ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อเข้าถึงฉากแรกหรือชั่วโมงที่ 1 เทพ รา จะมีพระเศียรเป็นแกะ บนเรือสุริยะมีเทพ 2 องค์ประทับอยู่บนหัวเรือชื่อว่า ผู้เปิดทางจิต มีเทวีแห่งเรือสุริยะเทพ สวมเขาวัวและวงสุริยะ พระเศียรเป็นเหยี่ยวยืนประทับอยู่ด้วย ที่หางเสือมีเทพ 4 องค์ พระนาม วัวแห่งความจริง ผู้รอบรู้ ผู้มุ่งหมาย และ ผู้นำทางเรือ มีลิงบาบูน 18 ตัว เปิดประตูให้พระองค์และร้องเพลงขณะที่เรือแล่นเข้ามาใน มตภพ และเทวีงูใหญ่ 12 องค์ เป็นผู้จุดไฟให้แสงสว่าง มาถึงชั่วโมง 2 จะมีงูพ่นไฟคอยเฝ้าอยู่ประตูอยู่ แต่เทพที่อยู่บนเรือสุริยะสามารถสั่งให้ประตูเปิดออกได้ เป็นดินแดนของเทพเจ้าและกษัตริย์อยู่รวมกันอย่างสงบสุข
ชั่วโมงที่ 3 เทพ รา จะชุบชีวิตเทพ โอซิริส โดยการดลบันดาลจิต ซึ่งพลังในการตัดสินใจและการกระทำแด่เทพ โอซิริส
ชั่วโมงที่ 4 จะเป็นทางลาดเอียง มีประตูเปิดอยู่ 2 ประตู มีงูเฝ้าประตูอยู่ บางตัวก็มีหัวเป็นมนุษย์และมีขาสั้น 4 ขา หรือมีหัวเป็นงูและปีก 2 ปีก งูเหล่านี้ไม่สามารถทำอันตรายเทพ รา ได้ ทางลาดเอียงนี้คือ ทางสู่มตภพ เรียกว่า ประตูเข้า-ออก ถ้าผ่านเส้นทางนี้ไปได้จะเข้าถึงร่างของ เสเคร์ ( Seker ) เทพสุสานแห่งเมืองเมมฟิสและหลุมฝังศพของเทพ โอซิริส
ชั่วโมงที่ 5 เป็นชั่วโมงที่สำคัญของการเดินทาง เรือสุริยะได้เดินทางมายังดินแดนแห่งเสเคร์ เทพ เสเคร์ มีเศียรเป็นเหยี่ยวยืนอยู่บนหลังงูใหญ่ที่มีหัวเป็นมนุษย์ และยังทรงพบเทวี ไอซิส ( Isis ) และ เทวี เนฟทิส ( Nephthys ) ในรูปนกเหยี่ยวขนาดเล็กอยู่ใกล้กับเนินดินที่เป็นสัญลักษณ์ของสุสานในทะเลทรายแห่งโอซิริส โดยมีหัว 4 หัวคอยพ่นไฟเฝ้าประตูทางเข้าอยู่ จากนั้นเรือสุริยะจะมาหยุดต่อหน้าเทพ ธอธ
ชั่วโมงที่ 6 เทพ ธอธ จะอยู่ในรูปของลิงบาบูนกำลังอุ้มนกช้อนศักดิ์สิทธิ์อยู่
ชั่วโมงที่ 7 จะพบกับวิญญาณชั่วที่คอยดึงเชือกลากเรือไม่ให้แล่นต่อไป กระนั้นศัตรูก็จะถูกจับและถูกสังหาร งูอาโปฟิส พยายามที่จะกลืนกินเรือสุริยะ แต่เทวีแมงป่อง เสร์เคต ( Serket ) และเทพที่มีพระนามว่า เจ้าแห่งความมืด จะจับหัวและหาง อาโปฟิส เอาไว้จากนั้นจะใช้ใบมีดแทงที่หัวและตัวของมัน
ชั่วโมงที่ 8 เทพ รา จะพบกับเหล่าเทพต่างๆ บ้างก็อยู่ในรูปของมัมมี่ บ้างก็เป็นมนุษย์นั่งอยู่ บ้างก็มีศีรษะเป็นวัว แพะ หนู พังพอน จระเข้ หรือ ฮิปโปโปเตมัส และอยู่ในรูปของงูเห่า เทพเหล่านี้จะตอบสนองเสียงเรียกของเทพ รา ขณะที่เรือสุริยะแล่นผ่าน ชั่วโมงที่ 9 เทพ รา จะพบกับงูเห่าพ่นไฟ 12 ตัว ซึ่งเป็นผู้คุ้มกันเทพ โอซิริส และจะดื่มเลือดผู้ที่มันฆ่าเป็นอาหาร และยังแล่นเรือผ่านเหล่าเทพที่ถือคทากิ่งปาล์มซึ่งเป็นเทพที่รับผิดชอบในการแกะสลักต้นไม้หรือพืช
ชั่วโมงที่ 10 เป็นสัญลักษณ์การกลับมาเกิดของเทพเจ้าในรุ่งอรุณ แมลงสคารับ ( Scarab ) กำลังยึดไข่ ซึ่งจะปรากฎในฟากฟ้าฝั่งตะวันออกต่อไป และวงสุริยะ 2 วง พร้อมที่จะถูกดุนขึ้นไปบนท้องฟ้า ด้านหน้าเรือสุริยะมีกองทัพเทพเจ้า 12 องค์ คอยเป็นผู้คุ้มกันให้เรือสุริยะถึงฟากฟ้าฝั่งตะวันออกอย่างปลอดภัย
ชั่วโมงที่ 11 ศัตรูของเทพ รา จะถูกโยนลงไปในบ่อไฟ ซึ่งแต่ละบ่อจะมีเทวีคอยพ่นไฟใส่อยู่
เมื่อมาถึงฉากที่ 12 เรือสุริยะจะถูกลากเข้าไปในหางงูใหญ่ ซึ่งเทพ รา จะละร่างตอนที่อยู่ใต้โลกและออกมาทางปากงู เทพ รา จะเป็นแมลงสคารับ โดยพระเศียรจะอิงอยู่บนพระเศียรของเทพ ชู ( Shu ) จากนั้นพระองค์จะแล่นเรือขึ้นไปยังทิศตะวันออกเช่นเดิม | โดย: khamare [11 ต.ค. 51 21:09] ( IP A:124.120.171.38 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 ขอรวมหัวข้อตำนาน 1-2 ไปในหัวข้อ รา ที่บล็อกนะคะ (แต่ตอนนี้ยังไม่ทำ มาเก็บข้อมูลก่อน) พอดีหัวข้อใกล้เคียงกับข้อมูลที่กำลังจะย้ายพอดีเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ | โดย: lilypixel [3 พ.ย. 51 14:09] ( IP A:124.120.221.41 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 ผู้คอยปกป้องเทพ รา และเทพ โอซิริส ( Osiris ) ในโลกแห่งความตายก็คือ อิมเซติ ( Imseti ) <<<<<<< เพิ่งรู้ที่มาของชื่อ Imseti *0* | โดย: lilypixel [3 พ.ย. 51 14:14] ( IP A:124.120.221.41 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 5555+ | โดย: Imseti [3 พ.ย. 51 16:55] ( IP A:58.9.25.154 X: ) |  |
|