สืบหาตัวตน"แมน อี" มัมมี่สีหน้าทุกข์ทรมาน
   อันนี้เคยดูในทีวีนานแล้วแต่เขาเพิ่งเอาข่าวมาลง
..........
ภาพมัมมี่ที่แสดงสีหน้ากรีดร้องเจ็บปวดโหยหวน มือเท้าถูกมัด ยังคงตรึงอยู่ในใจผู้ที่พบเห็น จึงมีการศึกษากันว่า เจ้าของมัมมี่ผู้นี้คือใครกัน

เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ.1886 นายแกสตัน มาสเพอโร อธิบดีกรมศิลปากรอียิปต์ เปิดผ้าพันมัมมี่ของฟาโรห์และราชินีกว่า 40 มัมมี่ออกมาดู ส่วนใหญ่แล้วเป็นมัมมี่ที่พบจากสุสาน ในหุบเขาแดร์เอลบาห์รีเมื่อค.ศ.1881 มัมมี่นี้มีทั้งของฟาโรห์รามเสส ฟาโรห์เซติที่ 1 ฟาโรห์ทัตโมสิสที่ 3

แต่มีมัมมี่หนึ่งที่แตกต่างไปจากมัมมี่อื่นๆ คือที่โลงศพไม่มีการตกแต่งลวดลายใดๆ ไม่ได้มีการจารึกเบาะแสว่าเป็นใคร เมื่อเปิดโลงดูมาสเพอโรและคณะยิ่งตกใจยิ่งขึ้น เพราะสิ่งที่ใช้พันมัมมี่คือหนังแกะหรือไม่ก็หนังแพะ นับเป็นวัสดุที่ไม่บริสุทธิ์ตามความเชื่อของการทำมัมมี่ในสมัยโบราณ มีแต่คนที่ไม่บริสุทธิ์ ที่เคยทำชั่ว ทำเลวเท่านั้น ถึงจะถูกพันด้วยหนังสัตว์

ผู้เป็นเจ้าของเป็นเพศชาย สีหน้าแสดงความเจ็บปวด การที่ไม่มีจารึกใดๆ หมายความว่า บุคคลผู้นี้จะต้องถูกสาปแช่งไปตลอดชาติ เนื่องจากชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า การบ่งบอกว่ามัมมี่เป็นใครนั้น จะทำให้วิญญาณได้ก้าวเข้าไปสู่ชีวิตหลังความตาย มาสเพอโรจึงตั้งชื่อมัมมี่ปริศนานี้ว่า "แมน อี (Man E)"

เป็นเวลาเกือบ 130 ปี หลังจากพบ "แมน อี" คณะนักวิทยาศาสตร์รวมทั้งดร.ซาฮี ซาวาส เลขาธิการสมัชชาโบราณสถานโบราณวัตถุอียิปต์ จึงใช้เทคโนโลยีล่าสุด ทั้งซีทีสแกน เอกซเรย์ เทคโนโลยีการสร้างหน้าใหม่ เพื่อสืบดูว่า "แมน อี" คือใคร ทำไมถึงถูกประณามสาปแช่ง
1.มัมมี่

2.ขณะถ่ายสารคดีแมน อี หรือ Screaming mummy

3.เข้าเครื่อง 3D สแกน

4.มัมมี่สีหน้าทุกข์ทรมาน

5.ฟาโรห์รามเสส




ดร.ฮาวาส กล่าวว่า "เราไม่เคยเห็นมัมมี่ลักษณะนี้มาก่อน สีหน้าที่เจ็บปวด แสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น แต่เราไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไร"

มีหลายทฤษฎีที่ระบุตัวตนของ "แมน อี" ทั้งมีผู้เชื่อว่า "แมน อี" คือ "เจ้าชายเพนทีวีรี" พระโอรสของฟาโรห์รามเสสที่ 3 ผู้สมคบคิดกับ "ราชินีทิฟ" พระมารดาคิดการกบฏ ด้วยการลอบสังหารของฟาโรห์รามเสส แต่ถูกจับได้เสียก่อนจึงได้รับโทษ

มีผู้เชื่อว่า "แมน อี" คือผู้ว่าการนครอียิปต์ แต่เสียชีวิตขณะอยู่ต่างแดน มีการนำศพกลับมายังอียิปต์เพื่อทำการฝัง มีผู้เชื่อว่าลักษณะการทำมัมมี่บ่งชี้ว่า "แมน อี" ไม่ใช่ชาวอียิปต์ แต่เป็นสมาชิกราชวงศ์ฮิตทิต ศัตรูของราชวงศ์อียิปต์โบราณ

โดยพระนางอันคีซีนามุน พระชายาม่ายของฟาโรก์ตุตันคามุนที่เพิ่งสิ้นพระชนม์ไป เขียนจดหมายไปหากษัตริย์ของราชวงศ์ฮิตทิต เพื่อขอให้พระองค์ส่งเจ้าชายองค์ใดองค์หนึ่งมาอภิเษกกับพระนาง แลกเปลี่ยนกับเจ้าชายจะได้รับการยกย่องให้เป็นฟาโรห์ของอียิปต์ ส่วนพระนางอันคีซีนามุนจะได้มีอิทธิพลอยู่ต่อไป แต่เมื่อเจ้าชายเดินทางมาถึงอียิปต์แล้วกลับถูกปลงพระชนม์

แต่ละทฤษฎีต่างมีผู้สนับสนุนจำนวนหนึ่ง เช่น ดร.ซูซาน เรดฟอร์ด นักอียิปต์วิทยาจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตท ระบุว่า มีกระดาษพาไพรัส (ปาปิรุส) โบราณที่กล่าวถึงแผนของราชินีทิฟที่ต้องการสังหารพระสวามี เพื่อให้ "เจ้าชายเพนทีวีรี" ขึ้นครองราชย์ แม้ว่าเจ้าชายไม่ได้อยู่ในรายชื่อของผู้มีสิทธิ์ครอบครองราชบัลลังก์




ดร.เรดฟอร์ด กล่าวว่า "มีเจ้าหน้าที่ในราชสำนักสนับสนุนการสังหารฟาโรห์รามเสส แต่ไม่นานแผนการนี้ก็เปิดโปงออกมา จึงมีการนำตัวผู้สมคบคิดไปลงโทษ สำหรับเจ้าชายในพาไพรัสเขียนไว้ว่า ได้รับการไว้ชีวิต เป็นไปได้ว่า การที่พระองค์ทรงมีฐานะเป็นเจ้าชาย จึงเปิดโอกาสให้ปลงพระองค์เอง ด้วยการให้ดื่มยาพิษ"

ผลของการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาศึกษา พบว่า "แมน อี" ได้รับการชำแหละศพอย่างที่บุคคลสำคัญของอียิปต์ได้รับ ผลการตรวจกรามและฟันระบุว่า เป็นชายอายุไม่เกิน 40 ปี ซึ่งเป็นไปได้ว่า อาจเป็นเจ้าชายเพนทีวีรี และจากการสร้างใบหน้าขึ้นมาใหม่ ทำให้เชื่อว่า "แมน อี" ไม่น่าจะใช่เจ้าชายจากราชวงศ์ฮิตทิต แต่เป็นผู้ที่มีหน้าตาดี มีกรามยาว มีสันจมูกเด่นชัด

เมื่อผลการศึกษาที่ออกมายังไม่สามารถสนับสนุนทฤษฎีใดทฤษฎีหนึ่งได้ว่า "แมน อี" เป็นใคร เพียงแต่ประเด็นที่ว่า อาจเป็นเจ้าชายเพนทีวีรีมีน้ำหนักมากที่สุด กรมศิลปากรของอียิปต์จึงจะนำดีเอ็นเอของ "แมน อี" และฟาโรห์รามเสสที่ 3 มาวิเคราะห์ เพื่อหาว่าความสัมพันธ์ทางสายเลือด เมื่อได้ผลออกมา เราก็อาจทราบว่าใครกันเป็นเจ้าของมัมมี่ร่างนี้ และเกิดอะไรขึ้นกับเขา

โดย: lilypixel [9 ธ.ค. 51 19:50] ( IP A:124.120.225.2 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   ลืมจาก
https://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEE1TVRJMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHhNaTB3T1E9PQ==



แล้วนี่คลิป
https://www.youtube.com/watch?v=VvHW6bSgdF0&eurl=https://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEE1TVRJMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&dayiurl=https://i3.ytimg.com/vi/VvHW6bSgdF0/hqdefault.jpg&feature=player_embedded

https://www.youtube.com/watch?v=lrhOwaW7CZw&eurl=https://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEE1TVRJMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&dayiurl=https://i1.ytimg.com/vi/lrhOwaW7CZw/hqdefault.jpg&feature=player_embedded
โดย: lilypixel [9 ธ.ค. 51 19:51] ( IP A:124.120.225.2 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ลืมคำอธิบายรูป

1.มัมมี่

2.ขณะถ่ายสารคดีแมน อี หรือ Screaming mummy

3.เข้าเครื่อง 3D สแกน

4.มัมมี่สีหน้าทุกข์ทรมาน

5.ฟาโรห์รามเสส
โดย: lilypixel [9 ธ.ค. 51 19:52] ( IP A:124.120.225.2 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ก็คงจะเป็นเจ้าชายเพนเทเวเร่ แหละคับ
โดย: ออมคุง [9 ธ.ค. 51 20:45] ( IP A:58.10.146.35 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   อันนี้เคยดูสารคดี ดูเหมือนเค้าจะสนับสนุนเหลือเกินว่าอาจจะเป็นเจ้าชายแพนทาแว แต่ก็ยังไม่รู้ชัดเจนว่าคือใครกันแน่
โดย: som [9 ธ.ค. 51 21:29] ( IP A:125.27.175.63 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   เอ่อ... จากสารคดีเมื่อนานมาแล้ว Bob Brier นักอียิปต์วิทยาสุดเทพด้านมัมมี่ ได้นำมัมมี่ที่เรียกว่า Unknown Man E หรือที่เราคุ้นจากสารคดีไทยว่า "ชายนิรนาม อี" นั่นแหละครับ ออกมาตรวจสอบ และตอนนั้น ได้ "คาดว่า" เป็น เจ้าชาย Pentewere ซึ่งวางแผนปลงพระชนม์ Ramses III ซึ่งเป็นพระบิดา โดยวางแผนร่วมกับ Tiy พระมารดา (ซึ่งที่คุณ Lilypixel อ้างอิง ใช้ชื่อว่า ทิฟ ซะงั้น นี่แหละหนอ แหล่งอ้างอิงของไทย - -") แต่สุดท้ายก็ไม่รอดเพราะโดนจับได้

ข่าวนี้ ไม่ใช่ข่าวเก่าครับ แต่เป็นข่าวใหม่ ที่เอา Man E ไป CATScan (ตอน Bob Brier ไม่ได้ CATScan นะผมว่า) เพื่อหาตัวตนที่แท้จริง ซึ่งจาก CATScan ล่าสุดก็ส่งผลว่า มัมมี่ร่างนี้ น่าจะใช่ Pentewere มากขึ้น แต่ยังไงเราก็ต้องตรวจ DNA อีกที ว่าจะเป็น Pentewere จริงหรือเปล่า

เอาเป็นว่า รอดูกันต่อไปครับ ^^
โดย: Detectiveoat13 (เจ้าบ้าน ) [20 ธ.ค. 51 9:33] ( IP A:124.120.123.197 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   เราเคยอ่านนิยายเรื่องหนึ่งมีเกี่ยวกับ เจ้าชาย Pentewere ว่าคิดปลงพระชนม์ฟาโรห์รามเสส หรือ พ่อของเขาเขา เพราะเหตุผลบางอย่าง(เราจำไม่ได้ว่าในนิยายบอกว่าอะไร)
การที่พระองค์ทรงมีฐานะเป็นเจ้าชาย จึงเปิดโอกาสให้ปลงพระองค์เอง ด้วยการให้ดื่มยาพิษ จึงมีสีหน้าเหมือนกรีดร้องเจ็บปวดโหยหวน
โดย: film [21 ก.ค. 52 11:33] ( IP A:118.172.27.35 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   อย่าลืมเรื่องต่างหูด้วยนะคะ การที่มีเสียงบอกว่าเป็นเจ้าชาย เยอะก้อ เพราะว่า ที่หูนั้นมีรอยเจาะต่างหูด้วย ในสมัยนั้นผู้ที่จะเจาะหูได้มีเพียงแค่ในบรรดาราชวงศ์เท่านั้น สูงกว่าผู้อื่น ในการทำมัมมี่ก้ไม่เรียบร้อยเหมือนกับที่มืออาชีพในสมัยนั้นทำ เพราะพวกบรรดาพี่น้องของเจ้าชายนั้นทำเพื่อปกป้อง แต่ก็ถือว่ายังมีความผิดอยู่จึงห่อด้วยหนังแกะส่วนสาเหตุที่ใบหน้าดูทุกข์ทรมานก้ กินยาพิษค่ะ ส่วนมารดาและคนที่สมรู้ร่วมคิดก้น่าจะถูกเผาทั้งเป็น(ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)เพราะความมักใหญ่ไฝ่สูงของมารดาอยากเอาชนะสนมคนอื่นๆจึงได้คิดแผนการนี้ขึ้นมาค่ะ ปล. สังเกตดูจากเล็บเท้าที่แสดงให้เห็นว่าอยู่แบบสุขสบายไม่เคยทำงานหนักเลย(สังเกตจากกระดูกด้วย)ค่ะ น่าจะนะ ถ้าจำไม่ผิด
โดย: kyozah [22 ธ.ค. 53 23:04] ( IP A:119.31.27.5 X: )
ความคิดเห็นที่ 25
   
ตกลง ตรวจDNA และผลคือ?? ออกมาว่าไงครีััับ

โดย: ไก่ [29 ส.ค. 57 20:36] ( IP 118.173.92.126 X: )


คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน