้วย เพราะยังไม่เคยเจอปลาอาการแบบนี้มาก่อน" เพราะว่ายาที่คุณหมอให้มานั้น คุณหมอบอกว่าจุดขาวๆ น่าจะลดลงทันทีอย่างชัดเจน แต่อันนี้มันกลับเป็นเท่าเดิมดูไม่ลดลงเลย ในตอนนั้นเราไม่รู้จะทำยังไงดี อยากให้ปลารอด และคิดว่าหมอเขาเรียนมาคงจะรู้วิธีรักษาแน่นอน ถ้าเอาปลาให้หมอ โอกาสรอดน่าจะมีเยอะกว่าอยู่กับเรา (ตอนนั้นคิดอย่างนี้นะ) ตอนที่โทรนั้นไม่ได้อยู่ที่บ้าน ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร แต่พอกลับมาถึงบ้านประมาณบ่ายๆ เห็นน้องหมูอารีย์ตัวสุดท้ายนอนสิ้นใจอยู่เลยทนไม่ได้ละ สุดท้ายก็เลยตัดสินใจเอาหมูอินโดซึ่งอาการยังหนักอยู่ไปให้หมอ ถึงมือหมอก็ประมาณบ่าย 3 โมงกว่า คุณหมอนำปลาใส่ตู้ซึ่งมีขนาดความกว้างประมาณ 26 นิ้วน่าจะได้ ใส่น้ำสูงประมาณ 4 นิ้ว มีที่ให้ฟองอากาศอันเล็กๆ อันนึง ไม่ติดฮีตเตอร์ เราก็ถามแล้วนะ "ไม่ติดฮีตเตอร์มันจะเป็นไรมั้ยคะ" คุณหมอก็ว่า "ไม่น่าจะเป็นไรนะครับ อุณหภูมิในห้องนี้ไม่ต่ำมาก" เราก็เลยไม่ได้ว่าอะไร คิดอีกว่าคงไม่เป็นไรจริงๆ ทั้งๆที่ก็รู้นะว่าฮีตเตอร์นี่ช่วยได้มากเลย จากนั้นคุณหมอก็บอกกับเราว่า "ไม่น่ามีปัญหาครับ หายแน่นอน ดูอาการแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร" ได้ยินอย่างนี้ก็ดีใจ คิดว่าคงคิดถูกละ แต่พอวันรุ่งขึ้นมาดู เห็นแล้วแทบช็อคเลยค่ะ ประโยคแรกที่ถามคุณหมอเลยเมื่อเจอหน้าคือ "อาการเป็นไงบ้างคะ" คุณหมอทำหน้าไม่ค่อยดีเท่าไรแล้วบอกว่า "ไปดูเองเลยครับ" สภาพที่เห็นคือ น้ำในตู้มีลักษณะขุ่นมาก และปลาจากเมื่อวานที่มีจุดขาวเป็นจุดๆ ตามตัวเต็มไปหมด วันนี้...ไม่ได้หายหรอกนะคะ แต่กลับกลายเป็นปื้นสีขาวๆ แทน ปลามีอาการทรงตัวไม่อยู่ ว่ายน้ำตัวแข็งๆ เห็นแล้วแทบร้องไห้เลย คุณหมอบอกว่า "หมอไม่ได้ใส่ยาให้เขาเมื่อวานนี้ เพราะว่ากลัวว่าเขาจะแพ้ยา หมอใส่ให้แค่ยาปฏิชีวนะ ซึ่งมีฤทธิ์อ่อนกว่า ซึ่งอาจจะไม่สามารถฆ่าเชื้ออิ๊คได้ ไม่คิดว่าจุดขาวจะขึ้นไวมากขนาดนี้" ได้ยินอย่างนี้แล้วพูดไม่ออกจริงๆ จากนั้นคุณหมอก็รีบย้ายปลาใส่ตู้ใหม่ทันที ซึ่งมียารักษาโรคจุดขาว พร้อมยาปฏิชีวนะเตรียมไว้อยู่ แต่เราเห็นอาการปลาของเราแล้วมันทำใจไม่ได้ ตอนนี้พอยิ่งเปลี่ยนตู้ใหม่ มันกลายเป็นนอนราบไปเลย บางทีก็หงายท้อง ว่ายไม่ได้แล้ว ทรงตัวก็ไม่อยู่ หมอบอกว่า "ดูเหมือนเขาจะมีอาการทางประสาทนะครับ เพราะสังเกตจากการที่เขาทรงตัวไม่ค่อยได้" ถึงตอนนี้เราก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วล่ะ คิดอยู่อย่างเดียว "ถ้ามันจะต้องตาย ขอเอากลับไปตายที่บ้านแล้วกัน อย่างน้อยเราก็ยังได้เห็นมันอยู่" สุดท้ายก็ขอหมอเอากลับไปรักษาต่อที่บ้าน ประมาณ 3 ชั่วโมงหลังจากนั้นเจ้าหมูอินโดตัวโปรดก็สิ้นใจจากไปต่อหน้าต่อตา... จากเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ใจจริงไม่อยากจะโทษคุณหมอเลย เขาอาจจะพยายามเต็มที่แล้ว และก็อยากให้ปลาเรารอดเหมือนกัน แต่อีกใจก็คิดว่า ก็เขาเป็นหมอนะ ทำไมไม่ใส่ยาให้ ทำไมไม่รู้ว่ามันแพ้ยาอะไรยังไง ทำไมตัดสินใจแบบนั้น ทำให้อาการมันหนักขึ้นจนไม่อาจเยียวยาได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ คุณหมอเป็นคนบอกเองว่า "หายแน่นอน" สุดท้ายก็อยากฝากไว้นะคะว่า "หมอไม่ใช่ผู้รู้ทั้งหมด เขาอาจจะไม่เคยหรือไม่ได้เลี้ยงปลามาเลยด้วยซ้ำ เขาอาจจะยังไม่รู้อะไรหลายๆ อย่าง ในสิ่งที่คนเลี้ยงปลามานานแล้วรู้ก็ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องอย่างนี้ถามคนที่เขามีประสบการณ์จริงจะดีกว่า" ยังไงก็ระวังๆ กันไว้หน่อยนะคะ ไม่อยากให้มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นเอง จากความไม่เก่งจริงของหมอ
โดย: น้องหมูอินโด [15 ม.ค. 49] ( IP A:58.147.11.240 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   หลังจากหมูอินโดตายไป เพื่อนจึงได้เอาหลอดยูวีมาให้ติด เพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ประกอบกับใช้ฮีตเตอร์ร่วมด้วย จึงทำให้ปลาที่เหลืออยู่ตอนนี้ แข็งแรงและกลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิม ยังนึกเสียดายอยู่ถึงทุกวันนี้ ว่าน่าจะคิดถึงหลอดยูวีซะก่อนคิดถึงหมอ ยังไงก็ยังมั่นใจล่ะ ว่าอาการของเจ้าหมูอินโดตัวนี้ต้องหายแน่ๆ ถ้าอยู่กับเราหลังติดหลอดยูวี!!!
โดย: น้องหมูอินโด [15 ม.ค. 49] ( IP A:58.147.11.240 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   หมอคิดตังรึเปล่าคับ ถ้าไม่ใส่ยาให้แล้วคิดตังอีกนี่แย่เลย
โดย: tedybeer [15 ม.ค. 49 1:13] ( IP A:203.188.40.16 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   อืม ยาวมากครับ เสียใจด้วยครับ
การใช้ยา ไม่ผิดหรอกครับ ในตำรา มีบอกทุกเล่ม หมออ่านหนังสือออก ก็จัดยา เตรียมยาได้แล้วล่ะครับ
แต่สิ่งที่เขาไม่มีคือ ประสบการณ์ และความเอาใจใส่ในตัวปลา
ปลาแต่ละชนิด แต่ละ สถานการณ์ ใช้วิธีรักษา ดูแลต่างๆกัน ไม่ใช่เพียงว่า อ่านตำรา ใช้ยาให้ตรงกับตำรา แค่นั้นก็รักษาได้
การเข้าใจถึงธรรมชาติของปลาแต่ละชนิด การควบคุมปัจจัยการเกิดโรค และความเอาใจใส่
ก่อนที่จะรักษาโรคปลาใดๆได้ เราต้องเลี้ยงปลาเป็นก่อนครับ ถ้าเลี้ยงไม่เป็น ต่อให้ใช้ยาวิเศษยังไง ก็ช่วยยาก
มาวิเคราะห์กันทีละอย่างครับ
1. จริงๆ ยาของคุณไม่ได้หมดอายุหรอกครับ ซุปเปอร์อิค อะ เก็บได้หลายปีเลย มาสรุปว่าหมดอายุ สงสัยอยากจะขายของ
2. หมอ เน้นแต่การใช้ยาเพียงอย่างเดียว โดยไม่นึกถึง วงจรชีวิตของเชื้อจุดขาว ตลอดจนปัจจัยต่างๆที่เอื้ออำนวยต่อการเกิดโรคเลย
3. หมอ เอาปลาของคุณ เป็นหนูทดลองครับ โดยคิดง่ายๆว่า ยาของตนเป็นยาวิเศษ ใส่แล้วต้องหาย แต่พอไม่หาย ก็บอกว่า ประหลาดมาก พระเจ้าจ๊อด หมอไม่เคยเห็นเลย เป็นต้น
4. อย่าคิดว่าสัตว์แพทย์จะเรียนเรื่องสัตว์น้ำมาเยอะนะครับ จริงๆ เรียนมาน้อยมากครับ ในหลักสูตรของเขา หมอที่พอจะรักษาปลาได้บ้าง เนื่องจากเรียนเพิ่มเฉพาะทาง หรือ เทคคอร์สเพิ่ม ในเรื่องสัตว์น้ำครับ ไม่ก็ มีหนูทดลองมาให้เชือดบ่อยๆ นานๆเข้าก็พอจับทางได้
5. หมอดูแลปลาได้แย่มากครับ ปลาป่วยด้วยโรคจุดขาว นำไปใส่ในตู้เล็กๆซึ่งอุณหภูมิจะแกว่งมาก อีกทั้งของเสียจะสะสมเข้มข้นมากด้วย เนื่องจากปริมาตรน้ำน้อย ไม่มีระบบกรอง และไม่มีฮีตเตอร์อีก แบบนี้ แสดงให้เห็นชัดว่า หมอไม่เข้าใจเลย ในเรื่องสุขภาพปลา หรือการเลี้ยงปลา ครับ คิดเหมือนกับว่า มีหมาป่วยตัวนึง ก็จับใส่กรงเอาไว้ รอให้ยา แค่นั้นจบ
6. ยาปฏิชีวนะ ไม่ได้มีฤทธิ์อ่อนกว่า ยารักษาจุดขาวนะครับ มันคนละเรื่องเลยครับ ยาปฏิชีวนะ ใช้รักษาอาการจากแบคทีเรียครับ ส่วนยารักษาจุดขาว ใช้กำจัดปรสิต ครับ มันทดแทนกันไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ใช่หมายความว่า ยาตัวไหนอ่อน ตัวไหนแรง การที่หมอออกมาบอกแบบนี้ เท่ากับเป็นการแก้ตัวให้ตัวเอง ในกรณีที่ลืมใส่ยาให้ปลา และทำปลาอาการแย่ลงต่างหากครับ การที่หมอให้ยารักษาจุดขาวมาใส่ในตู้รวมตอนแรก ก็เป็นการบ่งบอกให้ทราบแล้วครับว่า หมอไม่รู้เลย ว่าปลาหมู แพ้มาลาไคท์กรีน อย่างแรง
7. ปลาทรงตัวไม่ได้ หงายท้องบ้าง นอนราบบ้าง คือ ปลามันใกล้จะตายแล้วครับ แต่อันนี้ เล่นบอกซะหรูว่า ปลามีอาการทางประสาท ว่าเข้าไปโน่น ว่าให้มันดูซับซ้อน ยุ่งยากเข้าไปอีก เผื่อมันตาย จะได้โทษโรคประสาทได้ ไม่ต้องโทษความชุ่ยของตัวเอง

สรุปแล้ว ในกรณีนี้ คุณแค่ติดฮีตเตอร์ในตู้รวม และติด ยูวี ตอนแรก ควบคุมอาหาร เปลี่ยนน้ำบ่อยๆ ก็พอแล้วล่ะครับ ไม่นานก็หาย ไม่จำเป็นต้องย้ายปลาไปไหน เพราะจุดขาวมันจะติดไปด้วย มีฮีตเตอร์ มียูวีแล้ว ไม่จำเป้นต้องใส่ยาครับปลาจะได้ไม่ต้องได้รับผลกระทบจากสารเคมี รักษารวมทั้งตู้เป็นวิธีที่ดีกว่าครับ เพราะเชื้อจุดขาวตัวอ่อน มันกระจายอยู่ทั่วไปในน้ำแล้วล่ะครับ ก่อนจะแสดงอาการบนตัวปลา ปลาตัวไหนไม่แสดงอาการก็อย่าคิดว่ามันไม่เป็นโรค หรือพาหะของโรคนะครับ เพียงแค่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเท่านั้นเอง

โดย: RoF (เจ้าบ้าน ) [15 ม.ค. 49 1:15] ( IP A:58.8.66.66 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   อืมๆแย่แฮะ ของผมเองถ้าป่วยไม่ถึงขั้นร้ายแรงสุดๆคงไม่พาไปหาหมออ่ะครับ
โดย: อีกาฯ [15 ม.ค. 49 1:18] ( IP A:58.9.245.180 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   ผมเคยใช้ยา Super Ich รักษาจุดขาวกับเสือตอผม รู้สึกว่ามันเห็นผลช้ามากเลยคับ แต่มียาตัวนึงชื่อ RID WHITE SPOT 24 HR ผมรู้สึกว่าใช้รักษาจุดขาวได้ผลดีมากเลย ที่ว่าดีในที่นี้คือหายไวทันใจ อันนี้จากที่ปลาผมโดนจุดขาวเล่นงานมา 3 ครั้งคับ ใช้ยาตัวนี้คืนเดียวหายคับ ใช้รักษาเสือตอ 2 นิ้ว แต่ต้องหมั่นเปลี่ยนน้ำ วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 20 เปอร์เซ็น ละก้อใส่ยาเท่าเดิม

อันนี้จากที่ผมใช้มานะคับ แต่ลองถามผู้เชี่ยวชาญอีกทีดีกว่าคับ จะชัวร์กว่า เพราะอาจมีผลข้างเคียง
โดย: tedybeer [15 ม.ค. 49 1:21] ( IP A:203.188.40.16 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   จากที่อ่านดู ถ้าเป็นอย่างที่คุณ"น้องหมูอินโด" บอก ก็แสดงว่า หมอคนนี้ มีประการณ์ เกี่ยวกับปลาน้อยมากจริงๆครับ
แถมยังขาดจรรยาบรรของแพทย์ในหลายๆเรื่องอีกด้วย

อย่างที่คุณ RoF บอกครับ ลำพังเพียงทฤษฎีอย่างเดียว รักษาปลาไม่ได้ครับ มันต้องอาศัยประสบการณ์ และความรู้ความเข้าใจในตัวปลาชนิดๆนั้นๆด้วย

เสียใจด้วยสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น

คุณเป็นคนที่รักปลามากจริงๆ นับถือครับ
โดย: AwayG [15 ม.ค. 49 1:31] ( IP A:61.90.236.233 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   หมอคิดตังทีแรกครับ แต่ครั้งที่2ไม่คิดครับทำหน้ามึนอย่างเดียว
โดย: matoomy [15 ม.ค. 49 20:11] ( IP A:203.113.50.142 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น และข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณ ROF นะคะ
โดย: น้องหมูอินโด [16 ม.ค. 49 22:41] ( IP A:58.147.38.79 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   ตู้ไม้น้ำโปรดถ่ายน้ำ 25-30 % อาทิตย์ละครั้งนะครับ แล้วเรื่องเศร้าๆ มันจะลดน้อยลง แล้วอย่าลืมเปิดไฟตู้ทิ้งไว้ทั้งวันด้วยนะครับ ผมเลี้ยงปลาแบบคุณมา 3 ปี ผ่านเรื่องร้ายๆ มาก็เยอะครับ
โดย: คนรักปลา [30 ม.ค. 49 15:13] ( IP A:203.172.114.124 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน