อยากทราบ ประวัติ ฟาโรห์ องค์สำคัญๆ อ่ะค่ะ
   
โดย: [0 3] ( IP )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   คือ อาจารย์ ที่โรงเรียน เค้าสั่งงานมาอ่ะค่ะ ฝน ก็เลย ต้องขอรบกวน พี่ๆหน่อยน่ะค่ะ คือ ฝนอยากทราบประวัติ ของ องค์ฟาโรห์ ที่สำคัญๆอ่ะค่ะ ประมาณ 2-3 พระองค์ ก็ได้ค่ะ ขอความอนุเคราะห์ จากพี่ๆทุกคนด้วยน่ะค่ะ
โดย: fon_conan1412@hotmail.com [7 ต.ค. 51 18:41] ( IP A:125.24.64.199 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   จะเอาขององค์ไหนละ ตุตัน รามเสสที่ 2 ทุตโมสที่3 หรือ อัคเคนาเตน
หรือจะองค์อื่นๆ
โดย: shadowmaya13@hotmail.com [7 ต.ค. 51 18:50] ( IP A:124.120.114.2 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ก็ อยากทราบของ ตุตัน รามเสสที่ 2 แล้ว ก็ อัคเคนาเตน อ่ะค่ะ

ยังไงก็ขอรบกวนด้วยน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ
(ขอโทดด้วยน่ะค่ะที่ไม่ได้ระบุชื่อให้ชัดเจน)
โดย: fon_conan1412@hotmail.com [7 ต.ค. 51 19:14] ( IP A:118.173.88.8 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   smile
โดย: Front [7 ต.ค. 51 19:51] ( IP A:202.28.62.245 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   งั้นเอาของ ตุตันคาเมน ก่อนแล้วกัน ตุตันคาเมนเป็นฟาโรห์ของราชวงศ์ ที่18 ถือได้ว่าเป็นยุวกษัตริย์เพราะครองราชย์ ในขณะที่อายุยังน้อย เป็นลูกชายของ ฟาโรห์ อัคเคนาเตนและนางสนม คียา
มีมเหสีชื่อ Ankhesenamun ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่สาวของตุตันคาเมน
แต่โชคร้ายที่ครองราชย์อยู่ได้ไม่นาน เพราะอาจจะเป็นไปได้ว่าถูกลอบปลงพระชนม์

ต่อด้วยของ อัคเคนาเตน อัคเคนาเตนเป็นฟาโรห์ของราชวงศ์ที่ 18
เป็นบิดาของฟาโรห์ ตุตันคาเมน มีมเหสีชื่อ เนเฟอร์ติตี มีนางสนมองค์รองชื่อ คียา ซึ่งเป็นแม่ของ ตุตันคาเมน อัคเคนาเตนเป็นฟาโรห์ที่ปฏิวัติระบบศาสนาในสมัยนั้น ทรงสั่งให้ประชาชนหันมานับถือเทพ Aten และทรงสั่งให้สร้างเมืองขึ้นมาใหม่ที่มีชื่อว่า อมานาร์ และทรงสั่งให้ย้ายเมืองหลวงเดิม มาเป็นเมือง อมานาร์ แทน หลังจากที่พระองค์ครองราชย์ได้ไม่นานมากนัก พระองค์ก็หายตัวไปจากหน้าประวัติศาสตร์ซะเฉยๆ เป็นไปได้ว่าอาจจะถูกลอบปลงพระชนม์จากคนใกล้ชิด
เพราะเหตุที่ว่าทรงเป็นฟาโรห์ที่ออกจะนอกรีต แถมยังแต่งงานกับลูกสาวของตัวเองอีกด้วย และประการสำคัญคือ นักบวชจากศาสนาเดิมไม่พอใจที่พระองค์ทรงสั่งให้มานับถือเทพองค์ใหม่

รามเสสที่ 2 เป็นฟาโรห์ราชวงศ์ที่ 19 เป็นลูกของ ฟาโรห์เซติที่ 1
มีมเหสีชื่อ เนเฟอร์ตารี พระองค์เป็นฟาโรห์ที่ครองราชย์นานพอสมควร
ทรงสั่งให้สร้างเมืองขึ้นมาใหม่ชื่อ พีรามเสส หรือ ไพรามเสส แถมยังได้สร้างมหาวิหารอันใหญ่โตอีกด้วย นับได้ว่าเป็นยุคที่รุ่งเรืองอีกยุค
หนึ่ง และที่สำคัญช่วงเวลาที่พระองค์มีชีวิตอยู่นั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เกิดเหตุการณ์เอกซ์โซดัส ที่มีบันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิ้ลอีกด้วย

และคนสุดท้าย ทุตโมสที่ 3 ทุตโมสที่ 3 เป็นฟาโรห์ราชวงศ์ที่ 18
พระองค์ทรงได้ฉายาว่า นโปเลียน แห่งอียิปต์ เนื่องจากทรงเป็นกษัตริย์ที่เก่งกาจมากๆด้านการรบ ในสมัยที่ยังทรงครองราชย์นั้น
อาณาจักรอียิปต์มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมาก และมากที่สุดในประวัติศาสตร์อียิปต์อีกด้วย และประการสุดท้ายมีบันทึกลึกลับในสมัยของพระองค์ ที่บันทึกเหตุการณ์ที่อาจจะเกี่ยวกับการมาเยือนของมนุษย์ต่างดาวอีกด้วย และบันทึกนั้นมีชื่อว่า ทัลลี่ปาปิรัส
ขอจบการชี้แจงเพียงเท่านี้ สวัสดีเด้อ 55+




โดย: shadowmaya13@hotmail.com [7 ต.ค. 51 20:00] ( IP A:124.120.114.2 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ขอขอบคุณมากๆเลยน่ะค่ะ ที่ให้ข้อมูล แก่ฝน

ขอบคุณค่ะ
โดย: fon_conan1412@hotmail.com [8 ต.ค. 51 16:19] ( IP A:125.24.49.77 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   ไม่เป็นไรคับ
โดย: shadowmaya13@hotmail.com [8 ต.ค. 51 20:55] ( IP A:124.120.116.109 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   Ankhesenamun ม่ายได้เป็นน้องสาวของตุตันคาเมนหรอกหรอ
โดย: key [23 พ.ย. 51 20:35] ( IP A:117.47.34.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   ไม่ทราบเหมื่อนกันค่ะ แต่ว่า บางที่เค้าบอกเป็นพี่สาวนิ
โดย: som [23 พ.ย. 51 20:37] ( IP A:125.27.175.153 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   Ankhesenamun กับ Tutankhamun ตามหลักฐานใหม่ล่าสุดที่นักอียิปต์วิทยาเชื่อกัน เกิดจากพ่อคนเดียวกันคือ Akhenaten แต่คนละแม่ครับ

Ankhesenamun เกิดจาก Nefertiti
Tutankhamun เกิดจาก Kiya

นักอียิปต์วิทยาเชื่อกันว่า Ankhesenamun อายุแก่กว่า Tutankhamun ครับ ส่วนหลักฐานไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเอาอะไรมาวัด คาดว่าเคยอ่านข้อมูลบางแหล่ง บอกอายุของ Ankhesenamun กับ Tutankhamun ตอนแต่งงานกันด้วยว่าอายุเท่าไร ถ้าจำไม่ผิดอายุของ Tutankhamun จะน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ผมไม่ทราบว่าอายุนั้นเป็นเลขจริง หรือเลขนั่งเทียนมาเหมือนกันครับ

สรุป นักอียิปต์วิทยาคาดว่า Ankhesenamun แก่กว่า Tutankhamun ครับผม ^^
โดย: Detectiveoat13 (เจ้าบ้าน ) [23 พ.ย. 51 21:19] ( IP A:124.120.121.61 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   เหนว่ากันว่ายังไม่มีใครแน่ใจเรื่องพ่อแม่ของตุตันคามุนเลย
พ่ออาจจะเปนสเมงคาเรหรืออเคนาเตน
แม่อาจจะเปนเมริตาเตน(มเหสีของสเมงคาเร)เหรือคิยา

ยังไงก็รอผู้รู้มาเฉลยจิงๆดีกว่าครับ
โดย: darkobiwan [16 มิ.ย. 52 1:20] ( IP A:58.8.225.9 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   แต่ในบางแหล่งเค้าบอกกันว่า เมริตาเตน ไม่น่าจะใช่ มารดา ของตุตันคามุนนะค่ะ เพราะ เค้าบอกว่า เมริตาเตนนั้น อายุน้อยเกินกว่าจะให้กำเนิดตุตันคาเมน
แต่เราก็ไม่ทราบว่าเมริตาเตน อายุห่างจากตุตันคาเมนเท่าไร แต่อะไรก็ไม่แม่นอนเสมอไป เรื่องนี้สรุปก็คือ ยังสรุปมิได้ง่ะ ว่าแท้จริงเป็นไง

โดย: som [16 มิ.ย. 52 20:35] ( IP A:125.27.182.112 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   ถ้าจะรอผู้รู้ คงไม่มีใครรู้ครับ 555+

ตอนนี้ ถ้าจะให้ตอบจริงๆ ต้องตอบว่า "ขณะนี้ นักวิชาการส่วนมากเชื่อกันว่า พ่อของ Tutankhamun คือ Akhenaten และแม่คือพระนาง Kiya"

ส่วนแนวคิดอื่นๆคือ พ่อของ Tutankhamun อาจจะเป็น Amenhotep III แต่มีนักวิชาการไม่มาก ที่เชื่อแบบนี้

แต่ผมคิดว่าโอกาสที่จริงๆแล้ว Smenkhkare และ Meritaten จะเป็นพ่อและแม่ของ Tutankhamun นั้นดูท่าจะยากหน่อยนึง ในเรื่องของอายุนะครับ

แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอดูนักวิชาการเขาสรุปกันต่อไปครับ book
โดย: Detectiveoat13 (เจ้าบ้าน ) [17 มิ.ย. 52 18:17] ( IP A:222.123.119.4 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
   ใครบังอาจขุดสุสานต้องมีอันเป็นไป ท่ามกลางดึกอันเงียบสงัดที่บ้านในชนบทประเทศอังกฤษ สุนัขตัวหนึ่งได้หอนอย่างโหยหวน เสียงของมันทำให้ทุกคนในบ้านนั้นตื่นขึ้นมาด้วยความเสียวสยองขนลุกไปตาม ๆ กัน มันเฝ้าแต่หอนจนเหนื่อยอ่อนล้มฟุบขาดใจตายไปอย่างเวทนา เหตุการณ์ประหลาดนี้เกินขึ้นที่บ้านของนักโบราณคดีสมัครเล่น ลอร์ดคาร์นาร์วอน อายุ 57 ปี ที่แฮมไชร์ ในเวลาเดียวกับที่สุนัขส่งเสียงหอนนั้น ห่างออกไปหลายพันไมล์ ลอร์ดคาร์นาร์วอน เองกำลังอยู่ในขั้นโคม่า ทุรนทุรายใกล้จะตายอยู่ในห้องโรงแรมคอนติเนตอล นครไคโร ประเทศอียิปต์ นี่คือที่มาจากอาถรรพ์คำสาปแช่งของฟาโรห์ ยุวกษัตริย์ตุตันคาเมน แห่งอียิปต์โบราณ ได้สำแดงอิทธิฤทธิ์คร่า 2 ชีวิตแรก สุนัขและเจ้าของ แล้วติดตามต่อมาด้วยความตายอย่างลึกลับอีกหลายชีวิต ด้วยคำสาปแช่งนี้ ลอร์ดคาร์นาร์วอน เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องอียิปต์โบราณได้ทราบดีมาก่อนแล้ว ในระหว่างที่เขาวางแผนการที่จะขุดค้นหาขุมสมบัติในสุสานฟาโรห์ ขณะที่เขายังอยู่อังกฤษ ได้รับคำเตือนจากเคานต์ฮามอน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไอยคุปต์อีกคนหนี่งว่า " ท่านลอร์ดไม่ควรที่จะเข้าไปในสุสานฟาโรห์ เพราะจะพบกับความวิบัติ ถ้าหากยังขัดขืนไม่เชื่อฟังจะได้รับความทุกข์ทรมานจากความเจ็บไข้ และไม่อาจรักษาได้ ความตายจะมาหาท่านเองใน อียิปต์" ลอร์ดคาร์นาร์วอน ก็มีความวิตกกังวลในเรื่องนี้อย่างยิ่ง เขาได้ไปหารือกับโหรที่มีชื่อเสียงถึง 2 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งเขาก็ได้รับคำทำนายว่า จะพบกับความตายอย่างลึกลับ แม้ว่าจะมีความวิตกกังวลในเพียงใด ลอร์ดคาร์นาร์วอน ได้เดินหน้าที่จะขุดปิระมิดของฟาโรห์ต่อไป เพราะเขาใฝ่ฝันและได้รับแรงดลใจมาหลายปีแล้ว เมื่อเขาเดินทางไปถึงอียิปต์ คำสาปแช่งของฟาโรห์เริ่มปรากฎแววให้เห็น นับตั้งแต่คนงานพื้นเมืองที่จ้างให้มาขุดสุสานใต้ปิระมิดที่ลูซอร์ตื่นตระหนก ล้มเจ็บและหนีหายไป อาร์ธอร์ ไวกัลล์ เพื่อนร่วมทีมที่ใกล้ชิดของเขาคนหนึ่ง ได้เกิดหวาดหวั่นขึ้นมาถึงกับกล่าวว่า "ถ้าหากคาร์นาร์วอนยังคงดื้อดึงขุดสุสานต่อไป ชีวิตเขาจะไม่ยืนยาว" ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2466 คาร์นาร์วอน และคณะได้ขุดปิระมิดเข้าไปถึงสุสานห้องที่ไว้พระศพของฟาโรห์ตุตันคาเมน ภายในนั้น ลอร์ดคาร์นาร์วอน และ โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ คู่หุชาวอเมริกันได้พบทรัพย์สมบัติจำนวนมากทั้งเพชรนิลจินดา รวมทั้งโลงทองคำที่บรรจุมัมมี่ของพระศพยุวกษัตริย์ เหนือสุสานนี้มีข้อความอักษรอียิปต์โบราณซึ่งแปลได้ว่า "มัจจุราชจะมาสู่ผู้ซึ่งรบกวนการบรรทมของฟาโรห์" สองเดือนต่อมาลอร์ดคาร์นาร์วอน ซึ่งตอนนั้นมีชื่อเสียงขึ้นมาในการค้นพบขุมทรัพย์ ได้ตื่นขึ้นภายในห้องที่โรงแรมคอนติเนตอลและกล่าวว่า "เหมือนกับอยู่ในขุมนรก" ซึ่งเป็นจังหวะที่ลูกชายของเขาเข้ามาในห้องนั้นพอดี หลังจากนั้น ลอร์ดคาร์นาร์วอน ก้ไม่ได้สติ คืนนั้นเอง ความตายได้มาคร่าชีวิตเขาไป ลูกชายของเขาได้เล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้นว่า "แสงสว่างเหมือนดูเหมือนจะเรื่องรุ่งขึ้นไปทั่วนครไคโร ผมต้องจุดเทียนแล้วสวดมนต์" ความตายของ ลอร์ดคาร์นาร์วอน มาจากถูกยุงกัดทำให้เป็นนิวมอเนีย แต่ที่น่าประหลาดอย่างยิ่งที่มัมมี่ของยุวกษัตริย์ฟาโรห์ก็มีรอยยุงกัดที่แก้มซ้าย ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่ ลอร์ดคาร์นาร์วอน ถูกยุงกัดเหมือนกัน หลังจากนั้นไม่นานนัก ความตายก็มาเยือนที่โรงแรมคอนติเนตอลอีก อาร์เธอร์ แมค นักโบราณคดีอเมริกันซึ่งร่วมทีมกันขุดสุสานครั้งนี้ด้วย ได้อุทธรณ์ว่าเขารู้สึกเหนื่อยอ่อน แล้วทันใดนั้นก็เข้าขั้นโคม่าเขาหมดลมก่อนที่หมอจะมาถึง และทางแพทย์ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเขาตายด้วยโรคอะไร ความตายได้มาเยือนผู้เชี่ยวชาญไอยคุปต์อีกคนหนึ่ง เขาคือ จอร์จ กูล์ด เพื่อนสนิทของคาร์นาร์วอน ซึ่งได้รีบเดินทางมาอียิปต์หลังจากได้ทราบข่าวมาณกรรมของคาร์นาร์วอน กูลด์ ได้เดินทางไปที่สุสานของฟาโรห์ ในวันต่อมาเขาล้มฟุบลงด้วยเป็นไข้ขึ้นสูง อีก 12 ชั่วโมงต่อมาเขาถึงแก่กรรม อาร์ซิบัลด์ เรียด นักรังสีวิทยาที่ฉายเอ็กซ์เรย์มัมมี่พระศพฟาโรห์ได้ถูกส่งตัวกลับอังกฤษเพราะเกินอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาเฉย ๆ แล้วก็ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ริชาร์ด เบธเฮลล์ เลขาส่วนตัว คาร์นาร์วอน ในการขุดค้นสุสานครั้งนี้พบว่านอนตายอยู่บนเตียงเนื่องนากหัวใจวาย โจเอล วูล ซึ่งเป็นแขกเชิญชุดแรกที่ไปดูสุสาน ตายในเวลาถัดมาไม่นานนัก ด้วยไข้ลึกลับที่แพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยได้ ภายในเวลา 6 ปีที่มีการขุดสุสานฟาโรห์ตุตันคาเมน ผุ้ที่ได้ร่วมขุดค้นได้ตายไปถึง 12 คน และภายใน 7 ปีมีเพียง 2 คนเท่านั้นที่ร่วมในการขุดมีชีวิตอยู่ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือใกล้ชิดผู้ที่ขุดสุสานจำนวน เกือบ 22 คน ได้ถึงแก่กรรมในเวลาไม่สมควร เช่น เลดี้คาร์นาร์วอน อีกคนหนึ่งทีฆ่าตัวตายด้วย เนื่องจากเกิดเป็นบ้าขึ้นมา มีผู้เดียวที่ร่วมเป็นหัวหน้าในการขุดสุสานฟาโรห์ที่โชคดีมีชีวิตอยู่คือ โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ แต่ก็มาตายตามธรรมชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2482 แต่ถึงกระนั้นคำสาปแช่งของฟาโรห์ก็ยังสำแดงอิทธิฤทธิ์ในปีต่อ ๆ มาอีด ในปี พ.ศ. 2509 โมหะเม็ด อิบราฮัม ผู้อำนวยการพิพิภัณฑ์โบราณของอียิปต์ ซึ่งทางรัฐบาลของเขาได้สั่งให้นักทรัพย์สมบัติของฟาโรห์ ตุตันคาเมนไป จัดแสดงที่ปารีส ฝรั่งเศส เขาได้คัดค้านคำสั่งของรัฐบาล และเขาฝันว่าเขาได้เผชิญกับภยันตราย ถ้าหากทรัพย์สมบัติของฟาโรห์ถูกส่งออกนอกอียิปต์ หลังจากหารือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลและคัดค้านไม่สำเร็จแล้ว ระหว่างที่เขาเดินทางกลับก็ถูกรถชนเสียชีวิต 3 ปีต่อมา ริชาร์ด อดัมสัน วัย 70 ปี ซึ่งเคยเป็นองค์รักษ์ให้แก่ ลอร์ดคาร์นาร์วอน ในการขุดสุสานฟาโรห์และยังมีชีวิตอยู่รอดเหลืออยู่คนเดียว ได้ให้สัมภาษณ์ทีวีอังกฤษถึงอิทธิฤทธิ์คำสาปแช่ง เขากล่าวว่า "ผมไม่เชื่อในคำสาปแช่ง" แต่หลังจากเดินออกจากสถานนีโทรทัศน์นั่งแท็กซี่กลับบ้าน ก็เกิดอุบัติเหตุเหวี่ยงเขาตกลงจากรถ และมีรถบรรทุกคันหนึ่งแล่นเฉียดหัวเขาไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่อดัมสันได้ถูกฤทธิ์ของของคำสาปแช่งครั้งแรกเมื่อเขา กล่าวว่าไม่เชื่อคำสาปแช่ง เมียเขาตายภายใน 24 ชั่วโมง ครั้งต่อมา ลูกเขาสันหลังหักจากเครื่องบินตก


ตุตันคาเมน (Tutankhamen)
• แม้พระองค์จะไม่ใช่มหาราชที่ยิ่งใหญ่หรือนักรบผู้เกรียงไกร แต่ชื่อของฟาโรห์ตุตันคาเมนก็เป็นที่รู้จักดียิ่งกว่าฟาโรห์องค์อื่นๆ เนื่องด้วยสุสานของพระองค์ที่ถูกขุดพบนั้นคงสภาพสมบูรณ์ยิ่งกว่าของฟาโรห์องค์ใด และกลายเป็นหลักฐานสำคัญในการบอกเล่าถึงเรื่องราวของอียิปต์โบราณ
• ฟาโรห์ตุตันคาเมน (Tutankhamen) ทรงเป็นพระโอรสของฟาโรห์อัคเคนาตันกับพระสนมคียา พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์ในปีที่4 นับแต่การสวรรคตของอัคเคนาตัน โดยทรงมีพระชนมายุเพียงสิบชันษาเท่านั้น เมื่อเจริญวัยขึ้นจึงทรงอภิเษกกับเจ้าหญิงอนัคซูนามุน ธิดาของฟาโรห์อัคเคนาตันกับราชินีเนเฟอร์ตีติ ตามประเพณีในสมัยนั้น
• ในสมัยของฟาโรห์ตุตันคาเมนนั้น อำนาจในราชสำนักตกอยู่ในมือของอัยย์ ผู้เป็นอัครมหาเสนาบดีและหัวหน้านักบวชแห่งจอมเทพอามอน กับนายพลโฮเรมเฮปผู้บัญชาการทหาร เนื่องจากในยุคอาณาจักรนี้ อียิปต์มีกองทหารประจำการเป็นทหารอาชีพ ซึ่งผิดกับในสมัยก่อนที่จะเป็นแรงงานที่เกณฑ์มาเฉพาะในยามศึก การมีกองทัพประจำการณ์ทำให้นายทหารกลายเป็นกลุ่มอำนาจกลุ่มที่3 นอกเหนือจากฟาโรห์และหัวหน้านักบวช
• ฟาโรห์ตุตันคาเมนครองราชย์เพียงสิบปีเท่านั้น พระองค์สวรรคตอย่างลึกลับ จากมัมมี่ของพระองค์ได้มีการพบรอยร้าวที่กระโหลก ซึ่งแสดงว่าพระองค์น่าจะสวรรคตจากการตกจากรถศึก นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าพระองค์น่าจะถูกลอบปลงพระชนม์โดยคนใกล้ตัว ซึ่งอาจจะเป็นเสนาบดีอัยย์หรือไม่ก็นายพลโอเรมเฮป
• หลังการสวรรคตของพระองค์ ราชินีอนัคซูนามุนทรงส่งสาส์นไปยังกษัตริย์ฮิตไตท์ให้ทรงพระโอรส มาอภิเษกกับพระนางและเป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์โดยพระนางแจ้งไปในสาสน์ว่า "พระนางทรงหวาดกลัวที่จะต้องอภิเษกกับข้ารับใช้ของพระนาง" กษัตริย์ฮิตไตท์ก็ทรงส่งพระโอรสเดินทางมาอียิปต์ แต่ทว่าทันทีที่ขบวนเสด็จมาถึงเขตแดนอียิปต์ ก็ถูกซุ่มโจมตีและสังหารจนหมดทุกคน ทำให้ทางฮิตไตท์โกรธมาก ความสัมพันธ์ระหว่างสองอาณาจักรจึงตึงเครียดยิ่งขึ้น หลังจากนั้นอัยย์ซึ่งชรามากแล้วก็อภิเษกกับเจ้าหญิงอนัคซูนามุนและ ขึ้นครองราชย์เป็นฟาโรห์แต่ครองราชย์ได้เพียงสามปีก็ประชวรสวรรคต และในที่สุดนายพลโฮเรมเฮปก็กลายเป็นฟาโรห์พระองค์ใหม่

รอยเตอร์/ผู้จัดการออนไลน์ – อียิปต์เตรียมย้ายพระศพมัมมี “ตุตันคาเมน” สู่ไคโร พร้อมทำแคทสแกน เพื่อค้นหาเหตุที่ทำให้ยุวกษัตริย์ที่ปกครองอาณาจักรอียิปต์อันยิ่งใหญ่เมื่อ 3,000 ปีก่อนต้องสิ้นพระชนม์ทั้งที่ยังทรงพระเยาว์นัก ซึ่งข้อสงสัยล่าสุดคือถูกลอบปลงพระชนม์ด้วยลูกธนู

ฟาโรก โฮสนี (Farouk Hosni) รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยผ่านสำนักข่าวตะวันออกกลาง (Middle East News Agency : MENA) ของอียิปต์ว่า เขาเห็นชอบให้เคลื่อนย้ายพระศพมัมมีฟาโรห์ตุตันคาเมนออกจากโลงพระศพ มาสู่พิพิธภัณฑ์กรุงไคโร เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการสิ้นพระชนม์ที่แท้จริง ซึ่งปัจจุบันพระศพอยู่ ณ เมืองลักซอร์ (Luxor) ทางตอนใต้ของอียิปต์ แต่ทรัพย์สมบัติส่วนใหญ่รวมถึงหน้ากากทองคำที่ครอบพระพักตร์ไว้ถูกแยกออกไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ไคโร

ทั้งนี้ ซาไฮ ฮาวาสส์ (Zahi Hawass) ผู้อำนวยการสภาโบราณสถานแห่งอียิปต์ เปิดเผยว่า การตรวจสอบครั้งนี้จะใช้การแคท สแกน (CAT scan – การกราดภาพตัดขวางโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย) ซึ่งเป็นการเอ็กซเรย์แบบ 3 มิติ เพื่อหาหลักฐานว่าอะไรกันแน่ที่คร่าชีวิตกษัตริย์น้อย ซึ่งพระศพมัมมีของตุตันคาเมนที่ยังเหลืออยู่ประกอบด้วย กะโหลก หน้าอก และกระดูกส่วนอื่นๆ โดยจะเคลื่อนย้ายภายปลายเดือน พ.ย.นี้ และเชื่อว่าการตรวจสอบจะเสร็จก่อนสิ้นปี

”พวกเราจะได้รู้กันว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยโรคอะไร และยังจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วพระองค์มีพระชนมายุเท่าไหร่ แม้กระทั่งทุกวันนี้เราก็ยังไม่แน่ใจว่าพระองค์สิ้นพระชมน์ตามปกติหรือถูกปลงพระชนม์” ฮาวาสส์เผย แต่ว่าพระศพมัมมีของพระองค์ประดิษฐานไว้ในโลงไม้ ซึ่งเมื่อปี 2511 (1968) นักโบราณคดีได้เปิดขึ้นและเอ็กซเรย์พบว่ามีสะเก็ดหินอยู่ในกะโหลกของพระองค์ ซึ่งทำให้น่าเชื่อว่าทรงถูกปลงพระชนม์ด้วยธนู และผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่งก็คือนักบวชชั้นสูงซี่งครองตำแหน่งผู้นำทางการทหารด้วย และตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่มีผู้ใดได้เห็นพระศพมัมมีอีกเลย

สำหรับพระศพของตุตันคาเมนนั้น “โฮเวิร์ด คาร์เตอร์” (Howard Carter) นักโบราณวิทยาชาวอังกฤษและ “ลอร์ด คาร์นาร์วอน” (Lord Carnarvon) ผู้สนับสนุนทางการเงิน เป็นคณะแรกที่ได้เข้าสู่สุสานของพระองค์ในหุบผากษัตริย์ เมืองลักซอร์ (Valley of the Kings) ในวันที่ 4 พ.ย.2465 (ค.ศ.1922) โดยคาร์เตอร์ใช้เวลาถึง 10 ปี ในการขุดค้นสุสานและค้นพบห้องเก็บพระศพ โลงพระศพที่ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ แม้ตุตันคาเมนจะไม่ใช่กษัตริย์องค์สำคัญ แต่สุสานของพระองค์มีเครื่องประกอบพิธีศพที่หาค่าไม่ได้ และมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา การค้นพบในครั้งนี้นับเป็นการค้นพบทางโบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในโลก

“ตุตันคาเมน” (หรือตุตันคามุน : Tutankhamun/Tutankhamen) เป็นฟาโรห์องค์ที่ 12 ในราชวงศ์ที่ 18 ของอียิปต์ ทรงขึ้นครองราชย์ด้วยพระชนม์เพียง 10 ชันษา ทรงเป็นกษัตริย์อียิปต์โบราณในช่วงปี 1334 - 1323 ก่อนคริสตกาล ก่อนหน้าขึ้นครองราชย์ใช้พระนามว่า “ตุตันคาเตน” (Tutankhaten) อันหมายถึงเทพอาเตน (Athen) หรือสุริยเทพอวตาลลงมา

ทั้งนี้ พระราชบิดาของพระองค์คือ “เอเมนโฮเทปที่ 4” (Amenhotep IV) ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น “อาเคนาเตน” (Akhenaten) ด้วยความศรัทธาใน “เทพอาเตน” เป็นอย่างมาก โดยยัดเยียดและปฏิรูปศาสนาอย่างถอนรากถอนโคน ซึ่งแต่เดิมนั้นประชากรอียิปต์นับถือพระเจ้าหลายองค์ (พหุเทวนิยม) โดยมีเหล่านักบวช เป็นผู้ดูแลทำพิธีในวิหารต่างๆ แต่อาเคนาเตน ได้นำเอาศาสนาพระเจ้าองค์เดียว (เอกเทวนิยม) คือ สุริยเทพอาเตนเข้ามา ซึ่งหลังจากอาเคนาเตนสิ้นพระชนม์ลง ศาสนสถานและชื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ “อาเตน” จึงถูกลบออกไป รวมทั้งพระนามของ “ตุตันคาเตน” ที่เปลี่ยนมาเป็น “ตุตันคาเมน”

ตุตันคาเมนสิ้นพระชนม์เมื่อ 18 ชันษาโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่เชื่อกันว่าฟาโรห์หนุ่มองค์นี้ถูกลอบปลงพระชนม์โดยสังฆราชอัย (Ay หรือ Ai) ซึ่งต่อมาสถาปนาตัวเองเป็นฟาโรห์สืบราชสมบัติ และด้วยระยะเวลาอันสั้นในการครองราชย์ของกษัตริย์พระองค์น้อย ทำให้ทรงไม่มีภารกิจใดมากนัก ที่สำคัญหลังสิ้นพระชนม์ทรงถูกกษัตริย์องค์ต่อมาลบทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งพระนามของตุตันคาเมนออกจากรายนามพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ ทำให้ไม่มีนักประวัติศาสตร์คนใดรู้จักพระนามของพระองค์เลย

ที่สำคัญ เมื่อคาร์เตอร์ และลอร์ด คาร์นาวอน ได้ค้นพบสุสานของตุตันคาเมนในอีก 3,000 ปีให้หลัง ก็พบว่ามีทองคำและของมีค่ามากมาย เนื่องจากพระศพและสุสานที่สร้างขึ้นไม่ได้สลักชื่อว่าเป็นของกษัตริย์ จึงรอดพ้นเงื้อมมือโจรที่คอยปล้นและทำลายสุสานไปได้ และทำให้ทุกอย่างยังคงสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด

แต่สิ่งที่ร่ำลือกันมากกว่าสิ่งใดสำหรับสุสานฟาโรห์หนุ่มองค์นี้คือ คำสาป ที่นักบวชไอยคุปต์บรรจงสลักไว้ในสุสานของตุตันคาเมน “มรณะจักโบยบินมาสังหารสู่ผู้บังอาจรังควานสันติสุขแห่งพระองค์ฟาโรห์” ข้อความที่ขลังและเปี่ยมด้วยอาถรรพณ์นี้ ทำให้มีการตายอย่างน่าพิศวงซึ่งเชื่อกันว่าเกิดขึ้นเพราะฤทธิ์คำสาป และนับแต่สุสานถูกเปิดผู้ร่วมพิธีเปิดเสียชีวิตไป 22 คนและนับจากนั้นแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรหากแต่เมื่อครั้งใดที่ฟาโรห์ตุตันคาเมนถูกรบกวนก็ย่อมจะมีผู้ที่สังเวยต่อคำสาปอันลี้ลับนี้เสมอมา รวมถึงลอร์ดคาร์นาร์วอน เจ้าของทุนในการขุดค้นสุสานก็เสีบชีวิตลงหลังจากถูก “ยุงกัด”

โดย: คนไรนาม [10 ก.ย. 52 8:47] ( IP A:118.174.67.131 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   น่ากลัวมากๆๆๆๆๆๆ
โดย: sric68@hotmail.com [7 มี.ค. 53 11:45] ( IP A:118.175.14.110 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
   น่ากลัวจังที่เขาบอกว่า มีคนไปรบกวนการนอนของฟาโรส์ น่ากลัว นอนไม่หลับ
โดย: ืืnongnery87@hotmail. com [7 ก.ย. 54 17:31] ( IP A:171.4.21.119 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
   น้ากลัวมาก
โดย: gamelovemom@hotmail.com [7 ก.พ. 56 19:49] ( IP A:110.49.240.185 X: )


คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน