iyakoop.pantown.com
ข้อแนะนำในการปรับปรุงบอร์ด เล่าประสบการณ์ท่องเที่ยวอียิปต์ และพูดคุยเรื่องทั่วๆไป <<
กลับไปหน้าแรก
เรื่องเล่าจากสามเจ้าชาย
นิทานเรื่องนี้มีอยู่ว่า ภายในพระราชวังของฟาโรห์เคออปส์ ผู้เป็นประมุขปกครองทั่วทั้งดินแดนอียิปต์บนและอียิปต์ล่าง ทรงเกิดความเบื่อหน่าย จึงทรงตรัสเรียกให้ลูกชายทั้ง3ของพระองค์มาถวายความสำราญให้แก่พระองค์ โดยพลัดกันเล่าเรื่องราวอันแสนสนุกให้กับพระองค์ฟัง
เรื่องที่1 เรื่องนี้เล่าโดย เจ้าชายเคเฟรน
เรื่องนี้เกิดในยุคสมัยของฟาโรห์เนบคา คราใดที่ฟาโรห์เสด็จไปยังวิหารพตาห์ ณ เมืองอังค์ตาวี ได้ทรงบัญชาให้อูบาวเนอร์ หัวหน้าพระผู้สวดคัมภึร์ตามเสด็จไปด้วยทุกครั้ง
อยู่มาวันหนึ่ง ภรรยาของชายผู้นี้ได้ถือโอกาสที่สามีไม่อยู่แอบคบชู้กับเพื่อนบ้าน นางได้ส่งให้คนรับใช้ไปทำความสะอาดกระท่อมในสวนเพื่อใช้เป็นที่ตอนรับและหาความสำราญกับชายชู้
เมื่อชายชู้มาถึงนางจึงพาเขาเข้าไปในกระท่อมแห่งนั้น ทั้งคู่ได้ดื่มสุราและใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดทั้งวัน พอตกเย็นชายชู้จึงได้ออกไปอาบน้ำในสระที่อยู่ใกล้ๆๆกันกระท่อมหลังนั้น
หญิงผู้นี้ได้ทำความเสือมเสียเป็นประจำทุกครั้งที่สามีออกไปจากบ้านไปปฏิบัติหน้าที่ในวิหารพตาห์คนรับใช้ผู้มีความจงรักภักดีได้ตัดสินใจแจ้งเรื่องนี้ให้อูบาวเนอร์ทราบ เมื่ออูบาวเนอร์ได้ฟังแล้วจึงได้เสกจระเข้ที่ทำมาจากขี้ผึ้งขึ้นมาแล้วสั้งให้จระเข็นั้นให้ไปจับชายชู้ของภรรยา โดยมอบเจ้าจระเข้ขี้ผึ้งนนั้นไว้กับตนรับใช้คนนั้น
ในต่อมาวันหนึ่ง ขณะที่อูบาวเนอร์ไปยังวิหารพตาห์ภรรยาได้ตามชายชู้ให้มาที่บ้านยังครั้งก่อน ตกเย็นชายชู้ได้ออกไปอาบน้ำในสระใกล้ๆกระท่อมนั้นเหมือนเคย แต่คราวนี้เมือคนรับใช้คนนั้นเห็นจึงได้จัดการโยนจระเข้นั้นลงไปในสระน้ำ เจ้าจระเข้ขี้ผึ้งนั้นก็ได้กลายเป็นจระเข้ยักษ์กระโดดเข้างับลากชายชู้ลงก้นสระได้ทั้นที
ในครานั้นฟาโรห์ได้ทรงถือศีลอยู่ในวิหารพตาห์เป็นเวลา7วันโดยให้อูบาวเนอร์อยู่กับพระองค์ด้วยหลังจาก7วันผ่านไป เมื่อฟาโรห์เสด็จกลับมายังปราสาท อูบาวเนอร์ได้กราบทูลให้พระองค์ว่ามีเรื่องมหัศจรรย์ให้พระองค์ดู
ฟาโรห์จึงได้เสด็จไปที่บ้านอูบาวเนอร์เขาได้นำพาพระองค์ไปยังสระน้ำแห่งนั้น และอูบาวเนอร์ได้เรียกจระเข้ให้นำร่างของชายชู้ขึ้นมาวางบนฝังทั้งที่ชายชู้ยังมีลมหายใจอยู่อูบาวเนอร์ได้แตะที่ตัวจระเข้มันก็ได้กลายเป็นจระเข้ขี้ผึงเหมือนเดิม
เมื่อพระองค์ได้ทอดพระเนตรสิ่งมหัศจรรย์แล้วอูบาวเนอร์ก็ได้เล่าเรื่องทั้งหมดแก่ฟาโรห์ถึงเรื่องที่ภรรยาของเขาและชายชู้ได้ร่วมกระทำกัน
พระองค์จึงบอกว่าชายผู้นี้เป็นของเจ้าจะทำอย่างไรก็แล้วแต่เจ้า ทั้นใดนั้นเจ้าจระเข้ก็ได้กลายเป็นจระเข้เต็มตัวแล้วลากชายชู้นั้นลงก้นสระขึ้นไปทันที
โดย: som [28 ต.ค. 51 13:41] ( IP A:125.27.172.94 X: )
ความคิดเห็นที่ 1
ต่อๆๆ เรื่องที่ 1 นะค่ะ เมื่อฟาโรห์เคออปส์ทรงฟังเรื่องนี้อย่างจดจ่อพระทัย จึงทรงให้มีการจัดการบวงสรวงอันประกอบด้วยขนมปัง 1000 ก้อน วัว 1 ตัว เนื้อ 1 ชิ้น และธูปหอมกำยายอีก1หน่วย บูชาให้กับวิญญาณ ของอูบาวเนอร์
โดย: som [28 ต.ค. 51 13:46] ( IP A:125.27.172.94 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
มาปักหลัก รอนิทานค่ะ เอาอีกๆ (ไปอ่านที่กระทู้นู้นแล้ว ^^) ขอบคุณค่ะ
โดย: lilypixel [28 ต.ค. 51 13:49] ( IP A:124.120.220.68 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
ต่อเรื่องที่ 2 เป็นเรื่องเล่าของเจ้าชาย บาอูเฟร ที่ทรงพยายามเล่าเรื่องทีจะให้สนุกกว่าพระเชษฐา ซึ่งเรื่องของพระองค์มีอยู่ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดในสมัยฟาโรห์สเนฟรู
ในวันหนึ่งฟาโรห์สเนฟรูรู้สึกเบื่อมากๆๆทรงพยายามที่จะหาอะไรทำแต่ก็ไม่มีสิ่งใดทำให้พระองค์สำราญพระหฤทัยได้พระองค์จึงตรัสเรียกจาเจมันต์ซึงเป็นหัวหน้าพระผู้สวดคัมภีร์เพี่อมาช่วยคิดหาวิธีแก้เซ็ง..จาเจมันต์เสนอว่าให้องค์ฟาโรห์เสด็จไปล่องเรือในแม่น้ำไนล์โดยให้หญิงสาวที่แสนสวยมาเป็นฝีพายให้เพื่อเป็นการทำให้พระองค์สำราญพระราชหฤทัยขึ้น
เมื่อพระองค์เสด็จร่องเรือในแม่น้ำไนล์ก็ทรงรู้สึกพอพระทัยมาก...จนกระทั่งหญิงสาวคนหนึ่งทำต่างหูหินเทอร์ควอชตกลงไปในแม่น้ำ...หญิงสาวผู้นั้นก็หยุดพายจึงทำไห้หญิงงามนางอื่นๆๆหยุดพายไปด้วยพระองค์จึงทรงสงสัยว่าหยุดพายกันทำไม....พระองค์จึงทรงตรัสถามหญิงสาวผู้นั้น หญิงสาวตอบว่านางได้ทำต่างหูหล่นไปในแม่น้ำ
พระองค์จึงทรงเสนอที่จะให้ต่างหูใหม่แก่นาง แต่นางปฏิเสธ พระองค์จึงได้เรียกจาเจมันต์มาเข้าเฝ้า จากนั้นจาเจมันต์จึงร่ายเวทมนต็เสกให้น้ำแหวกออกเป็นสองทางเขาจึงได้พบต่างหูคู่นั้นที่ก้นแม่น้ำและได้เก็บมาคืนให้ผู้ที่เป็นเจ้าของทำให้นายดีใจมาก จากนั้นจาเจมันต์ก็ร่ายน้ำให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ทำไห้เหตุการณ์ก็กลับมาคืนสู่สภาพเดิมในที่สุด
จากนั้นก็ทรงให้รางวัลแก่จาเจมันต์เป็นอย่างงาม
หลังจากที่ฟาโรห์เคออปส์ ทรงฟังเรื่องนี้ก็ทรงสั่งให้จัดเครื่องบรวงสรวง (อีกแล้ว) ขนมปัง 1000 ก้อน เบียร์ 100 ถัง วัว 1 ตัว กำยาน 2 หน่วย ถวายให้แก่ฟาโรห์สเนฟรู และจัดขนมปัง1 ก้อนเบียร 1 ถัง เนื้อ1ชิ้น ธูปหอมกำยาน 1 หน่วย บูชาให้แก่วิญญาณของ จาเจมันต์
แก้ไขความเห็นที่1นะค่ะ พิมมั่วเอง เมื่อฟาโรห์เคออปส์ทรงฟังเรื่องนี้อย่างจดจ่อพระทัย จึงทรงให้มีการจัดการบวงสรวงอันประกอบด้วยขนมปัง 1000 ก้อน เบียร์ 100 ถัง (กินให้เมาไปข้างนึง เหอๆ)วัว 1 ตัว ธูปหอมกำยาน 2 หน่วย ถวายให้แก่วิญญาณของฟาโรห์เนบคา และจัดขนมปัง1 ชิ้น เบียร์1 ถัง และเนื้อ1 ชิ้น ธูปหอมกำยานอีก1หน่วย บูชาให้กับวิญญาณ ของอูบาวเนอร์
โดย: som [28 ต.ค. 51 14:01] ( IP A:125.27.172.94 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
ต่อเลยนะค่ะเรื่องที่ 3 ซึ่งเรื่องนี้เล่าโดยเจ้าชายเจเดฟฮอร์
เรื่องนี้เกิดในสมัยฟาโรห์เคออปต์เองเลย เหอๆ มีชายคนหนึ่งนามว่าเจดีชายผู้นี้เป็นผู้วิเศษ มีอายุกว่า1000ปีแต่เขาก็ยังคงความเป็นหนุ่มแน่น เขามีเวทมนตร์คาถาที่ใช้ต่อหัวที่ถูกตัดออกมาได้ ทั้งยังสามารถสั่งให้สิงโตเดินตามหลังต้อยๆๆเหมือนลูกแมว หรือแม้แต่กระทั่งสั่งให้มันนอนนิ่งๆอยู่กับพื้น
ฟาโรห์จึงมีรับสั่งให้นำตัวเจดีมาให้พระองค์ได้ทอดพระเนตรความสามารถเมื่อเจดีมาถึงพระราชวังฟาโรห์ได้มีรับสั่งให้เจดีแสดงมนตราต่างๆให้พระองค์ทอดพระเนตร
ฟาโรห์จึงมีรับสั่งให้นำตัวนักโทษประหารมา แล้วก็ตัดคอนักโทษผู้นั้นแต่เจดีทูลว่า ไม่สามารถทำกับมนุษย์ได้ผู้ที่ชุบชีวิตมนุษย์ได้มีแต่เทพเจ้าเท่านั้นที่สามารถทำได้ ดังนั้นฟาโรห์จึงมีรับสั่งให้ทหารนำห่านมา1ตัวแล้วจัดการตัดคอห่าน เจดีก็ได้เริ่มท่องคาถามนตรา ทันใดนั้นห่านก็กลับมามีชีวิตเช่นเดิม และเจดีก็ใช้เวทมนตร์นี้แก่วัวเช้นกัน ตามมาด้วยสิงโตขององค์ฟาโรห์ เจดีก็สามารถต่อหัวกับลำตัวให้กลับมาแนบสนิทและสามารถมีชีวิตได้ดังเดิม ด้วยความอัศจรรยื ฟาโรห์จึงได้ตบรางวัลให้แก่เจดี โดยรับสั่งให้มอบข้าวของชั้นเลิศทุกชินให้แก่เจดีตราบจนชีวิตจะหาไม่
จบแล้วค่ะ
นิทาน3เรื่องนี้มาจากบันทึกที่ชื่อว่า westcar papyrus ซึ่งเขียนในสมัยอียิปต์โบราณ
-----------------------------------------------------------------------
ซึ่งเรื่องทั้งหมด ส้มเอามาจากในหนังสือ ชุดเปิดตำนานโลก ตอนตามรอยเทพเจ้า อียิปต์ค่ะ คิดอย่างไร มีใครเคยอ่านเรื่องนี้แล้วมาออกความเห็นกันหน่อยนะ แล้วมีใครเคยอ่านเรื่องอื่นนอกจากนี้ไหมค่ะ มาออกความเห็นกัน เรื่องนิทาน เกี่ยวกับอียิปต์
โดย: som [28 ต.ค. 51 14:18] ( IP A:125.27.172.94 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
ขอบคุณคุณ som ที่ร่วมเข้ามาเป็น "ผู้ให้" นะครับ
ผมเป็นผู้รับแล้ว ก็ขอเป็นผู้ให้ด้วยครับ
เรื่องนิทานใน Westcar Papyrus นั้น ถ้าเป็นฉบับที่ "แปลมาแล้ว แล้วมาแปลเป็นไทยอีกที" เนื้อหาก็ประมาณนั้นครับ ผมไม่อยากแก้ไขอะไรเพราะว่าเนื้อเรื่องหลักๆก็ประมาณนั้น แต่ถ้าแปลจาก Papyrus จริงๆเลยจะได้มุมมองที่ต่างกันออกไปครับ เพราะว่าฉบับแปลแล้ว ก็จะผิดเพี้ยนไป(จาก Papyrus ต้นฉบับ) เยอะเหมือนกัน แต่เนื้อหาโดยรวมไม่เปลี่ยนครับ
จริงๆถ้าดูจาก Papyrus แล้ว Westcar Papyrus ไม่ได้มีแค่ 3 เรื่องนี้นะครับ แต่ว่ามีมากกว่านั้น แต่ไม่รู้ว่ามากกว่าไปเท่าไร เนื่องจาก Papyrus ส่วนต้นและส่วนปลาย "ขาดหายไป" ครับ ถ้าดูจาก Papyrus ส่วนที่เหลือ จะพบว่า ก่อนที่ "เจ้าชายเคเฟรน" จะมาเล่าเรื่องในสมัย "ฟาโรห์เนบคา" มีคนอีกคนหนึ่ง (ซึ่งไม่มีชื่อจารึกไว้) มาเล่าเรื่องที่อยู่ในสมัยของ "ฟาโรห์ Djoser" ครับ (คาดว่าไม่มีหนังสือไทยเล่มใดกล่าวถึง ผมค้นพบคนแรกหรือเปล่าเนี่ย 555+)
ส่วนเรื่องเล่าของ "เจเดฟฮอร์" นั้น จริงๆยังไม่หมดแค่นี้ครับ แต่ยังมีเรื่องของการ "ทำนายการเกิด" ของฟาโรห์แห่งราชวงศ์ที่ 5 อีก 3 องค์ครับ อย่างไรก็ตาม เรื่องเล่าการทำนายนี้ไม่จบครับ เนื่องจาก Papyrus ขาดหายไปเสียก่อน
มีท่านใดอยากเป็นผู้ให้ เข้ามาบรรยายเรื่องการทำนายการเกิดของฟาโรห์แห่งราชวงศ์ที่ 5 บ้างมั๊ยครับ???
โดย: Detectiveoat13 (เจ้าบ้าน
) [29 ต.ค. 51 10:20] ( IP A:124.120.121.222 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
เรื่องของโซเซอร์นี่เกี่ยวกะเทพคนุมเเล้วก้ออิมโฮเทปช่ายปะ!?
โดย: Imseti [29 ต.ค. 51 17:13] ( IP A:58.9.26.216 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
เรื่องของ Djoser Khnum และ Imhotep ที่เกิดความแห้งแล้งและ Imhotep ขันอาสาไปหาเทพ Khnum ที่ Elephatine นั้น หนังสือ "ตำนานไอยคุปต์ ยุครุ่งอรุณแห่งอารยธรรมโลก" ของสนพ. คุ้มคำ เรียบเรียงโดย คุณสมฤทธี บัวระมวล ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 ได้กล่าวปิดท้ายตำนานเรื่องเทพ ฆเนมู (Khnum) ไว้ในหน้า 153 เกี่ยวกับตำนานเรื่องนี้ว่า
"เรื่องราวของเทพ ฆเนมู แห่งลุ่มน้ำนิล ได้รับการจารึกไว้บนก้อนหินของเอะเละฟันตีเน"
(ศัพท์อาจจะแปลกๆ แต่ก็ตีความได้ว่า "เรื่องราวของเทพ Khnum ที่เล่าไปนี้ได้รับการจารึกไว้บนหินของเกาะ Elephantine" ถ้าอ้างอิงจากหนังสือเล่มนี้จะตีความได้ว่า ตำนานเรื่อง Djoser Khnum และ Imhotep ไม่ได้จารึกไว้ใน Westcar Papyrus ครับ
อย่างที่บอกว่าตำนานเรื่องแรกของ Westcar Papyrus ที่หายไปนั้น เราไม่ทราบเลยว่าใครเป็นผู้เล่า และเล่าถึงใคร ทราบเพียงว่า เล่าราวที่เล่านั้นอยู่ในยุคของฟาโรห์ Djoser เท่านั้นเอง
นักวิชาการบางท่านเลยคาดว่า ผู้เล่า น่าจะเป็น Djedefre (ซึ่งเป็นลูกของ Khufu เหมือนกัน) และน่าจะเล่าถึงเรื่องราวของ Imhotep แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครรู้ความจริงครับ
ดังนั้น เรื่องราวที่ขาดหายไปในยุคของ Djoser ที่จารึกไว้ใน Westcar Papyrus "อาจจะไม่ใช่" เรื่องที่ Imhotep ไปหาเทพ Khnum ที่ Elephatine ก็ได้ครับ
โดย: Detectiveoat13 (เจ้าบ้าน
) [29 ต.ค. 51 17:43] ( IP A:124.120.121.64 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
อัพที่ blog แล้วค่ะ
https://iyakoop.exteen.com/20081209/entry-1
โดย: lilypixel [9 ธ.ค. 51 19:35] ( IP A:124.120.225.2 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
อ้ออออ เคยได้ยินเหมือนกัน ว่ากันว่าหลังจากที่ เจดีได้ทำนาย
เด็ก3คนเปนร่างแปลงของเทพอมุน ซื่งเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ
คัมภีร์เวทย์รักษาพีระมิด ซื่งเด็ก1ใน3ที่พบ ต่อมากลายเปน
ฟาโรห์แห่งราชวงศืที่5 นาม ยูเซอร์คาฟ พีระมิดของพระองค์อยู่ใก้ล้ๆกับ พีระมิดของdjoser ครับ
โดย: tumtumza@hotmail.com [3 พ.ย. 54 14:06] ( IP A:115.87.158.26 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
จริงๆแล้วถ้าอ้างตามตำนาน ไม่ได้เป็นร่างแปลงของเทพ Amun นะครับ (สมัยนั้น Amun ยังไม่เป็นใหญ่ เพราะยังเป็นช่วง Old Kingdom) แต่เด็ก 3 คนนั้นเป็นบุตรของภริยาแห่งนักบวชแห่งเทพ Ra แห่งนคร Heliopolis น่ะครับ (อย่างที่ผมเล่าใน คห. 7)
และเด็ก 3 คนนั้นก็ได้กลายมาเป็นฟาโรห์ Userkaf, Sahure และ Neferikare ฟาโรห์ 3 องค์แรกแห่งราชวงศ์ที่ 5 นั่นเองครับ
โดย: Detectiveoat13 (เจ้าบ้าน
) [3 พ.ย. 54 18:28] ( IP A:182.53.193.131 X: )
ดำ
ขาว
น้ำเงิน
แดง
เขียว
เหลือง
ส้ม
น้ำตาล
ม่วง
ฟ้า
เขียวมะนาว
รายละเอียด :
ชื่อ / e-mail :
แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้
(ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)
รูปประกอบ :
.jpg .bmp .gif < 100K
จัดตำแหน่งรูป :
ชิดซ้าย
กึ่งกลาง
ชิดขวา
เสียงประกอบ :
.wav .mp3 .wma .ogg < 300K
คลิปวีดีโอ (Youtube) :
ตัวอย่าง : http://www.youtube.com/watch?v=k_ufqno7NaE
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน