อุทาหรณ์ในการเลือกลูกสุนัข
    ขอเล่าประสบการณ์ในการเลือกซื้อลูกสุนัขให้เพื่อนๆ ที่อาจจะประมาท หรือขาดประสบการณ์
ผมเลี้ยงเชพเพอดอยู่ 2 ตัว ตัวแรกก็ไม่ได้สนใจศึกษาอะไรเท่าไหร่ก็ซื้อเพราะว่าเป็นคนรู้จักกันก็มีใบเพ็ดดีกรีครบถ้วน(พ่อนอกสมัยเมื่อ 6 ปีที่แล้วก็มีชื่อเสียงตัวหนึ่ง แม่เกิดในประเทศไม่สวยเลย) ราคาไม่แพง มันก็เติบโตดีสมบูรณ์แข็งแรงไม่ต้องทำอะไรมากมาย
ปัญหาอยู่ที่ตัวที่ 2 เพิ่งซื้อเมื่อปีที่แล้วคราวนี้ก็อ่านหนังสือ ติดตามการประกวดตลอด แต่ไม่เคยไปสนาม แต่ก็พอรู้ว่าควรเลือกลูกสุนัขอย่างไร แต่ด้วยอารมณ์ขี้เกียจดูมาก และมักง่าย เลยตัดสินใจว่างั้นเลือกพ่อพันธ์ที่มีชื่อเสียงไปเลย แล้วก็คอกที่มีประสบการณ์มานาน ซึ่งก็ได้คอกหนึ่งน่าสนใจ ได้พ่อนอก-แม่นอก เอาเป็นว่ามีชื่อเสียงมากตัวนึง ก็ไปจองลูกสุนัขตั้งแต่อายุ 1 เดือน ดูแล้วแข็งแรงดีไม่น่ามีปัญหา เพราะเราก็คิดว่าเอาแค่ไม่ผิดปกติทางพันธุกรรม โดยยกเว้นกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือว่าเจ้าของคอกเลี้ยงดูไม่ดี เนื่องจากคิดว่าเดี๋ยวเราเอามาก็เลี้ยงให้มันดีไม่น่าจะเป็นอะไร
ผลก็คือเมื่อไปรับลูกสุนัขตอน 2 เดือน พบว่าตัวเล็กมากๆ ถึงมากที่สุด ขนก็แปลกๆ ไม่เป็นไรกะว่าเดี๋ยวเลี้ยงไปก็เข้าสู่สภาวะปกติ ปรากฏว่าเท่าที่ติดตามดูมันมากว่า 1 ปี ผมว่ามันน่าจะผิดปกติจริงๆ คือ 1. ตัวเล็กกว่าหมาอายุเท่ากันมากๆ 2. ขนยาวและหยิกผิดปกติ 3. ข้อสะโพกน่าจะมีปัญหาเพราะเดินเหมือนขาหลังไม่แข็งแรงมาตลอด 1 ปีเต็ม
ตอนนั้นก็ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหลายคนเค้าก็บอกว่าผิดปกติแน่นอนให้เอาหมาไปคืนเลย แต่ก็มีคนมาเตือนสติว่าถ้าพอเลี้ยงได้โดยไม่เดือดร้อนก็เลี้ยงไปเถอะ ผมก็คิดแบบนั้นเพราะว่าถ้าเราเอาไปคืนเค้า เค้าก็อาจจะเอาไปทิ้ง หรือให้ใครก็ไม่รู้ พอดีบ้านผมพอมีปัญญาเลี้ยงได้ก็เลยตัดสินใจเลี้ยงต่อ
สรุปว่าถ้าคนที่ดูลูกสุนัขไม่เป็นก็ขอให้คนที่ดูเป็นช่วยดู(โดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง) ถ้าดูด้วยตัวเองต้องศึกษาอย่างดีทุกประการ อย่าเกรงใจคนขาย อย่าไปกลัวถ้าจะต้องจับลูกสุนัข หรือขอทดสอบการวิ่ง จิตประสาทต่างๆ ถ้าเค้าไม่ให้ก็อย่าไปซื้อแสดงว่าไม่มีจิตใจที่รักสุนัขจริง และจำไว้ว่าชื่อเสียงของคอกช่วยอะไรไม่ได้ แม้กระทั่งชื่อเสียงพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ ที่มีชื่อเสียงเพราะการผิดปกติจากพันธุ์กรรมมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ
ผู้เพาะพันธุ์สุนัขควรแนะนำข้อดีข้อเสียของลูกสุนัขตัวเองแก่ผู้ซื้อ จะได้เป็นประโยชน์ด้วยกันทั้งผู้ซื้อ และตัวสุนัข(ไม่เกี่ยวกับตัวผู้ขาย)

ก็หวังว่าจะเป็นการเตือนสติผู้ที่กำลังเลือกหาลูกสุนัขให้หยุดคิดสักนิดก่อนซื้อนะครับ

ขอบคุณครับ

โดย: AAA (Pitupoom ) [15 มิ.ย. 50 18:12] ( IP A:222.123.49.200 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   เรื่องแบบนี้ก็คงจะมีเรื่อยๆและมีตลอดไป...ตราบใดที่คนขาดจริยธรรม!!

อย่างไรก็ตามเลี้ยงเค้าไปเถอะค่ะ(เอาบุญ)...เป็นบุญของหมาน้อยที่มีคนเลี้ยงที่จิตใจดีเช่นคุณ

โดย: แม่bobby [15 มิ.ย. 50 20:11] ( IP A:58.9.93.110 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
    ** ผู้เพาะพันธุ์สุนัขควรแนะนำข้อดีข้อเสียของลูกสุนัขตัวเองแก่ผู้ซื้อ จะได้เป็นประโยชน์ด้วยกันทั้งผู้ซื้อ และตัวสุนัข(ไม่เกี่ยวกับตัวผู้ขาย) **

ไม่ค่อยเข้าใจ ประโยคข้างบน..ในวงเล็บค่ะ ความจริง ผู้ขายกับผู้ผสมพันธุ์ ควรจะเป็นคนเดียวกัน

ได้พยายามรณรงค์ตลอดมา ให้ คนที่อยากเลี้ยงหมา ไปซื้อหมากับ ผู้เพาะพันธุ์โดยตรง เท่านั้น อย่าไปซื้อหมาจากคนขายหมาประเภท ซื้อมา-ขายไป เพราะคนขายหมา จะคิดแค่ให้มีกำไรเป็นตัวเงินจากการขาย เท่านั้น ไม่ได้มี ความใส่ใจ หรือมีความผูกพัน พอที่จะห่วงใย ในตัวหมาที่เขาขายๆออกไป เขาไม่ได้คิดว่าเขาขายสิ่งมีชีวิต เขาคิดแค่ว่า มันคือสินค้าอย่างหนึ่ง เท่านั้น

แม้แต่ผู้เพาะพันธุ์เอง หลายคน ก็ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของโรงงานผลิตสินค้า สักแต่ว่ามีเครื่องจักร ก็ตั้งหน้าตั้งตาผลิตออกมาโดยไม่ได้ใส่ใจใน คุณภาพ สินค้าที่ตัวเองผลิตออกมาด้วยซ้ำ สนใจแค่ สินค้าตัวไหน แบบไหน สไตล์ไหน เป็นที่นิยมในช่วงเวลานั้นๆ ก็ไปหาวัตถุดิบตามความนิยม มาป้อนเข้าโรงงาน เท่านั้นเอง

ราวกับว่า ลูกหมาที่เขาผลิตออกมา เป็นเพียงสินค้าฉาบฉวย อินเทรนด์ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ทั้งๆที่ซึ่งแต่ละชีวิต ที่เขาผลิตออกมานั้น ความจริงแล้วมันมีค่าเท่ากับชีวิตของเขา และชีวิตคนอื่นๆเหมือนกัน

การเลือกซื้อลูกหมา(ให้ได้)ดีๆถูกใจนั้น จึงไม่เหมือนการไปจ่ายตลาด หรือไปซื้อของใช้ตามปกติ มี สิ่งที่ผู้ซื้อจำเป็นต้องทำ มากมาย นอกเหนือไปจากการ ต้องไปเลือกดูด้วยตัวเอง

ผู้ซื้อ จำเป็นต้องศึกษาเรื่องของสายพันธุ์ที่อยากเลี้ยงมาก่อนล่วงหน้าอย่างละเอียด , ต้องเสาะหารายชื่อ ผู้เพาะพันธุ์ และผู้เลี้ยงที่มีประสพการณ์ เพื่อหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ..... โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ในการพิจารณา คุณสมบัติ ของผู้เพาะพันธุ์ที่ดี

การไปเลือกซื้อลูกหมา จากผู้เพาะพันธุ์(ที่ดี) โดยตรงนั้น สามารถลดความเสี่ยงไปได้หลายข้อ แต่ อย่างไรก็ตาม ที่เคยพูดบ่อยๆว่า หมาเป็นสิ่งมีชีวิต มีพัฒนาการที่(บางอย่างก็)ไม่อาจคาดเดาได้ อยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น ไม่ว่าจะคัดเลือกมาอย่างเลิศเลอเพอเฝ็กขนาดไหน ... ความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่ สิ่งที่ผู้ซื้อจะทำได้ ดีที่สุด คือหาทางลดความเสี่ยงดังกล่าวให้เหลือน้อยที่สุด ที่เหลือ เป็นเรื่องของ โชค

ซื้อหวย ถ้าพลาดไป ไม่ถูกรางวัล ก็แต่เสียเงินค่าหวย แต่ซื้อลูกหมา ถ้าพลาดไป .... ยังเป็นความรับผิดชอบ ที่ต้องเลี้ยงดูเขาต่อไปให้ดีที่สุด จนกว่าจะหมดอายุขัยของเขา ......

ดังนั้น....สิ่งสำคัญที่ผู้ซื้อต้องทำไว้ก่อนล่วงหน้า คือ ทำใจ
โดย: ป้าวิ [16 มิ.ย. 50 11:13] ( IP A:125.26.20.170 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ใช่ครับ ผมขอเสริมป้าวินิดหน่อยครับ ก็คือที่บอกว่า "การไปเลือกซื้อลูกหมา จากผู้เพาะพันธุ์(ที่ดี)" ต้องเป็น ผู้เพาะพันธุ์ที่ดี ไม่ใช่ผู้ที่มีพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ ที่ดีเสมอไป เพราะผู้ที่มีพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ ที่ดี อาจทำการผสมพันธุ์แย่ เลี้ยงดูลูกสุนัขตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 เดือนได้ไม่ดี ก็มีโอกาสทำให้ลูกสุนัขผิดปกติได้ จึงควรดูที่ผู้เพาะพันธุ์ และเลี้ยงดูลูกสุนัขเป็นหลักครับ ว่ามีความรู้และเอาใจใส่แค่ไหน

สิ่งที่ผมพลาดไปมีอยู่ 2 ประการ(เท่าที่นอนคิดเมื่อคืนออก 555)
1. ความมักง่าย รีบร้อนอยากจะได้ ทั้งๆที่ทราบอยู่แล้วว่าจะมีคอกอื่นๆที่มีผู้เพาะพันธุ์ที่ดีน่าเชื่อถือ และมีความรู้มากกว่า แต่อาจต้องรอไปอีก 6 เดือนเป็นต้น
2. ความเกรงใจผู้ขายอันนี้สำคัญมากครับเพราะผู้ซื้อส่วนใหญ่ที่อาจเกรงใจ และเชื่อในคำโน้มน้าว จะถามมากหรือว่าเถียงไปว่าอันนี้ไม่น่าจะใช่ ก็กลัวเค้าจะไม่พอใจ ก็เลยตามเลยคิดว่าไม่มีอะไร (แต่สุดท้ายทนไม่ได้ก็ต้องโทรไปต่อว่าในภายหลังอยู่ดี เฮ้อ)

แต่ตอนนี้หมาผมก็มีความสุขดี เพราะผมแกล้งมันทุกวัน กลายเป็นหมาติ๊งต๊องไปเลย ไม่รู้จักคำว่าดุคนเลย บ้านผมมียามเปลี่ยนหน้าประจำมันเล่นด้วยหมด จะเห่าก็แต่รถที่วิ่งผ่านหน้าบ้าน

ว่าจะเสริมนิดเดียวไปกันใหญ่เลยครับ ฮิฮิ
โดย: AAA (Pitupoom ) [16 มิ.ย. 50 15:14] ( IP A:58.147.105.219 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
    ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ค่ะ

เข้สใจความรู้สึกของ จจขกท.นะ แต่มันก็เลี้ยงมาแล้วนิเน้อะ ถ้าอยากได้ สวยหล่อ ก็ลองใช้เวลา หาตัวที่สามมาเป็นเพื่อนสองแสบก็ได้เน้อะ :D

หมาเรา พ่อแม่ มันก็ตัวใหญ่ สวยนะ แต่ลูกออกมาแกรนทั้งคอก แถมหัวลีบอีก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่เราไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ เลี้ยงไว้ฮาๆ ขำๆ เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว



โดย: cyril [17 มิ.ย. 50 14:59] ( IP A:125.25.137.206 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   ลองช่วยฟื้นฟูโดยให้เค้าออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ น่าจะช่วยให้ดีขึ้นค่ะ

โดย: แม่bobby [21 มิ.ย. 50 21:50] ( IP A:58.9.105.163 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน