ขออนุญาตลงบทความ "จดหมายจากแม่"
|
|
| | ที่มาhttps://www.dogrunner.com/artman/publish/article_36.shtml
จดหมายจากแม่ 1
25 พ.ค. 41
นิค ลูกรัก หลายครั้ง หลายหน ที่ได้ยินคนพูดว่า เลี้ยงหมาแล้ว อย่าเอานิสัยหมา มาใช้ ( ซิวะ! ) แม่จะรู้สึกเจ็บแทนหมาๆ ทั้งหลายทุกครั้งไป คิดอยู่ในใจคนเดียวว่า ถ้าใครเคยเลี้ยงหมาด้วยใจรัก โดยเฉพาะพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด คงจะไม่พูดอย่างนั้นแน่นอน. คงต้องเปลี่ยนเป็นพูดว่า เลี้ยงหมาแล้ว รู้จักเอานิสัยหมามาใช้บ้าง ( ซิวะ ! ) ช่วงเวลาสั้นๆ แค่ 2 ปี 3 เดือน ที่นิคมาอยู่กับแม่ (ตอนนั้นนิคคงจะอายุได้ประมาณสัก 5 ขวบ) นิคได้แสดงให้เห็นถึงความรัก ความเอาใจใส่ ความผูกพันต่อแม่ , และคนรอบข้างนิคทุกคน อย่างบริสุทธิ์ และ จริงใจ ตามแบบฉบับของหมา อย่างที่เราไม่อาจหาได้ง่ายนัก จาก คน ด้วยกันเอง. นิคไม่เคยสร้างความเดือนร้อน รำคาญให้ใครเลยทุกคนรักใคร่ เอ็นดู และมีความสุขไปด้วยกับความร่าเริง ขี้เล่น อารมณ์ดีของนิค
จนกระทั่งวันนี้
..เป็นวันที่แม่เสียใจที่สุดในชีวิต
ที่แม่ไม่ได้เอาใจใส่ดูแลนิคให้มาก เท่าที่นิคคอยเอาใจใส่ดูแลแม่ เห็นนิค หายใจแรง เป็นครั้งคราวอยู่หลายวัน ก็คิดว่าคงเป็นเพราะอากาศร้อนอบอ้าว ไม่เฉลียวใจเลยว่า นิคจะมีอาการของโรคเก่า ( พยาธิหนอนหัวใจ ) ดูเผินๆ เห็นว่า นิคแข็งแรงมากอ้วนท้วนสมบูรณ์ขนเป็นมัน ตาเป็นประกาย อารมณ์ดี ร่าเริง ขี้เล่น นอนหลับ เป็นปกติ แม้คืนก่อนนี้ นิคทำท่ากระสับกระส่าย นิดหน่อยและไอแค้กๆ ให้แม่ดูอยู่ 2-3 ครั้ง แต่แม่ก็ยังไม่เข้าใจ ว่า นิคอยากจะบอกแม่ว่า นิคไม่สบายนะ ( แต่สำหรับตัวเอง นิคจะคอยเอาใจใส่ดูแล, สนใจว่าแม่จะไปไหน, ทำอะไร, สั่งอะไร นิคจะพยายามสนใจที่จะทำ ความเข้าใจ และทำตามสั่งเพื่อเอาใจแม่ เสมอมา ) นิคยังคงวิ่งตามคอยอารักขาแม่ไปรอบๆ โรงงานเหมือนที่เคยทำทุกคืน รุ่งเช้านิคก็ยังร่าเริงเป็นปกติ กินข้าวหมดชาม แล้วเข้าไปทำงานเฝ้าออฟฟิต ตามหน้าที่
ประมาณบ่ายโมงของวันนี้ นิคเริ่มลงนอนหมอบ หายใจหอบเหมือนจะเหนื่อยหรือร้อน เอาน้ำให้ก็ไม่กินเรียกให้เข้าบ้านก็อุตส่าห์ ลุกขึ้นเดินโซเซเข้ามาในบ้าน แล้วก็ลงนอนหายใจหอบ คิดว่าอาจจะช๊อคเพราะร้อน แต่จับตัวดูกลับตัวเย็นเฉียบ โดยเฉพาะจมูก ปาก, ลิ้น, หู, และปลายเท้า เหงือกและลิ้นซีดลงอย่างรวดเร็วมาก นิคมองหน้าแม่ตาแป๋วเหมือนอยากจะบอกอะไร ถึงตอนนี้ แม่ทำอะไรไม่ถูกเลย พยายามช่วยกันนวดขา, นวดเท้าให้เลือดไหลเวียน เอาถุงน้ำร้อนวางปลายเท้า, ช่วยปั๊มหัวใจ ไม่มีอะไรดีขึ้น ลองล้วงมือเข้าไปในคอเผื่อมีอะไรติดคอ
.. ในคอนิคเย็นเฉียบจนแม่ขนลุก แม่เริ่มร้องไห้และให้อุ้มนิคขึ้นรถไปหาหมอออกรถมาได้สัก 2 กม. นิคก็จากแม่ไปเสียแล้วประมาณบ่ายสามโมง
แม่ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล ในหัวใจมีแต่คำถาม ทำไม ทำไม ทำไม นิคจึงทิ้งแม่ไปง่ายดายอย่างนี้นิคเป็นอะไร ? ใครทำอะไรนิคหรือเปล่า ? โดนยาพิษหรืเปล่า ? และด้วยตาที่ฝ้าฟางไปด้วยน้ำตา แม่รีบเปิดหาในหนังสือที่เคยผ่านตาเรื่องเกี่ยวกับโรคต่างๆ ของหมา ( เรื่องที่เวลาปกติไม่เคยสนใจขวนขวายหาอ่าน ) ก็พบข้อความที่ตรงกับอาการของนิคอย่าง*อาการทรุดหนักเฉียบพลัน อ่อนเพลีย ไม่อยากเคลื่อนไหว ซีด อาการเหล่านี้ เกิดโดยไม่มีการบ่งบอกล่วงหน้า สุนัขจะตายอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง ในรายเช่นนี้ มักเกิดจากการที่ พยาธิหนอนหัวใจ ตัวเต็มวัยจำนวนมาก อุดอยู่ในหลอดเลือดหัวใจ*
แม่เจ็บปวดเหลือเกินนิคเอ๋ย
....ทำไม
...แม่จึงไม่ได้เอาใจใส่ดูแลนิคเท่าที่นิคดูแลเอาใจใส่แม่และคนรอบข้างทุกคน ทำไม
.ทั้งๆ ที่รู้ว่านิคเคยเป็นโรคนี้มาก่อน แม่กลับไม่สนใจขวนขวายหาความรู้ในเรื่องโรคนี้ให้ละเอียด, ทำไมจึงไม่ได้ตรวจเลือด และให้ยาป้องกันเป็นประจำตามที่ควรจะทำ กลับคิดเอาเองแบบโง่ ๆ และง่าย ๆ ว่า หมาของแม่ทุกตัวนอนในบ้านมีมุ้งลวดหรือไม่ก็อยู่ห้องแอร์ทั้งวัน จึงไม่น่ามีปัญหาเรื่องพยาธิหนอนหัวใจ ( ซึ่งมียุงเป็นพาหะ ) แม่ได้แต่ใช้งานนิคสารพัด กลางวันเฝ้าออฟฟิต คอยจับตาดูคนที่เข้ามาติดต่องานใครที่ท่าทางผิดสังเกต เช่น แต่งตัวรุงรัง หรือทำไม้ทำมือออกท่าทางมาก นิคจะเข้าประกบทันที และคุมเชิงอยู่จนกว่าจะเสร็จธุระ ตอนกลางคืน นิคจะคอยวิ่งตามอารักขาแม่ไปรอบๆ โรงงานทุกคืน, แล้วจะกลับมาเข้าที่นอนตรงประตูทางเข้าบ้าน เพื่อเฝ้าระวังภัยให้คนในบ้าน เช้าๆ เย็นๆ ใครจะออกไปเดินเล่นข้างนอกก็มักจะมาชวนนิคไปเป็นเพื่อนนอกจากนี้นิคยังต้องขายตัว (รับผสมพันธุ์) และผลิตลูกๆ มาให้แม่ เอาเงินมาช่วยเลี้ยงเพื่อนๆ และน้องๆ ของนิคอีก ไม่เคยนึกเลยว่า นิคต้องทิ้งแม่ไปเพราะความประมาทของแม่เองแท้ๆ แม่เคยพานิคไปตรวจร่างกาย แต่ก็เป็นการตรวจเลือดตามปกติ และผลก็ไม่พบว่ามีพยาธิ แม่ก็สรุปเอาเองตามประสาโง่ ว่าไม่เป็นโรคนี้แน่ แต่ได้มารู้จากหนังสือ เมื่อสายไปเสียแล้ว *บางครั้งก็ตรวจไม่พบจากวิธีปกติ ต้องมีวิธีพิเศษโดยเฉพาะในการตวจหาพยาธินี้*
| โดย: แม่โบกี้ [25 ส.ค. 50] ( IP A:203.130.159.4 X: ) |  |  | | |
ความคิดเห็นที่ 1 คำถาม & คำตอบที่มักจะพบเสมอๆ จากเจ้าของสุนัข. "สุนัขสามารถเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจได้หรือไม่" "สุนัขบางตัวมีความไวต่อการเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจใช่หรือไม่" "จะทราบได้อย่างไรว่าสุนัขป่วยเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจแล้ว" "เมื่อไหร่จึงควรนำสุนัขไปตรวจว่าเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจหรือไม่" "จะสามารถป้องกันสุนัขไม่ให้ป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจได้อย่างไร
"สุนัขสามารถเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจได้หรือไม่" สุนัขสามารถป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจได้ ไม่ว่าสุนัขจะอาศัยอยู่นอกบ้าน หรือแม้แต่ภายในบ้านตลอดเวลา สุนัขสามารถติดโรคพยาธิหนอนหัวใจได้ด้วยยุง โดยเฉพาะยุงตัวเมียที่ต้องกัดกินเลือด ยุงจะเป็นพาหะนำพยาธิระยะติดต่อมาสู่สุนัข ยุงเพศเมียเป็นแมลงขนาดเล็ก จึงสามารถผ่านเข้าออกห้อง หน้าต่าง ประตูบ้าน หรือรูต่างๆ เข้ามาภายในบ้านได้ สุนัขทุกตัวจึงมีโอกาสติดและป่วยเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจได้ทุกตัว แม้ว่าจะอยู่ในบ้านก็ตาม ถ้ายุงที่กัดมีเชื้อพยาธิอยู่ ดังนั้นในบริเวณที่มีตัวกักโรค(สุนัขที่ป่วยและไม่ได้รับการรักษา)จะเป็นตัวแพร่เชื้อให้กับสุนัข หรือแมวตัวอื่นๆ หรือทำให้สัตว์ตัวอื่นอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อการติดโรคพยาธิหนอนหัวใจ indoors or out.
"สุนัขบางตัวมีความไวต่อการเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจใช่หรือไม" ยังไม่มีรายงานการศึกษาใดๆ ที่ชี้ว่าสุนัขตัวใด สายพันธุ์ใดมีภูมิต้านทานต่อโรคพยาธิหนอนหัวใจ
"จะทราบได้อย่างไรว่าสุนัขป่วยเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจแล้ว" การที่จะทราบว่าสุนัขป่วยเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจหรือไม่ มีหนทางเดียวคือนำสุนัขไปพบสัตวแพทย์ เพื่อการตรวจวินิจฉัยโรคนี้ การตรวจมีด้วยกันหลายวิธี ทั้งวิธีที่ง่ายจนถึงวิธีการที่มีขั้นตอนซับซ้อน แต่ทั้งนี้ก็ใช้เวลาไม่มากก็สามารถทราบผลได้ แต่ไม่ควรรอที่จะตรวจร่างกาย โดยเฉพาะในประเทศไทยพบมีการระบาดของโรคนี้มากพอสมควร โดยเฉพาะในเขตชุมชน กรณีที่ทราบว่าสุนัขป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจแล้ว สามารถให้การรักษาได้ แต่การรักษายังไม่ถือว่าปลอดภัยสำหรับการรักษาได้อย่าง 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากผลข้างเคียงภายหลังจากการรักษา รวมทั้งยาที่ใช้ในการรักษามีราคาค่อนข้างแพง
"เมื่อไหร่จึงควรนำสุนัขไปตรวจว่าเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจหรือไม" ยุงคือพาหะของโรคนี้ ยุงที่เป็นพาหะสามารถพบได้ตลอดเวลา ดังนั้นสุนัขมีโอกาสติดโรคได้ตลอดเวลา เวลาที่เหมาะสมที่จะต้องนำสุนัขไปตรวจการป่วยเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจจึงควรปรึกษาสัตวแพทย์
"จะสามารถป้องกันสุนัขไม่ให้ป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจได้อย่างไร" ถ้าผลการตรวจพบว่าสุนัขไม่ติดเชื้อพยาธิหนอนหัวใจ การป้องกันโรคนี้ก็จะทำได้ง่ายๆ ทั้งนี้ควรปรึกษาสัตวแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ ด้วยการจัดโปรแกรมการฉีดยาป้องกัน หรือการกินยาป้องกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องจำไว้เสมอ ก่อนที่จะใช้โปรแกรมการป้องกันใดๆ ต้องนำสุนัขไปตรวจการติดเชื้อเสียก่อน | โดย: แม่โบกี้ [25 ส.ค. 50] ( IP A:203.130.159.4 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณ ข้อมูลดีๆ จากแม่โบกี้..
บ๊อบบี้ไม่มี "พะ-ยาด" ค่ะ เพราะช่วงนี้เจาะเลือดบ่อย เลยสั่งตรวจทุกอย่าง ....ไม่มีอะไร ยังปลอดภัยอยู่..
พอพ่อแม่เข้านอน บ๊อบบี้ก็เข้านอนเหมือนกัน คือนอนกรง เดี๋ยวนี้ดื้ออีกแระ..พอเดินจะถึงกรงจะรีบเดินเร็วมากให้ผ่านกรงไป..ประมาณว่าอยากนอนในห้องกับแม่..ชิชะ..เมินซะเถอะ!!
เหอ..เหอ..บ๊อบบี้มีแต่ "Hip Dysplasia" อย่างเดียวเต็มๆเรยย.. ตอนนี้พ่อ-แม่ กับบ๊อบบี้ก็กอบโกยความสุขร่วมกันไว้ เก็บไว้ทดแทนตอนที่..โรคกำเริบ..ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะมาถึงเมื่อไหร่!!.... | โดย: แม่bobby [25 ส.ค. 50 10:00] ( IP A:58.9.93.60 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 แหม...คุณแม่โบกี้นะ...อุตส่าห์ไปอ่านซะไกลถึงเวบด้อกรันเนอร์...แต่ไม่ยักกะอ่าน บทความในคอลัมน์ซ้ายมือหน้าแรก ของเวบบ้านคนรักเชพเพอดของเราเลย......
ยังไงก็ขอบคุณค่ะ ที่นำมาลง ให้คนที่ไม่เคยอ่าน ได้อ่านกัน
| โดย: ป้าวิ [25 ส.ค. 50 11:04] ( IP A:125.26.18.163 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 แฮ่ะๆ ป้าวิก้อ หนูว่าแล้ว คุ้นๆ เหมือนกันว่าเคยอ่านที่นี่ แต่จำไม่ได้ว่าอยู่ตรงไหนลงไปอ่านตั้งแต่กระทู้ 433 ขึ้นมาจนตาลาย ตาถั่วจริงๆ เลยเรา เอ...หรือว่าความรักทำให้คนตาบอดคะป้า
| โดย: แม่โบกี้ [25 ส.ค. 50 11:19] ( IP A:203.156.25.172 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 ^_^ 5 5 5 5 5 ผมก็งงว่าทำไมแม่โบกี้ไปก็อบมาแป่ะอีก | โดย: Miracle (Miracle ) [25 ส.ค. 50 12:22] ( IP A:222.123.198.194 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 คุณแม่โบกี้ นำมาแปะอีก ก็ดีค่ะ เพราะบางคนอาจจะยังไม่ได้เปิดอ่านหรืออ่านแล้วก็ลืมกันไป เจอดีๆนำมาแปะอีกนะคะ เป็นข้อคิดเตือนใจได้อย่างดีมากค่ะ...(อยากรู้จังใครเขียนน๊า..)
แน่ะ..แน่ะ..แม่โบกี้..ไปตกหลุมรักใครเข้าอีกล่ะ มีตั้ง 1 คน(พ่อโบกี้) กับอีก 7หรือ8ตัว หนอ.. จำบ่ได้..ยังจะมีที่ว่างอีกเร้อ!!
| โดย: แม่bobby [25 ส.ค. 50 13:40] ( IP A:58.9.93.60 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 ด้วยรักและห่วงใยหมาค่ะคุณแม่bobby ยิ่งได้อ่านบทความ "จดหมายจากแม่" ตอนท้ายของป้าวิแล้วยิ่งรักหมามากขึ้นๆๆๆ อีก
"หมายเหตุ : จดหมายนี้ เขียนขึ้นในวันที่ต้องสูญเสีย หมาที่ดีที่สุด ที่เคยรู้จัก เคยรัก และเคยเลี้ยงมา
หมาดี ที่เราโชคดี.....ได้มีโอกาสเลี้ยงดูเขา แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็เป็นประสพการณ์ที่สวยงาม ที่คิดว่าน้อยคน..จะเคยได้รับจากหมาตัวหนึ่ง
หมาดี ที่ตลอดชีวิตสั้นๆ ของเขา มีการให้ ความรัก, ความสุข กับทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข
หมาดี ที่ไม่เคยเรียกร้องต้องการอะไรจากใคร ไม่เคยโกรธแค้น พยาบาท แม้จะถูกทอดทิ้งทารุณอย่างไร ก็ยังเชื่อฟังและสำนึกรู้ในบุญคุณของเจ้าของ
หมาดี ที่เราอยากให้คน ที่ได้ชื่อว่า มีหมา หรือเป็นเจ้าของหมา(โดยเฉพาะหมาเยอรมันเช็พเพอด)ได้สัมผัส และรับรู้ ถึงความหมายที่แท้จริงของการเลี้ยง, การรัก, และความผูกพัน ระหว่างคนกับหมานั้น ว่าเป็นอย่างไร ต่างจากการแค่ได้ชื่อว่าเป็น"เจ้าของหมา"อย่างไร." | โดย: แม่โบกี้ [25 ส.ค. 50 16:29] ( IP A:203.130.159.4 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 นับว่าได้กุศลมากนะแม่โบกี้ที่นำบทความมาลงให้คนที่ชอบเลี้ยงเจ้าตูบและยังไม่ได้อ่าน ส่วนครอบครัวของอาชินทุกตัวจะฉีดยาเป็นประจำ | โดย: อาชิน [25 ส.ค. 50 22:02] ( IP A:203.113.61.132 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 10 ชอบรูปเรนกับคุณหนึ่ง ดูสิเขาเป็นห่วงคู่หูเขามาก เหมือนเรนกำลังปลอบคู่หูว่า "คู่หูไม่เป็นไรนะ เจ็บมั๊ย หันมาซิเดี๋ยวเรนดูให้" | โดย: แม่โบกี้ [25 ส.ค. 50 23:26] ( IP A:203.130.159.3 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 11 จุ๊..จุ๊..แม่โบกี้อย่าเอ็ดอึงไปนะ..ผมจะเล่า " เบื้องหลังภาพ" นี้ให้ฟัง
เรน : พ่อหนึ่ง พ่อหนึ่ง เอาลูกเทนนิสมาให้ผมนะ พ่อหนึ่ง : เฮ้ย..เดี๋ยวก่อนซิ ว่ายน้ำให้เก่งๆก่อน ขาหลังน่ะ พุ้ยน้ำแรงๆขาจะได้หายเป๋.. เรน : ปั๊ดโธ่..พ่อนี่ ว่าผมเรื่องขาอีกแระ พ่อหนึ่ง : แล้วเอ็งเดินเป๋ ทำไมล่ะ เรน : ทีหลังอย่าว่าอีกนะ ..นี่แน่ะ..(ใช้ขาหน้าที่ไม่เป๋ตีน้ำอย่างแรงให้น้ำเข้าตาซะงั้น) นี่แน่ะ ว่าดีนัก..น้ำเข้าตา เป็นไงแสบตาละซี่ ฉมนะหน้า .. พ่อหนึ่ง : ?!? พอตั้งสติได้ พ่อหนึ่งก็ว่า...เดี๋ยวปั๊ด..เดี๋ยวปั๊ด...ประกาศขายซะนี่!!! | โดย: แม่bobby [25 ส.ค. 50 23:43] ( IP A:58.9.93.60 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 12 แม่โบกี้เนี่ย ขยันท่องเน็ตมะหมาเนาะ.... ถ้าเจออะไรดีๆ ที่เป็นประโยชน์ นำมาแปะได้เลยนะคะ เพราะยังมีอีกเยอะ(เช่นแม่บอบบี้)ขี้เกียจท่องเน็ต เปิดอยู่ 2 อันเนี่ยแหละ ..
เห็นพาโบกี้เที่ยวซะขนาดนั้น พาบรรดาตัวเล็กตัวน้อย ไปหาหมอ เท่านี้ก็รู้แล้วว่า "รักและห่วง" มะหมาขนาดไหน
ทำไปเถอะค่ะกุศลน่ะ แม่บอบบี้คนนึงละ ที่เชื่อสนิทในเรื่อง กรรมดีกรรมชั่ว ทำดีได้ดี ทำดีคิดดี คุณพระคุ้มครอง ถึงคราวอับจนก็รอดไปได้ทุกครั้ง...เห็นผลจริงพิสูจน์ได้จริงๆค่ะ(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน!!!)
เอ้อ..ป้าวิคะ งวดหน้าเลขอะไรเด็ดน่ะ... | โดย: แม่bobby [25 ส.ค. 50 23:55] ( IP A:58.9.93.60 X: ) |  |
|