home-of-gsdlovers.pantown.com
กระดานข่าวชาวเชพเพอด <<
กลับไปหน้าแรก
ทำไงดี เดี๋ยวนี้มันดื้อเหลือเกิน
เนื่องจากตอนนี้ Marble เริ่มมีนิสัยดื้อ เช่น เวลากินข้าวมื้อเย็น มันจะไม่ยอมกินให้เสร็จภายในทีเดียวเหมือนปกติ มันจะกินไป พอได้ยินเสียงหมาตัวอื่นเห่า ก็วิ่งออกไปดู แล้วไม่ยอมกลับมากินต่อ ต้องไปเรียกหรือลากกลับมากิน (เพราะว่าได้กินไปนิดเดียวจริงๆ) เป็นต้น และมีความรู้สึกว่ามันมีความสนใจลดลงกว่าเดิมอีก เช่น ตอนฝึก มันไม่สนใจยิ่งกว่าเดิม กลับชอบเล่น หรือมองไปอย่างอื่นอีก ทั้งทีบางครั้งมันก็เริ่มสนใจบ้างแล้ว แต่จู่ๆก็กลับกลายเป็นแบบนี้ T-T ซึ่งทำให้รู้สึกท้อแท้ในการฝึกเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้จึงพยายามจะหาของเล่นมาฝึกแทนการให้ของกิน มันก็เล่นนะ และคิดว่าชอบด้วย เพราะมันก็ไล่งับดี ทำให้มันกลับมาสนใจบ้าง แต่มันจะงับบอลแย่งจากเราลูกเดียวเลย ไม่ยอมมองนิ่งๆ เหมือนที่ฝึก ทำให้ฝึกไม่ได้อีก กลุ้มใจมากๆค่ะ หรือว่าควรหยุดการฝึกไปก่อน หรือฝึกแค่อาทิตย์ละครั้งจะเป็นอะไรมากมั้ยคะ เพราะตอนนี้เริ่มเปิดเทอมไป เจอการบ้าน และงานมหาโหดแค่ภายใน 2 วันเท่านั้น จึงเริ่มรู้สึกว่า หมดเวลาไปกับการเฝ้าให้มันกินให้เสร็จ และฝึกมันไปมากเกินไปแล้ว
ขอโทดนะคะ ที่รู้สึกเหมือนเห็นแก่ตัวมาก แต่เรื่องเรียนนี่ยอมรับว่า เรียนหนักมากจริงๆค่ะ อยากฝึกมันให้ได้อย่างใจหวัง แต่ก็พยายามแล้ว ยิ่งเป็นแบบนี้ ทำให้ท้อแท้จริงๆ มีวิธีแก้ไขบ้างมั้ยคะ
ปล. นอกจากฝึกMarble ได้ฝึกBulto ด้วยหลังจากที่ฝึก Marbleเสร็จ โดยใช้อาหาร มันก็ดูจะจ้องจดจ่อกับอาหารได้ดีมากๆ (ถ้าไม่มีตัวอื่นอยู่) แต่ก็สบตากับเราน้อยครั้ง หรือสบตาแล้วหันหนีเลย บางทีพยายามจะให้อาหารให้ทันจังหวะที่มันสบตา ก็ไม่ค่อยได้ค่ะ
แต่ตอนนี้กลุ้มใจกับ Marble มากกว่าจริงๆค่ะ
และ สงสัยอีกว่า ของเล่นควรเป็นของส่วนตัวสำหรับแต่ละตัว หรือใช้ร่วมกันได้คะ
โดย: Pongo [1 พ.ย. 48 22:50] ( IP A:161.200.255.162 X: )
ความคิดเห็นที่ 1
**ของเล่นอะไรก็ได้ที่หมาชอบเล่นที่สุด ของเล่นอันเดียวกันจะใช้กับกี่ตัวก็ได้ค่ะ
**คนฝึกหมาอย่างเช่นในต่างประเทศ เขาก็เป็นคนทำงาน หรือเป็นนักเรียน กันทั้งนั้นเหมือนกัน อย่าไปกังวลเรื่อง ไม่มีเวลา(ซึ่งเป็น ประโยคยอดฮิต ของเจ้าของหมาบ้านเรา) ป้าวิเคยบอกแล้วว่า ใช้เวลาตอนที่เจอหมาในแต่ละวันนั่นแหละ ให้เป็นเวลาที่มีคุณภาพที่สุด อาจจะแค่วันละ 2-3 ครั้งๆละ 5-10 นาที ก็เพียงพอแล้ว
ในทางกลับกัน..ถึงจะมีเวลาอยู่กับหมาทั้งวัน แต่ถ้าใช้เวลาอย่างไม่มีคุณภาพ ก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ หากว่า ถึงขั้นที่ วันนึงๆไม่มีเวลาเจอหมาเอาเลย ก็ไม่น่าเลี้ยงหมามาตั้งแต่แรกแล้วละค่ะ
การฝึกหมา เป็นแนวทางปรัชญาในการดำรงชีวิตอย่างหนึ่ง คือ
จงมีความสุข กับสิ่งที่ทำ และทำให้ดีที่สุด ณ เวลานั้น
**รู้สึกท้อแท้ในการฝึกเป็นอย่างยิ่ง
**กลุ้มใจมากๆค่ะ ...ควรหยุดการฝึกไปก่อน...
**รู้สึกเหมือนเห็นแก่ตัวมาก ....
**อยากฝึกมันให้ได้อย่างใจหวัง...
**พยายามแล้ว ยิ่งเป็นแบบนี้ ทำให้ท้อแท้จริงๆ ....
......ถ้ายังมีความรู้สึกด้านลบแบบที่เล่าๆมากับการฝึกหมา ก็ไม่เป็นผลดี ทั้งกับหมาและเจ้าของค่ะ
......ก่อนอื่นต้องมี
Possitive Thinking
ให้ได้ก่อน ซึ่งเรื่องนี้ ถ้าเป็นคนวิตกจริตเป็นปกติอยู่ ก็จำเป็นต้องฝึกนะคะ มีตำราฝึก
การคิดทางบวก
เขียนขายกันเยอะแยะกันเป็นเรื่องเป็นราว มีการเข้าคอร์สอบรมสัมมนากันด้วย แสดงว่า มันน่าจะไม่ง่ายนัก แต่เป็นสิ่งจำเป็น สำหรับการดำรงชีวิตให้มีความสุขค่ะ
.......เรื่องหมาไม่กินอาหาร เรากำหนดเวลาไว้เป็นมาตรฐานของเรา 15-20 นาที ถ้าหมาไม่กินหรือกินไม่หมดก็เก็บ หรือเอาไปให้ตัวอื่นกินซะ ไม่ต้องไปอ้อนวอน เคี่ยวเข็ญ
........ป้าวิไม่ค่อยเข้าใจ ที่หนูบอกว่า..
ตอนฝึก มันไม่สนใจยิ่งกว่าเดิม กลับชอบเล่น หรือมองไปอย่างอื่น
... หนูฝึกอะไรเขาคะ
ในเมื่อการฝึก
ของเรา
คือการทำให้เขาสนุก ดังนั้น ถ้าเขาจะเล่น ก็จงเล่นกับเขา
ค่ะ ด้วยวิธีแบบที่เคยบอกเอาไว้ในกระทู้ก่อนๆ
.........เรื่องหมาจะสบตาเรา หรือไม่ ยังไม่ต้องกังวล เราต้อการแค่ให้เขาสนใจกับสิ่งใด สิ่งหนึ่ง ในตัวเรา(เช่นมือที่ถืออาหาร) ก็พอแล้วที่จะให้รางวัลเขาได้ เมื่อเขาเริ่มมีสมาธิแน่วแน่กับสิ่งนั้นนานๆ ทุกครั้งที่ฝึก
..........ป้าวิเคยพูดมาแล้ว เรื่องขอบเขตของระยะเวลา ที่หมาจะขาดสมาธิ เราต้องเรียนรู้ภาษากายตรงนี้จากหมาให้ได้ด้วย อย่าให้หมารอจนสมาธิขาด หันไปสนใจอย่างอื่น จะทำให้ การให้รางวัลผิดวัตถุประสงค์ไปทันที การฝึกก็จะไม่ได้ผล
.......อยากให้คิดใหม่ ทำใหม่ค่ะ ว่าการดูแลและฝึกหมานี้เป็นกิจวัตรประจำวัน เหมือนการ ตื่นเช้าขึ้นมา ต้องเก็บที่นอน ล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ แต่งตัว พาหมาออกไปอึฉี่ ทำอาหารเช้า กินข้าว ล้างถ้วยล้างชาม ฯลฯ....ซึ่งเป็นสิ่งปกติธรรมดาที่ทำอยู่เป็นประจำ ไม่ใช่ เป็นภาระอันหนักอึ้ง และเป็นปัญหาคาใจที่ทำให้กังวล
.........ทั้งหมด อยู่ที่การจัดการ และจัดตารางเวลา ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตประจำวันค่ะ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่าง เพิ่ม/ลดบางอย่าง เพื่อให้ราบรื่นขึ้น ป้าวิแนะนำอะไรไม่ได้มาก เพราะไม่ทราบรายละเอียด แต่อยากให้หนูเข้าใจว่า การเลี้ยงหมาใหญ่แบบนี้ ต้องมีการปรับเข้าหากันค่ะ แล้วหนูจะรู้สึกว่า
มีสิ่งดีๆมากมายที่จะเรียนรู้ได้จากการเลี้ยงและฝึกหมาเอง
....ขอให้โชคดีค่ะ
โดย: ป้าวิ [2 พ.ย. 48 11:09] ( IP A:203.172.116.203 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
ฝึกหมาพาสนุกนะครับ ถ้าเจ้าของหมาไม่สนุกซะแล้ว หมาจะยิ่งไม่สนุก การฝึกก็จะยิ่งไม่ได้ผลเข้าไปใหญ่
โดย: ตาเฉิ่ม (The Expert) [2 พ.ย. 48 12:57] ( IP A:203.144.184.152 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
"........ป้าวิไม่ค่อยเข้าใจ ที่หนูบอกว่า.. ตอนฝึก มันไม่สนใจยิ่งกว่าเดิม กลับชอบเล่น หรือมองไปอย่างอื่น ... หนูฝึกอะไรเขาคะ ในเมื่อการฝึก ของเรา คือการทำให้เขาสนุก ดังนั้น ถ้าเขาจะเล่น ก็จงเล่นกับเขา ค่ะ ด้วยวิธีแบบที่เคยบอกเอาไว้ในกระทู้ก่อนๆ"
คือ หมายความว่า เค้าจะหันไปเล่นกับสุนัขตัวอื่นค่ะ (เช่น เจ้า Bulto ที่มันนอนแอบอยู่เฉยๆแถวนั้น หรือพี่หมาที่ตัวโตกว่า) กรณีนี้ ยังพอจะเอาอะไรมาล่อเพื่อดึงความสนใจกลับมาได้ แต่เสียเวลาไปเยอะเหมือนกัน กว่าจะหลอกหมากลับมาได้ ที่หนักใจเลย คือ ชอบหันไปทางเสียงที่มีหมาตัวอื่นมันเห่าสิ่งที่อยู่นอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็น คนเดินผ่าน รถที่แล่นผ่านไปมา (ช่วงนี้ยิ่งกำลังก่อสร้างอยู่ด้วย) ไม่ก็หมาจรจัดที่อยู่หน้าบ้านนี่เอง ทำให้มันจะกระโดดโลดเต้น และดิ้นเพื่อให้หลุดจากสายจูงที่ใส่ตอนฝึกให้ได้ จึงจำเป็นต้องปลดสายจูงออก เลิกฝึกไปเลย เพราะมันไม่มีความสนใจในตัวเองเหลืออยู่แล้ว T-T
หนูเพิ่งทราบความจริงบางอย่างว่า พ่อแอบเอากระดูกกองโตให้มันกินก่อนที่จะฝึก โดยหนูไม่รู้ มิน่าล่ะ มันถึงไม่สนใจอาหารในมือเลย ทำให้เริ่มลังเลว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ฝึกโดยใช้ของเล่นมาล่อ จะดีกว่าหรือไม่ อย่างน้อย ก็ไม่ต้องห่วงว่า มีใครแอบเอาอาหารให้มันกินก่อนหรือป่าว เพราะอย่างเช่นวันนี้ พ่อก็เอาให้กินอีก จึงทำให้ต้องงดฝึกไปเลย ก็ทำยังไงมันก็ไม่สนใจแล้ว ฮือๆ แต่จะหาของเล่นที่มันจะชอบและติดมากๆให้ได้ แต่ก็อย่างที่กล่าวไปว่า มันจะหันไม่สนใจอย่างอื่นมากกว่านี่สิ ไม่รู้ว่าจะทำตัวให้น่าสนใจกว่าได้มั้ย เหอๆ
(เมื่อแอบพิมพ์แล้วรอบนึง แต่มันล่ม post ไม่ได้ T-T)
โดย: Pongo [3 พ.ย. 48] ( IP A:161.200.255.161 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
หมามันอิ่มมาแล้วก้ออาจไม่สนใจของเล่นธรรมดามั้ง เหมือนคนแหละ กินอิ่มแล้วก้อขี้เกียจจะกิน กินอิ่มแล้วก้ออยากนอน หมาหันไปสนใจเสียงอื่นๆหรือสนใจหมาตัวอื่นเป็นสัญชาติญาณปกติของหมาอยู่แล้ว ไม่แปลกอะไร ขนาดเอาหมาใช้งานดีๆมาฝึกทุกวันเค้ายังพยายามหาสถานที่ที่ไม่มีสิ่งเร้าอื่นๆเพื่อให้หมายังคงมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการฝึก ลองปรับดูทิ้งสิ่งแวดล้อมและขั้นตอนการฝึก แต่ถ้าลงรายละเอียดลึกกว่านี้ ผมเองก้อจนปัญญา ให้ป้าวิมาตอบดีกว่าเด้อ
โดย: ตาเฉิ่ม (The Expert) [3 พ.ย. 48 3:38] ( IP A:58.64.123.26 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
ตาเฉิ่ม ฝึกหมาไปถึงไหนและ ไม่เอามาอวดกันมั่ง ^__^!!
.
แล้วไหนบอกว่าจะจัด Meeting ไง ไม่เห็นจัดซะทีเลย
โดย: PHaT [3 พ.ย. 48 9:34] ( IP A:61.91.212.19 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
เมื่อคืนก้อจัดที่ร้านนั่งเล่นเอกมัย
โดย: ตาเฉิ่ม (The Expert) [3 พ.ย. 48 11:46] ( IP A:203.144.184.152 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
ตาเฉิ่ม The Expert แกเป็น ปรมาจารย์ฝึกหมาในฝัน (แกฝึกอยู่ในความฝันของแกเอง) แกก็ฝึกไปถึงขอบฟ้าที่แกวาดฝันไว้นั่นแหละ
หนู Pongo คะ......
.......ป้าวิเคยบอกแล้ว ว่า
ต้องฝึกหมาทีละตัว
บริเวณที่ฝึก
ต้องไม่มีหมาตัวอื่น
อยู่ ต้องหาวิธีทำอย่างนั้นให้ได้ค่ะ
........ถ้าหนู
ตั้งใจจะฝึกให้ประสบความสำเร็จ
หนู
ต้องเป็นคนดูแลหมาที่จะฝึกด้วยตัวเอง
โดยเฉพาะเรื่องการให้อาหาร การเก็บและปล่อยออกจากกรง ห้ามคนอื่นยุ่งค่ะ
......."ทำให้มันจะกระโดดโลดเต้น และดิ้นเพื่อให้หลุดจากสายจูงที่ใส่ตอนฝึกให้ได้ จึงจำเป็นต้องปลดสายจูงออก เลิกฝึกไปเลย"
....ถ้าเขายังมีความอยากเล่นอยู่
ยังมีแรงดิ้นรน ก็เป็นหน้าที่ที่เราจะต้อง
เบนความสนใจเขากลับมาที่เราให้ได้
วิธีง่ายๆ คือ อุ้มเขาไปไว้ตรงที่ๆห่างจากสิ่งยั่วยุอื่นๆ แล้ววิ่งเล่นหยอกล้อ ส่งเสียงดังๆแปลกๆให้เขาสนใจ อาจจะต้องกระโดดโลดเต้น ทำท่าทำทางไปด้วย
........ที่อ่านมา สรุปปัญหาได้ว่า
หมาเขาไม่ได้สนใจตัวเจ้าของ
เท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น ลืมเรื่องการฝึกอื่นๆไปก่อนได้เลย
ต้องทำให้หมาสนใจในตัวเจ้าของให้มากที่สุด ยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก
ทำแค่เรื่องเดียวนี่ให้สำเร็จให้ได้ก่อน (นึกให้ดีๆ ว่าป้าวิคุยอะไรกับหนูไปบ้างเมื่อวันที่เจอกันที่วัดไร่ขิง)
ถ้านึกไม่ออกจริงๆ
วันเสาร์นี้ ไปเจอกันที่ศูนย์ฝึกครูอุ๊ ซอยนวลจันทร์ 36 หลังสน.โคกคราม เวลา 09.00-12.00 น.
ป้าวิจะไปทช่วยงาน ทางกลุ่มอาสาสมัครทีมสุนัขกู้ภัย เขาจะไปฝึกเชื่อฟังคำสั่งพื้นฐานกันที่นั่นค่ะ
โดย: ป้าวิ [3 พ.ย. 48 12:25] ( IP A:203.172.116.229 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
แฮะๆ ขอบคุณค่าป้าวิ แต่วันเสาร์หนูไม่ว่างอ่าค่ะ แต่ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะคะ หนูจะพยายามสู้ต่อไปค่ะ วันไหนว่างๆจะเอารูป Marble กับ Bulto มาฝากนะคะ
โดย: Pongo [3 พ.ย. 48 15:12] ( IP A:61.91.217.233 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
ตอนนี้แอบอู้งาน เอารูป Marble มาให้ดูค่ะ ตอนนี้ถ่ายเมื่อ 30 ตค
หนัก 20 กิโลเอง ตอนนี้ 5 เดือนกว่าๆแล้วค่ะ ตัวเล็กไปหรือป่าวคะ
โดย: Pongo [3 พ.ย. 48 21:13] ( IP A:203.151.140.116 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
อันนี้รูป Bulto ค่ะ หูตั้ง 2 ข้างแล้ว หนักประมาณ 11 กิโล อายุ 2 เดือนกว่าๆ ถือว่าขนาดปกติมั้ยคะ
โดย: Pongo [3 พ.ย. 48 21:19] ( IP A:203.151.140.119 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
อันนี้รูปคู่ทั้งสองตัว
โดย: Pongo [3 พ.ย. 48 21:22] ( IP A:203.151.140.119 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
จะลองตอบดูครับ จากประสบการณ์ฝึกหมาแบบพื้นๆของผม ลองเอาไปใช้ดูครับ
ผมคิดว่ามันเกิดจากการที่หมาไม่รู้สึกสนุกหรือเบื่อหน่ายการฝึกของเรามั้งครับ ลองเปลี่ยนแนวทางการฝึกอย่าให้จำเจดูบ้างสิอาจดีขึ้นครับ
หรือว่าเวลาฝึกให้ใส่ปลอกคอสายจูงด้วยแล้วใช้น้ำเสียงดุดันข่มมันซะหน่อยครับ ทำให้มันเกรงกลัวเราอยู่เสมอๆ
หรืออาจจะใช้วิธีกระชากปลอกคอแล้วตวาดแรงๆ ไปเลยครับว่า "Pongo นิ่ง" /// อย่าไปสงสารมันครับ สำหรับไอ้หมาในทุกกรณีเราไม่ควรตามใจมัน ///
ถ้ารู้ว่าตัวเองเสียงเบาเวลาฝึกก็ให้ถือกระดาษพับยาวพอประมาณ เวลาที่มันดื้อก็ให้ฟาดกระดาษพับ ตีมันลงไปบนจุดที่ทำให้เกิดเสียงดัง ทำท่าตีให้มันดูน่ากลัวด้วยครับ
การฝึกควรเอาขนมหรือของกินกลิ่นหอมๆ ล่อ ตั้งไว้ใกล้ๆ บริเวณจุดฝึก ถ้ามันตั้งใจทำได้ดีจบการฝึกก็ยกให้มัน
ถ้าท้องมันอิ่มอยู่หรือไม่มีความอยากอาหาร ก็ต้องใช้ของเล่นล่ะครับ แต่ผมแนะนำให้ให้ย้ายไปฝึกหลังจากมันขึ้เสร็จแล้วดีกว่า
สำหรับในทุกมื้อผมไม่เคยให้อาหารสุนัขจนอิ่ม เพราะผมต้องการให้มันตื่นตัวจากอาหารที่ผมถืออยู่ในมือเสมอๆครับ
โดย: Rociel [4 พ.ย. 48 10:58] ( IP A:58.64.127.9 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
คห.11 มองหาตั้งนานว่ารูปคู่ตรงไหน ไหงเจ้า Bulto ไปแอบอยู่ในหลืบขนาดนั้นล่ะคะ Bulto ขนปุยเชียวเนอะ น่าร๊ากกกก.....
Marble ก็น่ารักค่ะ หนัก20กิโล เท่าเฟรนช์ฟรายส์เลย แต่เฟรนช์ฟรายส์จะ7เดือนแล้ว แล้วก็พันธุ์ผสมด้วย คงเทียบกันไม่ได้มั้งเนอะ (แต่แค่นี้ มานอนตักทีก็จะจุกแล้ว ^ ^")
โดย: นู๋ปอย [4 พ.ย. 48 16:27] ( IP A:58.9.237.119 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
ความเห็นที่12 อ่านแล้วน่ากลัวจัง อาจจะถูกหรือผิดก็แล้วแต่วิจารณาญานของแต่ละคน ความเห็นส่วนตัวคิดว่าการฝึกหมาถ้าตั้งใจทำให้หมากลัวก็จบตั้งแต่ยังไม่ได้ฝึกแล้ว
ต้องขอโทษคุณRocielด้วยที่มีความเห็นขัดแย้ง
โดย: คนรักหมา [5 พ.ย. 48 8:18] ( IP A:203.172.89.99 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
หุหุหุ ไม่จับมัดมือ มัดเท้า แล้วกระทืบไปเลยหละคร๊าบ..... หุหุหุ อ่านไปนึกภาพตามไปนี่สงสารหมาคุณจังเลย
โดย: PHaT [5 พ.ย. 48 13:02] ( IP A:61.91.179.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
ผมว่าทุกวันนี้เราทุกคนก็มีชีวิตอยู่ได้บนพื้นฐานของความกลัวนะครับ เป็นหลักคิดตามแบบอย่างธรรมชาติอย่างที่สุดเลย
ถามตัวเราเองว่าตอนเด็กๆ ถ้าเราดื้อ ผู้ปกครองจะทำยังไงให้เราเชื่อฟัง เชื่อได้เลยว่าวิธีที่ให้ผลรวดเร็วที่สุดเลยคือการแสดงสีหน้าไม่พอใจเราขึ้นเสียงกับเราและการตีเราครับ
แล้วถ้าเราทำถูกต้องผู้ปกครองมีวิธีทำยังไงให้เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำน่ะถูกต้อง ง่ายๆ เลย ก็คือการแสดงสีหน้าพอใจและการแสดงน้ำเสียงอ่อนหวานในการชมเรา จนไปถึงการให้รางวัลครับ
หมามันไม่มีสมองที่คิดอะไรได้ซับซ้อนและเชื่อมโยงได้อย่างคนเราเพราะฉะนั้นการที่เราจะสอนหมาให้เข้าใจได้เราก็ต้องคิดตามแบบหมาด้วย
ถ้าเราเป็นหมาจ่าฝูงที่ต้องปกครองให้หมาลูกฝูงเชื่อฟังเราต้องทำยังไง ผมว่าคิดง่ายๆ แค่นี้ก็ฝึกหมาได้แล้วครับ
โดย: Rociel [5 พ.ย. 48 19:59] ( IP A:58.64.127.41 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
สวัสดีค่ะ คุณ Rociel ไม่ได้เจอนานเลย .... ดีค่ะ ที่เข้ามาช่วยกันร่วมแสดงความคิดเห็น ให้มีมุมมองหลากหลาย
เรื่องของ
การฝึกหมา
หรือสอนลูกสอนหลานนี่ ก็แล้วแต่วิธีการ ความคิด ความเชื่อ ของใครของมันนะคะ จะไปฟันธงว่า วิธีนั้นดี/ไม่ดี นั้น คงไม่ได้หรอกค่ะ ป้าวิเห็นว่า
สิ่งสำคัญคือ ความเหมาะสม และผลลัพท์ที่ได้ ว่า เขาเข้าใจตามวัตถุประสงค์ที่เราต้องการสื่อรึเปล่า
(หรือทำไปด้วยความกลัวเท่านั้น)
สำหรับตัวป้าวิเอง ก็เลี้ยงลูกให้โตมาด้วยการระวังไม่ให้เขามีโอกาสได้ผ่านเข้าไปพบเจอสิ่งที่ไม่ดี คอยสนับสนุนและเปิดทางให้เขาได้มีโอกาสได้สัมผัสสิ่งดีๆในชีวิตให้มากที่สุด เขาก็เรียนรู้ของเขาได้เอง ว่าสิ่งไหนที่ทำแล้วดี มีความสุข ให้ความรู้สึกที่ดีๆ ในที่สุดเขาก็เติบโตขึ้นมา เป็นคนที่นับว่าค่อนข้างมีคุณภาพคนหนึ่งในสังคม ไม่เคยสร้างความทุกข์ยากลำบากใจให้พ่อแม่เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ส่วนเรื่อง
การฝึกหมา
ป้าวิก็เห็นว่า
การไม่ปล่อยให้หมามีโอกาสทำผิด...ทำให้เราไม่ต้องลงโทษหมา หมาก็จะมีแต่ความรู้สึกดีๆ ในการฝึกและการใช้ชีวิตร่วมกับคน
ซึ่งป้าวิเห็นว่ามันไม่มีผลเสียต่อหมาและต่อความรู้สึกของคนฝึก และจากประสบการณ์แล้ว ก็พบว่าเป็นวิธีที่ได้ผลดีมากๆด้วย ก็เลยเลือกใช้วิธีทางบวกนี้ค่ะ สบายใจเรา สบายใจหมา
เรื่อง การต้อง
คิดแบบหมา
ให้ได้ก่อน
จึงจะฝึกหมาให้เข้าใจ
ได้ดีนั้น ป้าวิเอง พูดคำนี้มานานมากแล้วค่ะ และ
เป็นหลักการสำคัญในการฝึกหมาด้วยวิธีทางบวก
นี้ด้วย
โดย: ป้าวิ [5 พ.ย. 48 22:34] ( IP A:203.172.116.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
สวัสดีครับจาย์ป้า เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยได้เล่น Internet เลยครับ
ก่อนที่จะโดนหาว่าผมนั้นเป็นคนซาดิส ต้องขอทำความเข้าใจก่อนว่าตัวผมเองนั้นก็ใช่ว่าจะนิยมชมชอบที่จะใช้วิธีการแรงๆ นะครับ
(และใน คห 12 อ่านดูแล้วแรง แต่จริงๆก็ไม่ได้แรงอย่าที่คิดนะครับ กระดาษที่เอามาตีก็เป็นกระดาษแข็งพับเป็นพัดตีแค่ให้เกิดเสียงดัง แบบที่พวกตลกใช้เล่นกัน
ส่วนกระชากปลอกคอก็แค่กระตุกๆ เท่านั้นเอง แต่ 2 อย่างนี้มันจะทำให้หมากลัวมากและจำได้เท่านั้นเอง)
และโดยส่วนตัวแล้วผมจะใช้วิธีการนี้ก็เฉพาะตอนที่ดูแล้วไอ้หมามันทำได้และเข้าใจแต่ว่ามันกลับดื้อขี้เกียจโอ้เอ้ว๊อกแวกไม่ยอมเชื่อฟังมันก็ต้องมีกันบ้างเหมือนกัน ให้พอเป็นกระสัยยาครับ
การที่จะทำให้ไอ้หมามันเชื่อฟังเรานั้นสำหรับผมนั้นมันเป็นสิ่งจำเป็นเหมือนกันที่จะต้องให้มันมีความเกรงกลัวเราอยู่บ้างครับ
ผมชอบแบบว่าพอเรายิ้มมันก็ส่ายหางดีใจกระโดดจูบปากเรา แต่พอเราบึ้งหน้าเครียดแยกเขี้ยวใส่ มันก็จะรู้อาการ กลัวตัวงอหงอหงอยไปอะไรประมาณนั้นครับ
จะร้องเพลงให้ฟังครับ
"
เพราะผมเกิดมาเป็นผู้ชายผมเลยต้องเรียนรด. (รักษาดินแดน) ถ้าผมไม่เรียนรด. เกิดจับผิดใบต้องเป็นทหารเกณท์ เป็นทหารแล้วไม่ปฎิบัติตามคำสั่งผมจะถูกทำโทษ
"
แต่พูดก็พูดเถอะครับ การฝึกหมานั้นมันมีหลายปัจจัยที่เข้ามากระทบกลยุทธ์ในการฝึกหมาเหมือนกันนะครับ
มันเกี่ยวทั้งสภาพแวดล้อมรอบๆตัวของหมาวิธีการเลี้ยงดูและอุปนิสัยเฉพาะตัวของหมาที่ถูกปลูกฝังมาด้วย เพราะฉะนั้นวิธีการฝึกก็อาจแตกต่างกันได้ครับ
ตามที่จารย์ป้าบอกว่าการระวังและไม่ปล่อยให้หมามีโอกาสทำผิดได้ แสดงว่าจาย์ป้าได้สร้างสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การฝึกหมาเป็นอย่างยิ่งครับ
ในกรณีของ Pongo เองซึ่งมีปัญหาทางด้านสภาพแวดล้อมหลายอย่างแล้วตามที่จาร์ป้า ได้บอกไว้ใน คห 7 ซึ่งถ้าแก้สิ่งเบื้องต้นเหล่านั้นไม่สำเร็จหรือแก้ได้บางจุด
ก็ยากนะครับที่จะฝึกหมาให้บรรลุผลสำเร็จ
ตามแนวทางการคิดทางบวก
ได้ ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าบางทีก็ต้องทำให้เราจำเป็นต้องประยุกต์แนวทางการฝึกสอนให้เหมาะแก่สภาพแวดล้อม
ที่อาจแก้ไขได้ยากด้วยครับ แม้บางทีวิธีมันอาจจะดูร้ายๆก็ตาม
โดย: Rociel [6 พ.ย. 48 4:30] ( IP A:58.64.127.41 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
เอ้ย ทำไมย่อ หน้า เว้นวรรค มันไม่สวยเหมือนจารย์ป้าเลยเนี่ย ทั้งๆที่จัดไว้ดีแล้วนา
โดย: Rociel [6 พ.ย. 48 4:33] ( IP A:58.64.127.41 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
คุณ Rociel ตื่นแต่ดึกดีนะคะ นี่ก็เป็นคุณสมบัติที่ดี ในการใช้ชีวิตของคน โดยเฉพาะคนฝึกหมา....
**มันเกี่ยวทั้งสภาพแวดล้อมรอบๆตัวของหมาวิธีการเลี้ยงดูและอุปนิสัยเฉพาะตัวของหมาที่ถูกปลูกฝังมาด้วย เพราะฉะนั้นวิธีการฝึกก็อาจแตกต่างกัน**
แม่นแล้วค่ะ....ที่คุณว่ามา ถึงได้บอกว่าเราจะมาฟันธงไม่ได้ ว่าแบบไหนดี หรือไม่ดี ถูก หรือ ผิด เราพูดเพียงแต่ว่า..
เราชอบ
หรือ
เราไม่ชอบ
อันเป็นสิทธิทางความคิดและการพูดโดยชอบธรรมของเรา
เรื่องของ
การสร้างสภาพแวดล้อม
นั้น ถูกต้องค่ะ แต่ไม่ใช่เพียงเพื่อการฝึกหมา
เป็นการปรับปรุงสภาพแวดล้อม เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
(ไม่ว่าหมา หรือ คน)ค่ะ หากเราจะเอาหมาเข้ามาเลี้ยง หรือจะมีลูกสักคน มาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในบ้านนี้ เราก็ควรจะต้องปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้าน ให้เหมาะสมที่จะทำให้ หมา หรือลูกของเรา
มีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย และปลอดภัย
ไม่มีสิ่งที่จะชวนให้คิดหรือทำ เรื่องที่อาจเป็นอันตรายหรือเป็นผลทางลบต่อตัวเขาเองหรือสมาชิกคนอื่นในบ้าน
ยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆค่ะ อย่างเช่นที่บ้านในกทม. ลูกสาวได้รับหมาบางแก้วถูกทิ้ง (ที่ดุและกัดเจ้าของ มา 3 บ้านแล้ว)ตัวหนึ่งมาเลี้ยง ต่อมามีปัญหาที่หมาตัวนี้สามารถปีนกระโดดข้ามประตูรั้วบ้าน ออกไปได้ ซึ่งก็ มีโอกาสไปมีเรื่องมีราวกับหมาข้างนอก หรือผู้คน , เด็กเล็กที่เดินผ่านไปมา เราก็รีบป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ โดยปรับปรุงประตูรั้วบ้าน เสริมให้สูงขึ้นและปิดช่องที่หมาจะปีนลอดออกไปได้เสียให้หมด ดังนี้เป็นต้น
อยากจะชี้ให้เห็นว่า เรื่องบางเรื่อง ที่ผู้คนมากมาย คิดว่า ทำไม่ได้ หรือถึงทางตัน แล้วนั้น บางทีอาจเป็นเพราะตีกรอบความคิดไว้ เมื่อคิดมาถึงเส้นกรอบ ก็บอกตัวเองว่าไปไม่ได้แล้ว......อย่างเช่นเรื่องข้างบนที่เล่ามา เกือบ 100%จะคิดว่า การแก้ไขหรือป้องกันปัญหานี้ได้ คือแก้ที่ตัวหมา เช่น การล่ามหมาไว้ หรือจับขังกรง หรือถ้าต้องการให้หมาเข็ดหลาบ ก็ใช้วิธีเฆี่ยนตีทันทีที่หมากำลังปีน หรือทันทีที่หมากลับมาบ้าน เป็นต้น
เรื่องของ
การประยุกต์แนวทางการฝึกสอน
ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ก็ถูกต้องอีกเช่นกันค่ะ ซึ่งก็
เป็นเรื่องของ
ทิศทางในการคิด
ของแต่ละคน สำหรับป้าวิเอง เป็นคนที่มีทิศทางการคิดในทางบวก ในทุกเรื่องค่ะ
เป้าหมายสำคัญของการฝึกหมา
คือต้องการให้
หมาและผู้ฝึก สามารถสื่อภาษาเดียวกันทั้งภาษาเสียง ภาษากาย และภาษาใจ ด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริง
ปฏิกิริยาตอบรับภาษาที่สื่อถึงกัน จึงควรแสดงออกเป็นปกติ ไม่ใช่แสดงออกด้วยความกลัวเกรง เช่นก้มหัว หูลู่ หลังโก่ง ตัวงอ หางตก หลบตา มองไปทางอื่น...ฯลฯ...ฯลฯ เมื่อสื่อกันได้เข้าใจดีอย่างแท้จริงแล้ว ก็แทบจะไม่ต้องมีการลงโทษกันอีกเลย
แนวทางการฝึกหมาทางบวก ก็หมายความตามนั้นจริงๆ คือมีแต่บวก ไม่มีลบ มีแต่การแตกแขนงทางความคิด ที่จะหาวิธีการฝึกสอนให้ได้ผลดีไปได้เรื่อยๆ ไม่มีทางตัน หรือ คำว่าทำไม่ได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ ผู้ฝึกต้องใช้ความคิดพลิกแพลง และรู้จักสังเกตปฏิกิริยาตอบรับของหมาไปด้วยตลอดเวลา
ความจริงแล้ว รายละเอียด วิธีการฝึกสอนหมา ให้เข้าใจเป็นทางเดียวกันกับผู้ฝึกนั้น มีมากมายหลายกระบวนท่ายิ่งนัก ไม่ใช่ทำท่าแบบเดิมซ้ำๆซากๆจนหมาเบื่อ ก็อย่างที่บอกไว้ข้างบนว่า ผู้ฝึกต้องคิดตลอดเวลา..........
คิด...คิด....คิดว่า ถ้าทำแบบนี้หมายังทำได้ไม่ดี เราจะลองเปลี่ยนไปทำแบบไหนดี ไม่ใช่มัวแต่คิดว่า ทำไม...ทำไม...ทำไม หมามันถึงไม่ทำอย่างที่เราสั่งซักที(วะ)
โดย: ป้าวิ [6 พ.ย. 48 9:16] ( IP A:203.172.116.232 X: )
ความคิดเห็นที่ 21
เหอๆ รู้สึกว่า กระทู้นี้ ทำให้มีการวิพากวิจารณ์วิธีฝึกหมาหลากหลายแนวคิดจัง อิอิ
วันนี้ ข่าวดีค่า หลังจากไปต่างจังหวัด (อีกแล้ว) มา 2 วัน กลับมาฝึกโดยแยกตัวอื่นออกไปให้หมดเฉพาะตอนฝึก และฝึกก่อนกิน เหลือเจ้า Marble อยู่กับเรา 2 ต่อ 2 ก็ทำได้ดี มีสมาธิดีขึ้นมากเลย แล้วก็ลองสั่งนั่ง ก็ทำได้ดี ส่วนพาเดิน(ชิด) ยังชอบเบียดมาหาเพื่อจะแย่งกินอาหารในมือ ก็หวังว่า ถ้าใช้วิธีนี้ มันจะยังคงมีสมาธิดีแบบนี้ต่อไปนะ จะได้มีความคืบหน้าในการฝึกเสียที เย้ๆ
ตัว Bulto ก็สมาธิดีมาก จ้องอาหารแทบไม่หันไปไหนเลย แต่ยังไม่ค่อยสบตาเราจังๆ (สงสัยเพราะเราหน้าดุหรือป่าวเนี่ย) แต่พอมันสบตาแปบ ก็พยายามรีบให้อาหาร มันก็เริ่มกล้ามองตาเราบ้างแล้ว แต่ยังมองไม่นาน ก็กลับไม่มองอาหารต่อ เย้ๆ (อีกที)
จะมารายงานความคืบหน้าในการฝึกไปเรื่อยๆนะคะ (ถ้ามันคืบหน้าจริงๆ) แอบดีใจที่ในที่สุดก็หาวิธีแก้ปัญหาต่างๆในการฝึกได้ซักที ยกเว้นปัญหาการเรียนของตัวเองนี่สิ -_-!
โดย: Pongo [7 พ.ย. 48 1:14] ( IP A:203.151.140.118 X: )
ความคิดเห็นที่ 22
นับว่าเป็นข่าวดียามเช้า ที่ทราบว่า หนูมีความคืบหน้าในการฝึกหมา
** ฝึกโดยแยกตัวอื่นออกไปให้หมดเฉพาะตอนฝึก และฝึกก่อนกิน**
ถ้ากลับไปอ่านกระทู้แรกๆของหนู จะเห็นว่า ป้าวิได้บอกอย่างนี้ไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งถ้าหนูได้จัดสถานะการณ์ตามที่บอกไว้ หมาก็คงทำได้มานานแล้ว หนูคงจะเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว ว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่หมาเลยนะคะ
ถ้าหมาเริ่มสบตาแล้ว อย่าลืม
พูดคำสั่ง "มอง"(
หรือคำอื่นแล้วแต่เจ้าของกำหนด)
พร้อมให้รางวัล
ทันทีทุกครั้งที่หมาสบตา ถ้าเขายังคงสบตาเราอยู่ ก็ให้รางวัลเขาเรื่อยๆ เป็นระยะๆ คอยสังเกตให้ดี
อย่าปล่อยให้หมาสมาธิขาด
เมื่อเห็นว่าหมา
จ้องเราด้วยแววตาอย่างมุ่งมั่นมีสมาธิดีที่สุด
ให้รางวัลทีเดียวหลายๆคำ แล้วสั่ง
เลิกฝึก+ เล่นกับหมาให้สนุกมากๆ
เอาหมาออกมาฝึกแต่ละครั้ง ไม่ควรเกิน 5 นาทีสำหรับหมาเด็กๆ
วิธีข้างบนนี้ จะเป็นไปตามที่เคยบอกไว้แล้ว ว่า
ให้เลิกฝึกตอนที่หมาทำได้ดีที่สุดแล้วได้รางวัล
และมีการเล่นสนุก ทั้งนี้ เพื่อให้หมามีความรู้สึกในด้านดีมากๆต่อการฝึกติดอยู่ในใจต่อไป ต่อๆไป เมื่อหมารู้ว่าเราจะเอาออกมาฝึก ก็จะตื่นเต้น ร่าเริง ดีใจที่จะได้ฝึก เพราะจะได้กิน ได้เล่น ได้สนุกสนานกับสิ่งดีๆในชีวิต (ไม่ใช่พอพาออกมาเตรียมฝึก ก็ก้มหน้า คอตก หางตก)
โดย: ป้าวิ [7 พ.ย. 48 8:18] ( IP A:203.172.116.198 X: )
ความคิดเห็นที่ 23
เดิมลองแยกเล้วครั้งหนึ่ง แต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จ เพราะตัวอื่นได้ส่งเสียงร้องและเห่าอยู่ตลอดเวลา แต่คราวนี้ได้แยกแบบห่างไกลกันมากเลยกว่าเดิม (มากกว่าเดิมเล็กน้อย เพียงแต่ไม่เห็นกัน และโชคดีที่คราวนี้มันเงียบ)
และหนูจะนำสิ่งที่ป้าสอน มาปรับปรุงต่อไปค่ะ
โดย: Pongo [7 พ.ย. 48 10:51] ( IP A:161.200.255.161 X: )
ความคิดเห็นที่ 24
การฝึกหมา การให้รางวัล และการทำโทษ เป็นของคู่กันทุกอย่างต้องพอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป แต่สิ่งสำคัญมันขึ้นอยู่กับช่วงจังหวะของเวลาในการให้รางวัล หรือการทำโทษ ต้องถูกต้องจึงจะได้ผล หมามันจะได้รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด คนฝึกหมาบางคนคิดว่ากำลังฝึกหมา แต่เปล่าหรอกนะหมานะมันกำลังฝึกเจ้าของมันให้ทำตามในสิ่งที่มันต้องการ
โดย: น้องใหม่ GSD [7 พ.ย. 48 16:34] ( IP A:58.10.35.23 X: )
ความคิดเห็นที่ 25
เป็นกระทู้ที่อ่านแล้วชอบมากค่ะ
อ่านแล้วยังอยากลองใช้วิธีของคุณRocielกะเจ้าไวไว
บ้างเลย ส่วนทาโร่น่ะว่าง่ายอยู่แล้ว ต้องลองค่ะ
โดย: khunwaiwai [7 พ.ย. 48 16:50] ( IP A:61.19.220.5 X: )
ความคิดเห็นที่ 26
อ้าว พักนี้ได้เจอคนเก่าๆหลายคน สวัสดีค่ะคุณน้องใหม่ เอารูปลูกชายมาให้ดูค่ะ หล่อขึ้นมั้ย
โดย: ป้าวิ (เจ้าบ้าน
) [7 พ.ย. 48 20:34] ( IP A:203.172.116.201 X: )
ความคิดเห็นที่ 27
นี่หลานชายค่ะ ลูกชายตา Brix จากกำแพงแสนค่ะ
โดย: ป้าวิ (เจ้าบ้าน
) [7 พ.ย. 48 20:39] ( IP A:203.172.116.201 X: )
ความคิดเห็นที่ 28
Zonka ลูกชายตา Brix ฝึกโฟกัส กับอาจารย์เจี๊ยบ
โดย: ป้าวิ (เจ้าบ้าน
) [7 พ.ย. 48 20:48] ( IP A:203.172.116.201 X: )
ความคิดเห็นที่ 29
โอ๊ะเค่...โฟกัสดีมั๊กๆ มาเล่นกันเร๊ว.....
โดย: ป้าวิ (เจ้าบ้าน
) [7 พ.ย. 48 20:53] ( IP A:203.172.116.201 X: )
ความคิดเห็นที่ 30
วันนี้ Marbleแอบดื้อเล็กน้อย คือ มันนั่งตามที่สั่งถูกต้อง แต่มันกินแล้ว ไม่ยอมโฟกัส แม้แต่อาหารเหมือนทุกครั้ง มันจะมองไปยังที่ๆนึง ซึ่ง ไม่รู้ว่ามันได้กลิ่น หรือได้ยินเสียงอะไร เอาแต่มองไปที่นั่น แล้ววันนี้ก็ตัวอื่น ดันส่งเสียงร้องขึ้นเป็นระยะๆตลอด เลยทำให้ฝึกได้ (แต่ไม่ดีเท่าเมื่อวาน ได้ดีแค่ครึ่งเดียว)
ส่วน Bulto ก็ฝึกโฟกัสได้ดีพอควร (เหมือนเดิม ไม่ได้ดีขึ้น เพราะยังคงมองอาหารเป็นหลัก มองตาเราแปบเดียว ยังดีที่มันสบตาเรา ตอนเราสั่งว่า มอง)
แต่เดี๋ยวนี้ มันแปลกๆที่ว่า ไม่ยอมกินอาหารจากชามตัวเอง ตอนถืออาหารในมือ (แม้แค่กำอยู่บนชามมันนั่นแหละ) มันถึงยอมกิน?? ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เป็นทั้ง 2 ตัวเลย -_-!
โดย: Pongo [7 พ.ย. 48 21:53] ( IP A:161.200.255.162 X: )
ความคิดเห็นที่ 31
ตาเจี๊ยบ เดี๋ยวนี้ ชักจะลงพุงแล้วนะเนี่ย อีกหน่อยคงต้องเรียก เสี่ยเจี๊ยบ อิอิอิ
โดย: PHaT [7 พ.ย. 48 22:11] ( IP A:61.90.74.151 X: )
ความคิดเห็นที่ 32
Zonkaน่ารักจริง ดีใจจังที่เห็นลูกBrix ที่บ้านก็ลูกBrix ค่ะชื่อกล้าหาญ กล้าหาญเป็นหมาสีกระรอกที่หนักไปทางดำ นิสัยไม่นิ่งยุกๆยิกๆ ชอบกระโดด ยืน2ขา ฝึกไม่ค่อยได้เพราะวุ่นแต่ก็รักน่ะ กินเก่งมากแม้นจะเคี้ยวไม่ใหวกินโครงไก่สับเป็นชี้นเนื้อวัวผักรวม1กิโล/วันอยากให้ป้าวิเล่าเรื่องZonka และการเลี้ยงดูเพื่อเป้นแนวทางค่ะ อ้อถ้ากรงสูงจากพื้นฟุตกว่าๆกระโดดขึ้น-ลงขาจะมีปัญหามั้ยค่ะ แล้วก้ชอบวิ่งไปที่ลื่นเลยล้มบ่อยๆ
โดย: น้านา [7 พ.ย. 48 23:24] ( IP A:203.172.44.9 X: )
ความคิดเห็นที่ 33
ตาเจี๊ยบแกยังผอมเท่าเดิมแหละ แต่วันที่ถ่ายรูปเนี่ย ใส่เสื้อกั๊กฝึกหมาอยู่ข้างในด้วย ไปสาธิต ฝึกพื้นฐานให้อาสาสมัคร SAR Dog เขาขอให้ใส่เสื้อของโครงการที่มีโลโก้(ของสปอนเซอร์) ก็เลยใส่ทับลงไป ทำให้ดูอวบกว่าตัวจริง
โดย: ป้าวิ [7 พ.ย. 48 23:29] ( IP A:203.172.116.201 X: )
ความคิดเห็นที่ 34
ดีใจมากที่เห็น Boss ดูเขามีความสุขดี ดูจากภาพสุขภาพคงแข็งแรง ไม่รู้ว่าขาหลังดีขึ้นหรือเปล่าครับป้าวิ มันมีความสุขผมก็สบายใจ
ลูกหมาเป็นลูกของ Brix กับแม่หมาของพี่เอกชัย ใช่หรือเปล่าครับ เป็นอย่างไรบ้างจะดีเหมือนพ่อหรือเปล่า กระดูกดูดีจังนะครับ ลูกหมาชุดนี้เพ็ดดีกรีสวยมากผมยังชอบเลย
ตอนนี้ต้องกลับมาฝึกหมาอีก เพราะ Arex พึ่งกลับมาได้สักอาทิตย์หนึ่งบ้ามากจริงๆไอ้หมาตัวนี้ ป้าวิเชื่อไม๊ครับมันเล่น
โดย: น้องใหม่ GSD [7 พ.ย. 48 23:47] ( IP A:58.10.36.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 35
สวัสดีค่ะ คุณน้านา เงียบหายไปนานเลย ดีใจที่ได้ข่าวอีกค่ะ
กรงขนาดนั้นสูงเกินไปสำหรับลูกหมาเล็ก และยิ่งถ้าตั้งบนพื้นแข็ง ไม่ดีเลยค่ะ ถ้าจำเป็นต้องใช้แบบนั้นจริงๆ ต้องเอาพรมหนาๆมาปูหน้ากรง เวลาเขาลงจากกรง จะได้มีความยืดหยุ่นบ้าง ต้องยึดพรมให้ติดกับพื้นอย่าให้เลื่อนไปมาได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นแย่กว่าเดิม
เรื่องวิ่งแล้วไปหกล้มเพราะพื้นลื่นนี่ อย่าให้มีอีกเลยนะคะ อันตรายมากที่สุด ช่วงนี้ลูกหมายังพัฒนาโครงสร้างและการยึดข้อกระดูกไม่เต็มที่ ล้มกระทกพื้นแข็งๆผิดท่าไปอาจจะเดี้ยงถาวรได้ง่ายๆ
โดย: ป้าวิ [8 พ.ย. 48 9:15] ( IP A:203.172.116.204 X: )
ความคิดเห็นที่ 36
ตอบคุณ น้องใหม่GSD
ตาบอสแกก็เดิน-วิ่งได้ ปกติดีค่ะ แต่เวลานั่ง ดูคล้ายๆแกจะต้องขยับท่าทางให้ถนัดๆก่อน บางครั้งจะขยับขาที่เจ็บออกหน่อยนึง จะค่อยๆนั่ง และเวลายืน บางครั้งจะยกเท้าให้ลอยไว้นิดๆไม่วางลงเต็มเท้า
ส่วนเรื่องอื่นๆแกก็มีความสุขดีค่ะ ได้ไปแข่งกัดที่งานโคราชมาทีนึง วิ่งวนซุ้มแรงมากไปหน่อย ตีวงหลุดโค้ง ล้มเลย แต่ลุกขึ้นมาวิ่งต่อ เห่าซุ้ม กัด ต่อไปตามปกติได้ ชนะที่ 1 ด้วยค่ะ
ลูก Brix ครอกนี้ เท่าที่เห็น Drive ดีมากทุกตัว แต่คงไม่เคยออกมาจากคอกเลี้ยงเลย ตั้งแต่เกิดจนสามเดือนนี่ ทุกตัวจะวิ่งกระโดดฟัดแต่ขากับเท้าคน อยากเล่นมาก แต่ไม่รู้จักของเล่น วิ่งกันสะเปะสะปะไปทั่ว ไม่อยู่นิ่ง มองอะไรไม่มีเป้าหมาย ตา Zonkaนี่ กว่าจะรู้จักจ้องมองของที่กำลังล่อให้เล่นอยู่นี่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ใจดี ไม่ขี้กลัวหรือระแวงผู้คน หรือเสียงปืน เสียงเคาะกะละมัง ฯลฯ แต่ยังไงก็ยังห่างไกลป่าป๊าอีกหลายพันลี้ค่ะ
เดี๋ยวจะหาเวลาไปชม Arek บ้างค่ะ
โดย: ป้าวิ [8 พ.ย. 48 9:58] ( IP A:203.172.116.204 X: )
ความคิดเห็นที่ 37
สวัสดีครับคุรน้องใหม่ GSD ดีใจครับที่คุณกลับฝึกสุนัขอีก จะได้ทำให้บ้านหลังนี้มีสีสรรขึ้นอีกมาก ตา PHAT และคุณ KANTO จะได้ไม่ว้าเหว่
เจ้า Arex เป็นยังไงบ้าง ได้ SchH 3 มาหรือยัง ยังไงก็เอาไปแข่งกัดที่สวนสามพรานให้ชมเป็นบุญตาหน่อยนะครับ
โดย: snooker [8 พ.ย. 48 11:15] ( IP A:203.172.109.168 X: )
ความคิดเห็นที่ 38
อ่าฮ่า หวัดดีครับเฮีย น้องใหม่ GSD นี่เพิ่งไปโหลดคลิป Arek ที่อยู่ในเวบตาลุคมาดูเอง วันก่อนไปเยี่ยมป้าวิได้เจอน้องบอสยังน่ารักเหมือนเดิมเลย แล้วเจอกันนะครับ
โดย: ตาเฉิ่ม (The Expert) [8 พ.ย. 48 12:04] ( IP A:203.144.184.152 X: )
ความคิดเห็นที่ 39
สวัสดีครับ คุณ Snooker และ ตาเฉิ่ม
Arek แค่สอบผ่าน SchH I ครับยังไปไม่ถึง SchH 3 ขนาดสอบ SchH I
ยังต้องสอบถึง 2 ครั้ง มันสอบตก OB คงเพราะความบ้าคลั่งของตัวมันเอง มันมี Drive ที่มากเกินความจำเป็นสำหรับหมาที่จะใช้ในการแข่งขัน ต้องเรียกว่ามี Twin Turbo แต่ว่าจะเอาไปเข้าร่วมในการแข่งขัน ตอน C ที่สวนสามพราน ตอน B ยังไม่ไหวหมายังทำงานไม่ดีคงต้องใช้เวลา่อีกสักพักใหญ่
โดย: น้องใหม่ GSD [8 พ.ย. 48 13:45] ( IP A:58.10.39.100 X: )
ความคิดเห็นที่ 40
ได้ยิน Phat บอกว่า คุณน้องใหม่ กลับมาฝึกหมา แล้ว เลยรีบเข้ามาดู ธันวานี้จะไปชม
ฟังป้าวิคุยในคหที่36 แล้วรู้สึกสยอง 3เดือนลูกหมาไม่ได้ออกจากคอก ดีที่เป็น gsd ถ้าเป็นmali สงสัยต้องยึดมุมหลังกรงเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
โดย: Kanto [8 พ.ย. 48 19:14] ( IP A:203.172.89.76 X: )
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน