ค้นพบวิหารวิฬาเทวีในอเล็กซานเดรีย
|
ความคิดเห็นที่ 1 O.0 ช่วงราชวงศ์ปโตเลมี ยังนับถือเทพเจ้าดั้งเดิมอยู่เหรอ นึกว่าจะเปลี่ยนไปทางกรีกหมดแล้ว เดี๋ยวก็อปลิงค์ตามไปอ่านก่อน
ขอบคุณค่ะ | โดย: seal [23 ม.ค. 53 17:03] ( IP A:124.122.101.144 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 ได้อ่านแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆๆนะค่ะ เป็นความรู้เพิ่มเติมเลย | โดย: som [28 ม.ค. 53 20:01] ( IP A:125.27.182.201 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 โอ้ ! ดีจังเลยค้นพบวิหารแห่งใหม่ของเทวี Bastet แล้วเหรอ (ขอบใจมาก Imsety ที่อุตสาหาข้อมูลมาให้ ) เอาเป็นว่าเรายังไม่ทราบรายละเอียดของวิหารแห่งนี้เท่าไหร่เพราะเวลามีจำกัดเหลือเกิน เอาเป็นว่าเราขอกล่าวถึงเทวี Bastet และ วิหารก่อนหน้านี้ของพระนางเลยหล่ะกันนะ หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อวิหาร บูบาสติส มาบ้างแล้ว หรือนั่นก็คือวิหารแห่งเทวี Bastet นั้นเอง อ้างอิงจากหนังสือของ เฮโรโดตัส กล่าวไว้ว่า นครบูบาสติส หรือปัจจุบันถูกเรียกว่า Tell-Basta ตั้งอยู่ยังใจกลางเมืองและเกือบจะเป็นเกาะไป สถานที่เดิมแห่งนี้ได้ถูกแยกออกจากกันด้วยขอบเขตของคลองน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำไนลล์ เว้นแต่ด้านทางเข้าเท่านั้นหรือก็คือสถานที่ที่มีทางเข้าแค่ทางเดียวนั่นเอง วิหารที่ปรากฎนั้นเป็นสิ่งก่อสร้าง ทรงจตุรัสด้วยหินแกรนิตสีแดง ( ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพักเท่านั้น ) สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นภายในหุบเขา ดังนั้นจึงสามารถมองเห็นเข้าไปยังตัววิหารได้ เทวี Bastet นั้นทรงได้รับการบูชาในฐานะของ บา เอ็น เอเซ็ท Ba en Eset หรือที่แปลว่า ดวงวิญญาณแห่งพระเทวีไอซิส ตามหลักฐานทางประวติศาสตร์อียิปต์ ช่วงศตวรรษสุดท้ายเมื่อ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นยุคแห่งความวุ่นวายระหว่างเจ้าครองนครต่างๆ ในเดลต้า ซึ่งแย่งชิงกันเป็นใหญ่ในอาณาจักรขณะนั้น,มาเนโธ (Manetho) นักบวชชั้นสูงผู้ซึ่งชำระประวัติศาสตร์อียิปต์ในสมัยราชวงศ์ปโตเลได้มีบันทึกไว้ว่าราชวงศ์หนึ่งที่ครอบราชย์อยู่ในช่วงเวลานี้คือราชวงศ์ที่ 22 ( 945-715 ปีก่อนคริสตกาล ) ได้ตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่ที่นคร บูบาสติส ( Bubastis ) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเดลต้านั้นเอง ( นครศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บริเวณเขตดินแดนสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำไนล์ )
บูบาสติสไม่ใช่เมืองที่เพิ่งเกิดใหม่ด้วยการคิดสร้างของปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ที่ 22 หากมีมาตั้งแต่แรกเริ่มประวัติศาสตร์อียิปต์อีกด้วย และแท้ที่จริงก็มีบทบาทสำคัญในอียิปต์ตอนล่างมาตลอด เมื่อผู้มีอำนาจทางการปกครองสูงสุดของทั้งอาณาจักรได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้ บูบาสติสจึงยิ่งเพิ่มความสำคัญขึ้นอย่างมากมาย แม้จะมิได้ถึงกับกลายเป็นศูนย์กลางการปกครองแทนที่เมมฟิสหรือทานิสอย่างถาวรในช่วงนั้นก็ตาม แต่อิทธิพลทางการเมืองของนครแห่งนี้ก็ไม่อาจปฏิเสธได้
เทพสูงสุดผู้อุปถัมภ์เมืองแห่งนี้ตั้งแต่สมัยแรกก็คือเทวีบาสท์นั่นเอง การปรากฎพระองค์ครั้งแรกของเทพนารีองค์นี้ตามหลักฐานทางโบราณคดีที่เรามีกันอยู่คือเทพนารีที่มีพระเศียรเป็นสิงโตสวมยูริอุส พระหัตถ์ข้างหนึ่งถือ เซ็พเทอร์ อีกพระหัตถ์หนึ่งถืออังค์ เช่นที่ปรากฎบนแจกันหินที่ ซัคคารา ( บางตำรานะ ไม่ขอเอ่ย ) หรือ พระเศียรเป็นแมว มือหนึ่งถือ อีจิส และอีกมือหนึ่งถือ ซิสตรัม ( อันนี้เห็นบ่อย ) ในสมัยฟาโรห์ Hotepsekhemuy มีการบูชาเทวีบาสท์ หรืออาจจะย้อนไปได้ถึงสมัยราชวงศ์ที่ 2 โดยเฉพาะในเวลานั้นก็ไม่มีการอธิบายไว้ที่ใดว่าทรงเป็นธิดาของเทพองค์ใด หรือทรงถือกำเนิดขึ้นมาอย่างไร ทราบกันแต่เพียงว่า ทรงเป็นเทวีผู้ทรงอำนาจครอบครองนครอยู่ในแถบดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ ทางด้านตะวันออกของอียิปต์ โดยเฉพาะทรงเป็นผู้อุปถัมภ์นครบูบาสติส ซึ่งเป็นเมือง เก่าแก่ มีอายุมากกว่า 3,000 ปี ก่อนคริสตกาล จนทำให้ทรงได้รับสมญานาว่า Lady of The East พระนามของเทวีบาสท์ มักปรากฎอยู่ในของขวัญที่ชาวอียิปต์มอบให้กันในช่วงเทศกาลปีใหม่ เช่น จารึกไว้บนขวดแก้วเคลือบสีใบเล็ก ๆ ซึ่งได้ค้นพบจำนวนหนึ่งจากการขุดค้นในแหล่งโบราณคดี บูบาสติสและเมืองโบราณใกล้เคียง

| โดย: xzodic [19 ก.พ. 53 20:45] ( IP A:114.128.55.93 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 การขุดค้นทางโบราณคดีในสุสานแมวแห่งนครบูบาสติส ซึ่งเป็นสุสานแมวที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสุสานแมวทั้งหลายที่เผยให้เห็นความจริงอันน่าสลดใจ หลายท่านคงจะจำ Mr.Alain Pierre Zivie ได้โดยเฉพาะเจ้าบ้าน he he he he อยากได้ส่วนหนึ่งจากความจำของท่านจริง ๆ ให้ตายสิ ( เค้านั้นแหล่ะ ) สุสานดังกล่างถูกปล้นครั้งใหญ่ และถูกทำลายอย่างย่อยยับในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 ก่อนที่นักโบราณคีจะเข้าไปง อี.เนวิลล์ (E.Naville)ผู้ควบคุมการขุดแต่งสุสานดังกล่างในช่วงปี ค.ศ.1880 รายงานว่า ได้พลกองกระดูกแมวทับถมเป็นภูเขาและกระจัดกระจายไปทุกหนทุกแห่งในบริเวณที่เป็นสุสานเดิม ปะปนไปกับหน้ากากแมวสำหรับตกแต่งมัมมี่ เศษผ้าลินิน และเทวรูปแมวที่ชำรุดอีกมากมาย
การปรากฎตัวของแมวในศาสนาอียิปต์สมัยแรกที่สุกนั้น กว่าจะเกิดขี้นอย่างแท้จริงก็ล่วงเลยไปถึงสมัยอาณาจักรกลาง (2,040-1,782 กาอยคริสตกาล )ซึ่งมีการค้นพบมีดที่ทำด้วยงาช้างสำหรับใช้ประกอบพิธีศพชิ้นหนึ่ง มีลายแกะสลักเป็นรูปแมวนั่งในตะกร้าและสามารถแยกออกจากรูปสิงโต ( หรือเสือดำ ) ที่อยู่ใกล้ๆ ได้อย่างชัดเจน เพราะแมวในภาพแกะสลักนี้นั่งในท่ามาตรฐานของแมวอียิปต์ทุกตัวที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งที่จริงก็คือ รูปลักษณะของมันตามแบบที่อักษร Hierogyphic กล่าวคือ ถ้าจะเขียนคำว่าแมวด้วยอักษณดังกล่าวก็ต้องเขียนเป็นรูปแมวนั่งในลักษณะการเช่นว่า
จากนั้นเป็นต้นมา แมวจึงเริ่มปรากฎเด่นชัดในศาสนาอียิปต์โบราณ โดยเฉพาะจากภาพจิตรกรรมต่าง ๆ ที่มีการเขียนรูปแมวในท่านั่งมาตรฐานดังที่กล่าวมาแล้ว แต่ขณะที่ท่านั่งเป็นแบบอุดมคติ รายละเอียดส่วนใหญ่ กลับพยายามที่จะเลียนแบบของจริง เช่น พยายามเขียนให้ดูมีขนปุยและมีชีวิตชีวาเป็นต้น

| โดย: xzodic [19 ก.พ. 53 20:46] ( IP A:114.128.55.93 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 จุดสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่ทำให้เทวี Bastet เพิ่มความสำคัญขึ้นอย่างมากมายในทางเทววิทยาไอยคุปต์ก็คือเมื่อ ฟาโรห์ Sheshonk I เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อ 945 ปีก่อนคริสตกาล ในฐานะองค์ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ที่ 22 พระองค์ได้ทรงมีพระราชโองการประกาศให้ยกฐานะบูบาสติสขึ้นเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอียิปต์ทั้งหมด พระราชโองการดังกล่าวนี้ เท่ากับทำให้เทวีบาสท์ซึ่งเป็นเทพประจำนครมาแต่เดิมเลื่อนฐานะกลายเป็นเทพสูงสุดของทั้งอาณาจักรไปโดยปริยายหรือแม้แต่ในลิเบียด้วยก็ตาม
กล่าวถึงชาวกรีกที่ไม่ศรัทธาในเทพเจ้าต่าง ๆ ของอียิปต์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ ทำให้คติการนับถือเทวีบาสท์ในวัฒนธรรมกรีกไม่ยั่งยืน และคงเสื่อมไปมากก่อนที่อารยธรรมกรีกจะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรโรมัน เพราะฉะนั้น เมื่องกองทัพของอาณาจักรโรมันในสมัยต่อมาที่นับถือศาสนาคริสต์เริ่มทำลายล้างศาสนาดั้งเดิมของชาวอียิปต์ คติการบูชาเทวีบาสท์จึงพลอยถูกขจัดไปด้วยอย่างสิ้นเชิง เทวสถานของพระนางในบูบาสติสถูกปิด และถูกทำลายจนเหลือแต่ซาก โดยถูกประทับตราว่าเป็นลัทธิบูชาสัตว์ซึ่งเป็นศรัตรูของพระเจ้า
มีหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งหลายท่านคงเคยได้ยินมาบ้าง นั่นก็คือ โลงศพหินบรรจุมัมมี่แมวของเจ้าชาย ดเจฮูติโมส ถูกค้นพบที่เมมฟิส อายุราว 1,350 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งตอนนี้กลายเป็นสมบัติของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งอียิปต์ไปแล้ว
เรียบเรียงโดย Xzodic ข้อมูลอาจมีผิดพลาดบ้าง โปรดอภัยมา ณ สถานที่แห่งนี้ด้วย
| โดย: xzodic [19 ก.พ. 53 20:47] ( IP A:114.128.55.93 X: ) |  |
|