จำเป็นมั้ยครับที่ต้องมีใบPet
|
ความคิดเห็นที่ 1 สนใจอยากไปเยี่ยมชมฟาร์มนี้จัง อยู่ที่ไหนคะ และจะติดต่อได้ยังไงบ้าง รบกวนช่วยแนะนำด้วยคะ  | โดย: pom-may [20 ม.ค. 50 20:14] ( IP A:161.200.255.162 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 ขอตอบละกัน ผมว่าไม่มีผิดถูกสำหรับเรื่องนี้ จำเป็น ไม่จำเป็น แล้วแต่กรณี แต่การมีเพ็ดมันมีความสำคัญในแง่การศึกษ คัดเลือก การพัฒนาพันธ์ การทำอะไรให้มีรายลักษณอักษร มีรายละเอียด Breeder ก็เหมือนนักวิทยาศาสตร์ที่คาดเอาผลล่วงหน้าตามหลักทฤษฎี และบันทึกผล หากไม่ได้จดบันทึก ผลออกมาก็ไม่มีความหมาย บรรยายตีแผ่ก็ไม่มีใครเชื่อถือ
การไม่มีเพดอย่างที่ จขกท กล่าว จริงที่เจ้าของเลี้ยงดี สุขภาพดี มีผลตรวจข้อ ตรวจ DNA ก็ตาม ลูกสุนัขออกมาถูกต้อง ดีพอที่จะเลี้ยง ใช้งานต่างๆได้ แต่จะให้ผสมสืยเชื้อสาย โดยไม่มีการอ้างอิงใดๆ ก็ไม่มีประโยชน์ สุนัขออกมาดีมากเท่าใดก็ไม่มีความหมายที่จะใช้อ้างอิงต่อ(ผสมพันธ์) นอกจากเริ่มเก็บข้อมูลใหม่หมด เป็นแบบนี้ก็ดีกว่าที่จะติดตามเก็บข้อมูลสุนัขไว้โดยตลอด วันดีคืนดีสุนัขตัวนั้นประสบความสำเร็จในการใช้งาน หรือประกวดก็จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อไป หรือใครว่าไงครับ
| โดย: nong [20 ม.ค. 50 23:51] ( IP A:62.31.52.171 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 ใบ Pedigree สำคัญไฉน ว่าไปแล้ว ในความเห็นของผมนะครับ สำหรับท่านที่เลี้ยงสุนัขเป็นเพื่อนและมิได้มุ่งหวังเพาะพันธุ์สุนัข ตลอดจนนึกอยากนำสุนัขไปประกวด ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ครับ แต่ถ้ามีก็ดี ในแง่ความรู้สึกที่ว่าสุนัขของตนเป็นสายพันธุ์แท้ ( แต่หลอกสวมใบ Pet ขายก็มีเหมือนกัน แต่ค่อนข้างแทบไม่มีเลยก็ว่าได้สำหรับสุนัขของสมาคมช็พเพอด เพราะกฎระเบียบค่อนข้างชัดเจน และรัดกุมในระดับที่น่าพอใจครับ ) ( ในกรณีที่ท่านซื้อแบบไม่รู้ที่มาที่ไปควรจะเลือกสุนัขที่มีใบ Pet ครับ )
แต่สำหรับผมค่อนข้างให้ความสำคัญอย่างมากสำหรับเจ้าใบ Pet ที่ว่านี้ เพราะตลอดชีวิตที่ผมเลี้ยงและเพาะสุนัขมาใน Breed อื่นๆ มานานเป็นสมาชิกตั้งแต่ปี 2529 ในหลายสายพันธุ์ที่ขึ้นกับสมาคมผู้นิยมเลี้ยงสุนัข ( ที่เจ๋งไปแล้ว ) และปัจจุบันเป็นสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข ซึ่งผมก็เป็นสมาชิกใหม่ในปี 2540 และเป็นสมาชิกของสมาคมสุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอดในปี 2536 ในส่วนของผมผมเห็นว่าจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จะนำสุนัขไปเพาะพันธุ์ขยายพันธุ์ต่อไป ผมจะยกเหตุผลเพียง 2 - 3 ข้อให้ท่านเห็นความสำคัญของใบที่ว่านี้
1. ใบ Pet ช่วยบ่งบอกแหล่งที่มาของสุนัขว่ามาจากครอกใด ใครเป็นผู้เพาะพันธุ์ ตลอดจนพี่น้องร่วมครอก ทำให้เราเชื่อได้ในระดับหนึ่งว่าสุนัขที่เอามานั้นน่าจะเป็นสายพันธุ์แท้จริงๆ เป็นเอกสารที่รับรองโดยสมาคมได้ตรวจสอบในระดับหนึ่งแล้ว และที่สำคัญทำให้เราสามารถรับรู้ถึงคุณสมบัติในบรรพบุรุษของสุนัขว่าเป็นเช่นไร และบ่งบอกถึงความรับผิดชอบของผู้เพาะพันธุ์ด้วย
2. ใบ Pet เป็นหัวใจหลักเลยก็ว่าได้ ในการเพาะพันธุ์สุนัข ในหลายครั้งที่เราสังเกตุถึงสภาพโดยรวมของสุนัขที่เรามีอยู่ว่ามีลักษณะ สีขน โครงสร้างของสุนัขตลอดจนความบกพร่องที่ถ่ายทอดทางพันธุ์กรรมนั้น ที่เราสามารถมองเห็น หรือข้อบกพร่องที่ถือเป็นข้อที่ไม่ได้มาตราฐานของสายพันธุ์ของสุนัขพันธ์นั้นๆ เราสามารถสืบสายสาเหตุจากใบที่ว่านี่แหละครับ ใช้ในการพิจารณาเลือกหาสายพันธุ์ตลอดจนคุณลักษณะที่ดี ที่เราต้องการ มาแก้ไข ที่จะทำการเพาะพันธุ์สืบสายเลือดในสุนัขให้มีคุณลักษณะใกล้เคียงมาตราฐานของสายพันธุ์ ลบข้อบกพร่องในรุ่นต่อๆไป 3. ในการประกวดสุนัข มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งเสริมสุนัขที่มีคุณลักษณะถูกต้องตามสายพันธุ์ แน่นอนครับการจัดการประกวดสุนัขส่วนใหญ่จึงต้องใช้ใบ Pet ที่ว่านี่มายืนยันความถูกต้องและแหล่งที่มาครับ ผมเคยมีโอกาสจัดงานการประกวดสุนัขที่จังหวัดลพบุรี มีทั้งแบบ เก็บคะแนน C.C. ( Championship ) และแบบไม่เก็บคะแนนรับรองการเป็นแชมเปี้ยนของประเทศ ( OPEN ) จะเห็นได้ว่าสุนัขที่ในส่วนของการประกวดแบบ OPEN นั้นที่ไม่ต้องใช้ใบ Pet นั้น สุนัขที่ไม่มีใบ Pet คุณภาพ และคุณลักษณะ ของสุนัขนั้นค่อนข้างต่ำกว่าเกณฑ์มาตราฐานในสายพันธุ์นั้นครับ จนสุนัขบางตัวเจ้าของยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์นั้นแน่นอน แต่สำหรับกรรมการผู้ตัดสินหรือผู้ที่มีความรู้ในสุนัขพันธุ์นั้นๆ ต่างมีความเห็นว่าเป็นลูกผสม ไม่ใช่สายพันธุ์แท้ แต่ผมเห็นว่ากรรมการบางท่านบางงานท่านก็เห็นใจให้รางวัลไป แล้วถ้าเจ้าของเอาถ้วยรางวัลไปโชว์และเปิดรับผสมพันธุ์ อะไรจะเกิดขึ้นครับ แก้กันไม่รู้กี่ชั่วอายุ ผมเคย Breed ในรูปแบบต่างๆกันมากมาย ไม่ว่า In Breed , Line Breed , Out cross หรือแบบ Repeated ในพ่อและแม่ตัวเดียวกัน ซ้ำถึง 3 ครั้ง เพื่อที่จะดูว่าลูกสุนัขที่เกิดขึ้นจะคงมีคุณลักษณะเหมือนเดิมไหม ในส่วนที่ไม่ชอบจะออกมาเหมือนกันไหม ผมขอใช้คำว่าสนุกและเหนื่อยจริงๆครับ ผมจึงให้ความสำคัญกับใบ Pet มากครับ อดีตเคยมีกรรมการท่านหนึ่งสัมภาษณ์เขียนในบทความที่แปลเป็นไทยแล้ว ว่า สุนัข Boxer ที่มีคุณสมบัติถูกต้องแต่มีอกที่แคบต้องแก้ไขหาอกดีๆมาผสมแก้กันถึง 5 เจเนอรเรชั่น ( 5 ชั่วอายุ ) ผมเคยลองบรีดทำตามดูกับ Boxer แม่พันธุ์อกแคบผมหาพ่อพันธุ์มาแก้ เชื่อไหมครับผมเก็บลูกที่อกดี จนโตผสมกับพ่ออกดี รุ่นหลานก็ยังมีอกแคบเลยครับ ผมเก็บหลานตัวที่ดีที่สุดหาพ่อที่อกดีผสมใหม่ ในรุ่นเหลนก็ยังมีอกแคบอยู่เลยครับ ผมทำได้ถึง 3 ชั่วอายุ หมดแรง นึกขึ้นได้ว่า ถ้ามันแก้กันง่าย ป่านนี้เรามีสุนัขสวยกันทุกคนแล้วครับ เอาขอโทษด้วยครับที่นอกเรื่องไปหน่อย เอาเป็นว่าถ้าเลือกได้ก็เลือกมี Pet ครับ โดยเฉพาะถ้าไม่รู้แหล่งที่มาของสุนัขอย่างแท้จริงครับ แต่ถ้าไม่คิดประกวดหรือเพาะพันธุ์ก็ไม่เป็นไรครับ | โดย: somchai [21 ม.ค. 50 22:49] ( IP A:202.139.223.18 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าชื่อศิววงศ์ จะเหลวไหลนะครับ ผมซื้อมาหูเขียวปี๋ แต่ไม่ยักมีใบเพ็ดฯ ต้องดูด้ายครับ สสยท.หรือปล่าว | โดย: nansan [22 ม.ค. 50 9:14] ( IP A:58.8.136.41 X: ) |  |
|