เกลือ กับ นาตรอนต่างกันอย่างไร???
   ใครรู้บ้างค่ะ สับสนอ่ะค่ะ
โดย: once upon a time [23 ก.ย. 51 21:11] ( IP A:125.27.170.183 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   อันนี้อ้างอิงจากคู่สร้างคู่สมนะคะ อาจยาวไปนิด แต่น่าสนใจมาก

" นักโบราณคดีบอกเราว่า การพยายามรักษาศพไว้มิให้เน่าเปื่อยของชาวอียิปต์มีมาตั้งแต่ 2,600 ปีก่อนคริสตกาลมาแล้ว ทั้งนี้จากหลักฐานที่ขุดพบ ในระยะแรกๆ คงใช้วิธีง่ายๆ โดยอาศัยธรรมชาติช่วย

นั่นคือฝังไว้ใต้ทรายร้อนๆ แต่ผลที่ได้นั้น แม้ร่างจะไม่เน่าเปื่อยแต่ก็ไม่สมบูรณ์พอที่วิญญาณจะกลับคืนเข้าไปให้ฟื้นขึ้นมาได้อีกตามความเชื่อถือ เพราะร่างจะบิดเบี้ยวคดงอไปไม่น่าดู

ต่อมาจึงได้คิดค้นหาวิธีใหม่เพื่อให้ร่างคนตายคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด นั่นคือการบรรจุศพไว้ในหลุมหรือโลงไม้ แล้วใช้ผ้าชุบยางไม้ชนิดหนึ่งให้ชุ่มโชกมาพันร่างกายไว้ ป้องกันการเน่าเปื่อยแทนความร้อนจากทราย ผลก็คือ สามารถรักษารูปร่างของศพไว้ได้ แต่ป้องกันไม่ให้กระดูกหลุดออกจากกันไม่ได้

ชาวอียิปต์โบราณยังไม่ยอมแพ้ จากมัมมี่ที่ขุดพบในยุคต่อมา หลังจากตรวจพิสูจน์ทางเคมีแล้ว เชื่อว่าชาวอียิปต์ใช้วิธีนำร่างคนตายลงแช่ในยางไม้ชนิดหนึ่งซึ่งมีกลิ่นหอม แล้วชโลมด้วยขี้ผึ้ง หรือน้ำมันดิน แล้วก็เผาอย่างประณีตจนแห้ง

ผลก็คือ มัมมี่ในยุคนั้นมีสภาพแข็งและเปราะ แขน ขา มือ เท้า พร้อมที่จะหักทันที หากมีอะไรไปกระทบแรงๆ หน่อย จะมีเสียงแตก ไม่ต่างอะไรกับแก้วแตกเลย

กรรมวิธีการทำมัมมี่ได้วิวัฒนาการไปเรื่อยๆ พร้อมๆ กับการเตรียมสถานที่ฝังศพไว้ล่วงหน้าก็ได้วิจิตรพิสดารยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับองค์ฟาโรห์

ฟาโรห์องค์ไหนมีอำนาจมากหรือร่ำรวยมาก ก็จะเตรียมที่อยู่ในภพหน้าของพระองค์อย่างสวยงามและลึกลับซับซ้อนเป็นพิเศษ


ประมาณกันว่าคงราวๆ สมัยราชวงศ์ที่ 21 หรือประมาณ 1,085 ถึง 945 ปีก่อนคริสตกาล ชาวอียิปต์โบราณก็ได้รู้กรรมวิธีทำศพให้แห้งโดยไม่เน่าเปื่อยอย่างถูกต้องที่สุด

พวกเขาได้รู้ว่าการป้องกันไม่ให้ศพเน่านั้น สำคัญที่สุดคือการเอาน้ำและของเหลวในร่างกายออกให้หมดอย่างถูกวิธี

แล้วต้องบรรจุสารบางชนิดเข้าไปในร่างกายแทน เพื่อให้หนังมีลักษณะหยุ่นตัวเหมือนตอนมีชีวิตอยู่ด้วย


พวกเขาค้นพบธาตุชนิดหนึ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ แนวทะเลสาบทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงไคโร ประมาณ 40 ไมล์ ธาตุดังกล่าวนั้นคือ นาตรอน อันเป็นต้นกำเนิดของโซเดียมคาร์บอเนตและไบคาร์บอเนต

นาตรอน มีคุณสมบัติพิเศษในการดูดซับน้ำออกจากร่างกาย และทำหน้าที่ดับกลิ่น ฆ่าเชื้อโรคไปในตัว "


เท่าที่อ่านๆมา แพร์หาได้นาตรอนต๊อยนึงเอง T^T แต่ว่าก็คงพอจะเดาได้มากเลยล่ะค่า ว่าคุณสมบัติของมันอลังการกว่าเกลือแน่นอน เพราะช่วยคงสภาพได้ดี แม้แต่ทรายร้อนๆหรือยางไม้อะไรยังสู้ไม่ได้ ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมสุดยอดขั้นสูงสุดของการทำมัมมี่ (ว่าไปนั่น)

ส่วนเกลือ..น่าจะไว้ใช้บ้วนปากกะทำอาหาร หะหะ (หรือมากกว่านี้รบกวนผู้รู้ค่า)

โดย: pear [24 ก.ย. 51 20:54] ( IP A:58.8.1.177 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ขอบคุณ คุณแพร์มากนะค่ะ แต่เคยได้ยินมานะค่ะว่าเกลือมีคุณสมบัติในการใช้ทำความสะอาดฟันเหมือนกัน อิอิ ไม่งั้นคงไม่มียาสีฟันสูตรเกลือ ๕๕๕๕+ ขำๆ ขอบคุณนะค่ะ
โดย: once upon a time [24 ก.ย. 51 21:37] ( IP A:125.27.173.105 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ขอตอบบ้าง
เอาให้ตรงประเด็นเลยนะ
เกลือ-Natrium(Na) นาตรอน-Natron(NaHO3)
ทั้ง๒คำมีรากศัพย์จากภาษาของอียิปท์ ต่างก็เป็นเกลือเหมือนกัน
และเกลือมีหลายชนิดาระไนไม่หมดวันนี้
คำว่าเกลือทั่วไปที่เรากินคือNaCl
นาตรอนคือNaHco3เป็นเกลือชนิดหนึ่งเราใช้เร่งปฏิกิริยาให้ขนมเค๊กฟู
โดย: แม่ของอ๊บค่ะ [24 ก.ย. 51 23:39] ( IP A:84.143.71.137 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   นาตรอนพบได้ทั่วไปในทะเลทรายค่ะ^_^(อ่านจากหนังสือเล่มไหนไม่รู้ แต่เหมือนไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไหร่)
โดย: kawis [25 ก.ย. 51 9:12] ( IP A:202.28.244.214 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   มาช่วยเคลียร์ครับ เอาตรงคำถามเลยเช่นกันนะครับ อาจออกแนววิทยาศาสตร์เล็กน้อย

นาตรอนคือสารประกอบของ โซเดียมคาร์บอเนต โซเดียมไบคาร์บอเนต และสารเจือปนอื่นๆครับ ส่วน

เกลือ คือ ผลผลิตที่ได้จากการผสม กรด และ เบส เข้าด้วยกันครับ ซึ่งปฏิกิริยาดังกล่าวผลลัพธ์ที่ได้คือ เกลือ และ น้ำ ครับ (ใครเรียนเคมีมาคงพอทราบนะครับ)

กรดคือสารประกอบที่มี H(+1)
เบสคือสารประกอบที่มี OH(-1)

เช่น HCl[กรด> + NaOH[เบส> --> NaCl[เกลือ> + H(2)O[น้ำ>

แต่เราจะคุ้นคำว่า เกลือ = NaCl หรือเกลือแกงที่เราบริโภคมากกว่าครับ

ดังนั้นถ้านำ H(2)CO(3)[กรด>+ NaOH[เบส> --> Na(2)CO(3)[เกลือ> + H(2)O[น้ำ>

Na(2)CO(3)[เกลือ> ก็คือ โซเดียมคาร์บอเนต ซึ่งเป็นสารประกอบของนาตรอนนั่นเองครับ

ดังนั้นคำตอบก็คือ ไม่ต่างกัน เพียงแต่ นาตรอนคือเกลือชนิดหนึ่งครับ หรือพูดเป็นภาษาคณิตศาสตร์ว่า นาตรอน คือสับเซต ของเกลือนั่นครับ book

ประโยชน์ของนาตรอนนอกจากเอามาใช้ในกระบวนการทำมัมมี่แล้ว ชาวอียิปต์โบราณยังใช้นาตรอนมาใช้ในกระบวนการทำความสะอาดร่างกายและซักผ้าด้วยครับ นั่นหมายความว่า นาตรอนใช้แทนสบู่และผงซักฟอกได้ด้วยนั่นเอง อ้อ.. ถ้าผมจำไม่ผิด นาตรอนใช้แทนยาสีฟันได้ด้วยนะครับ ^^
โดย: Detectiveoat13 (เจ้าบ้าน ) [25 ก.ย. 51 9:24] ( IP A:124.120.116.89 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   เดี๋ยวขออนุญาตนำข้อมูลไปรวบรวมใน blog นะคะ ^^ ขอบคุณทุกท่านค่ะ
โดย: https://iyakoop.exteen.com [25 ก.ย. 51 19:42] ( IP A:124.120.230.131 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   คห.๕ อาจารย์เคมีมาเองเลยนะนี่
แต่ไม่เคยเห็นว่านาตรอนแปรงฟันได้ เกลือที่แปรงฟันมันอีกชื่อหนึ่ง
ฟลูออไรด์ไหมคะ?

อ้อนาตรอนมีอีกชื่อง่ายๆคือโซดาที่ผสมแป้งขนมเค๊กค่ะ
โดย: แม่ของอ๊บค่ะ [25 ก.ย. 51 20:11] ( IP A:84.143.76.167 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   เรื่องใช้นาตรอนทำความสะอาดฟัน ผมค่อนข้างมั่นใจนะครับ

ส่วนเกลือฟลูออไรด์ มันเป็นของที่ใช้กันปัจจุบันหรือเปล่าครับ? อันนี้ผมไม่มั่นใจ หรือใช้ตั้งแต่อียิปต์โบราณล้ว?? ผู้รู้ช่วยด้วยครับ ^^

โดย: Detectiveoat13 (เจ้าบ้าน ) [25 ก.ย. 51 20:31] ( IP A:124.120.116.89 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   เคยอ่านเจอฟลูออไรด์เพิ่งพบไม่นานนี่เองสมัยโบราณยังไม่มี ไปอ่านเจอที่ไหนจำไม่ได้รู้สึกจะอ่านเกี่ยวกับประวัติยาสีฟัน

โดย: lilypixel [26 ก.ย. 51 5:35] ( IP A:124.120.216.177 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ชอบรูปของคุณแพร์จังเลย

ดูแล้วขลังจัง
โดย: phoenixsea [6 พ.ย. 51 17:48] ( IP A:58.64.76.105 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   เรียกว่า เกลือนาตรอน ลักษณะเป็นผงสีขาว

โดย: mayar [8 ก.ย. 52 14:56] ( IP A:58.137.108.194 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   ขออธิบายคร่าวๆครับ ยาสีฟันของอียิปต์ที่พี่โอ๊ตกล่าวมาจริงครับ
แต่มียาสีฟันอีกแบบหนื่งคือ ใช้สารส้มที่ได้จากเหล้าองุ่นประกอบกับ
ผงหินpumis ซื่งช่วยให้ฟันขาว ส่วนแปรงสีฟัน ทำจากกิ่งของต้น
ซัลวาดาราพอชิกาครับ นำมาทุบปลายให้แตก(คล้ายกิ่งข่อยของบ้านเรา) นอกจากนี้ยังมี ยาสระผม,โรลออน,ไนท์ครีม,นำหอม อีกด้วยครับ
(จากต่วยตูนครับ)smile
โดย: tumtumza@hotmail.com [4 พ.ย. 54 13:18] ( IP A:58.9.225.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   อ่า... ข้อมูลที่คุณ tumtum ได้มาอาจจะยังไม่ update นะครับ ผมขออ้างอิงประโยคนี้แล้วกัน

No evidence has been recovered to suggest that the Egyptians used a toothbrush in the manner of the miswak, a natural brush-cum-toothpaste from Salvadora persica, a tree native to southern Egypt and the Sudan. The root has been used for dental care by the Muslims since the days of the Prophet.

จากหนังสือ An ancient Egyptian Herbal ของ Lise Manniche ครับ

ซัลวาดาราพอชิกา ที่คุณ tumtum ว่ามานั้น "ไม่มีหลักฐาน" บอกว่าชาวอียิปต์โบราณใช้เป็นแปรงสีฟันจริงแต่อย่างใดนะครับ!!

แต่ถ้าถามว่ามีใช้ไหม ก็คือมีครับแต่เป็นยุคของมุสลิมแล้วครับ ^^
โดย: Detectiveoat13 (เจ้าบ้าน ) [4 พ.ย. 54 21:42] ( IP A:124.122.111.197 X: )


คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน