เคยสงสัยไหมว่าซากเครื่องบิน F-5 ที่ฐานอิทธิ บนเขาค้อ มีที่มาอย่างไร ?
   ช่วงนี้หน้าหนาว ไปเที่ยว “เขาค้อ”
เคยสงสัยไหมว่าซากเครื่องบิน F-5 ที่ฐานอิทธิ บนเขาค้อ มีที่มาอย่างไร ? อยากรู้ไหม ?

"วีรกรรมนักบิน F-5 ณ เขาค้อ"

๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ เวลา ๑๒๐๐ กองทัพอากาศมีคำสั่งให้เครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบ บ.ข.๑๘ หรือ เอฟ-๕ เอ จากฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีที่ ๑๓ กองบิน ๑ ดอนเมือง และ เครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบ บ.ข.๑๗ หรือ เอฟ-๘๖ เอฟ จากฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีที่ ๔๓ กองบิน ๔ ตาคลี เข้าโจมตีสองเป้าหมายที่มีการตรวจการณ์พบ เป็นหมู่บ้าน ๔๐ หลัง ซึ่งแหล่งข่าวยืนยันว่าเป็นบ้านพักของ ผกค. และมีบ้านพักของ ผกค.ระดับชั้นหัวหน้ารวมอยู่ด้วย และอีกเป้าหมายเป็นบ้านถ้ำหวาย จังหวัดเพชรบูรณ์ การโจมตีทางอากาศครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนการชี้เป้าหมายจาก เครื่องบินตรวจการณ์แบบ โอ-๑ จาก ฝูงบิน ๗๑ กองบิน ๗ สัตหีบ ขณะเข้าโจมตีทางอากาศ เครื่องบินขับไล่แบบ เอฟ-๕ เอ หมายเลขเครื่อง 1313 ( เลข ทอ. บข.๑๘-๓/๑๐ Sel.No.66-9161 ) ถูกฝ่าย ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ยิงตกบริเวณ เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้ เรืออากาศเอกชาญชัย มหากาญจนะ ซึ่งเป็นนักบินเสียชีวิตภายในเครื่องบิน กองกำลังร่วมได้เข้าทำการช่วยเหลือนักบินที่คาดว่ารอดชีวิต โดยการส่งทั้งเครื่องบินโจมตี เฮลิคอปเตอร์ และกองกำลังทหารภาคพื้นดินของกองกำลังผสมตำรวจ ทหาร พลเรือน ซึ่งในวันต่อมาเมื่อมีการเข้าถึงเครื่องบินและพบศพนักบินผู้เสียสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยในวันนั้นแล้ว ยังพบศพทหารฝ่ายคอมมิวนิสต์จำนวนมากที่เสียชีวิตใกล้จุดที่เครื่องบินตก อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศยังคงส่งเครื่องบินขับไล่แบบ เอฟ-๕ เอ เข้าโจมตีเป้าหมายต่างๆในเขตงานจังหวัดเพชรบูรณ์อีกหลายภารกิจ และหลายปีจนสงครามสงบ อนึ่งกองทัพอากาศได้ปูนบำเหน็จเลื่อนยศขึ้นเป็น "นาวาอากาศโท"พร้อมเหรียญกล้าหาญ ให้ เรืออากาศเอกชาญชัย มหากาญจนะ ซึ่งเป็นนักบินที่เสียชีวิต


โดย: เจ้าบ้าน [13 ก.พ. 55 11:32] ( IP A:119.46.176.222 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   
๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๙ การรบในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ถูกขยายตัวออกไปยังจังหวัดข้างเคียงและมีการสนับสนุนอาวุธที่ทันสมัยจากประเทศที่ไม่หวังดีต่อประเทศไทย เวลา ๑๑๑๓ กองทัพอากาศมีคำสั่งให้ ฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีที่ ๑๓ กองบิน ๑ ดอนเมือง (ขณะนั้นเริ่มที่จะย้ายกองบิน ๑ ไปอยู่ที่โคราช แล้ว ) เข้าโจมตีเป้าหมายที่ ๒๙ เป็นครั้งที่สองภายหลังจากที่ ๒ เอฟ-๕ เอ ซึ่งมี เรืออากาศเอกชวลิต ขยันกิจ และเรืออากาศโท พงษ์ณรงค์ เกสรศุกร์ เป็นนักบิน ได้เข้าทิ้งระเบิดนาปาล์มไปครั้งหนึ่งเมื่อวันวาน เช้านี้นักบินทั้งสองนายกลับเข้ามาโจมตีซ้ำอีกครั้งโดยเป้าหมายดังกล่าวเป็นหุบเขา และที่พักขนาดใหญ่ของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ประมาณ ๒๓ หลัง โดยมีพื้นที่ทำการเพาะปลูกขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ในเขตเขาค้อ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ขณะที่ เรืออากาศโท พงษ์ณรงค์ เกสรศุกร์ ซึ่งเป็นหมายเลขสอง ( หมายเลข 1333 เลข ทอ. บข.๑๘-๑๗/๑๗ Sel.No.71-0264 )เข้าโจมตีถูกฝ่ายตรงข้ามยิงอาวุธไม่ทราบชนิด ในระยะสูงประมาณ ๑,๐๐๐ ฟุต โดยเครื่องบินได้ทำการเลี้ยวซ้ายมุดลงระเบิดในกลางป่าห่างจากเป้าหมายประมาณ ๒ กม. ซึ่งจากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศที่เครื่องบินตรวจการณ์แบบ โอวัน ได้ถ่ายภาพมาพบว่าเครื่องบินไฟไหม้ตกลงในหุบเขา เขตบ้านภูชัย เขาค้อ ห่างจากแม่น้ำเข็กราว ๑ กม. และมีลักษณะคล้ายนักบินดีดตัวออกจากเครื่อง การช่วยเหลือนักบินที่คาดว่ารอดชีวิตจึงเริ่มขึ้น ทั้งทางอากาศและทางภาคพื้นดินได้ถูกปฏิบัติทันที ในขณะนั้น พลตรี ยุทธศิลป์ เกสรศุกร์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการทางยุทธการ กองทัพภาคที่ ๒ ซึ่งเป็นบิดาของนักบินผู้ที่ถูกยิงตก ได้มาร่วมปฏิบัติการค้นหาในครั้งนี้ด้วย การค้นหาและช่วยเหลือมีการส่งเครื่องบินและทหารจำนวนมากเข้าไปค้นหาตามพิกัดที่ได้จากการแปลความภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งการปฏิบัติครั้งนี้ฝ่ายตรงข้ามสูญเสียเป็นจำนวนมาก เนื่องจากฝ่ายเราส่งกำลังทหารหลายชุดเข้าปฏิบัติการ อย่างไรก็ตามฝ่ายตรงข้ามที่แฝงตัวอยู่ภายในจังหวัดพิษณุโลก ได้แจกใบปลิวโจมตีบิดาของนักบินว่าใช้อำนาจพาคนไปตายเป็นจำนวนมากเพื่อช่วยเหลือลูกชายตนเอง ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น หนังสือพิมพ์ เดอะเนชั่น ได้ลงภาพ สหายที่ยืนแอ็คชั่นอยู่ข้างซากเครื่องบิน เอฟ-๕ ที่ถูกยิงตก ทำให้หน่วยข่าวกรองของเราประเมินได้ว่า ฝ่ายตรงข้ามได้ถอดเอาวิทยุค้นหาออกแล้วเดินออกไปไกลจากเครื่องบิน ทำให้ฝ่ายเราคาดการณ์ว่านักบินยังมีชีวิตอยู่ จึงไม่ทราบจุดที่ชัดเจนของนักบินเมื่ออยู่ในพื้นที่ป่าทึบ อย่างไรก็ตามแม้ขณะนั้นเราก็ยังสรุปไม่ได้ว่านักบินยังมีชีวิตอยู่หรือสูญเสียชีวิตไปแล้ว

๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ นับตั้งแต่เครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๘ (F-5A) ถูกยิงตกในบริเวณการรบที่เขาค้อ เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๑๙ และยังไม่สามารถพบซากเครื่องบินและศพนักบินได้นั้น เวลาผ่านไปหลายปีโดยยังมีการรบอยู่จน สงครามสงบลง และในวันนี้ มีชาวม้งสองคน ชื่อนายช่อ แซ่ลี หรือ สหายสามารถ และ นายแย๊ะ แซ่ลี หรือ สหายพิชัย ได้เข้ามาติดต่อกับทหารอากาศที่ชุดสนับสนุนทางอากาศโดยตรงที่ ๓๓๑ จังหวัดพิษณุโลก ว่าได้เป็นผู้ฝังศพนักบิน เรืออากาศโทพงษ์ณรงค์ เกสรศุกร์ ที่เสียชีวิต ซึ่งเขาเล่าว่าสภาพศพนั้นเริ่มเน่าอยู่ในลักษณะนอนหงาย จึงคาดว่าดีดตัวออกจากเครื่องบินแล้ว แต่งชุดบินอยู่ครบ มีสิ่งของประกอบด้วยนาฬิกา เงิน ๑,๕๐๐ บาท วิทยุสนาม ปืนพก และรูปถ่ายหญิงสาว โดยชาวม้งได้ทำการฝั่งศพใกล้กับซากเครื่องบินราว ๑๐ เมตร ในวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๑๙ ภายหลังจากที่เขาเข้าไปยังซากเครื่องบินที่เดิมมีทหารฝ่าย ผกค.เต็มไปหมดได้ ทางเจ้าหน้าที่ทหารอากาศได้เข้าไปตรวจสอบและขุดศพนักบินที่ยังคงอยู่ในชุดบินกลับมาทำพิธีทางศาสนาต่อไป โดยกองทัพอากาศได้ปูนบำเหน็จเลื่อนยศขึ้นเป็น "นาวาอากาศตรี" ส่วนซากเครื่องบินส่วนหนึ่งได้นำไปตั้งแสดงอยู่ที่ ฐานอิทธิ บนเขาค้อ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนุสรณ์ของ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่เสียชีวิตในการรบที่เขาค้อ เพื่อปกป้องแผ่นดินไทย

โดย: เจ้าบ้าน [13 ก.พ. 55 11:37] ( IP A:119.46.176.222 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ที่ฐานอิทธิในปัจจุบัน

โดย: เจ้าบ้าน [13 ก.พ. 55 11:41] ( IP A:119.46.176.222 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   www.wingsofsiam.pantown.com

โดย: เจ้าบ้าน [13 ก.พ. 55 11:42] ( IP A:119.46.176.222 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   

โดย: เจ้าบ้าน [14 ก.พ. 55 8:38] ( IP A:119.46.176.222 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   

โดย: เจ้าบ้าน [14 ก.พ. 55 8:43] ( IP A:119.46.176.222 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน